สัญญาเมื่อสายัณห์

บทที่ 1 เรื่องบังเอิญ



บทที่ 1 เรื่องบังเอิญ

ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ หลายภาษา หลาย ประเทศกำลังเดินวุ่นวายกันไปมา

บ้างก็จูงลูก จูงหลาน คู่รักกำลังร่ำลากันเพื่อเดินทางไปต่าง ประเทศ แฟนคลับที่กำลังรอต้อนรับดาราที่ตนชื่นชอบ ไกด์นํา เที่ยวกำลังพานักท่องเที่ยวเดินไปขึ้นรถทัวร์

นักธุรกิจกำลังเดินทางทั้งไป และกลับจากต่างประเทศ

หนึ่งในนั้นก็มีดาราสาวสวยสุดฮอตพลอยไพลิน และนักธุรกิจ หนุ่มไฟแรงกิติคุณด้วย ทั้งสองเดินทางกลับจากญี่ปุ่น ในเที่ยวบิน เดียวกัน ลงเครื่องมาพร้อมกัน

พอรับกระเป๋าเสร็จ ทั้งสองก็เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า

สนามบิน ขับออกไปยังจุดหมายปลายทาง

“บอสครับ วันนี้ไม่มีนัดที่ไหน ไม่มีประชุม ไม่มีงานเร่งด่วน กลับบ้านเลยไหมครับ”

“ไม่ล่ะ ไปที่บริษัทก่อน ฉันลืมของ จะกลับไปเอาซะหน่อย”

“อ่อ ครับ ได้ครับบอส”

เมื่อสิ้นสุดการสนทนาทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่ บริษัท รุ่งโรจน์ อุดมทรัพย์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของครอบครัวพระเอก ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเอเชีย พอไปถึงบริษัทพนักงานก็ต่างทําความเคารพเจ้านายของพวก เขาตามปกติ

“สวัสดีค่ะ/ครับท่านรองฯ ” กิติคุณก็ยิ้มรับ แล้วพยักหน้าให้ พนักงานทุกคน ด้วยท่าทางเป็นมิตร และไม่ได้พูดคุยอะไร

เขาเดินตรงไปที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็ว เปิดประตูเข้าไป เดิน

ไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทํางานด้วยความกังวลใจ

“ค่อยยังชั่ว ยังอยู่ดี” เขาพูดกับตัวเองด้วยท่าที่โล่งอกเมื่อเห็น ของของเขายังอยู่ในสภาพที่โอเค

จากนั้นเขาก็ชวน กรกันต์ ออกจากห้องทำงานไป ยังร้าน กาแฟแห่งหนึ่งแถวชานเมือง เพื่อไปพบบุคคลสำคัญคนหนึ่งของ เขา

“ถึงแล้วครับ ให้ผมรอแถวๆ นี้ หรือให้กลับก่อนครับบอส” กร กันตถามเจ้านายของเขาก่อนจะลงจากรถไปเปิดประตูให้อย่าง คล่องแคล่ว พร้อมกับรอฟังคำตอบจากเจ้านายด้วย

“ไม่ล่ะ นายกลับก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวฉันหาทางกลับเองก็แล้ว กัน ขอบใจมาก”

“อ่อ ครับ งั้นผมกลับบ้านเลยนะครับบอส สวัสดีครับ”

“อืม ขับรถดีๆ ล่ะ” กิติคุณพูดกับกรกันต์เสร็จ ก็เดินเข้าไปใน ร้านกาแฟทันที พร้อมกับกล่องของขวัญ ใบเล็กในกระเป๋าเสื้อสูท ของเขา
เขายิ้มพร้อมกับมองไปทางโต๊ะด้านข้างร้านเพื่อมองหาคนที่ เขานัดไว้ แต่ไม่เจอ

เขาเลยเดินไปนั่งที่โต๊ะรอ สักพักก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา หาเขาด้วยท่าทางดีใจ และสนิทสนม

“รอนานไหมคะคุณขา พอดีมัตไปแวะลูกค้ามาน่ะค่ะ เลยมาถึง ช้า ขอโทษด้วยนะคะที่ให้คุณรอนาน” มารตี พูดพร้อมกับก้ม หอมแก้มกิติคุณด้วยความคิดถึง ท่ามกลางสายตาหลายคู่ของ คนในร้านที่มองมาทางพวกเขา

“ผมเพิ่งมาถึงครับ นั่งยังไม่ถึงห้านาทีเลย เครื่องดื่มก็ยังไม่ได้

สั่งด้วย มัตทานอะไรดีครับ เดี๋ยวผมสั่งให้

“เอาชาเขียวปั่นหวานน้อยละกันค่ะ แล้วก็เค้กนมสดหวาน น้อยด้วยชิ้นนึง”

“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวคุณนั่งรอผมแป๊บนึงนะ”

“ค่ะ มัตจะนั่งรอ และคิดถึงคุณไปด้วยนะคะ”

“คร้าบบบ” ทั้งคู่หยอกล้อกัน อย่างหวานแหวว จนคนในร้าน มองตามด้วยความอิจฉา

แล้วกิติคุณก็เดินไปสั่งน้ำ พร้อมกับเลือกขนมเค้กตามที่มาร สั่งด้วยความดีใจ สักพักก็ถือแก้วน้ำมาสองแก้ว พร้อมด้วยเค้ก สองชิ้น มาวางลงที่โต๊ะ แล้วเดินมานั่งที่ของตัวเอง พร้อมชวน ฝ่ายหญิงคุย

“เป็นไงบ้างครับมัด คุยงานกับลูกค้า งานโอเคไหมครับ มีอะไรติดขัดบ้างไหม”

“อ๋อ ไม่เลยค่ะ งานราบรื่นมากๆ ตอนนี้มันเป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง แล้วนะคะ อาทิตย์หน้าจะได้ไปตัดชุดให้ซุปตาร์เบอร์ต้นๆ ของ เมืองไทย ใส่ออกงานด้วยนะ เก่งไหมล่ะ”

“ครับเก่งสุดยอดมากครับ คนเก่งของผม นคืนนี้เราไปฉลอง กันนะครับมัด”

“ได้สิคะ ไปทานอาหารจีนนะคะ อยากกินติ่มซำ คุณขาว่าดี ไหมคะ”

“ดีสิครับ งั้นผมจองโต๊ะก่อนนะครับ”

“โอเคค่ะ” มารตีพูดพร้อมยกแก้วชาขึ้นมาดูดอย่างอร่อย พลางมองหน้ากิติคุณไปด้วย

หลังจากนั้นสักพักทั้งสองก็เดินออกจากร้านกาแฟพร้อมโอบ

เอวกันออกไปแบบคู่รักหวานแหววหลายๆ คู่กัน เดินคุยกันไป

อย่างเพลิดเพลิน

“เฮ้อ เหนื่อยจัง ทำไมรอบนี้เหนื่อยขนาดนี้นะ ขอนอนพักสัก ตื่นละกันนะ ไม่ไหวแล้ว ร่างจะพัง กระดูกจะหลุดแล้ว” พลอย ไพลินบ่นกับตัวเอง พร้อมทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนอนอันนุ่มนิ่มของ เธอ อย่างสบายใจ

ผ่านไปประมาณสิบนาที เสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น เป็นสาย จากผู้จัดการส่วนตัวของเธอโทรมาเช็กความเรียบร้อยของดาราในสังกัดตัวเอง

“เจจีจี้ ว่าคะ หนูนอนก่อนได้ไหมคะ วันไหวๆ ค่ะ เจ้ นะ นะ นาวา จีจี้สุดสวย”

“ต้องมาปากหวานค่ะรีบลุกขึ้นแต่งชั่วโมงจะรับ โอเค? เสียงจีจี้ ผู้จัดการส่วนตัวของดัง ออกมาจากโทรศัพท์ ด้วยความง่วง และเหนื่อย

ครึ่งชั่วโมงของเธอด้วยท่าทางมีความสุข เขายิ้ม และ

พอถึงหน้าห้อง เขากดออดเรียกพลอย แต่กดเท่าไหร่ยอมออกเปิดสัก

เขาเลยใช้กุญแจสํารองเปิดประตูเข้าไปข้างใน เพราะว่า

พลอยคงกำลังแต่งตัวแน่จึงว่างมาเปิด

“สงสัย เท่าไหร่ก็ยอมตอบ เขาชักสงสัยเลยเปิดเข้าไปในห้องนอน

พลอยๆๆๆ ลูกกกกกกก ทำไมยังนอนอยู่อีกล่ะคะ ตื่นเร็วค่ะ ตื่นโอ๊ยยย จีจี้น้ำ ตัว วันเรานัดสำคัญมากคะ ไปได้ยังไงจีจี้พร้อมดึงอยไพลินลุกขึ้นมา ด้วยท่าทางทุลักทุเลของทั้ง
“โอยยยย นัดอะไรอีกล่ะคะเจ้าจี้ หนูลืมแล้ว อะไรจะสำคัญไป กว่าการนอนคะเนี่ยะ โอยยย” พลอยพูดพร้อมกับหาวนอน ทำท่าง่วงนอนมากๆ เหมือนจะลืมตาไม่ขึ้น แล้วเดินโซซัดโซเซ ไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ตามที่ผู้ จัดการส่วนตัวของเธอบอก

ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น “เจจีจี้ขาาา เจ้วยหยิบโฟมล้างหน้าอันใหม่ที่ในกระเป๋าเดินทางให้หนูหน่อยสิคะ”

“ได้ค่ะได้ รอสักครู่นะคะ แป๊บนึง”

“อยู่ตรงไหนน้าาา”

จีจี้เดินไปร้องเพลงไป แล้วหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นไป วางบนเตียงของพลอย ด้วยท่าทางดีใจ อยากรู้ว่านางจะซื้ออะไร มาเป็นของฝากให้คน

“หือออ อุ้ยตาย ว้ายกรี้ด อกอีตุ๊ดสุดสวยจะแตกตาย นี่มัน

อะไรกันเนี่ยะ มีแต่ของใช้ผู้ชายเต็มไปหมดเลย”

จีจี้ร้องขึ้นด้วยความตกใจ จนพลอยที่อยู่ในห้องน้ำก็ตกใจ ตามไปด้วย จนเปิดประตูออกมาดูด้วยความงง เช่นกัน

“มีอะไรเหรอคะเจ้จีจี้ ร้องซะเหมือนถูกผู้ชายรุมโทรมเลย”

“รีบมาดูสิ นี่มันคืออะไรกัน บอกเจ้มาเธอไปทำอะไรที่ญี่ปุ่น ไป ทำอะไรกับผู้ชายที่ไหน จนต้องหลงหยิบกระเป๋าเขามาด้วยเนี่ย ดูสิเนี่ย มันไม่ใช่กระเป๋าของเธอนะเจ้ว่า สารภาพมาซะดีๆ เลย นะ ฮือๆๆๆ หมดกันชื่อเสียงที่ฉันภาคภูมิ สะสมมานานกว่าสิบปีหมดแล้วนี้ ตายๆๆๆๆๆ ฉันต้องตายแน่ๆ ๆๆๆๆ ”

จีจี้พูดด้วยความเสียใจ ท่าจะร้องไห้ด้วยสีหน้าที่ผิดและเศร้าสร้อย ก่อนที่พลอยจะร้องขึ้นด้วยความตกใจ เช่นกัน

มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย ใช่ กระเป๋านะเจ้าจี้ ใจเย็นก่อนนะเจ้ ฟังอธิบายก่อนนะคะ

พลอยไพลินปลอบด้วยท่าทีอะไรทั้งบินเรื่องราวเกิดขึ้นทั้งหมดให้พนักงาน

ผ่านไปเกือบชั่วโมงนัดเปลี่ยนคืนกระเป๋าให้ลูกค้า ขณะพลอยไพลินกับจีจี้นั่ง อยู่บนเพื่อเดินทางตามนัดสำคัญของพวกเขา

“ช้าาาาาา อะไรนะกร นายว่าไงนะ สลับกระเป๋ากันเหรอ ต้องเอาไปเปลี่ยน ภายในวันด้วย ฉันติดนัดอยู่สำคัญด้วยนะ ถามเค้าขอเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม ไม่ว่าง

“ทางนั้นเขานัดคืนภายในวันนี้ครับ งั้นเขาจะยังไงบอสก็ต้องไปคืนภายในนี้ ก่อนหกโมงครับ มีแม้ครับ ตามนะครับ ส่งโลเคชั่นรีบเสร็จ แล้วรอที่เดี๋ยวไปรับ โอเคนะครับเจ้านายคน ดีของผม มายครับ”

ตอนกรกันต์โทรหากิติคุณนั้นเวลาประมาณห้าโมงเย็นกว่าเวลาของเขากับแฟนสาวโดนมาออกไปอีก ทั้งพวกได้คุยกันนาน เพราะทั้งคู่ไม่ค่อยเวลาให้กัน เพราะมัวยุ่งเรื่องกันอยู่ ทานอาหารยังเสร็จแล้วเรื่องสำคัญ ไม่

เขาได้แต่เดินก้มหน้ากลับเข้ามานั่งโต๊ะด้วยหน้าหงอยๆ กับกุมของอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทของ

เดี๋ยวทานเสร็จแล้ว เรากลับเลยไหมครับมัด พอดีผมธุระ ด่วนครับ ต้องไป คุณอะไรเพิ่มเติมบอกพนักงานเพราะสั่งกลับบ้านแล้วสอง” กิติคุณพูด พร้อมมองหน้ามารเพื่อรอตอบ

ไม่ล่ะค่ะ อิ่มแล้ว เชิญคุณตามสบายค่ะ

“เป็นครับ บอกให้กรมารับแล้ว เดี๋ยวคงถึง ขอบใจ นะครับ และผมต้องขอโทษมัดด้วยนะ ที่เวลาให้กันนิดเดียว เอง ไม่หายคิดถึงเลย ยกโทษให้ผมนะครับ นะเขากล่าว ขอโทษแฟนสาวของเขาพร้อมกับโอบกอดแล้วหอมแก้มเธอ เบาด้วยความรัก

“ไม่เป็นไรมัตเข้าใจ ยังไงก็ต้องก่อนทุกสิ่งทุกอย่าง เสมอ เองก็เหมือนกัน ต้องงาน ต้องเอนเตอร์เทนลูกค้า ไม่ งั้นเขาก็จ้างเรา รีบมารบอกพร้อมกับแก้มเบาๆ ด้วยอาการงอนนิดหน่อย สีหน้าไม่พอใจ จนเห็นได้ชัด แต่เธอก็ทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อน แล้วเดินจากไป

คำว่าไม่มีเวลาให้กัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเว้นช่องว่าง ระหว่างกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ