หมอนวดชาย (NC18+)

บทที่ 12 ลากขึ้นรถ



บทที่ 12 ลากขึ้นรถ

วันขายยากที่จะเชื่อว่าในเมืองแห่งนี้ จะมีคนที่ไม่รู้จักจ้าวกั่วหมู่ อยู่ด้วยงั้นหรือ? แต่ว่า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามของหมอนวด คนนี้ ไม่เหมือนกับว่าเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย……..

ปฏิกิริยาที่ไร้พิษสงใดๆ ของหลี่เขาหรานทำให้มั่นข่ายถึงกับ ต้องกุมขมับ ด้วยความหัวเสีย แต่กลับทำให้หวังเชิงที่อยู่อีกด้าน ออกอาการตื่นเต้น รู้สึกยินดีปรีดา ในความโชคร้ายของคนอื่น พลันกล่าวพิมพ์ “ไอ้หมอนี่ตายแน่ แม้ว่าผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ อสังหาริมทรัพย์อย่างจ้าวกั๊วหวี่ยังไม่รู้จัก!

เพื่อนรักเองก็ดีใจจนส่งเสียงหัวเราะออกมา “ให้ตายสิ เขา ล่วงเกินจ้าวกั๊วหรู ไม่ตายสิถึงจะแปลก พี่เชิง คราวนี้พี่ได้แก้แค้น สักที ฮาฮา”

หลี่เขาหรานส่งยิ้มอย่างมีมารยาท “ต้องขอโทษด้วยครับคุณ ผู้ชาย ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนจริงๆ ผม……. จ้าวที่คุณว่าจริงๆ” ผมไม่รู้จักคุณ

วั่นข่ายสุดหายใจเข้า ก่อนพ่นลมหายใจออกมาด้วยความขุ่น เคือง “คนอย่างแกน่ะหรือ ที่จะคู่ควรรู้จักกับคุณจ้าว”

ประโยคนี้ทำให้หลี่เขาหรานเกิดมีน้ำโห ทำไมกันล่ะ ไอ้สกุล จ้าวนี่มีหัวงอกออกมามากกว่าคนอื่นหรือยังไง?

“ฮ่าฮ่า ก็อาจจะ คุณวั่นใช่ไหม? หากคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน”

หลี่เชาหรานแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างแรง เสี่ยวหน และคนอื่นๆ ตกใจจนเบิกตากว้าง พลันแอบคิดว่าหลี่เซาทราน นั้นวามไร้สมองเอาเสียเลย ถึงได้กล้าพูดแบบนั้นกับวันข่าย?

วั่นขายสีหน้าหมองในทันที พลันกล่าวอย่างเหี้ยมโหด “พ่อ หนุ่ม คำพูดของผมไม่ชัดเจนมากพอหรือยังไง? ตอนนี้คุณต้อง ไปพบคุณจ้าวกับผม!”

เพราะอยู่ที่ร้านหรอกนะ ไม่เช่นนั้นหลี่เซาหรานไม่คิดที่จะ แยแสเขาด้วยซ้ำไป

หลี่เขาหรานกล่าวอย่างมีความอดทน “คุณจ้าวที่คุณว่าผมไม่รู้

วั่นชายฟิวขาดอย่างหมดความอดทน สายตาที่จับจ้องไปที่ห เขาหรานนั้นไม่ต่างอะไรกับสายตาที่จ้องมองคนเสียสติ ไม่รอให้ ไอ้ปัญญาอ่อนนี้ได้พร่ำไปมากกว่านี้ วันข่ายควัก โทรศัพพท์ออก มากดโทรออก “พาพวกเข้ามาหน่อย ลากไอ้หมอนี่ขึ้นรถซะ!”

หลี่เซาหรานนิ่งแข็ง อะไรกัน นี่คิดจะลักพาตัวหรือไง?

ไม่นานชายฉกรรจ์หลายนายเดินเข้ามาในร้าน ซึ่งอยู่ในชุด สูทสีดำ ที่ดูก็รู้ว่าเป็นพวกนักสู้ เป็นการ์ดที่บู๊แหลก ไม่พูดพร่ำ พวกเขาเข้าล็อกตัวหลี่เชาหรานพร้อมลากออกไปด้านนอก

หลี่เซาหรานทั้งตื่นตูมและบ้าคลั่ง หากไม่ใช่เพราะอยู่ในร้าน ละก็ เขาสอยไอ้สามคนนี้ล่วงไปตั้งนานแล้ว
เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานถูกลักพาตัวต่อหน้าต่อตา เสี่ยวหวั่นและ คนอื่นๆ เข้าไปขวางทางเอาไว้ เมื่อไตร่ตรองสักครู่ เสี่ยวหวั่นจึง รีบโทรศัพท์รายงานกับซังหงหยทันที ทำให้ทั้งหงหรียตกอก ตกใจอยู่ไม่น้อย พร้อมประหลาดใจ อสังหาผู้ยิ่งใหญ่อย่างจ้า วถั่วหรู ทำไมถึงต้องลักพาตัวนายหลี่เขาหรานด้วยล่ะ?

เมื่อหลี่เขาหรานถูกลากขึ้นรถมาได้ เขาหัวเราะด้วยความ โกรธ “ลุง สิ่งที่คุณทําเรียกว่าการลักพาตัว คุณคิดว่าเหมาะสม ไหม?”

วันข่ายที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับกล่าวอย่างโอหัง “ลักพาตัว แล้วยังไงล่ะ? ถ้าแกทำให้ฉันโมโห ฉันจะฆ่าแกซะ!”

วันข่ายเองก็โมโหขุ่นเคืองจนแทบคลั่งเช่นเดียวกัน

หลี่เซาหรานสามารถสลัดวั่นขายและคนอื่นๆ ได้อย่างสบาย แต่เขาก็พอฟังจับใจความได้บ้าง ว่าจ้าวกั๊วหรูเป็นคนที่ร้ายกาจ หากเขาลงมือ โดยพลการ ไม่แน่อาจจะส่งผลต่อเส้นทางใน อนาคตก็เป็นได้ เขาจะไม่มีทางทิ้งอนาคตไปเพราะทำร้ายคนอื่น แน่ เพราะตอนนี้เพื่อเงิน เขามีความจำเป็นที่จะต้องก้มหัว

นอกจากนี้ หลี่เซาหรานเองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน คนที่ เขาไม่รู้จักแม้แต่น้อย จะมีธุระอะไรกับเขา

เครื่องยนต์ธรรมดาไม่สามารถเทียบกับความเร็วของรถหรูได้ รถหรูแล่นด้วยความเร็วสูง แซงหน้าเครื่องยนต์ทุกคันบนท้อง ถนน

ไม่นาน หลี่เซาหรานก็ถูกพามาที่ชั้นบนสุดของตึกสูงแห่งหนึ่ง
นี่เป็นสถานที่ทําการของ “บริษัทตระกูลจ้าว” เหล่าผู้คนที่ได้ เห็นร่างของวันขาย ต่างก็ขานเรียกเขาว่า “ผู้ช่วยวั่น” ด้วยความ เคารหย่าเกรง ปั่นชายเองก็ทำตามความเหมาะสม พลันหันไป พยักหน้ารับเล็กน้อย ทำให้เขาดูมีฐานะที่สูงส่ง และไม่ธรรมดา

เมื่อมาถึงห้องทำงานของจ้าวกั่วหรู วันขายเคาะประตูห้องด้วย เสียงที่พอเหมาะ เป็นจังหวะสามครั้งติดต่อกัน เมื่อด้านในส่ง เสียงตอบรับที่แข็งกร้าวให้เข้าไปได้ วันข่ายถึงได้พาตัวหลี่เซา หรานเข้าไปด้านใน

ห้องที่กว้างใหญ่ นอกเสียจากของโบราณแล้ว ก็ประกอบไป ด้วยเก้าอี้ไม้มะฮอก และชุดเครื่องน้ำชา ที่มุมห้องมีชั้นวางเหล้า ตั้งอยู่ ที่รวมเหล้าหลากหลายยี่ห้อเอาไว้ ซึ่งบางขวดประกอบไป ด้วยตัวอักษรที่หลีเชาทรานอ่านไม่ออก

ตรงริมหน้าต่างมีโต๊ะทำงานของเจ้าของบริษัทที่ดูน่าเกรงขาม ซึ่งดูแล้วน่าจะอยู่ที่หกสิบกว่า กำลังขมวดคิ้ว ตั้งใจประคองเอว เอาไว้ ราวกับเจ็บปวดแสนสาหัส

ใบหน้าของเขาทิ้งร่องรอยของประสบการณ์เอาไว้ แต่ก็ทิ้งเอา ไว้ด้วยความน่าเกรงขามที่คนทั่วไปไม่มีเอาไว้ได้ เพียงแวบแรกที่ หลี่เซาหรานเห็นเขา ก็เดาได้ทันทีว่าเขาคือจ้าวกั่วหมู่

เมื่อได้เห็นความอาจหาญของเขา หลี่เซาหรานก็เข้าใจขึ้นมา ว่าเพราะเหตุใดวั่นข่ายถึงคิดว่าเขานั้นต้องรู้จักจ้าวกั๋วหรู เป็นแน่

“คุณจ้าว ผมได้พาตัวเขามาแล้ว หลังจากที่วั่นข่ายเข้ามาได้ ความสูงส่งของเขาก็หายไปในทันที เขาโค้งกายลงเล็กน้อยด้วยความ และความนอบน้อม

ใบหน้าที่ขมขื่นของจ้าวกั๊วหรู ในคราแรก เมื่อเห็นการปรากฏ

ตัวของหลี่เซาหรานเขาก็เกิดอาการยินดี รีบลุกขึ้นยืนต้อนรับ “คุณใช่ไหมที่เป็นหมอนวดหลี่เซาหราน?” ใบหน้าของจ้าวทั่ว

หรู ประดับไปด้วยรอยยิ้ม แต่เขากลับให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และ

สง่า

หลี่เซาหรานพยักหน้ารับ ก่อนกล่าวถาม “คุณเองหรือที่สั่งให้ พวกเขาลักพาตัวผมมา

“ลักพาตัว?” จ้าวกั๊วหรู เหลือบมองปั่นข่ายด้วยตาขวาง วันขายแก้ตัวพัลวันว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลี่เซาหรานไม่ให้ ความร่วมมือ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น

จ้าวกั๋วหรู ถลึงตาโตใส่วันข่าย ก่อนที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นเพราะผู้ช่วยของผมเสียมารยาท ผมต้องขอโทษแทนเขา ด้วย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา

หลี่เซาหรานเองก็ไม่ใช่คนใจแคบ “โอเค คุณพูดแบบนี้ก็เพียง พอแล้ว ว่ามาเลย มีอะไร?”

เขากล่าวด้วยความโอหัง ทำให้มั่นขายและการ์ดอีกสามคน ไม่พอใจ ต่างจับจ้องเขาอย่างตะลึง “ไอ้หมอนบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึง ได้กล้าพูดแบบนั้นกับจ้าวกั๊วหรู!”

หากแต่จ้าวกั๋วหรู กลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร พลันอธิบาย “เรื่อง เป็นแบบนี้ ผมเอวไม่ดี เป็นมาแต่นาน ช่วงนี้กำเริบขึ้นอีกแล้วทำให้ผมทรมานมาก เมื่อวันนี้ผมได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เธอ แนะนำกับให้กับผม เธอบอกว่าคุณเป็นหมอนวดฝีมือดี อาจจะ ช่วยผมได้บ้าง”

เมื่อวันนี้ เพื่อน?

หลี่เซาหรานเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างขึ้นมา “ท่านหมายถึงคุณ ผู้หญิงคนสวยคนนั้นใช่ไหม?

หลี่เซาหรานเองก็ถือว่าเป็นคนฉลาดหลักแหลม เมื่อวันนี้คุณผู้ หญิงคนนั้นโวยวายที่หน้าเคาน์เตอร์อยู่นาน ไม่มีความเป็น กุลสตรีแม้แต่น้อย นี่เขาถึงกับตั้งใจบอกว่าคุณผู้หญิงคนสวยคน นั้น

จ้าวกั่วหรู กล่าวด้วยใบหน้าที่สดใส “ใช่แล้ว เพื่อนรุ่นเยาว์ ของผมคนนั้น เธอสวยมากจริงๆ นั่นแหละ”

บทสนทนาถูกหมุนเปลี่ยน จ้าวกั๋วหรู สอบถาม “เสี่ยวหลี่ คุณ จะช่วยผมแก้ปัญหาอาการปวดเอวของผมได้หรือไม่?

อันที่จริงจ้าวกั๋วหรูเองก็แค่ลองดูเท่านั้น โรคเก่าแก่ที่ติดตัวมา นี้เขาไปหาหมออยู่หลายที่ แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องกำเริบก็กำเริบขึ้นมาจนได้ เวลาที่กำเริบนั้นเจ็บ ปวดแสนสาหัส เรื่องแบบนี้ หมอนวดสามารถรักษาให้หายได้ เขาไม่เชื่อเท่าไหร่นัก

หลี่เซาหรานเองก็ไม่คุยโวโอ้อวดใหญ่โต พลันกล่าวถาม อย่างมีมารยาท “ท่านต้องถอดเสื้อผ้าออกก่อน ให้ผมได้ตรวจดู อาการของท่านก่อนจะได้ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ