สัญญาคู่รัก ชีวิตคู่ปีเดียวของเรา

บทที่ 7 เงื่อนไข



บทที่ 7 เงื่อนไข

เป็นเพราะกระโปรงของหลินซืออี้ถูกเขากระชากขาด ดัง นั้นเขาจึงเรียกคนให้นำเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวที่เป็นชุด ทำงานของพนักงานหญิงมาหนึ่งชุดให้เธอสวมใส่

อาหารมื้อเย็นรับประทานกันในห้องหรูพิเศษของ โรงแรมระดับห้าดาว ว่ากันว่า นี่เป็นโรงแรมส่วนตัวของ เขา พนักงานมากหน้าหลายตาผลัดกันเข้ามาปรนนิบัติเขา ปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงพระราชา

เขาไม่ต้องสั่งอาหารเลยด้วยซ้ำ พวกเขารู้รสชาติอาหารที่ ถูกปากของเขามาตั้งแต่แรก

ที่แย่ก็คือ รสชาติอาหารของเขาค่อนข้างไปทางรสจืด ส่วนเธอก็มีความเคยชินที่ไม่ดีอยู่อย่าง ถ้าหากเมนูผัดไม่ใส่ พริก เธอจะไม่กินเลย คนตระกูลหลินล้วนรู้ว่าเธอชอบกิน เผ็ด

คนมักมาก ผู้ชายคนนี้จะต้องจงใจตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ อย่างแน่นอน!

ท่าทางการกินของเขาสง่างามมาก ไม่เร็วไม่ช้าจนทำให้ คนมองร้อนใจตาย ส่วนเธอที่ทั้งวันไม่ได้กินอะไรเลย แม้ว่า จะหิวมาก แต่อาหารพวกนี้ มองอย่างไรก็ไม่ทำให้เธอมี ความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย

“ไม่ใช่ว่าคุณหิวมากหรอกเหรอ”
“ตอนนี้ไม่มีความอยากอาหารแล้ว”

หลินซืออี้วางตะเกียบลง เอ่ยตอบอย่างอ่อนแรง

เขาหัวเราะเสียงเย็น “หลินซืออี้ ผมไม่ได้บอกว่ารสชาติ ของอาหารที่ทานของเราสองคนจะต้องเหมือนกันเหรอ เงื่อนไขเล็กน้อยพวกนี้คุณยังทำไม่ได้ คุณพูดสิ พวกเราจะ ร่วมมือกันอย่างไรในเวลา 1 ปี”

หลี่จุนฮ่าว นายยังโรคจิตได้มากกว่านี้อีกไหม

เธอจ้องเขาอย่างเกลียดชัง คว้าถั่วงอกที่อยู่ใกล้ที่สุด ข้างๆกินอย่างตะกละตะกลาม (หมาป่ากลืน เสือกลืน เปรียบได้กับ การกินอย่างตะกละตะกลาม)

ไม่มีพริก ไม่ว่ารสชาติอาหารจะเลิศรสแค่ไหน เมื่อมาอยู่ ต่อหน้าเธอก็กลายเป็นขยะ

เธอกินจนจะอ้วกแล้ว

เธอมองไปที่เขา น้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อย “อันนั้น ฉัน สามารถขอพริกได้ไหมคะ”

คิ้วของเขาขมวดเบาๆ หยิบเต้าหู้ชิ้นหนึ่งใส่ปากอย่างช้าๆ เคี้ยวเบาๆอยู่นานก่อนจะกลืนลงไป “ขอโทษด้วย ผมไม่ ชอบกิน”

เธอกัดฟัน ทนต่อไป
เธอโยนตะเกียบ เอ่ยเรียบๆ “อิ่มแล้ว”

เขายกยิ้มชั่วร้ายนิดๆ “ถ้าอย่างนั้นก็รอผมดีๆ ผมกินข้าวช้า มาตลอด โดยเฉพาะตอนที่มีกันแค่สองคน

“ตามใจคุณ”

หลินซืออี้หยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมส์

ท้องส่งเสียงร้องจ๊อกๆอย่างน่าอนาถ เธอคิดว่ารอกลับไป ค่อยค้นตู้เย็นของเขา หาขนมปังก้อนหนึ่ง หรือบะหมี่กึ่ง สำเร็จรูปก็ยังดี

โอ้พระเจ้า แค่คิดถึงเครื่องปรุงของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เธอ ก็ตะกละจนน้ำลายจะไหล

“อืม อร่อยจริงๆ”

“โอ้โห ชิ้นนี้เยี่ยมไปเลย พระเจ้า ฉันชอบกินปีกไก่แบบนี้ กลิ่นหอมๆ นุ่มๆ

อ้อ เธอจะเป็นบ้าแล้ว ผู้ชายสมควรตาย ตอนที่นายกินข้าว ไม่ต้องคุยกับตัวเองได้หรือไม่ นายไม่พูด ฉันก็ไม่ได้มองว่า นายเป็นคนบ้าหรอกนะ!

ทุกประมาณห้านาที หลินซืออี้จะมองนาฬิกาหนึ่งครั้ง คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้กินข้าวหนึ่งมื้อใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง!

เหงื่อตก เธอหิวจนหน้าอกติดกับด้านหลัง (ท้องหิวมาก หิวจนไส้กิ่ว) แล้ว

เธอนับถือผู้ชายคนนี้จริงๆ ปกติไม่รู้ว่าเขาไปเอาเวลา มากมายจากไหนมาทํางาน ไม่เหมือนกับพวกเขาที่คาบช้อน ทองคํามาเกิด ลูกท่านหลานเธอคงจะไม่มีความสามารถ อะไร ความสามารถที่มีมากที่สุดคือร่ำรวยเงินทอง

รอวันหนึ่งที่พวกเขาไม่มีอะไรแล้ว พวกเขาก็ไม่ใช่ตัวอะไร ทั้งนั้น

หลี่จุนฮ่าวมองเธอเงียบๆ มุมปากอมยิ้มชั่วร้ายคล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้ม

หลินซืออี้แกล้งทำเป็นดูโทรศัพท์

ไม่ง่ายเลยทีเขาจะกินมื้อเย็นเสร็จ

เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก

เสียงเพลงโทนต่ำๆที่เปิดบนรถ ฟังแล้วทำให้ท้องของเธอ หิวยิ่งกว่าเดิม คนก็หดหูมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน

เขาเอนกายเข้าหา ลมหายใจร้อนผ่าวประเดี๋ยวมีประเดี๋ยว ไม่มีเป่ารดใบหูของเธอ “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้ผมยัง หาที่ซ่อนคุณไม่ได้ คุณก็เขาไปอยู่บ้านพักตากอากาศของผมก่อน จําไว้ว่า 1 วัน อาหาร 3 มื้อ คุณต้องจัดเตรียมให้ผม เพราะว่าผมอาจจะกลับมากินข้าวที่บ้าน

หลินซืออี้สั่งให้ตัวเองใจเย็นๆ เพียงแค่เห็นเธอยิ้มมีเสน่ห์ “ประธานหลี่ ฉันคิดว่าจะต้องเตือนคุณสักหน่อย ฉันไม่ใช่แม่ บ้านของคุณ”

เขามองมาที่เธอ มุมปากปรากฏอมยิ้มที่ดูชั่วร้ายอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นผมจะจ่ายเงินในส่วนที่คุณเป็นแม่บ้านให้ก็ได้”

เธอตอบอย่างชัดเจน ไม่ทํา”

“เอาอย่างนี้ ถ้าหากว่าคุณจัดเตรียมอาหารให้ผม 1 วัน 3 มื้อ สัญญาจะถูกลดลงครึ่งปี เป็นอย่างไร

ลดครึ่งปีเหรอ

ข้อเสนอนี้ดึงดูดให้คนสนใจ แต่ว่าตั้งแต่เล็กเธอก็เสื้อมา ค่อยชูมือ ข้าวมาค่อยเข้าปาก (เสื้อมาค่อยชูมือ ข้าวมา ค่อยเข้าปาก หมายถึง คนที่ทําอะไรเองไม่เป็น ทุกอย่างมี คนทําให้หมด) เธอจะทําอาหารได้เหรอ

เขาพูดต่อว่า “ผมรู้ว่าคุณหลินที่สามไม่เคยเข้าครัว แต่ว่า ผู้หญิงที่ฉลาดอย่างคุณหลินคนนี้คงจะสามารถเรียนรู้การ ทําอาหารได้ แน่นอนว่า ถ้าหากคุณอยากเรียนมหาวิทยาลัย ผมสามารถเชิญอาจารย์มาสอนคุณที่บ้านให้ได้ ฟรีนะ”

เหงื่อตก พูดจนน้ำลายเธอไหลแล้ว เงื่อนไขนี้ช่างยั่วยวนใจคนเสียจริง เป็นแม่บ้านสามารถนอนกับเขาน้อยลงครึ่งปี ทั้งยังสามารถเรียนหนังสือต่อไปได้ ยกเว้นว่าเธอเป็นคนโง่ เท่านั้น เธอถึงจะไม่ทำ

หลินซือ เลียริมฝีปาก “ได้ ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์อาทิตย์ ฉัน มีเวลาส่วนตัวใช่ไหม

เขาพิจารณามองเธอชั่วครู่หนึ่ง “แน่นอน วันเสาร์อาทิตย์ ในช่วงกลางวันให้คุณหยุดได้ แต่กลางคืนยังต้องกลับบ้าน พักตากอากาศ”

“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับไปร่างสัญญากันใหม่

หลินซืออี้รู้สึกว่าระดับความโรคจิตของผู้ชายคนนี้คล้าย กับว่าจะทำให้ผู้คนไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้ เธอเพิ่งลง จากรถก็ถูกเขาที่เหมือนหมาป่าหิวกระหายกระโจนเข้าใส่จน ล้มลงอยู่ข้างประตูรถ…

หลินซืออี้อึดอัดใจจะตายแล้ว ร่างกายของเธอยังเจ็บจาก การกระทำของเขาอยู่นะ เขาไม่รู้จักที่จะควบคุมหน่อยเหรอ แม้ว่าจะเป็นการทํางาน แต่ก็ต้องมีเวลาเลิกงานสิ

หลินซืออี้สามารถจินตนาการออกถึงความกลัดกลุ้มต่อ ช่วงเวลาที่ต้องอยู่กับเขาในอนาคตอีกครึ่งปี

หลายวันมานี้ แม้ว่าเธอจะหลับเป็นตาย แต่ว่าจากอาการ อิจฉาของพี่สาวทั้งหลายที่เกิดขึ้นระหว่างบทสนทนาก็ ทำให้รู้ว่าพวกเธอชื่นชอบหลี่จุนฮ่าวมาก ถ้าไม่ใช่ว่าเธอหลับเป็นตายไปสองวัน พวกเธอคงจะรบเร้าให้เธอพาหลีจุน ฮ่าวกลับบ้าน ยังได้ยินคนพูดว่า หลี่จุนฮ่าวเจ้าชู้มาก เปลี่ยน ผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า วันหนึ่งเปลี่ยนหลายคน อีก ทั้งผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูโดยเขาเช่นเธอมีจำนวนนับไม่ถ้วน พูดเกินจริงอีกนิดก็คือ ได้ยินมาว่าทุกคืนเขาแข็งแรงมาก สามารถทำอะไรอะไรกับผู้หญิงได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ในจุดนี้เธอกลับเชื่อ ยังไงเธอก็มีประสบการณ์มาแล้วนิ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ