สัญญาเมื่อสายัณห์

บทที่ 4 ในวันที่ฟ้าสีเทา



บทที่ 4 ในวันที่ฟ้าสีเทา

ที่บริษัทขนส่งรายใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร (บริษัท ฟิวเจอร์ฟาส)

ซึ่งเต็มไปด้วยพนักงานหลายร้อยชีวิตเดินสวนกันไปมา เพื่อ ให้ทันงานที่กำลังเร่งด่วนอยู่ ท่ามกลางผู้คนที่เดินไปมานั้นมีจร ภัทร และพลอยไพลินอยู่ด้วย

เพราะทั้งคู่ได้เดินทางไปตามนัดของลูกค้า ที่นัดไว้หลายวัน แล้ว แต่เลื่อนนัดมาตลอด จนกระทั่งวันนี้พวกเขาได้พร้อมแล้วที่ คุยกันธุระกัน

“สวัสดีค่ะเรามาพบคุณกิตติพัฒน์ค่ะ ไม่ทราบว่าอยู่ข้างใน ไหมคะ” จีรภัทรถามเลขาหน้าห้องเจ้าของบริษัทด้วยความ สุภาพ ตามมารยาท

“อ๋อ สักครู่นะคะ” พูดจบเลขาก็ต่อสายตรงหาเจ้านายของเธอ ทันที

“ท่านประธานคะคุณจีรภัทรกับคุณพลอยไพลินมาถึงแล้วค่ะ ให้เข้าไปข้างในเลยใช่ไหมคะ อ๋อ ค่ะได้ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะท่านรอ อยู่ข้างใน” เมื่อเลขาเชิญแล้ว ทั้งจีจี้ และพลอยก็เดินตามไป อย่างว่าง่าย พร้อมวางตัวดีตามมารยาท

“สวัสดีค่ะคุณกิตติพัฒน์ ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ คือพอดีว่า ทางเรามีอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ sorry จริงๆ นะคะ ให้อภัยได้ใช่ไหมคะ”

พอเข้าไปถึงดาราสาวก็ยกมือไหว้อย่างสวยงามตามมารยาท และจีรภัทรผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวก็ยกมือไหว้ และกล่าว ขอโทษอย่างรู้สึกผิดด้วยเช่นกัน พร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางว่า ตนไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดเลยจริงๆ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยท่าทาง สุขุมนุ่มนวลว่า

“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมรอได้ รอมาตั้งหลายปีแล้ว ยังรอได้เลย รออีกแค่วันเดียวเองจะเป็นไรไป จริงไหมครับคุณพลอยไพลิน อยากได้ดาราดังมาไว้ครอบครอง อ่อไม่ใช่มาร่วมงานกันก็ ต้องใจเย็นๆ กันหน่อย เชิญนั่งครับ แล้วเรามาค่อยๆ คุยกันเรื่อง งานของเราอย่างละเอียดนะครับ นี่เอกสารครับ อ่านสัญญาให้ ละเอียดก่อนเซนต์นะครับ”

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ ขอจีจี้อ่านรายละเอียดแป๊บนึงนะ ไหนดู มีอะไรบ้างเอ่ย”

จีจี้พูดพร้อมกับเปิดเอกสารอ่านอย่างใจเย็น และละเอียด รอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามากที่สุด ส่วนดาราสาว ของเราก็นั่งทําหน้าสวยจิบเครื่องดื่มที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ ด้วย ท่าทางสง่างามดุจดั่งนางพญาหงส์

ส่วนทางฝั่งของกิตติพัฒน์ก็นั่งมองดาราสาวของเราตาเป็นมัน ไม่ลดละเช่นกัน เพราะเขาชื่นชอบ และหลงรักในตัวดาราสาวมา นานมากแล้ว แต่ไม่มีใครรู้เพราะเขาไม่ได้เปิดเผยกับใคร เนื่องจากว่ากลัวจะกระทบกับงานของทั้งสองฝ่าย
“เรียบร้อยแล้วค่ะน้องพลอย เจ้อ่านอย่างละเอียดแล้ว โอเค ค่ะ แต่ขอแก้ไขนิดนึงนะคะ เรื่องการรับงานเราไม่สามารถ ผูกขาดกับบริษัทของคุณโดยตรงเพียงบริษัทเดียวได้นะคะ เพราะน้องต้องมีอิสระในการทำงานกับที่อื่นด้วยค่ะ แล้วก็อีก อย่างคือเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องงานเราต้องคิดค่าใช้จ่าย ต่างหาก ไม่สามารถนำมารวมกันได้นะคะ แค่นี้พอจะแก้ไขให้เรา ได้ไหมคะ ถ้าสัญญาพร้อมค่อยนัดมาเซนต์ใหม่นะ มีปัญหา หรือ ว่าขัดข้องตรงไหนไหมคะคุณกิตติพัฒน์”

จีจี้พูดพร้อมอธิบายรายละเอียดให้อีกฝ่ายเข้าใจเพื่อไม่ให้ เกิดปัญหาตามมาทีหลัง เพราะว่าบางที่มีปัญหาเยอะมากจนไม่ อยากร่วมงานด้วยก็มี แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพจึงต้องอดทน เพื่อให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

“ตกลงครับ เดี๋ยวผมให้เลขาของผมแก้ไข แล้วเอาเอกสารมา ให้เซนต์ตอนนี้เลยครับ รอสักครู่นะครับ ผมไม่อยากรอเป็นวัน อื่นน่ะครับมันนานเกินไป เพราะเมื่อเราเซนต์สัญญากันก็สามารถ ร่วมงานกันได้ทันทีเลยครับ ซึ่งผมต้องการให้เป็นวันอังคารหน้า นี้เลย ดีไหมครับ ยิ่งเราเริ่มเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้นนะครับคุณ ว่าไหมครับ” กิตติพัฒน์เร่งมือเพื่ออยากใกล้ชิดกับดาราสาวให้ ได้เร็วๆ และมากที่สุด

“เอางั้นเลยเหรอคะ เดี๋ยวจีจี้ต้องดูตารางงานก่อนนะคะ เพราะ ว่าช่วงนี้งานแน่นมาก แล้วน้องพลอยของเราก็ไม่ค่อยได้พักผ่อน ด้วย จะว่างตรงกันไหม สักครู่นะคะคุณกิตติพัฒน์ เดี๋ยวจีจี้เช็กให้ แป๊บนึง”
จีจี้พูดพร้อมกับดูตารางงานในไอแพตของตนที่หยิบออกมา จากกระเป๋าถือที่วางไว้ด้านข้างที่นั่ง

“เอ่อ แล้วไม่ทราบว่าวันนี้คุณพลอยไพลินว่างไหมครับ ถ้าไม่ รังเกลียดคือผมอยากจะชวนไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ไม่ทราบ ว่าจะเป็นการรบกวนหรือเปล่าครับ”

กิตติพัฒน์ถามพลอยไพลินด้วยความหวัง พร้อมกับส่งสายตา อ่านกินดาราสาวอย่างเห็นได้ชัด มองเหมือนอยากจะกลืนกิน เข้าไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้

“วันนี้มีนัดแล้วค่ะ พอดีว่านัดไปฉลองวันเกิดเพื่อนสนิทแล้วนะ ค่ะ เอาไว้เป็นวันหลังได้ไหมคะ คือนัดนี้สำคัญมากพลาดไม่ได้ เลยค่ะต้องไปให้ได้ เพราะมีแค่ปีละครั้งเท่านั้น ต้องขออภัยใน ความไม่สะดวก และขอโทษคุณกิตติพัฒน์ด้วยนะคะ”

พลอยไพลินรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว เมื่อเห็น สายตาของฝ่ายชายที่รุกหนักมากขนาดนั้น

จากนั้นทั้งสามคนก็ได้เซนต์สัญญาร่วมงานกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเซนต์สัญญาเรียบร้อยแล้วทั้งพลอยไพลิน และจีรภัทรก็ได้ ขอตัวกลับทันที

อยู่ต่อนานไม่ได้ เนื่องจากทนการแทะโลมทางสายตาของฝ่าย ชายไม่ได้

เพราะว่าโดยปกติดาราสาวก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้เป็นประจำ อยู่แล้ว ถึงจะไม่ชอบก็เถอะ ยังไงมันก็คืองาน และหน้าที่ของมือ อาชีพต้องมี 00000
บริษัท รุ่งโรจน์อุดมทรัพย์ กรุ๊ป?

กลับมาทางด้านบริษัทของท่านรองฯ กิติคุณกันบ้าง (ขอ อธิบายนิดนึงนะคะว่า ตำแหน่งในบริษัทของกิติคุณคือรอง ประธานกรรมการบริหาร และตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ใหญ่ก็คือพ่อของเขานั่นเอง)

ในห้องทํางานของกิติคุณ?

“นี่อะไรกันน่ะคะคุณขา นัดกันมาทานข้าวถึงที่ทำงานกันเลย เหรอคะเนี่ย เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมัตอยู่ในสายตาเลยนะคะ น่าน้อยใจ จังเลยนะคะเนี่ย ทีมมมม” มารตีพูดแขวะกิติคุณด้วยท่าทางจึง หวง และไม่พอใจเมื่อเดินเข้าไปเห็นจานอาหารวางอยู่บนโต๊ะ ยาวตัวใหญ่ที่เอาไว้รับแขกในห้องทำงานของเขา

“อ๋อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะมัต พอดีมันมีอุบัติเหตุนิดหน่อยนะครับ มัต ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และสำคัญอะไร มันเป็นเรื่องของความ บังเอิญมากกว่า เขาแค่มาธุระ มาเจอตอนผมทานข้าวอยู่พอดี ผมก็เลยชวนทานด้วย แค่นั้นแหละครับไม่มีอะไรมากหรอก อย่า คิดมากเลยนะ ถ้าคุณอยากทานเดี่ยวผมจะสั่งให้ใหม่นะครับ ดี ไหม?? ”

“บังเอิญเหรอคะ แต่อาหารพวกนี้เป็นของที่คุณขาไม่เคยทาน มาก่อนเลยนะคะ นี่มันอาหารสำหรับคนไดเอท เพราะมีแต่ผักทั้ง นั้นเลย จะบอกว่าทานเองมันดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่นะคะ”

“เอาเถอะน่า ผมบอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรสิครับ นี่คุณไม่ไว้ใจผมเหรอ มันบังเอิญจริงๆ เชื่อผมเถอะนะครับมัด ผมแคร์ คุณนะ นะครับนะ” กิติคุณพูดเอาใจแฟนสาวด้วยท่าทางออก อ้อน พลางเอามือไปจับมือของอีกฝ่ายมากุมไว้ แล้วโอบกอด อย่างละมุนละไม ตามสไตล์ของเขาที่ชอบทำเป็นประจํา เพื่อกลบ เกลื่อนความจริงบางอย่างอยู่ โดยไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ

“ค่ะๆๆๆ เชื่อแล้วค่ะเชื่อ มัตเชื่อคุณค่ะคุณขา โอเคนะคะ เย็น นี้เราไปทานข้าวด้วยกันนะคะ เพื่อเป็นการปลอบใจมัต และขอ โทษมัตด้วย ดีไหมคะคุณขา”

“ตกลงครับ ผมตามใจมัติทุกอย่างเลย งั้นคุณจะจองร้านเอง หรือให้ผมจองดีล่ะครับ”

“เดี๋ยวมันจองเองค่ะคุณขา คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยนะคะ”

เมื่อจองร้านอาหารเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็คุยกันตามประสาแฟน หนุ่มสาว สักพักก็พากันออกมาจากห้องทำงานของฝ่ายชาย แล้ว เดินคล้องแขนกันออกไปด้านนอกบริษัท

โดยมีสายตาของพนักงานจำนวนมากมองพวกเขาด้วยความ อิจฉา และยินดีกับทั้งคู่ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ

ณ ร้านอาหารดังสุดหรูกลางกรุง

“มาแล้วเหรอคะคุณซุปตาร์คนสวยผู้งานยุ่ง และวุ่นวายที่สุด ในโลก” เสียงของ เจนจิรา เพื่อนสนิทของพลอยไพลินดังขึ้นพร้อมกับเดินมากอดดาราสาวด้วยความดีใจ จากนั้นทั้งคู่หอม แก้มกันไปมาด้วยความรัก แล้วก็พากันเดินมานั่งที่โต๊ะร่วมกับ เพื่อนๆ คนอื่นๆ

“ว่าไงแม่ซุปตาร์คนเก่ง ไม่เจอกันนานเลยนะ เป็นไงบ้างงาน ยังยุ่งเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม หรือว่าจัดการได้ดีลงตัวทุกอย่าง แล้ว”

เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่นั่งลงแต่พลอย ไพลินไม่ทันได้มองเห็นว่าเป็น กฤษณพงษ์ พี่ชายคนสนิทของเธอ ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กนั่นเอง

“พี่เจ้านายก็มาด้วยเหรอคะเนี่ย แหมนึกว่าจะไม่มาแล้วซะอีก เอ่อ แล้วนี่เด็กข้างบ้านพี่สองคนไม่มาด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็นเลย ล่ะ ไหนบอกว่าจะมา อย่าบอกนะว่าโกหกนะ ไม่มาโกรธจริงๆ ด้วย” พลอยไพลินพูดด้วยน้ำเสียงท่าทางไม่พอใจ และน้อยใจที่ ไม่เห็นน้องชายกับน้องสาวของตนมาด้วย

ทันใดนั้นเองไฟในห้องก็ดับลง พร้อมกับมีแสงเทียนสว่างขึ้น ในเค้กก้อนใหญ่สีชมพู ที่เพชรการุณ กับแพรทับทิมช่วยกันถือ เข้ามาในห้องให้เจนจิราเจ้าของวันเกิด

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยูๆๆๆ ”

เสียงเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้น โดยทุกคนในห้องนั้นช่วยกัน ร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ พร้อมกับปรบมือให้เจ้าของวันเกิด ด้วยความยินดี เมื่อเพลงจบ เจนจิรา เจ้าของวันเกิดก็ได้เป่าเค้ก พร้อมอธิษฐานด้วยความดีใจ
จากนั้นไฟในห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ทำให้เห็นหน้าตาทุกคนได้ ชัดเจนยิ่งขึ้น ทุกคนต่างก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

ส่วนดาราสาวของเราก็รีบโผเข้ากอดน้องๆ ของเธอด้วยความ คิดถึง และดีใจ เพราะด้วยงานที่ยุ่งเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เมื่อเจอกันแล้วก็ทักทายคุยกันตามประสาพี่น้องสุดที่รัก

มีพี่เป็นดาราก็จะเจอกันยากหน่อยนะ สาวฮอตงานเยอะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ