บทที่ 4 เธอคือยอดดวงใจของฉัน
หลงฉีรุ่ยหยิบเสื้อผ้าบนพื้นและใส่ให้เรียบร้อย จาก นั้นจึงหยิบนามบัตรหนึ่งใบวางบนโต๊ะ
“ผมให้เวลาคุณตัดสินใจ
หนานหย่าซินนั่งงงอยู่บนเตียงในสภาพผมเผ้าที่ ยุ่งเหยิง
หลังจากนั้นอีกสองสามวัน หลงฉ่รุ่ยก็ไม่ปรากฏตัวต่อ หน้าเธออีก
คืนนี้ แสงดาวสว่างผิดปกติ
หนานหย่าซินนั่งอยู่ริมหน้าต่าง สองมือประคองแก้ม ทั้งสองข้าง สายตาทอดมองไปยังท้องฟ้าที่เลือนราง
เธอชอบหลงฉีรุ่ยมานานแล้ว ความปรารถนาสูงสุด ของเธอคือได้แต่งงานกับเขา แต่เธอไม่อยากให้เขา แต่งงานเพราะคืนนั้นเป็นครั้งแรกของเธอ
ทันใดนั้น ประตูห้องนอนจึงถูกผลักเข้ามา
หนานหย่าซินหันกลับไป จึงเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อ เหลาเดินเข้ามา นัยน์ตาคู่นั้นของเธอเป็นประกาย แล้ว จึงส่งเสียงเรียก “พี่ใหญ่”
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง หนานเฉียนหมิงมองหนานหย่าซินสวยฉลาดดุจดั่งนางฟ้า นัยน์ตาไร้เดียง สาของเธอเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาเคยชินกับชีวิตที่ต้อง ถูกปัดแข้งปัดขากันและกันในวงการของการค้า
ตั้งแต่เขาอายุสิบสองปีได้รับหนานหย่าซินมาเลี้ยง เขาจึงรู้ว่า ทุกสิ่งที่เป็นของตัวเองล้วนถูกกำหนดให้เป็น ของเธอ
เธอคือน้องสาวของเขา และยังเป็นรักเดียวในชีวิต ของเขา
“เป็นอะไร? ใครทำให้สุดที่รักของพี่ไม่สบายใจ?” หนานเฉียนหมิงเดินไปใกล้เธอ พลางยื่นมือไปจับ ใบหน้าที่น่ารักสวยเหมือนตุ๊กตาของเธอ
หนานหย่าซินได้ยินจึงหมุนตัว ร่างเล็กกะทัดรัดของ ตัวเองซบไปที่แผ่นหน้าอกกว้างของเขา มีเพียงอยู่ใน อ้อมอกของเขาเท่านั้น เธอถึงจะรู้สึกปลอดภัยอยู่ไม่ น้อย
“จิ่นเฉิงรังแกเธออีกแล้ว?” หนานเฉียนหมิงกอดเธอ ด้วยความรัก พลางจูบลงไปที่ไรผมของเธออย่างสนิท สนม
หนานหย่าซินส่ายหน้า พลางกอดแขนของเขาให้แน่น กระชับขึ้น
หนานจิ่นเฉิงคือพี่ชายคนรองของเธอ ตั้งแต่พี่ใหญ่ รับเธอมาเลี้ยงในวันนั้น พี่ชายคนรองของเธอจึงชอบแกล้งเธอเพื่อความสนุก แต่เธอรู้ว่าพี่ชายคนรองไม่ใช่ ไม่ชอบเธอ แต่เขาใช้อีกวิธีหนึ่งเพื่อให้เธอเข้ากับ ครอบครัวนี้ได้
“เปล่าค่ะ” เธอตอบเสียงเบา หน้าผากน้อยๆ ถูไถไปที่ หน้าอกของหนานเฉียนหมิงเบาๆ “สงสัยสองวันที่ผ่าน มาอาจจะนอนหลับไม่สนิท จึงไม่อยากทานอาหาร” เธอ ไม่เคยพูดโกหกกับพี่ใหญ่ แต่เธอกลับแหกกฎเป็นครั้ง แรก
“ลองไปหาหมอไหม?” หนานเฉียนหมิงได้ยินจึงขมวด คิ้ว พลางคิดว่าทำไมเขาถึงประมาทแบบนี้ ที่ไม่เห็น ความผิดปกติของซินซิน
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่ชอบหมอ” นัยน์ตาของหนานหย่า ซินปรากฏความสับสนแวบหนึ่ง “พี่ใหญ่ช่วยกอดฉันให้ พักผ่อน และไม่ต้องไปหาหมอดีไหมคะ?”
“ดี พี่ใหญ่จะนอนเป็นเพื่อนเธอ” เขากอดเธออย่าง อ่อนโยน และก้าวเท้าอย่างระวังโดยไม่รู้ตัว แล้วจึงนำ ตัวของหนานหย่าซินวางลงบนเตียงเบาๆ เขานอนอยู่ ข้างเธอ พลางมองท่าทางน่ารักของเธอที่ค่อยๆ นอน หลับไป แต่หนานเฉียนหมิงก็ยังขมวดคิ้วไม่หยุด
เขารู้ว่าสุดที่รักของเขาเชื่อใจและพึ่งพาแต่เขา แต่ เรื่องความรักล่ะ? ซินซินเข้าใจเจตนาของเขาไหม?
ตอนที่เขากำลังดื่มฉ่ำกับช่วงเวลาส่วนตัวของพวกเขา เกิดเสียงดัง “ปัง” ประตูถูกคนข้างนอกผลักเข้ามาอย่างกะทันหัน
นัยน์ตาเย็นชาของหนานเฉียนหมิงมองคนนั้นอย่างไม่ พอใจ ไม่ต้องพูดก็เดาออกว่าใครคือคนที่กล้าขนาดนั้น “แกออกไปก่อน” ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะนุ่มนวล แต่ก็ เดาไม่ยากว่าตอนนี้เขาโกรธมาก
หนานจิ๋นเฉิงมองพี่ใหญ่หนึ่งที แล้วจึงมองผู้หญิงที่ขึ้ เกียจเหมือนแมวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา จึงอดไม่ได้ที่ จะรู้สึกรำคาญใจอยู่บ้าง “พี่ใหญ่ ผมมีธุระจะคุยกับพี่”
“มีเรื่องอะไรค่อยว่ากัน” หนานเฉียนหมิงกดเสียงต่ำ ลง รู้สึกจนใจไม่อยากพูดกับน้องชายที่ไม่เชื่อฟัง
“แต่ตอนนี้ผมต้องคุยกับพี่!”
“จิ่นเฉิง!” นี่คือคำเตือนเฉพาะของหนานเฉียนหมิง “ฉันพูดแล้ว ว่าตอนนี้ยังไม่อยากคุย
เพราะการโต้เถียงของทั้งสองคน หนานหย่าซินจึงบิด ตัวอย่างไม่สบายขณะอยู่ในอ้อมแขนของหนานเฉียน หมิง จึงทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่พอใจ “ตอนนี้แกออกไปก่อน มีเรื่องอะไรอีกสักพักฉันจะไปคุยกับแก
นัยน์ตาดำขลับของหนานจิ่นเฉิงเกิดประกายไฟ พลางกดเสียงต่ำเพื่อควบคุมอารมณ์โกรธ “ถึงแม้ บริษัทใกล้จะล้มละลาย ก็ยังสำคัญไม่เท่าผู้หญิงที่อยู่ ในอ้อมแขนของพี่ใช่ไหม?”
เมื่อหนานเฉียนหมิงได้ยินจึงทำให้ร่างกายของเขานิ่ง ไป “แกไปรอฉันที่ห้องหนังสือ”
หนานจิ่นเฉิงมองเขาอยู่นาน แล้วจึงเดินออกไปอย่าง ไม่พอใจ
หลังจากวางหนานหย่าซินแล้ว หนานเฉียนหมิงจึง ค่อยๆ เอาแขนของตัวเองดึงออกมาจากต้นคอของเธอ
เขาปิดประตูอย่างระมัดระวัง แต่ยังคงปลุกหนานหย่า ซินให้ตื่นเหมือนเดิม หรืออาจจะพูดว่า ตอนที่เขากำลัง โต้เถียงกับหนานจิ่นเฉิง หนานหย่าซินก็ตื่นแล้ว
เธอกระพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจที่พี่ชายคนรองพูดคำ ว่าบริษัทจะล้มละลายนั้นหมายความว่าอะไร
หรือว่า ตอนนี้พี่ใหญ่กำลังเจออุปสรรค?
หนานหย่าซินลุกขึ้นอย่างเงียบๆ ตัดสินใจแอบฟังการ พูดคุยของพี่ใหญ่กับ รอง…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ