บทที่ 1 มานีสิ

ตั้งแต่เด็กแล้วที่เธอหยิ่งทะนงและถือดีในตัวเอง ให้ความ สำคัญกับครั้งแรกยิ่งกว่าชีวิต ถ้าจะพูดให้ชัดเจนแล้วล่ะก็ มากเกินไปซะจนถึงขั้นที่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะนั่นแหละ แต่ว่า เป็นเพราะอกหักเลยทำให้ต้องสูญเสียครั้งแรกไป มันทำให้ เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ยังมีคืนนี้อีก เธอหน้า ด้านสกัดลากเจ้าของรถโรลส์รอยซ์คันนั้นลงมา พร้อมกับ ส่งตัวเองใส่พานให้กับเขา จากสิ่งที่เธอรู้ รถโรลส์รอยซ์ ซิลเวอร์ โกสต์ รุ่นนี้มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณสิบหกล้านได้ ทั่ว โลกรุ่นเดียว

มีเงินนี่มันโอ้อวดกันได้แบบไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เธอกำลังก้มหัวให้กับข้าวสาร 5 โตวอยู่ชัดๆ! (“โต๋ว” คือ หน่วยตวงข้าวของจีนในสมัยก่อน เปรียบได้กับ คนที่ย้อมก้ม หัวให้กับผู้มีอำนาจเพียงเพื่อจำนวนเงินอันเล็กน้อย)

สำหรับเธอเงินสำคัญมากจริงๆ!

เธอแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่บ้านเขา ใจอดไม่ ได้ที่จะเต้นระรัว

ศีรษะก็ปวดมาก เธอเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเมื่อสักครู่ เจรจาต่อรองกับเขาไปว่าอย่างไรบ้าง

“ผู้หญิง เร็วๆหน่อยสิ ให้รอจนผมใจร้อนขึ้นมาแล้วล่ะก็ คุณ OVER แน่ๆ
“เสร็จแล้ว ฉันมาแล้ว”

ผู้ชายสมควรตาย สัญญาเจรจาไปได้แค่ครึ่งเดียว เขา กล่าว อีกครึ่งจําเป็นต้องไปเจรจากันบนเตียง

ให้ตายเถอะ!

เธอก้าวออกมาจากห้องอาบน้ำ สยายผมยาวที่มีหยดน้ำ เกาะแพรวพราวจากการถูกห่อของผ้าขนหนูผืนใหญ่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใบหน้าของเขาสมบูรณ์แบบมาก

องค์ประกอบทั้งห้าบนโครงหน้าที่หล่อเหลา ทุกส่วนของ ใบหน้าสมบูรณ์แบบราวกับรูปแกะสลักอย่างประณีต ดวงตา สีดำลึกคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความหนาวเหน็บอันน่ากลัว ขับให้ใบหน้าอันสูงส่งของเขาดูสูงค่ามากยิ่งขึ้นไปอีก ราวกับราชาผู้ยิ่งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นกระดุมบนเสื้อคลุมชุด นอนดันถูกแกะออก เปิดเผยกล้ามเนื้อหน้าอกสีแทน บนผิว แพรวพราวด้วยหยดนํา

เขาส่งรอยยิ้มชั่วร้ายอันทรงเสน่ห์ให้กับเธอ กระดิกนิ้วชี้ เรียก “มานี่สิ คุณรู้ว่าควรทำอย่างไร

เธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เดินเข้าไปหาเขา

ดวงตาชั่วร้ายคู่นั้นของเขาจ้องไปที่ผ้าขนหนูบนตัวเธอ

เธอรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยขณะที่ปล่อยมือ
ผ้าขนหนูหลุดร่วงจากไหล่เล็กลงสู่พื้นห้องเบาๆ โดยได้ เสียงกระทบ

“แม่เจ้า มือบางสั้นขณะถอดเสื้อคลุมชุดนอนของเขา อย่างช้าๆ ตามองไปที่กล้ามเนื้อหน้าอกที่ดูดีแข็งแรง ความ งดงามของกล้ามเนื้อนั้นทำให้หัวใจของเธอเด่นระรัวอย่าง บ้าคลั่งโดยไม่มีเหตุผล

เธอไม่กล้าจ้องมองมากนัก ตอนนั้นเองใบหน้าที่อุ่นร้อน ราวกับมะเขือเทศที่ถูกต้มจนสุกก็แนบลงไปยังแผ่นอก บรอนซ์ที่เต็มไปด้วยหยดน้ำแพรวพราวของเขา

จมูกได้กลิ่นหอมจากตัวของชายหนุ่มและกลิ่นเย็นสดชื่น ของสบู่อาบน้ำ

เธอยอมรับว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ทำให้รู้สึกดี เป็นอย่างมาก

เธอไม่รู้ว่าจะเอาใจเขาอย่างไร ปกติแล้วเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ ว่าผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มหรอกเหรอ จะต้องให้ผู้หญิงเป็นฝ่าย เริ่มหรือไงกัน

ชั่วขณะที่ไม่ทันตั้งตัว ก็รู้สึกตึงแน่นบริเวณเอว ทั้งร่างก ดึงให้ขยับเข้าไปชิดเขามากยิ่งขึ้น

เธอรู้สึกเหมือนว่าลมหายใจทั้งหมดหายไป

เขาบีบคางอันบอบบางของเธอเพื่อให้เธอเงยศีรษะขึ้น”ตกลงว่าคุณเอาใจผู้ชายเป็นหรือไม่เป็นกันแน่ ถ้าหากว่า ทำไม่เป็นแล้วล่ะก็ คุณก็ไปได้แล้ว”

มาอีกแล้ว ทุกครั้งล้วนแล้วแต่ใช้ประโยคนี้มากดดันคนอื่น ผู้ชายสมควรตายคนนี้พูดประโยคอื่นเป็นบ้างไหม

ใบหน้าของเธอร้อนมากยิ่งขึ้น กัดฟันเอ่ย “เป็นสิ”

“อ่อ” เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยเชื่อ “ถ้าอย่าง นั้น ก็เริ่มเลยสิ”

ดวงตาจับจ้องไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เธอไม่รู้ ว่าจะเริ่มจากส่วนไหนก่อนดี

เธอเขย่งปลายเท้า ในที่สุดก็เลือกที่จะเริ่มจากจูบจมูกที่ดูดี

ของเขาก่อน

จมูกของเขาโด่งเป็นสัน มีส่วนโค้งที่สวยงาม

เขาระบายลมหายใจเบาๆ กลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้วน เวียนอยู่รอบใบหน้าของเธอ “ผู้หญิง เทคนิคของคุณไม่ผ่าน ถ้าผมอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแล้วล่ะก็ สัญญาถือว่าเป็นโมฆะนะ”

เธออดทน

เรื่องระหว่างชายหญิงมันก็เท่านั้นเอง

เธอยังคงจูบสะเปะสะปะที่จมูกโด่งของเขาต่อไป นี่เป็นส่วนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามันสะอาด

หัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะเบาๆตามการเคลื่อนไหว ของริมฝีปาก นั่นเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลก ประหลาดอย่างหนึ่ง

แน่นอนว่า ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือใบหน้าที่มีสีแดงเข้ม ยังไง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หาญกล้ากระทำเรื่องแบบนี้ เป็นใครก็ต้อง หน้าแดงทั้งนั้นแหละ

มือของเขาพาดที่บ่าของเธอเบาๆ ฉีกยิ้มเหยียดหยาม

เธอไม่ได้สนใจ ยังคงเคลื่อนไหวการกระทำของเธอต่อไป

“ผู้หญิง” เขาเริ่มหายใจแรงขึ้น “ผมถามหน่อยเถอะ คุณจะ เปลี่ยนไปจูบที่อื่นบ้างได้ไหม”

เธอเงยศีรษะขึ้นมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่ชวนให้ลุ่ม หลงของเขา รวมไปถึงริมฝีปากอิ่มอันเซ็กซี่นั่นด้วย

ถ้าอย่างนั้นก็ เริ่มที่ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มนั้นก็แล้วกัน

จู่ๆหัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เขาคล้ายว่าจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม ดวงตาฉายแววเยาะเย้ย ดูถูก

เธอสั่นระริกขณะที่กดริมฝีปากของตัวเองลงไป
ริมฝีปากของเขา เย็นเหมือนน้ำแข็ง เย็นจนทำให้เธอสน แล้วรีบถอนริมฝีปากตัวเองกลับมา

“ผู้หญิง ผมไม่ได้มีความอดทนมากนักหรอกนะ”

เธอฟังออกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่หงุดหงิดของเขา

เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ถ้าอย่างนั้น ก็มาเซ็นชื่อลงนามใน สัญญาให้เรียบร้อยได้แล้วใช่ไหม”

เขายิ้มชั่วร้าย “ผู้หญิง ผมคิดว่าคุณคงลืมสิ่งที่ผมพูดไป เมื่อตะกี้แล้วสินะ” เขากล่าวจบ พลางชี้ไปทางประตู “ประตู อยู่ตรงนั้น”

ผู้ชายหน้าเหม็น!

เธอพูดกับตัวเอง ในเมื่อหนีไม่พ้น ก็เลยตามเลยแล้วกัน

เธอกดริมฝีปากตัวเองลงไปอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือนรก เธอยอมหมดแล้ว

ริมฝีปากของเขา ยังคงเย็นเช่นเดิม เธอพยายามใช้ริม ฝีปากตัวเองให้ความอบอุ่นกับเขา

หัวใจของเธอ เย็นเยียบราวกับแผ่นน้ำแข็ง
‘สมควรตาย ทีแท้แล้วคุณทำเป็นหรือไม่เป็นกันแน่

เขาโมโหเล็กน้อย มือทั้งคู่บีบคางของเธอ

หลินซืออี้ยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาช้าๆ——

ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหว อุ้มเธอขึ้นมาแล้วโยนลงไปบน เตียงอย่างไร้เยื่อใย

หลังจากนั้น เขาทิ้งน้ำหนักตัวทับลงมา

“ผู้หญิง คุณนี่โง่จริงๆ!

ความหยาบคายของเขา เธอมีประสบการณ์มาก่อน พูดได้ ว่าไม่แปลกใจเลยสักนิด

“หลินซืออี้ นี่คือชื่อของคุณเหรอ”

ไร้สาระ บนสัญญาฉบับนั้นไม่ใช่ว่าเขียนชัดเจนแล้วหรอก

เหรอ

สัญญายังไม่ได้เซ็นชื่อลงนาม เธอยังไม่สามารถแสดง นิสัยที่แท้จริงได้

เธอเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ยื่นมือไปหยิบสัญญาที่วางอยู่ บนหัวเตียงมา “ประธานหลี่ บนสัญญาเขียนไว้อย่างชัดเจน หลินซืออี้คือชื่อของฉัน”เขาปิดสัญญาฉบับนั้นออกไป

ทั้งหมดเหมือนกับเขาในคืนนั้น บ้าคลั่งและหยาบคาย