ตอนที่ 3 น้องสาวมาหาถึงบ้านอีกแล้ว
“วันนี้ตอนค่ำจะกินเนื้อไก่ใช่ไหม” โดยไม่รู้เลยว่าหลี่ชวนถึงกำลัง แอบน้อยเนื้อต่ำใจตัวเอง จื่อซีเพียงแค่เห็นไก่ที่ถูกถอนขน เรียบร้อยแล้ว ในมือของเขา ก็พลอยน้ำลายหก
โดยทั่วไปแล้วเธอเป็นคนที่มีงานอดิเรกมากมาย ทำกับข้าว นับว่าเป็นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำ อาหารที่ตัวเองชอบกิน นอกจากนี้ของที่เธอชอบกินมากที่สุดก็ คือไก่ แค่ไก่ตัวเดียวก็ทำให้เธอคิดถึงรายการอาหารได้มากมาย
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานเอย ไก่อบซอสหวาน ไก่ตุ๋นหม้อ ไก่ ผัดพริกเผ็ด
แค่คิดก็ทำให้คนรู้สึกตะกละตะกลามขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าฐานะ ทางครอบครัวจะมีข้อจำกัด แต่ว่าอย่างน้อย ๆ เลยอาหารชนิด หนึ่งที่เรียกว่าไก่ต้ม นี่ยังสามารถทำกินได้นะ
หลี่ชวนถึงไม่ได้มองดูที่เธอเลยสักนิด “ไก่นี่จะส่งไปให้ท่านพ่อ กับท่านแม่หรอก วันนี้ตอนพวกเรากินกระต่ายที่จับมาได้เมื่อ วานก่อน”
กู้จื่อ “โอ๊ะ”ออกมาหนึ่งที่มองที่มือของเขาอย่างหักห้ามใจ ตักน้ำร้อนจากในหม้อเทลงไปในถังไม้ที่อยู่ข้างหลี่ชวนถึง
อันที่จริงก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยเขาอยู่จึงไม่กล้าทำตัวดูปีกกล้า ขาแข็งมาก ถ้าอยากจะกินอะไรก็คงต้องไปคิดวิธีหาเงินให้ได้จากนั้นค่อยว่ากัน
เธอเดินตรงไปที่ห้องนอนเตรียมชุดสวมใส่อีกชั้นค่อยลงมือทำ อาหาร โดยไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าหลี่ชวนถึงที่อยู่ด้านหลังเธอ กำลังจดจ้องมองมาด้วยความประหลาดใจ
คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้กู่จื้อจะไม่ด่าว่าเรื่องที่เขายากจนข้นแค้น
ตอนที่เขาบอกว่าจะเอาของที่ล่ามาได้ให้กับบ้านพ่อแม่ก็ไม่ได้ ก่อกวนท่าตัว โยเยขึ้น แต่ว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนคงอยากจะพังบ้าน มันเสียเต็มแก่ เหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือวันนี้ยังช่วยเขาเติมน้ำ ร้อน ?
หลี่ชวนถึงคิดวกไปวนมาแต่ก็หาคำตอบไม่ได้ ทำไมฟื้นขึ้นมา แล้วราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!
“ท่านแม่ เหมาต้านจะลุกไปกวาดพื้นเดี๋ยวนี้ละค่ะ แค่เธอเดิน ผ่านประตูเข้ามา เดิมทีเหมาร้านที่วเจียง่วงนอนอยู่ แค่ชั่ว พริบตาก็ตื่นตัวขึ้น มองมาที่เธอ เห็นสีหน้ายังดูเป็นปกติก็แอบ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทีหนึ่ง
ท่านแม่พูดอยู่บ่อย ๆ ว่านางเป็นสิ่งของ มีเพียงแค่ในตอนที่ ทำงานเท่านั้นสีหน้าถึงจะดีขึ้นมาหน่อย
ในใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กน้อยนั้น แค่เพียงทำให้ท่าน แม่ดีใจ ตัวนางเองจะเหนื่อยสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ท่าน แม่พูดอยู่ตลอดว่า ในตอนที่คลอดนางออกมาก็เหมือนเอาชีวิต ไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้วครึ่งหนึ่ง ผลที่ได้ก็คือ คิดไม่ถึงเลยว่า จะให้กำเนิดคนที่ไร้ประโยชน์เยี่ยงนี้
จื่อ รีบหยุดนางเอาไว้ทันที ไม่ต้องเจ้านอนเถอะ จะกินข้าว แล้วแม่จะมาเรียกเจ้า
จริง ๆ แล้วเด็กน้อยคนนี้ ตลอดหลายวันมานี้เอาแต่ยืนกรานที่ จะเฝ้าดูเธอ ไม่ได้นอนให้เต็มอิ่มสักเท่าไหร่
เธอเปิดดูตู้เสื้อผ้าที่โยกโคลงเคลงไปมา ก็รู้สึกเพียงแค่ว่าใน
สายตามีแต่สีดำ
ข้างในมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดที่ดูโหรงเหรง ทั้งหมดยังเป็นชุด ตัวบาง ๆ !
ในสมองของจื่อมีความคิดเพียงอย่างเดียว ต้องรีบหาเงิน หน่อยแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นต่อให้ไม่ถูกหลี่ชวนถึงขับไล่ไสส่งให้ไป เกรงจะไม่ใช่ว่าในฤดูหนาวนี้อาจจะต้องตัวแข็งหนาวขาดใจตาย ไปเสียก่อน
เหมาต้านหลงคิดไปว่าเธอคงอยากจะเอาเสื้อผ้าไปขายอีก นางเบิกตาโตจ้องมองด้วยความหวาดกลัว ร้องไห้พร้อมกับพูด ขึ้น “ท่านแม่ ถ้าจะขายอีกคงไม่มีทางผ่านหน้าหนาวไปได้แน่ ๆ
เด็กตัวเล็ก ๆ ได้ลิ้มลองรสชาติบนโลกใบนี้มามากมาย ใช้ ชีวิตแบบที่ได้กินก็ยังไม่อิ่มท้อง มีเสื้อผ้าใส่แต่ก็ไม่ ให้ความ อบอุ่น
เห็นได้ชัดเลยว่ากู้จื่อซีคิดถึงเรื่องที่เจ้าของร่างเคยทำอะไรมา เธอยิ้มด้วยความกระดากกระเดื่อ “ข้าก็ดูไปเรื่อยน่ะ
บ้านหลังนี้แต่ก่อนก็ยังมีชุดตัวหนาอยู่บ้างไม่กี่ชุด แต่ขอแค่ เพียงพอดูได้ก็ถูกเจ้าของร่างแอบเอาไปขาย ที่สำคัญเลยก็คือไม่ เคยเอาเงินสักครึ่งออกมาช่วยเหลือจุนเจือที่บ้าน
ในเมื่อหาเสื้อผ้าไม่ได้ เธอทำได้ก็แค่กลับมาที่ห้องครัวอีกครั้ง
หลี่ชวนถึงไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว มีเพียงแค่ขนเป็ดและขนไก่ที่ กองอยู่ วางทับถมอยู่แบบนี้เอาจริง ๆ ก็ดูน่าดูอยู่มากเลยทีเดียว เพียงแค่ว่าตอนนี้จื่อหิวจนหน้ามืดตาลายไปหมดแล้ว ไม่มี อารมณ์จะมาชื่นชมอะไรอย่างอื่นแล้วทั้งนั้น
ที่มุมก็พบเข้ากับกระต่ายตัวหนึ่งที่ทั้งเล็กและผอม กู้ซื้อไม่มี
เวลาที่จะไม่พอใจกับอะไร รีบเอากระต่ายไปจัดการให้สะอาด
จุดไฟเตรียมทำอาหาร “นี่เจ้าทำอะไรน่ะ? “หลี่ชวนถึงเดินเข้ามาให้ห้องครัวก็มอง เห็นเธอที่กำลังอยู่เบื้องหน้าเตา อดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้น
ต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่าเจ้าของร่างนอกจากว่าจะมาหาของกินแล้ว โดยทั่วไปแล้วแทบจะไม่เคยย่างกรายเข้ามาให้ห้องครัวเลยสัก ครั้ง!
กู้จื่อ จ้องมองไปที่เนื้อที่อยู่ในหม้อพร้อมกับนับเวลา จึงตอบ ออกไปแบบมั่นอกมั่นใจว่า “ทำอาหารยังไงล่ะ!
“ต้องการให้ช่วยไหม? “ที่บ้านมีเพียงแค่หม้ออยู่อันเดียว แบบนี้ ที่สำคัญเลยก็คืออาหารค่ำของพวกเขา หลี่ชวนถึง ปิดปากสนิทอยู่นานถึงจะถามขึ้น
“ไม่ต้อง ท่านไปพักผ่อนเถอะ”จื่อ โบกไม้โบกมือให้เขาออก
ไป
“พี่ ทำไมท่านถึงยังไม่เอาของกินไปส่งให้ที่บ้านล่ะ พวกเราอด โซจนแทบจะกัดก้อนเกลือกินแล้วนะ!
ตอนที่เนื้อกำลังจะต้มสุก เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูไม่ยี่หระ กับอะไรก็ดังขึ้น ตามมาด้วยร่างของคนหนึ่งที่เบียดตัวแทรกเข้า มาในห้องครัวที่คับแคบ
คนที่มาอายุราว ๆ สิบห้าสิบหกปีเห็นจะได้ ผมถูกถักเอาไว้ ด้วยเปียเล็ก ใบหน้าผุดผ่องจิ้มลิ้ม บนตัวสวมใส่ไว้ด้วยเสื้อผ้าที่ แม้จะดูเก่า แต่อย่างน้อยก็ยังหนาพอตัวไม่ต้องเสริมเพิ่มทับอะไร ลงไป จื่อเรียกความทรงจำอยู่ชั่วครู่ก็รู้ว่าคนผู้นี้เป็นน้องสาว ของเธอ กู้จื่อเนียน
ไม่ใช่ว่าเธอแบ่งแยกปฏิบัติกับคนไม่เหมือนกัน แต่ทว่า จื่อเนี่ยนผู้นี้ทำให้ตัวเธอจดจำได้อย่างแม่นยำไม่มีวันลืมเลือน เลยทีเดียว!
เดิมที่หญิงสาวเมื่อแต่งงานออกมาแล้วก็ควรจะต้องเชื่อฟัง สามี คอยช่วยเหลือดูแลกันและกัน ไม่รู้ทำไมเจ้าของร่างถึงเป็น คนโง่งมหน้ามืดตาบอด จากที่นางไม่ไยดีทิ้งหนุ่มใหญ่รูปงาม อย่างหลี่ชวนถึงก็พอจะดูออกอยู่ ที่แย่จนเกินไปก็คือนางเป็นคน อกตัญญูไม่รู้คุณคน
จากที่ฟังท่านแม่ของนางเอง ยอมรับว่า ให้กู้จื่อเนี่ยนมาหลอก เอาเงินมาโดยตลอด จากเดิมที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่แล้วก็ยิ่งแร้นแค้นมากไปกันอีก
ก็เพียงตัวนางเองคงยังไม่รู้ตัวว่า คนในหมู่บ้านคนอื่น ๆ ต่าง ก็พากันยกย่องว่านางเป็นคนกตัญญู
แต่น้องสาวของนางคนนี้ ถึงแม้ว่าในใจจะไม่เคยคิดเห็นหัว สาวที่ยากจนคนนี้เลยสักนิด พอจะมาเอาประโยชน์ที่ก็ใช้คำพูด ค่าจาอันอ่อนหวานมาปะเหลาะ เอาจริง ๆ มันก็แค่พูดเอาอก เอาใจไม่กี่คำ ก็สามารถเอาของอร่อย ๆ หรือแม้กระทั่งเงินกลับ ไปได้ ใครกันจะไม่เต็มใจที่จะเป็นคนปากหวานพูดจาให้คนอื่น ชอบอกชอบใจกันล่ะ
“พวกนี้ก็ใช่ใช่ไหม มาข้าถือเอง พวกเนื้อดิบพวกเราจะจัดการ ต้มเองก็พอแล้ว พี่ ท่านจะลำบากขนาดนี้ไปทำไมกันล่ะ! ” จื่อเนี่ยนมองดูเนื้อที่อยู่ในหม้อ ดวงตาเป็นประกาย ก็เบียดตัวไป ที่ด้านข้างของจื่อ แย่งเอาทัพพีในมือของเธอมาแล้วทำท่า ทางแบบเดียวกับที่เธอเพิ่งทำอยู่เมื่อครู่ต่อ
เนื้อสุกมันก็ช่วยประหยัดพื้นไม้ขีดไปได้อยู่ พี่สาวที่โง่เขลา ของนางคนนี้นับวันยิ่งคอยเอาใจใส่ ไม่เสียแรงเลยที่โตกว่าแล้ว นางก็ควรจะเอาเป็นแบบอย่าง !
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ