เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิการ

บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ



บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ

บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ

เสิ่นเฉียวค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา

เธอมองเห็นแววตาอันสุขุมและเย็นชาคู่หนึ่ง

คิ้วของผู้ชายคนนั้นคมเข้ม ดวงตาสุขุมลุ่มลึกราวกับหมาป่า จมูกของเขาสูงโด่ง เขาเม้มริมฝีปากอันเรียวบางเอาไว้ ถึง แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่มันก็ทำให้เธอรับรู้ถึงความ กดดันบางอย่าง เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่อาจจะเข้าถึง ได้ง่าย

“เสินโย่ว? ”

เสิ่นเฉียว อึ้งไปชั่วครู่จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เธอ ทำตัวไม่ถูกแล้วจ้องมองผู้ชายคนนั้น

เสิ่นเฉียว พยักหน้าด้วยความตื่นตระหนก

เดิมทีเธอแต่งงานเข้าตระกูลเย่แทนเสิ่นโย่ว เธอจึงไม่กล้าที่ จะเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา

“อืม” แววตาของเย่โม่เซินแลดูเย็นชามากขึ้น เขาหยิบเอา จดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนให้เสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวรีบหยิบจดหมายนั้นขึ้นมาอ่าน เธอพบว่าข้อมูลในจดหมายนั้นคือเอกสารข้อมูลและรูปของเงินโย่วน้องสาวของ

เธอ

เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยไว้แล้ว แต่ทว่า ทำไมตอนที่แต่งงานกันเขาถึงไม่เอ่ยปากแย้งอะไร ออกมา?

เสิ่นเฉียวกำจดหมายในมือไว้แน่น กัดริมฝีปากล่างของเธอ จ้องมองเย่ไม่เขินแล้วไม่พูดอะไรออกมา

“ตระกูลเส็นคิดว่า ฉันเย่โม่เซ็นคนนี้ขามีปัญหา แล้วหาใคร ก็ได้มาแต่งกับฉันก็ได้อย่างนั้นหรือ?”

เสิ่นเฉียวยืดตัวยืนขึ้นมา จ้องมองไปที่เขาแล้วพูดด้วยน้ำ เสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ฉันเองก็เป็นลูกสาวของตระกูลเงิน”

“ผู้หญิงที่พึ่งจะหย่ามาน่ะหรอ? ตระกูลเสิ่นคิดว่า ตระกูลเย่ เป็นถังขยะรีไซเคิลรีไง?”

คำพูดที่ตรงและแรงของเขาทำให้เสิ่นเฉียวเริ่มมองหน้าเขา ไม่ติด เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น ผู้หญิงหม้ายมักจะโดนผู้คน รังเกียจอยู่แล้ว

เป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงโดนพ่อแม่ของเธอบังคับให้แต่งเข้า ตระกูลเย่
ยังไม่ทันที่เสิ่นเฉียวจะเปิดปากพูด น้ำเสียงอันเย็นชาของ ผู้ชายคนนี้ก็ดังขึ้นมา ราวกับสาดน้ำเย็นเข้ามาที่เธอ

“ฉันให้เวลาเธอห้านาที เธอออกไปอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจน แล้วออกไปจากตระกูลเย่ซะ”

อะไรนะ?

เงินเฉียว เงยหน้ามองไปที่ตาของเขา

“ไม่ได้นะ!”

เธอจะไปไม่ได้! หากว่าเธอออกไปยอมรับทุกอย่างแล้วก็ เท่ากับว่าตระกูลเสิ่นได้ทำให้ตระกูลเย่ ขุ่นเคืองใจ แล้วทีนี้ ตระกูลเสิ่นจะปักหลักอยู่ในเมืองเป่ยยังไง?

เสิ่นเฉียว ตั้งสติขึ้นมา ยกชายกระโปรงของชุดเจ้าสาวขึ้น แล้วเดินมาตรงหน้าของเย่โม่เซิน พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “น้องสาวฉันมีแฟนแล้ว เธอไม่ยอมแต่งเข้าตระกูลเย่ แน่นอน”

“ดังนั้น เธอก็เลยคิดเองเออเอง ตัดสินใจแต่งงานแทนน้องสาว อย่างนั้นหรอ?” เย่โม่เซินยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากแล้วพูด ภาพนั้น ช่างบาดตาบาดใจเธอเป็นอย่างมาก

เสิ่นเฉียวรวบรวมความกล้า จ้องมองไปที่แววตาอันเย็นชาคู่นั้น
“ฉันรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งที่พ่อแม่ได้จัดเตรียม ไว้ให้ สําหรับคุณแล้ว แต่งกับใครนั้นไม่สําคัญ ไม่เช่นนั้นคุณก็ คงไม่ตอบรับหรือยินยอมเรื่องแต่งงานครั้งนี้หรอก

เสิ่นเฉียว ไม่รู้ว่าการที่เธอพูดเช่นนี้จะสามารถทำอะไรเขาได้

“ถ้าเทียบกับการที่คุณต้องแต่งงานใหม่ คุณให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อ ฉันสัญญาว่าพวกเราจะไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายต่อกัน” เมื่อพูด จบ เสิ่นเฉียวก็ยกมือสองข้างขึ้นมาสัญญา แววตาของเธอเต็ม ไปด้วยความมุ่งมั่นและความกล้าหาญ สีหน้าที่ระแวดระวัง สื่อผ่านใบหน้าเล็กๆที่ขาวผ่องของเธอ เธอกลัวว่าเขาจะไม่ ยอมรับข้อเสนอนี้

สีหน้าเช่นนี้..…………..

เย่โม่เซินหรี่ตาลง จ้องมองและครุ่นคิดไปที่ตัวเธอ

เมื่อเธอพูดจบ เย่โม่เซินก็หัวเราะ หึ ออกมาอย่างเย็นชาแล้ว พูด “เธอคิดว่าฉันไม่มีผู้หญิงแบบที่อยากได้งั้นหรอ? ฉันต้อง มาเอาผู้หญิงอย่างเธอเนี่ยนะ?”

สีหน้าของเสิ่นเฉียว ขาวซีดทันที ปากของเธอนั้นสั่น เธอยัง ไม่ทันได้เปิดปากพูด เย่โม่เซินก็หมุนกลับรถเข็นแล้วหันหลัง

ให้เธอ เขาจะหมุนล้อรถเข็นออกไปจากห้องนี้

เสิ่นเฉียว ตกใจจนอยากจะเดินไปขวางทางข้างหน้าของเขาเอาไว้ แต่โดนแขนของเขาขวางเอาไว้ก่อน

“คุณหนูเสิ่น กรุณารู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำด้วย!”

เธอจ้องมองแผ่นหลังของเย่โม่เซินที่กำลังขยับออกไปจาก เธออย่างไร้เยื่อใย เสิ่นเฉียวเครียดเป็นอย่างมาก ตะโกนเรียก เย่ไม่เขินจากด้านหลังของเขา “ถ้าคุณไม่ให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อ ฉัน จะบอกทุกคนว่าคุณไร้น้ำยา!”

เธอใช้ไม้แข็งกับเขาราวกับโยนระเบิดมือใส่เขา เสิ่นเฉียวได้ พยายามดึงรั้งตัวเขาเอาไว้สุดๆแล้ว

คำพูดของเธอทำให้มือที่หมุนขยับรถเข็นของเย่โม่เซินหยุด ชะงัก ร่างกายของเขาไม่ขยับ แต่เขาหันหน้ามามองเธอ แวว ตาของเขาช่างเย็นชาแล้วพูด “เธอบอกว่าใครไร้น้ำยานะ?”

แววตาที่น่ากลัวและแฝงไปด้วยความดุร้ายของเย่ไม่เซินรา วกับสัตว์ร้ายจ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา จ้องเธอราวกับว่า หากเธอกล้าที่จะพูดแม้แต่อีกคำเดียว เขาก็พร้อมจะพุ่งเข้าไป ตะครุบกัดเธอให้ตายซะเลย

นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทั้งทั้งที่เขาเป็นคนขามีปัญหา แต่ทำไม เขาจึงส่งรังสีอำมหิตอันแรงกล้าออกมาได้เช่นนี้?

เมื่อเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้ เสิ่นเฉียว หนีไปไหนไม่ได้แล้ว
เธอกัดฟันแล้ว หมัดในมือ จ้องมองเปโมเซ็นอย่างดุดัน

“นอกจากซะว่าคุณจะให้ฉันอยู่ห้อ

เขียว ที่ยืนอยู่อีกฝั่งอ้าปากค้างเองกับสิ่งที่เห็น นึกไม่ถึงว่า คุณนายน้อยตัวเล็กๆคนนี้ จะใจกล้าได้เพียงนี้ เธอกล้าหือกับ

คุณชายเย่สองของพวกเขา เย่ไม่เขิน หมุนรถเข็นกลับมาแล้วค่อยๆหมุนล้อรถเข็นขยับ

เข้ามาหาเธอ แววตาของเขาแลดูมืดหม่น

เสิ่นเฉียวตกใจถอยหลังไปสองก้าว

เย่โม่เซินหมุนล้อรถเข็นมาอย่างไรแล้วจอดอยู่ตรงหน้าเธอ ยกมือขึ้นจับข้อแขนอันขาวบางของเธอเอาไว้

“เมื่อตะกี้เธอพูดว่าใครไร้น้ำยา เยโม่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงที่ เย็นชา จ้องมองเธอด้วยสายตา แหลมคมดุดัน

“คุณ คุณปล่อยฉันนะ……

การที่เขาเข้ามาใกล้เธอเช่นนี้ ทำให้เส้นเฉียวทำตัวไม่ถูกใน ทันที ไอร้อนจากตัวผู้ชายค่อยๆโอบล้อมเธอเอาไว้

เธอรับรู้ถึงอันตรายบางอย่าง
ความรู้สึกนี้…

ทำให้เสิ่นเฉียวนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว

นึกถึงผู้ชายที่อยู่ในรถวันนั้น ไอร้อนจากร่างกายของผู้ชาย คนนั้นช่างคล้ายกับผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้

ใบหน้าของเสิ่นเฉียวนั้นขาวซีด ทำไมอยู่ๆถึงนึกถึงผู้ชายใน คืนนั้นด้วย

สําหรับเส็นเฉียวแล้ว เรื่องในค่ำคืนนั้นคือเรื่องที่น่าอับอายใน

ชีวิตของเธอ

“อยากจะเป็นคุณนายเย่มากจนไม่เลือกวิธีแล้วสินะ?”

เสียงของผู้ชายดึงเอาสติของเธอกลับมา เสิ่นเฉียวลืมตาโต

หน้าผากของเสิ่นเฉียวเต็มไปด้วยเหงื่อ “คุณเองก็ยอมให้งาน แต่งนี้จัดขึ้นมาถูกมั้ย? คุณรู้มาตั้งนานว่าฉันไม่ใช่เสิ่นโย่ว แต่ คุณเองก็ไม่ได้เปิดเผยความจริงให้คนอื่นรู้ในงานแต่งงาน”

“แล้วยังไงล่ะ?”

“คุณปล่อยฉันก่อน เสิ่นเฉียว ผลักเขาออก
“หึ”เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นซา “เป็นผู้หญิงหม้ายแท้ๆยัง ต้องตื่นตัวขนาดนี้อีกหรอ? เธอไม่เคยทำเรื่องพวกนี้รึไง?”

เสิ่นเฉียว จ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ

“คุณอย่ามากดขี่ข่มเหงคนอื่นแบบนี้นะ! ”

“อยากอยู่ต่องั้นหรอ ได้ เธอเอาใจฉันสิ ทำให้ฉันชอบเธอให้

ได้สิ”

ผู้หญิงที่แต่งงานแทนน้องตัวเองแล้วพยายามจะแต่งเข้า ครอบครัวที่ร่ำรวยเพื่อจับสามีรวยเช่นนี้ เย่โม่เซินเจอมานักต่อ นักแล้ว

สีหน้าของเสิ่นเฉียวขาวซีด ปากของเธอสั่น

“ทำไม่ได้?”แววตาของเย่โม่เซินแลดูสุขุมลุ่มลึก มือข้างหนึ่ง ของเขายื่นมาจับคางของเธอ ริมฝีปากอันเรียวบางของเขา ค่อยๆพูด “จากที่ฉันดู ไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉันไร้น้ำยาหรอก แต่ เธอนั่นแหละที่ไร้เสน่ห์ ไม่ทำให้ฉันรู้สึกหลงใหลอะไร”

เมื่อพูดจบ เย่โม่เซินก็ผลักเธอออก

ร่างของเสิ่นเฉียว เซไปข้างหลังชนเข้ากับประตู เธอจ้องมอง เย่โม่เซินด้วยความโกรธ
เย่ไม่เชิน บอกกําชับให้ผู้ช่วยของเขาเข็นเขาออกไป เสิ่น เฉียวจ้องมองหลังของทั้งสองทีเดินออกห่างเธอไป เธอกัดริม ฝีปากล่างเล็กน้อย

เธอทําสําเร็จมั้ย?

เธอจะได้อยู่ที่นี่ต่อมั้ย?

เสิ่นเฉียวเอามือลูบจับคางที่รู้สึกเจ็บเบาๆ เดินกลับเข้าไปใน ห้องใหม่ของเธอ

สิบนาทีผ่านไป

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เสิ่นเฉียวถอนหายใจออกมา เธอน่าจะทำสำเร็จแล้วล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ