หมอหญิงรวย

ตอนที่ 6 ข้อตกลงแรก



ตอนที่ 6 ข้อตกลงแรก

บ่าวรับใช้ของตระกูลเหยาต่างก็บอกว่าคุณหนูรองชื่นชอบการ เพาะปลูกดอกไม้และพืชพันธุ์แปลกๆ และชอบการเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงต่างๆ นานา นางเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม ท่านย่าและท่าน แม่ที่เป็นผู้อาวุโสกลับไม่ได้สนใจอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกอะไร อีก ทั้งไม่ได้เสียเงินทองเป็นจำนวนมาก นางอยากเลี้ยง ก็ปล่อย ให้นางเลี้ยงไป

ด้วยเหตุนี้ เวลาที่ผ่านมานับสิบปี นางได้เรียนรู้ทักษะ ทางการแพทย์อันน่าอัศจรรย์ในตำราแพทย์เป็นอย่างดี

เวลานี้ เหยาเยี่ยนอวี่ถือโอกาสตอนที่เช็ดมือให้เหยาเพิ่ง

เกอ ก็ได้แอบจับชีพจรนาง หลังจากที่ตรวจชีพจรเสร็จ ในใจ

จึงเต็มไปด้วยความสงสัย

ตรวจจากชีพจรของเหยาเพิ่งเกอแล้ว นางมีอาการ และ เลือดพร่อง ของตับและหัวใจติดขัด น้ำท่วมจากไตพร่องและ ปอดชื้น ดังนั้นนางจึงมีอาการไอเรื้อรัง นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ไม่มีชีวิตชีวา และอารมณ์ไม่ดี แต่อาการผิดปกติเหล่านี้พบได้ ในเกือบทั้งหมดของสตรีที่อยู่ในเรือนหลังตระกูลใหญ่ ใครเล่า จะไม่เป็นอะไรถ้าเอาแต่ใช้เล่ห์เพทุบายในแต่ละวัน แต่ไม่ว่า เรื่องในจิตใจจะหนักหน่วงเพียงใด ก็คงไม่ถึงกับสิ้นชีพในเวลาแค่สามปีหรอกกระมัง?

เหยาเยี่ยนอวี่วางมือของเหยาเพิ่งเกอไว้ใต้ผ้าห่มบาง จากนั้นก็มองสีหน้าที่สะลึมสะลือของนาง แล้วหันข้างไปถาม หลี่หมัวมัว “ยาของพี่สาวล่ะ”

หลี่หมัวมัวถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “เมื่อครู่ดื่มไปสองคำก็ อาเจียนออกมา บ่าวจึงไม่กล้าให้นายหญิงดื่มอีก ตอนนี้แค่ นายหญิงได้กลิ่นยาก็อาเจียนแล้วเจ้าค่ะ…” ดื่มยามานานขนาด นี้ แต่กลับไม่หาย สภาพร่างกายของนางมาถึงขั้นนี้แล้ว เหตุ ใดถึงต้องให้นางทนทุกข์ทรมานอีก

เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า “มีอีกหรือไม่ ยกมาให้ข้า หน่อย”

หลี่หมัวมัวเห็นว่าเหยาเขียนอวี่จะป้อนยาให้พี่สาวของ นาง จึงไม่อาจพูดให้มากความ แค่หันหน้าไปด้านข้าง จากนั้น ก็ส่งสายตาให้กับสาวใช้ที่อยู่ด้านข้าง นางจึงยกยาต้มหนึ่ง ถ้วยแล้วยื่นให้ชุ่ยเวย ชัยเวยก็ส่งต่อให้เหยาเยี่ยนอวี่ แต่ แทนที่เหยาเยี่ยนอวี่จะป้อนยาให้เหยาเพิ่งเกอ นางกลับเอา ถ้วยยามาใกล้ปลายจมูกแล้วสูดดมเบาๆ อีกทั้งยังจับยาเล็ก น้อย

“คุณหนูรองเจ้าคะ?” หลี่หมัวมัวรู้สึกแปลกใจ “นี่คุณหนู รองกำลังจะทำอะไรเจ้าคะ

เหยาเยี่ยนอวี่ไม่ได้สนใจหลี่หมัวมัว หลังจากที่ลิ้มรสยา ไปหนึ่งคำ ก็ยื่นถ้วยยาคืนให้ชุ่ยเวย แล้วเหลือบมองเหยาเพิ่งเกอที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสะลึมสะลือด้วยสีหน้าที่ยังคงขมวด คิ้วเล็กน้อย ผ่านไปสักพักค่อยกล่าวขึ้น “สภาพเช่นนี้ของพี่สาว ทำให้คนมองแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม นางแสร้งทำเป็นมีเยื่อใยต่อพี่สาวของตนไปก่อน เรื่องอื่นค่อย ว่ากันอีกที อย่างไรก่อนหน้านี้นางกับเหยาเฟิงเกอก็ไม่เคยมี ปัญหาอะไรกันอยู่แล้ว พี่น้องต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อ กัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิด

หลี่หมัวมัวได้ยินคำพูดนี้เลยน้ำตาคลอขึ้นมาทันที “ใคร ว่าไม่ใช่เช่นนั้นล่ะเจ้าคะ

เหยาเขียนอวถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็ออกคำสั่ง “เรือน แห่งนี้ไม่เปิดหน้าต่าง อากาศจึงไม่ถ่ายเท เช่นนั้นก็เอาธูปหอม นั่นไปทิ้งก่อนเถอะ”

หลี่หมัวมัวยังไม่ได้พูดอะไร สาวใช้ที่ยกถ้วยยามาเมื่อครู่ นี้ก็ตอบกลับว่า “ที่ผ่านมานายหญิงไม่ชอบกลิ่นของยา และ นอนหลับไม่ค่อยสนิท นี่เป็นธูปหอมที่ช่วยให้ผ่อนคลายที่ หยินสั่งให้คนส่งมาโดยเฉพาะ

เหยาเยี่ยนอวี่เหลือบตามองไปด้านข้าง จึงสังเกตเห็นว่า สาวใช้ผู้นี้ไม่ใช่ซาน ที่เป็นสาวใช้คนสนิทของเหยาเพิ่งเกอ และก็ไม่ใช่สาวใช้ของตระกูลเหยา ที่ติดตามเหยาเพิ่งเกอมา ตอนออกเรือน นี่เป็นสาวใช้ของจวนติ้งโหว

“คุณหนูได้โปรดอภัยให้บ่าวด้วย บ่าวพูดมากเกินไปเอง เจ้าค่ะ” สาวใช้จึงรีบก้มหน้าลง พร้อมกับค้อมตัวลงถอยไปด้านหลังเล็กน้อย

หลี่หมัวมัวที่กำลังคิดจะอธิบายอะไรบางอย่าง ตรงประตู มีเสียงม่านและเสียงของสาวใช้ดังเข้ามา “คุณชายสามกลับมา แล้วเจ้าค่ะ”

เหยาเยี่ยนอวี่รีบเหยียดกายลุกขึ้นจากเตียงทันที หลี่หมว มัวรีบพาสาวใช้ออกไปต้อนรับ ซอเสียงก็เดินเข้ามาอย่าง รวดเร็ว เหยาเยี่ยนอวี่ย่อตัวลงเล็กน้อยแสดงความเคารพ “เขียนอน้อมคำนับคุณชายสามเจ้าค่ะ”

ตอนที่ซอเสียงเห็นเหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้สึกตกตะลึง จากนั้น เขาจึงยิ้มอ่อนพลางกล่าวว่า “ข้าก็ว่าเหตุใดถึงเห็นสาวใช้และ ตัวจื่อแปลกหน้าอยู่ด้านนอก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวอยู่ที่นี่นี่เอง

“ข้ามาเยี่ยมเยียนพี่สาว ได้ยินมาว่านางอาเจียนยาต้ม ที่ ดื่มเมื่อคืนเจ้าค่ะ” เหยาเยี่ยนอวก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อที่ จะหลบสายตาของซูอเสียงที่กำลังมองตนอยู่

“เฮ้อ อาการป่วยของพี่สาวเจ้า ซอเสียงถอนหายใจ ด้วยเสียงเศร้าโศก สีหน้าเต็มไปด้วยความระทมทุกข์ จากนั้น ก็หลีกเหยาเยี่ยนอวี่แล้วเดินเลาะไปตรงหน้าเตียงนอน และ ค่อยๆ นั่งลง พลางดึงผ้าห่มผืนบางขึ้นเพื่อที่จะคลุมตัวเหยา เฟิงเกอให้มิดชิดกว่าเดิม

เจ้าอยากให้นางร้อนตายหรือไง ในช่วงเวลาเดือนหก กลับปิดหน้าต่างและห่มผ้า แล้วยังคลุมอย่างแน่นหนาเพียง นั้น? เหยาเยี่ยนอวบ่นพึมพำในใจ
ซูอวี้เสียงนั่งลงแค่ชั่วขณะ จากนั้นก็เหยียดกายลุกขึ้น

แล้วเดินไปยืนตรงหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ พร้อมกล่าวด้วยความ

เกรงใจ “เจ้ามาแล้ว พี่สาวของเจ้าคงจะรู้สึกโล่งอกไม่น้อย

สาวใช้และตัวจื่อที่นี่อาจจะเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยได้การ เจ้ามา ข้า

ก็วางใจ พวกเจ้าสองพี่น้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน

สภาพร่างกายของพี่สาวเจ้าย่ำแย่ถึงขั้นนี้แล้ว ข้าคงจะต้อง

รบกวนเจ้าอย่างมากแล้วล่ะ

เหยาเยี่ยนอวก้มหน้าลง ทำให้ชื่อเสียงเป็นเพียงผมสี สลวยที่เกล้าเป็นมวย “คุณชายสาม โปรดวางใจ เยี่ยนอวี่จะ ดูแลพี่สาวอย่างสุดความสามารถเจ้าค่ะ”

ซอเสียงพยักหน้าแล้วอมยิ้มเล็กน้อย “ฟ้าเริ่มมืดแล้ว รีบ กลับไปพักผ่อนเถอะ อาการป่วยของพี่สาวเจ้าไม่ได้เป็นมาแค่ วันสองวัน สุขภาพร่างกายของเจ้าก็สำคัญเช่นกัน

“ขอบพระคุณคุณชายสามที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ” เหยาเขียนอ ครุ่นคิดในใจ คำพูดด้านหน้าบอกว่าจะต้องรบกวนข้า แต่ค่า พูดด้านหลังกลับบอกให้ข้ารีบพักผ่อน คำพูดช่างย้อนแย้งกัน เสียจริง!

พอเห็นซอเสียงจากไป เหยาเยี่ยนอวี่ก็ไม่กล่าวอะไรเพิ่ม เติม แต่ก่อนที่นางจะออกจากเรือน ก็จ้องมองหลี่หมัวมัวที่ กำลังเหม่อลอยอย่างพิจารณาแล้วก็จากไป หลี่หมัวมัวเป็นผู้ที่ ฉลาดหลักแหลมอย่างมาก ตอนที่เหยาเยี่ยนอวี่กลับเรือนไปนั่ง ตรงหน้า โต๊ะเครื่องแป้ง และกำลังดึงเครื่องประดับศีรษะออก หลี่หมัวมัวก็ยกรังนกฝุ่นเข้ามาข้างใน
ชัยเวยเข้าไปต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับรับของที่ นางยกมา จากนั้นก็กล่าวขอบคุณด้วยเสียงต่ำ “ขอบคุณหมว ตัวที่นึกถึงคุณหนูของพวกเราเจ้าค่ะ”

หลี่หมัวมัวยิ้มอ่อนพลางเอ่ยว่า “คุณหนูของพวกเจ้าไม่ได้ เป็นคุณหนูของขากระนั้นหรือ ตอนนี้นางมาอยู่ที่นี่แล้ว ยังจะ พูดอะไรเช่นนี้กับข้าอีก?”

ชุ่ยเวยรู้สึกตกตะลึงในคำพูด จึงทำได้เพียงยิ้มอย่าง ซุกซน และไม่พูดอะไรอีก เหยาเยี่ยนอวี่มองแม่นมของตนเองที่ มีนามว่าเพิ่งหมัวมัวพลางยิ้มและกล่าวขึ้น “ที่นี่ข้ามีรังนกแล้ว ข้าคงกินน้ำแกงเห็ดหูหนูขาวไม่ลงแล้วแหละ หมัวมัวไปดูไฟที่ เผาไว้หน่อยเถอะ ประเดี๋ยวจะส่งให้หลี่หมัวมัวเอาไปใช้ใน เรือน”

หลี่หมัวมัวรีบโค้งตัวลงน้อมคำนับ พลางยิ้มและกล่าวขึ้น “บ่าวขอบพระคุณคุณหนูอย่างยิ่งเจ้าค่ะ”

เหยาเยี่ยนอวี่ส่งสายตาให้ชุ่ยเวย ชัยเวยจึงพาเหล่าสาว ใช้ที่อยู่ในเรือนออกไปข้างนอกพร้อมกับปิดประตูลง หลี่หมัว มัวเห็นเยี่ยงนี้ จึงรีบขึ้นหน้ามาช่วยเหยาเยี่ยนอวี่แกะผมที่มวย ไว้ออก จากนั้นก็ใช้หวีงาช้างหวีผมให้นาง

“หมัวมัว พี่สาวเป็นเยี่ยงนี้” เหยาเยี่ยนอวี่ทำสีหน้าที่ ลำบากใจพลางบอกคนในคันฉ่องที่มองเห็นไม่ค่อยชัด จากนั้น จึงถามขึ้น “อนาคตท่านมีแผนการว่าอย่างไร

หลี่หมัวมัวยิ้มอย่างขมขื่น “วันนี้นายหญิงเป็นถึงขั้นนี้พวกบ่าวที่เป็นไพร่ปรนนิบัติรับใช้ได้ไม่ทั่วถึงเอง นายท่านต้อง ลงโทษพวกบ่าวแน่นอน อย่างไรก็ตาม พวกบ่าวก็ต้องกลับไป น้อมรับการลงโทษอยู่ดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าเหยาเยี่ยนอวี่คิดจะเก็บ นางไว้ คิดว่าจวนข้าหลวงใหญ่ปกครองสองเมืองต้องไม่หัก หน้าบุตรีของตน เพียงเพราะบ่าวไพร่ไม่กี่คนหรอกกระมัง นี่ก็ คือเหตุผลที่หลี่หมัวมัวเห็นว่าต้องหาโอกาสตามประจบสอพลอ เหยาเยี่ยนอวี่

เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าพลางกล่าว “จริงๆ แล้ว ทางที่ดีที่ สุดสำหรับหมัวมัว คือการรักษาอาการของพี่สาวให้ดีขึ้น

“โธ่ คุณหนูของข้า!” ครั้งนี้แม้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นนางยังทำ ไม่ได้ ความรู้สึกทุกข์ใจที่เกิดขึ้น ทำให้น้ำตาของนางไหล พรากลงมาทันที “ไม่ใช่ว่าบ่าวไม่คิดเยี่ยงนี้ คุณหนูใหญ่อยู่ ข้างกายบ่าวมาตั้งแต่เกิด บ่าวปรนนิบัติรับใช้นางมายี่สิบว่า ปี…สุดท้ายแล้ว…”

เหยาเยี่ยนอวี่มองน้ำตาบนใบหน้าของหลี่หมัวมัว แล้ว หมุนตัวไปตบมือของนางเบาๆ พลางปลอบโยนขึ้น “หมัวมัว อย่าได้เสียใจไปเลย ในความคิดของข้า พี่ใหญ่ไม่ใช่ว่าไม่ สามารถหายดี”

หลี่หมัวมัวหยุดชะงักไปทันที สักพักจึงได้ถอนหายใจออก มาอย่างแรง “มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณหนูยังจะพูดจาเช่นนี้เพื่อ ปลอบโยนบ่าวอีกหรือเจ้าคะ

เหยาเยี่ยนอวี่กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าไม่ได้ปลอบใจเจ้า ถึงแม้ข้าจะไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าข้าจะสามารถช่วยพี่ใหญ่ได้ หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องมีทางออกอย่างแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ