เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิการ

บทที่12 การบังคับใช้สิทธิ์ของสามี



บทที่12 การบังคับใช้สิทธิ์ของสามี

บทที่12 การบังคับใช้สิทธิ์ของสามี

เวลาเหมือนจะสงบนิ่งไปอยู่ครู่หนึ่ง

เสิ่นเฉียวนั่งลงบนตักของเย่โม่เซ็น เธอตกตะลึงนิ่งอยู่กับที่

เขา เขาทำอะไรน่ะ

กลิ่นไอของสุภาพบุรุษแผ่ซ่านไปยังบรรยากาศโดยรอบ บุก ผ่าเข้าไปยังประสาทสัมผัสของเธอในทันใด

“ปล่อย ปล่อยฉัน!” นิ่งจื้อไปอยู่สองวินาทีก่อนที่เสิ่นเฉียวจะมี ปฏิกิริยาตอบสนอง เธอยืดเหยียดแขนไปยันหน้าอกเขาเอาไว้ เพื่อพยายามที่จะเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่

เจี๊ยะ!

เย่โม่เซินกำข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ มีหน้าดำทะมึนยาม คว้าข้อมือเธอไว้แน่น น้ำเสียงเย็นชา “สามีคนก่อน ไม่ได้สอน คุณรึไงว่าต้องทำยังไง หรือว่าคุณตั้งใจแกล้งทำเป็นหลอกผม หวังจะให้ผมสอนคุณใช่มั้ยล่ะ

“ว่าไงนะ”

“ถ้าอย่างนั้น ก็ตามใจคุณแล้วกันนะ”
แกรก—

เย่โม่เซินจับข้อมือเธอกดลงบนหัวเข็มขัด เสียงคลิกดังอยู่ เสียงหนึ่ง

เข็มขัดก็คลายออก….

เสิ่นเฉียวรู้สึกเหมือนว่าสมองหยุดทํางานไปชั่วขณะ นัยน์ตา คู่หนึ่งซึ่งกำลังถูกจับจ้องโดยเย่โม่เซิน ค่อยๆเบิกโตขึ้นเหมือน ฤดูใบไม้ผลิอันเย็นยะเยือก

สายเข็มขัดถูกโยนไปที่ด้านข้าง เสียงความคิดเบาๆดึงสติ เสิ่นเฉียวให้กลับคืนมา

แต่ว่าสมองเสิ่นเฉียวนั้นมึนงงไปหมดแล้ว ดังนั้นร่างกายจึงไม่

ตอบสนอง

“คราวนี้รู้แล้วรึยัง”

เย่โม่เซินกระแอมเสียงและถามขึ้นมา

เสิ่นเฉียวนั่งอยู่บนตักเขา จ้องเขาในระยะประชิด

ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ดวงตาคมลึกสีแทน จมูกตั้งตรง เป็นสัน ริมฝีปากบางเหมือนเป็นเส้นตรง คงจะไม่อาจปฏิเสธ

ได้ว่า เย่โม่เซินช่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม
ล่าพังด้วยเบ้าหน้าเช่นนี้ สามารถทำให้หญิงสาวหลงใหลกัน ทั่วทั้งเมืองเป่ย

เพียงแต่ว่า เสิ่นเฉียวไม่สามารถลืมได้ ว่าเขาทำให้เธอ

อับอาย

เมื่อเห็นว่าเขาค่อยๆเข้าใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นเฉียวก็สติแตก โดยไม่รู้ตัว

สายตาอันแหลมคมของเย่โม่เซิน นิ้วเรียวยาวเชยไปที่ปลาย คางของเธอ น้ำเสียงอันชั่วร้ายก็พูดขึ้น “จะหลบทำบ้าอะไร จะอ่อยผมอย่างนั้น ทำไม คุณคิดว่าผมจะสนใจผู้หญิงที่ แต่งงานรอบสองอย่างคุณน่ะ

“เปล่านะ!” เสิ่นเฉียวไม่ต้องการทนฟังคำพูดน่าอับอายจาก ปากของเขาอีก เธอขบกัดริมฝีปากล่างของตนเองจนแน่น “ถ้า หากว่าคุณไม่ได้สนใจผู้หญิงแต่งงานสองรอบอย่างฉันแล้วล่ะ ก็ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยฉันซะ”

“ว่าไงนะ จะสนใจหรือไม่สนใจ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ผม จะปล่อยคุณรึเปล่ายังไงล่ะ”

เมื่อฟังจบ เสิ่นเฉียวก็เบิกตาโต “คุณ….

“อ๊ะ” ริมฝีปากอันเย็นเยือกประกบลงบนริมฝีปากแดงและสั่น

เทาด้วยความประหม่าของเธอ
สมองเสิ่นเฉียวว่างเปล่าอยู่สองสามวินาทีก่อนที่เธอจะได้สติ กลับมา ก่อนที่เธอจะยื่นมือออกไปผลักหน้าอกชายคนนั้นออก

เดิมทีเย่ไม่เซ็นแค่ต้องการทําให้เธอรู้สึกอับอาย อยากจะ เห็นฝีไม้ลายมือว่าผู้หญิงที่แต่งงานสองหนจะจูบได้เด็ดแค่ ไหน ปฏิกิริยาของเธอไม่เป็นไปดังที่เขาคาดไว้ ไม่รู้จักวิธีแลก เปลี่ยนลมหายใจเลยสักนิด เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านก็ไม่มี ยอม ให้เขารังแก

บ้าจริง!

ถ้าหากว่าอยากจะยั่วยวนเขา เธอก็ควรที่ใช้ช่วงจังหวะเวลา นี้เล้าโลมเขาไม่ใช่หรือไง

ทันใดนั้น เย่โม่เซินก็ฉุดกระชากคนในอ้อมแขนออก ผละจาก ริมฝีปากของเธอ “ทำไมโง่อย่างนี้”

เสิ่นเฉียวถูกจูบจนสมองงงเบลอไปหมด

นอกจากผู้ชายคนนั้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เคยมี ประสบการณ์การจูบอย่างเผด็จการเช่นนี้มาก่อน เย่โม่เซินนั้น พละกำลังแข็งแกร่งมาก เป็นเหมือนเสือดาวอันดุร้าย ตะครุบ คุณไว้แล้วก็เข้าโจมตีคุณอย่างบ้าคลั่ง ไม่ปล่อยให้คุณได้มี โอกาสพักหายใจใดๆทั้งสิ้น

ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร ก็หนีไม่พ้น
ในปากเต็มไปด้วยกลิ่นลมหายใจอันไม่คุ้นชินของชายหนุ่ม ช่วงแรกเสิ่นเฉียวก็ฝัน แต่ว่าหลังจากที่ถูกจูบไปร่างกายก็ ค่อยๆอ่อนระทวย ตอนนี้ถูกเย่โม่เขินดึงออก ความคิดยังคง ล่องลอยอยู่ สายตาจ้องมองเขาด้วยความสับสน ไม่ได้พูด อะไรออกมาทั้งนั้น

เย่โม่เซินหรี่ตาลงจ้องอย่างเป็นอันตราย เขาจับจ้องไปที่ ดวงตาอันใกล้แค่เอื้อมคู่นั้น

ดวงตาของผู้หญิงคนนี้ช่างเหมือนกับบ่อน้ำอันเยือกเย็น ใน เวลาปกติก็เหมือนจะเยือกเย็นถูกทิ้งร้าง ไม่ได้เตะตาอะไรคน มากมายนัก แต่พอเมื่อถึงเวลาหน้ามืดตามัว ก็มองเห็นแตก ต่างออกไป อันที่จริง…มันดึงดูดเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ช่างน่าลึกลับ มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเย่ไม่เซิน

ผู้หญิงเช่นนี้ ทำไมถึงได้ถูกขอหย่าได้

หรือว่า

เย่ไม่เซินหรี่ตาลง เขาจับเธอดึงเข้ามาใกล้ ก่อนจะถามด้วย น้ำเสียงแหบๆ “ไม่เคยจูบรึไง หายใจยังทำไม่เป็นเลย”

เมื่อได้ยินเรื่องจูบ เสิ่นเฉียวก็เหมือนจะได้สติกลับมา ความ พร่ามัวในดวงตาค่อยๆเลือนหายไป

หลังจากนั้นริมฝีปากชายหนุ่มคนนั้นก็ประกบลงอีกครั้ง
เย่ไม่เขินก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แค่รู้ว่า ณ วินาทีนั้น เขาต้องการจะเก็บภาพทรงจำในดวงตาของเสิ่นเฉียวเอาไว้ ดังนั้น…จึงจูบไปดื้อๆ

เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าตัวเองเคลือบเคลิ้มไปนานแค่ไหน แต่ทันใดที่ ได้สติขึ้นมา เธอก็กรีดร้อง และออกแรงผลักเขา

การผลักครั้งนี้ทำให้เย่โม่เซินผละออกไป ในขณะเดียวกันก็

ทําให้ตัวเองนั้นล้มตกลงไปด้วย

เมื่ออารมณ์ก่อตัวรุนแรงขึ้น เย่โม่เซ็นเขาก็ไม่ได้สนใจข้อ จํากัดอะไรของเธอมากมายนัก

เสิ่นเฉียวล้มนั่งลงบนพื้นเย็นเฉียบ หัวสมองมึนตื้อไปหมด เธอกัดเม้มกัดริมฝีปากทั้งสองของเธอไว้ ดวงตาอันงดงามทั้งคู่ นั้นเพ่งมองไปที่เขา “คุณทำอะไรน่ะ!”

หลังจากที่เย่โม่เซินถูกผลักออก เขาก็ตกใจอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ครูต่อมาเขาก็ตอบโต้เอาคืนเธอด้วยการไม่แยแส

“ใช้สิทธิ์ของความเป็นสามี ทำไม คุณนายเย่ยังไม่คุ้นหรือยัง

ไง”

ริมฝีปากเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอันเย้ยหยัน เห็นได้ชัดว่า จงใจต้องการทำให้เธอรู้สึกขายหน้า

เสิ่นเฉียวพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว “คุณไม่ได้สนใจอะไรในตัวฉันไม่ใช่เรอะ แล้วมาจูบฉันทำไม!”

ในจิตสำนึกของเธอ การจูบควรที่จะเป็นเรื่องที่กระทำกัน ระหว่างคนรักกัน แต่กับสายตาที่เขามองเธอแล้วเห็นได้ชัดว่า มันคือความรังเกียจ แล้วทำไมถึงได้จูบกันล่ะ

“คุณนายเย่ ผมก็เพิ่งจะบอกคุณไปเองไม่ใช่หรอ การที่ผม สนใจคุณกับการที่ผมต้องการทำให้คุณอับอายนั้น เป็นคนละ เรื่องกันโดยสิ้นเชิง”

เสิ่นเฉียวนิ่งอึ้งไป

ไม่คิดเลยว่าจิตใจเอาจะชั่วช้าเลวทรามได้ถึงขนาดนี้ เสิ่น เฉียวหัวเสียหันกายต้องการที่จะเดินจากไป

“คุณนายเย่ คุณยังไม่ได้ช่วยผมถอดเสื้อผ้าเลยนะ”

“หรือจะบอกว่า คุณไม่ได้ต้องการเป็นคุณนายเย่แล้วล่ะ”

คู่กันรึ!

เสิ่นเฉียวชูกำปั้นสีชมพูขึ้นมา เธอโกรธจนหน้าเขียว ก่อนที่

จะค่อยๆคลายกำปั้นออก
ช่างเถอะ อดทนไปก่อนแล้วกัน

ก็แค่ถอดเสื้อผ้าเองไม่ใช่รึไง

เสิ่นเฉียวหันกลับและเดินเข้าไปเผชิญหน้าเขาอีกครั้ง เย่โม่ เซินสังเกตเห็น ดวงตาอันสวยงามนั้นกลับเย็นชาขึ้นอีกครั้ง ดู เหมือนบ่อน้ำเย็นอันนิ่งเงียบไม่ไหวติง

อา ช่างน่าผิดหวังเสียจริง

คิดอยากจะอยู่ตระกูลเย่ต่อไป แต่เรื่องหว่านเสน่ห์คนกลับทำ

ไม่เป็น

เสิ่นเฉียวโน้มตัวลงเพื่อช่วยเขาปลดเสื้อผ้าออก แต่เนื่องจาก ลักษณะท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ทำอย่างไรก็ถอดไม่ออก เธอจึง ได้แต่พูดกับเขาว่า “คุณช่วยหน่อยสิ”

เย่โม่เซินนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกับกล่าวว่า “คุณนาย เย่ไม่รู้ว่าผมเป็นคนทุพพลภาพหรือยังไง จะไปมีแรงได้ยังไง กัน”

เสิ่นเฉียว : “…ถ้าคุณไม่ออกแรงช่วยฉัน ฉันก็ไม่รู้จะช่วยคุณ

ได้ยังไง”

“เฮ่อ ดูแล้วเธอนี่ใช้งานไม่ค่อยได้เลยนะ”
สีหน้าเล่นเฉียวเปลี่ยนไปในทันที เธอได้ปิดปากตัวเองให้ สนิท หวังกับตัวเอง

ผ่านไปสองนาที…

เงินเฉียวก็ยังคงทำไม่สําเร็จ…

ทำยังไงดีล่ะ เสิ่นเฉียวร้อนใจจวนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว ดวงตาเธอเริ่มจะแดงก่ำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ