บทที่ 3 คาดไม่ถึงว่าจะสวมหมวกใบเขียวให้เขาแล้ว!
เฉิงเห้าไม่รู้ว่าทำไม โอวจื่อเหยีถึงได้มีโทสะขึ้นมากะทันหัน ร่างกายแข็งท้อถอยไปด้านหลังสองก้าว พร้อมกับพยักหน้า “ใช่ ใช่ครับ”
โอวจื่อเหย่พ่นลมหายใจ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
ก็หมายความว่า เมื่อวานนี้ภรรยาของเขาสวมหมวกใบเขียว
ให้กับเขาแล้ว!
ผู้หญิงคนนี้!
แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะจับพลัดจับผลูถูกเขานอนด้วย แต่ถ้า หากว่าไปพบกับคนอื่นเข้าล่ะ ไม่ใช่ว่าหมวกเขียวใบนี้จะถูกสวม ลงแน่นอนแล้วหรือ
“ประธานโอว เมื่อครู่นี้คุณเพิ่งจะบอกว่าต้องการข้อมูลทั้งหมด ของคุณผู้หญิง ปีหนึ่งก่อนหน้านี้ ตอนที่คุณกับคุณผู้หญิงแต่งงาน กัน ข้อมูลนี้ล้วนถูกตรวจสอบแล้ว ไม่อย่างนั้นผมจะไปหยิบมาให้ คุณดีไหมครับ”
“ยังไม่รีบไปอีก!” โอวจื่อเหย่หันไปตะคอกใส่เฉิงเท้า
“ครับ ครับ!” เฉิงเท้าเดินออกจากห้องทำงานในทันที ห้านาที หลังจากนั้น เขาก็ถือข้อมูลของลงเสี่ยวมั่นเข้ามา
ยังดีที่เขามีความเคยชินในการเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมด ไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องทำให้ประธาน โอวระเบิดโทสะอย่างแน่นอน!
มีเพียงแค่กระดาษ A4 แผ่นบางแผ่นหนึ่ง นัยน์ตาของ โอวอ เหยชะงักเล็กน้อย “นายหยอกฉันเล่นหรือ ข้อมูลกะปัดเดียวเนี่ย นะ!”
เฉิงเจ้าโค้งตัวก้มหน้า ไม่กล้าหายใจแรง “ใช่ครับ ประธาน โอว ตอนแรกคุณก็คิดว่าฐานะของคุณผู้หญิงค่อนข้างสะอาด ดัง นั้นจึงได้ยินยอมที่จะแต่งงานไม่ใช่หรือครับ
โอวจื้อเหย่นั้นลืมไปหมดแล้ว คราวนี้กวาดสายตามองไปทาง กระดาษแผ่นนั้น
ถงเสี่ยวมั่น อายุ 21 ปี สถาบันภาพยนตร์แห่ง มหาวิทยาลัยเอกการแสดง นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3
บิดาชื่อถง มารดาชื่อซือหนึ่ง
น้องชายบิดามารดาเดียวกันซื่อ ถงเสียวเลย
น้องสาวบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาชื่อ ถงหวั่นเมิ่ง
น้องชายบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาชื่อ ถงหวั่น
ครอบครัวมีโรงกลั่นไวน์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษโรงหนึ่ง โรงกลั่นไวน์ถงจี้ กิจการไม่ดี จึงต้องปิดตัวลง
ส่วนที่เหลือเป็นข้อมูลที่แนะนำเกี่ยวกับตัวลงเสี่ยวมั่น ล้วนเป็น ข้อมูลที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไร กระดาษ A4 แผ่นหนึ่ง ใช้เพียงแค่ ครึ่งแผ่น
นี่เป็นข้อมูลปีที่แล้ว ปีนี้เธอน่าจะอายุ 22 ปี ใกล้จะจบการ ศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว
แม้ว่าเมื่อคืนนี้ ผู้หญิงคนนี้จะทำให้เขาสนุกสนานมีความสุข และได้ลิ้มรสชาติความงดงาม ในคืนแรก แต่เมื่อคิดได้ว่าผู้หญิง คนนี้ทำแบบนี้เพื่อสวมเขา เขาก็มีโทสะ
“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” โอวจื่อเหย่เงยหน้าขึ้น
“ประธานโอว นี่เป็นคำสั่งของคุณ จัดให้เธอพักอยู่ที่คฤหาสน์ เมืองสายรุ้ง เธออยู่ที่นั่นไม่บ่อยเท่าไร เวลาอื่นๆ บางครั้งก็อยู่ที่ มหาวิทยาลัย บางครั้งก็ไปอยู่กับน้องชายเธอ ตอนนี้…ตอนนี้ เป็นเดือนห้า คาดว่าใกล้จะจบการศึกษาแล้วครับ”
เฉิงเท้าตอบด้วยความเคร่งเครียดในทันที ไม่กล้าตกหล่น แม้แต่ค่าเดียว
“คฤหาสน์ดีๆไม่พัก วันๆวิ่งรอกอยู่ด้านนอก” โอวจื้อเหย่ขย่า กระดาษ A4 ใบนั้นจนกลายเป็นก้อน จากนั้นก็โยนลงถังขยะ
ดูท่าจะวางแผนสวมเขามานานมากแล้ว!
เพียงแต่ว่า ทำไม่สำเร็จ เพราะเขารู้ว่าเมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรก ของเธอ
ฉวนบินเคยบอกไว้ว่า ครั้งแรกของผู้หญิงจะมีเลือดออก เมื่อ วานนี้เขาเห็นผ้าปูสีขาวบนเตียงมีรอยเลือด
“เมืองสายรุ้งนั่นยังมีคนอื่นอยู่ไหม
“มีคนรับใช้ที่ถูกจัดให้รับผิดชอบดูแลคุณผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เป็นหญิงสาวอายุ 20 ต้นๆเช่นกันครับ”
“นายไปบอกเธอว่า วันนี้ฉันจะกลับบ้าน
เฉิงเจ้าตะลึงยิ่งกว่าเดิม หนึ่งปีแล้วที่ไม่เคยได้กลับไป คราวนี้ จะกลับไปอย่างกะทันหันหรือ
เพียงแต่ว่า เขาก็ไม่กล้าถามอะไรมากมาย ถึงอย่างไร โอวอ เหย์ก็ยังโมโหอยู่ จึงจำใจทำตามที่เขาบอก
สถาบันภาพยนตร์แห่งมหาวิทยาลัยZ
ตอนนี้ถึงเสี่ยวมั่นใกล้จะจบการศึกษาแล้ว ตอนนี้เป็นเดือนห้า วิทยานิพนธ์และเรื่องการทำงานล้วนต้องคว้าเอาไว้ทั้งสองมือ ยุ่ง วุ่นวายเสียจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
เธอกลับบ้านไปพักผ่อนครู่หนึ่ง เมื่อคืนวานถูกผู้ชายคนนั้น ทรมานไม่น้อย แต่ยังคงลากสังขารที่อ่อนเพลียไปมหาวิทยาลัย เธอจําเป็นต้องค้นหาข้อมูลเล็กน้อย ตอนที่กำลังเตรียมตัวไปที่ ห้องสมุดนั้น
รถมาเซราติสีแดงคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่เบื้องหน้าเธอ เสียงเบรก ดังเอี๊ยดดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก
ประตูรถเปิดออก ก่อนอื่นเป็นรองเท้าส้นสูงสีแดงที่เข้าสู่ ครรลองตา ถัดมาก็เป็นเรียวขางามคู่หนึ่ง สุดท้ายถึงเสี่ยวมั่นก็ เห็นได้ชัดเจนแล้ว
น้องสาวของเธอ ถงหวั่นเพิ่ง
“โอ้โฮ เป็นถงหวั่นเมิ่ง รถสปอร์ตสวยมาก!
“ก็ใช่น่ะสิ! แฟนผู้อื่นเป็นถึงประธานบริษัทบริษัท ซิน ลงนาม เซ็นสัญญากับบริษัท ซันไปนานแล้ว คาดว่าคืนวันอันโด่งดัง รุ่งโรจน์จะเป็นจริงในไม่ช้านี้แหละ!
ด้านข้างมีคนเกิดความอิจฉาขึ้นในใจ กำลังวิพากษ์วิจารณ์กัน
อยู่
ถงเสี่ยวมันไม่อยากจะพบกับเธอ แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น เตรียมตัวจะไปห้องสมุด แต่เสียงที่คุ้นหูก็ลอยมา
“พี่สาว! ไม่เจอกันนานเลยนะ!” ถงหวั่นเพิ่งถอดแว่นกันแดด ออก โบกมือมาทางถึงเสี่ยวมั่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถงเสี่ยวมั่นหลับตาลง สูดลมหายใจลึก และหมุนตัวกลับมา
บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเจิดจ้า ทว่ายิ้มอย่างไม่เป็น
ธรรมชาติ “ใช่แล้ว ไม่เจอกันนานเลย บังเอิญจริงๆ”
มีคนไม่น้อยในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะกลายเป็นดาราใน อนาคต แต่ถงหวั่นเพิ่งนั้นเริ่มเป็นดาราตั้งแต่ชั้นปีสองแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอฝึกเต้นแอโรบิค และยังเป็นตัวแทนของ มหาวิทยาลัยไปแข่งขันที่ต่างประเทศ ในภายหลังถูกเลือกให้ไป แสดง เซ็นสัญญากับบริษัท ซิน ในสายตาผู้คนมากมายนั้น เธอ เป็นดาวดวงใหม่ที่ค่อยๆเด่นขึ้นมาดวงหนึ่งแล้ว!
การปรากฏตัวของเธอจึงดึงดูดความสนใจไม่น้อยเป็น ธรรมดา ทุกคนล้วนล้อมเข้ามา
“ถงหวั่นเมิ่งยังมีพี่สาวด้วยหรือ” มีคนสืบอย่างระมัดระวัง
“ใช่แล้ว ว่ากันว่าถึงหวั่นเพิ่งทำอะไรก็ได้หมด ส่วนพี่สาวของ เธอนั้นอะไรก็ไม่ไหว เอกการแสดงเหมือนกัน ถงหวั่นเพิ่งเป็น ตัวเอกแล้ว พี่สาวของเธอยังเป็นแค่ตัวประกอบอยู่เลย!”
ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนรอบด้านแล้ว ในใจของถุง
เสี่ยวมั่นก็เกิดความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ได้
“พี่สาว วันนี้เจอพีพอดี ฉันกับอาหมิงใกล้จะหมั้นกันแล้ว ถึง เวลานั้นพี่ต้องมานะ
“อ่อ อย่างนั้นหรือ ซื้อกันมาตั้งนานขนาดนี้เพิ่งจะหมั้นกัน หรือ” ถึงเสี่ยวมันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเย็นประโยคหนึ่ง นัยน์ตา เต็มไปแววเยาะเย้ย
ประโยคนี้กลับสะเทือนถูกถงหวั่นเมิง จนสีหน้าไม่น่ามองเล็ก
น้อย แต่ชั่วพริบตาก็กลายเป็นสายตาที่ยืนอยู่เหนือกว่าออกมา
“ใช่แล้ว ตระกูลซ่างกวนเป็นครอบครัวใหญ่ ขั้นตอนในเรื่องนี้ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพียงแต่ว่า พี่สาววางใจเถอะ ในเร็วๆนี้ ก็สามารถดื่มเหล้ามงคลของพวกเราได้แล้ว”
นัยน์ตาถงหวั่นเมิ่งเต็มไปด้วยความภาคภูมิ แน่นอนว่าเธอมี ต้นทุนในการคุยโวโอ้อวดต่อหน้าถึงเสี่ยวมั่น
ถึงอย่างไร ตอนแรกต่างกวนหมิงก็เป็นแฟนของถึงเสี่ยวมั่น
ถงเสี่ยวมั่นสีหน้าไม่มีความโศกเศร้าเลยแม้แต่น้อย “อย่าง นั้นก็ดี ถึงเวลานั้นที่จะต้องดื่มเยอะหน่อยอย่างแน่นอน ไม่ให้สิ้นเปลืองแรงใจที่น้องสาวของพี่ทุ่มให้กับสามีในอนาคตหรอก!
แน่นอนว่าถึงหวั่นเพิ่งรู้ว่าคำพูดของถึงเสี่ยวมั่นยังมีความ หมายแอบแฝงอยู่ เธอรู้ว่าฝีปากของลงเสี่ยวมั่นนั้นเก่งกาจ แต่ ตอนนี้ถึงเสี่ยวมั่นพ่ายแพ้อยู่ในกำมือเธอ และทำได้แค่พูดจาไม่ คิดเท่านั้นเอง
“พี่สาว ได้ยินมาว่ายังไม่มีบริษัทไหนจะเซ็นสัญญากับพี่ พี่ยัง จะไปเป็นตัวประกอบอีกหรือ ไม่ให้ฉันพูดกับอาหมิง ให้ช่วย เป็นอย่างไร”
“ไม่จำเป็น พี่สามารถหาบริษัทมาเซ็นสัญญาด้วยตัวเองได้ ถ้า ไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ พี่จะไปห้องสมุดแล้ว
ถงเสี่ยวมั่นเหลือบมองเธอ เตรียมจะหมุนตัว
“ฉันรู้ว่าพี่รู้สึกไม่ดี! แต่ใครใช้ให้พี่ไม่รู้จักทะนุถนอม ในตอน
แรกกัน!” ถงหวั่นเมิ่งไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอไป
ในเสี้ยววินาทีที่ถงเสี่ยวมั่นหมุนตัวไป รถสปอร์ตสีน้ำเงิน แซฟไฟร์ก็พุ่งเข้ามา จอดอยู่ด้านหน้าพวกเขาด้วยความเร็วสูง
นั่นคือรถลาเฟอร์รารี่คันหนึ่ง
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง รถลาเฟอร์รารี่สีน้ำเงินแซฟไฟร์ คันนี้เหมือนกับสัตว์ป่าที่รอคอยการเปิดศึกอย่างไรอย่างนั้น เต็ม ไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ