หมอนวดชาย (NC18+)

บทที่9 การนวดเพื่อรักษา



บทที่9 การนวดเพื่อรักษา

ทุกคนต่างก็ฟังออก ว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้ฉวยโอกาสเล่นงานหล เขาหราน ก็มีเพื่อนร่วมงานที่จิตใจดีบางคนรีบพูดขึ้นว่า “เชา หรานนายอย่าไปฟังเขาเลย ความสามารถในการไกล่เกลี่ยของ พี่หนุ่ยนั้นสูงมาก ถ้าหากเธอออกหน้ายังทำอะไรไม่ได้ นายเข้าไป จะต้องถูกด่าแน่นอน”

แล้วก็มีเพื่อนร่วมงานพูดเสริมว่า “นั่นสิ นายดูสิลูกค้าคนนั้น ฉุนเฉียวขนาดนั้น ไม่ว่าใครไปพูดก็คงไม่มีประโยชน์หรอก”

หลี่เขาหรานพูดพึมพำอย่างครุ่นคิด “ถ้าอย่างนั้นถ้าผมจัดการ กับอาการปวดเอวของเธอได้ล่ะ ?”

พนักงานที่กระทุ้งเขาเมื่อครู่ก็คว้าโอกาสได้แล้ว เลยรีบพูด เยาะเย้ยเขาว่า “นายอย่ามาพูดโม้ดีกว่า นายก็แค่หมอนวดตัว เล็กๆเท่านั้น นายคิดว่าตัวเองเป็นหมอนวดอัจฉริยะจริงๆหรือยัง ไง”

“เซาหรานนายอย่าหุนหันพลันแล่นเลยดีกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่อง เล่นๆนะ” เพื่อนร่วมงานจิตใจดีเองก็คิดว่าหลี่เซาหรานนั้นคิด เพ้อฝันไปเอง เลยพูดห้ามด้วยความหวังดี

คนรอบข้างพวกเตือนด้วยความหวังดีก็ดี พูดเยาะเย้ยด้วย ความหวังร้ายก็ช่าง หลี่เซาหรานต่างก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงจดจ่อ อยู่ท่าทางของลูกค้าผู้หญิงคนนั้นต่อ แล้วทำสีหน้าครุ่นคิด
ในเวลานั้นเองจู่ๆก็มีเพื่อนร่วมงานถูกขึ้นมาอย่างตื่นตกใจว่า “แย่แล้ว คุณตันมาแล้ว !!

ตามด้วยเสียงตื่นตกใจของเพื่อนร่วมงาน สีหน้าของทุกคนก็ เปลี่ยนไปทันที ต่างก็หันไปดูทางประตูเข้า มีเพียงหลี่เขาหราน เท่านั้นที่สีหน้ามึนงง เขาไม่รู้ว่าคุณตันเป็นเทพที่มาจากแห่งหน

ขณะนี้หน้าประตูมีคุณผู้หญิงที่งดงามราวกับหยกเดินเข้ามา ท่าทางสูงส่ง ออร่าหรูหราร่ำรวย หน้าตาเองก็งดงามราวกับ เทพธิดา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือผิวพรรณ ต่างก็สมบูรณ์แบบไร้ ที่ติ ความงามของเธอนั้นเย็นยะเยือก ราวกับบนใบหน้าเขียน ว่า “ห้ามคนไม่รู้จักเข้ามาใกล้” อยู่บนนั้น

หลี่เชาหรานตาเป็นประกาย แล้วถามอย่างสงสัยว่า “คุณตัน เขาทําอะไรเหรอ ?”

เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบหน้าเขารีบฉวยโอกาส พูดหัวเราะเยาะ เย้ยเขา “ขนาดคุณนนายก็ไม่รู้จักเหรอ ? นายยังมีหน้านับว่า ตัวเองเป็นพนักงานของที่นี่อีกเหรอ !”

เพื่อนร่วมงานที่จิตใจดีพูดอธิบายว่า “เธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ของทางร้านเรา”

หลี่เซาหรานสีหน้าซีดเผือดทันที “ไม่จริงน่า ฉันว่าเธอน่าจะอา ยุราวๆสามสิบเองนะ”

“คุณตันเป็นยอดฝีมือด้านธุรกิจมาตั้งแต่อายุยี่สิบแล้ว เรื่องนี้ นายก็ไม่รู้เหรอ ?” เพื่อนร่วมงานจิตใจดีเริ่มค่อยๆมองหลี่เชาหรานตาค้าง

ตันหาชวนเดินเข้ามาด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว มองดูลูกค้าวีไอพี ท่านนั้นที่หนึ่ง สีหน้าประหลาดใจ ในตอนนั้นเองซังหงหรียก็มอง เห็นเธอ สีหน้าเริ่มเขียวขึ้นมาทันที พูดปลอมลูกค้าอยู่คำสองคำ จากนั้นก็รีบเข้ามาทักทายด้วยท่าทางเคารพนับถือ

ที่จริงซังหงหนุ่ยกับตันหาชวนส่วนตัวแล้วเป็นพี่น้องกัน ความ สัมพันธ์ถือว่าไม่เลว แต่ยังหงหนุ่ยรู้ดีว่า ขณะนี้เป็นเวลางาน พอ เจอเจ้านาย ก็จําเป็นต้องมีท่าทีของพนักงาน ไม่อย่างนั้นจะส่งผล ต่ออำนาจในหน้าที่ของต้นหนูชวน และนี่ก็คือส่วนที่ทำให้ต้นหว ชวนชอบพี่น้องคนนี้

พอได้ยินซังหงหนุ่ยพูดอธิบายคร่าวๆรอบหนึ่งแล้ว ตันหาชวน ก็เหลือบไปมองลูกค้าวีไอพีตรงนั้นที่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเย็นชา ว่า “เป็นใครมาจากไหนกันถึงได้ใจกล้าขนาดนี้ กล้ามาหาเรื่อง ในร้านของต้นหนูชวนคนนี้ ? หมอนวดทำให้ป่วย นี่เป็นเรื่องที่น่า ข่าที่สุดในโลกแล้ว !”

พอตันหวูซวนพูดแบบนี้ ซึ่งหงหนุ่ยก็แอบถอนหายใจโล่งอกที หนึ่ง

นิ่งไปครู่หนึ่ง ต้นหวูซวนก็พูดต่อว่า “อย่าไปสนใจหล่อน หล่อนอยากจะโวยวายยังไงก็โวยวายไป ถ้าทำเกินไปละก็ เรียก ยามเข้ามาลากตัวหล่อนออกไป

ซังหงหรียทำสีหน้าลำบากใจ “แต่ถ้าทำแบบนั้น จะส่งผลต่อ ชื่อเสียงของร้านเรานะคะ”
“ไม่เป็นไร ถ้าร้านนวดไปต่อไม่ได้แล้ว ฉันก็จะเปลี่ยนชื่อแล้ว เปิดใหม่อีกร้านหนึ่ง

คำพูดของต้นหวูซวนเผยให้เห็นถึงความเด็ดขาดและหยิ่ง ผยอง

ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีคนที่ไม่ลืมหูลืมตาเข้าไปใกล้แล้วพูดขึ้น ว่า “คุณตัน ถ้าหากผมช่วยแก้ปัญหาลูกค้าคนนั้น คงจะลดเรื่อง น่ารำคาญลงไปได้ไม่น้อย แถมยังดีต่อชื่อเสียงของทางร้านเรา ด้วยนะครับ”

เพื่อนร่วมงานต่างก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ มีคนที่แอบปาด เหงื่อแทนหลี่เซาหรานเงียบๆ แน่นอนว่าก็ต้องมีคนที่แอบด่าหลี่ เขาหรานว่าชื่อออยู่ในใจ หึหึ เจ้าหมอนี่อยากแสดงออกต่อ หน้าคุณตันอย่างนั้นหรือ น่าขำ

ซึ่งหงหรียตกใจจนหน้าแดง รีบพูดเสียงต่ำว่า “หลี่เซาหราน นายกำลังพูดบ้าบออะไร ยังไม่รีบออกไปอีก! ?”

ตันหวูซวนขมวดคิ้วแน่น เหลือบมองหลี่เชาหรานด้วยท่าทาง สูงส่งแล้วพูดว่า “นายเป็นใคร ที่นี่นายมีสิทธิ์ออกความเห็นด้วย เหรอ ?”

“ผมชื่อหลีเชาหราน เป็นพนักงานนวดที่เพิ่งมาใหม่ครับ แล้ว ..……..” หลี่เขาหรานพูดแนะนำตัวอย่างไม่สะทกสะท้าน หลังจาก มองซังหงหนุ่ยทีหนึ่งแล้ว ก็สวมหมวกให้กับตัวเองใบหนึ่ง “เป็น ลูกศิษย์ของพี่หรุ่ยครับ”

ซังหงหรียแทบจะกระอักเลือด เจ้าเด็กนี่มันซื่อบื้อหรืออย่างไรนายอยากตายก็อย่าลากฉันไปด้วยสิ

ม่านตาของต้นหาชวนหดลงทันที แล้วพูดอย่างเย็นซาว่า “ลูก ศิษย์ของหงหย ?”

ซึ่งหงหนุ่ยสั่นสะท้านไปถึงตับ กำลังเตรียมจะสะสางความ สัมพันธ์ให้ชัดเจน แต่หลี่เซาหรานก็ชิงยิ้มแล้วพูดก่อนว่า “คุณ ตัน ผมรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญก็คือพวก เราต้องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของทางร้าน ใช่ไหมครับ ?”

ต้นหวูซวนจ้องหลี่เซาหรานเขม็ง แล้วทำท่าครุ่นคิด

ซังหงหรียร้อนรนจนเหงื่อตก กดฟันแน่นอยากจะพูดแก้ตัวสัก คำสองคํา ในใจก็ก่นด่าหลี่เขาหรานเสียพลิกฟ้าผ่าแผ่นดิน มั่นใจแล้วว่าเจ้าเด็กนี่มันซื่อบื้อ ใครจะรู้ว่ายังมีพวกฉวยโอกาส อีก คนที่ไม่ชอบหน้าหลี่เซาหรานเมื่อจู่ๆก็วิ่งเข้ามาพูดว่า “คุณ ตัน เจ้าหมอนมาทำงานวันแรกหัวหน้าก็ให้เขารับงานแล้ว ผม รู้สึกว่าเขาจะต้องมีฝีมือแน่ๆ ให้เขาลองดูหน่อยเถอะครับ

พอได้ยินแบบนั้น ตับของซังหงหรียก็แทบระเบิดทันที เจ้าเด็ก นี่มีหรืออยากจะให้หลี่เขาหรานแสดงผลงาน เห็นได้ชัดเลยว่า อยากจะราดน้ำมันลงบนกองไฟชัดๆ บีบให้หลี่เขาหรานขายหน้า เขายังพูดอีกประโยคด้วยว่า “มาทำงานวันแรกหัวหน้าก็ให้เขา รับงานเลย”

เห็นได้ชัดเลยว่าอยากจะดึงซังหงหนุ่ยลงน้ำไปด้วย

ซึ่งหงหนุ่ยจ้องเพื่อนร่วมงานคนนั้นเขม็ง แทบอยากจะฉีกเขา เป็นชิ้นๆแล้วเอาไปตุ๋นเสีย
แต่หลี่เซาหรานกลับทนได้ ยิ้มบางๆ ให้ต้นหาชวน ท่าทาง มั่นใจเต็มร้อย

ต้นหนูชวนพูดในใจว่า “คนๆนี้ดูน่าสนใจไม่น้อย” จากนั้นก็ เชิดหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้ ในเมื่อนายเสนอตัวเอง งั้นนายก็ไป ลองดูแล้วกัน แต่ขอพูดเตือนเอาไว้ก่อนเลยนะ ถ้าทำสำเร็จ นาย ก็จะได้เป็นรองหัวหน้า ถ้าไม่สำเร็จ นายก็ออกไปจากที่นี่ เข้าใจ ไหม ?”

คำพูดที่ดูมีการเดิมพันแบบนี้ ทำให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นดีใจ เป็นที่สุด จนเกือบอดไม่ไหวที่จะส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา

มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ซึ่งหงหนุ่ยร้อนรนเหมือนมดที่อยู่บน กระทะ แต่ว่าคำพูดออกมาจากปากของต้นหนูชวนแล้ว ผู้เป็น นายไม่มีพูดเล่น เธอเป็นแค่บ่าว ย่อมไม่มีสิทธิ์คัดค้าน

หลี่เซาหรานยิ้มแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “เข้าใจแล้วครับ ก็เอา

ตามนั้นเลยแล้วกันครับ

สายตาที่แต่ละคนมองส่งหลี่เขาหรานที่เดินไปทางแผนก ต้อนรับนั้นแตกต่างกันไป

พอหลี่เซาหรานเดินไปถึงตรงหน้าลูกค้าวีไอพี ก็พูดแนะนำ ตัวอย่างมีมารยาท ลูกค้าวีไอพีโกรธเป็นไฟทันที บอกว่าเขาไม่มี สิทธิ์มาคุย เขาเองก็ไม่โกรธไม่ร้อนรนอะไร ยิ้มแล้วพูดอย่างใจ กว้างว่า “คุณรู้สึกว่าเอวทั้งปวดทั้งเมื่อยใช่ไหมครับ แถวยังรู้สึก ร้อนรุ่มอย่างน่าประหลาด ที่สำคัญก็คือ คุณยังรู้สึกว่าไม่สามารถ ออกแรงเต็มที่ในสถานการณ์พิเศษบางอย่างได้ใช่ไหมครับ ?”
ค่าพูดที่ราวกับมีจมูกมีตานั้นทำให้ลูกค้าวีไอพีถึงกับนิ่งอึ้งไป แล้วมองประเมินหลี่เขาหรานที่หนึ่งตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมอง คนๆอื่นด้วยท่าทางระมัดระวังอีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงต่ำว่า “นาย……….ไมถึงได้รู้ล่ะ ?!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ