สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

บทที่ 9 จะมาพูดเรื่องศีลธรรมจรรยาอะไรในเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับความเป็นไปในชีวิต



บทที่ 9 จะมาพูดเรื่องศีลธรรมจรรยาอะไรในเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับความเป็นไปในชีวิต

“ในปีที่ฉันอายุสิบสี่ปีนั้น ครอบครัวพบกับเรื่องโชคร้าย คุณย่าป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษา ฉันจึงทำได้เพียงแค่ไปขโมยเงิน เจ้าสัวคนหนึ่ง จึงช่วยชีวิตคุณย่าของฉันเอาไว้ได้ทันเวลา เรื่องนี้ เป็นความผิดของฉันจริงๆ ทั้งยังจ่ายค่าตอบแทนให้กับเรื่องนี้ไป แล้ว แต่ก็ไม่ได้เสียใจในภายหลัง ถ้าหากว่าให้ฉันเลือกใหม่อีก ครั้งหนึ่ง ฉันก็ยังคงจะขโมยเงินเจ้าสัวคนนั้นมาช่วยรักษาคุณย่า ของฉันอยู่ดี สิ่งที่ฉันสามารถตอบได้ก็มีเท่านี้ค่ะ”

เอ่ยจบแล้ว เธอก็หมุนตัวเดินออกจากงานแถลงข่าวไปด้วย

ท่าทางหยิ่งผยอง

การยอมรับอดีตที่ผ่านมาของตัวเองด้วยความเยือกเย็นจะไม่

ทำให้ผู้คนประทับใจได้อย่างไรกัน?

นี่คือเรื่องที่ลูกเป็ดขี้เหร่กลายเป็นหงส์ขาวในความเป็นจริง

ภรรยาประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปผู้ลึกลับ แม้ว่าจะไม่ได้รับ การศึกษาระดับสูง แต่กลับมีความฉลาดหลักแหลม และความ ตั้งใจแน่วแน่เหนือผู้อื่น เธอยืนหยัดไม่ย่อท้อที่จะไล่ตามงาน ศิลปะ อายุยังน้อยก็เป็นจิตรกรคนหนึ่งแล้ว

เธอไม่เพียงแต่มีความฉลาดเหนือผู้อื่น แต่ยังเป็นเด็กสาวที่มี ความกล้าหาญและกตัญญูคนหนึ่งด้วย เธอยอมรับและเผชิญหน้ากับอดีตที่ย่ำแย่ แม้ว่าจะมีความรับผิดชอบ แต่ก็เป็นคนใจ กว้าง มีจิตวิญญาณที่สูงส่งคนหนึ่งจริงๆ

สรุปได้ว่า สื่อมวลชนที่คิดจะประจบแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ข้อมูลเช่นนี้มากพอที่จะให้พวกเขาเอ่ยชื่นชมได้มากมายจนคน ภายนอกที่มองเข้ามารู้สึกว่าเยอะเกินไป

บอดี้การ์ดของธราเทพอาศัยโอกาสนี้นำตัวภัทรินออกไป เพื่อ

หลีกเลี่ยงไม่ให้เธอเอ่ย “คำพูดที่น่าสะพรึง” ต่อไป

หลังจากกลับไปถึงห้องรับรอง ณัฐณิชาก็ยกเท้าสะบัดรองเท้า ส้นสูงที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดทิ้งไป ซึ่งตามองธราเทพ “ฉันเคยถูก ตัดสินให้ต้องจำคุกจริงๆ ดังนั้นคุณตั้งใจจะหย่ากับฉันเมื่อไร

เอ่ยจบแล้ว เธอก็หยิบเช็คหนึ่งล้านใบนั้นออกมาจากกระเป๋า แล้วฉีกทิ้งต่อหน้าธราเทพ

“ไม่ต้องการเงินก้อนนี้แล้วหรือ

“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นมะเร็งสมอง ไม่มี เงินรักษา ดังนั้นถึงได้ยืมคุณ ตอนนี้ฉันแข็งแรงมาก แน่นอนว่า ไม่ต้องการเงินของคุณแล้ว

ในอดีตเธอยากจนมาก และเคยขโมยของ แต่ว่าเธอก็มีความ ภูมิใจในตัวเอง ไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนโลภมากไม่รู้จักพอ

“ดังนั้นจี้หยกอันนั้น คุณขโมยมาหรือ”

ณัฐณิชาหัวเราะออกมาทันที ตอนนี้ถือว่าเธอตระหนักได้ถึง ความเย่อหยิ่งและอคติภายในสังคมชนชั้นสูงแล้ว
“ใช่แล้วอย่างไร ไม่ใช่แล้วอย่างไร” ดวงตาเธอแดงระเรื่อเล็ก น้อย เอ่ยอย่างแค้นใจว่า “ถึงอย่างไรคุณก็เชื่อแล้วว่าฉันเป็น ขโมยจริงๆ ฉันพูดอะไรแล้วจะมีความแตกต่างด้วยหรือ

ธราเทพเดินมาถึงด้านหน้าเธอ จ้องมองนัยน์ตาเธอ พลางเอ่ย ว่า “ถ้าหากว่าคุณขโมยมา ผมจะยึดของกลางแล้วคืนให้กับ เจ้าของเดิม แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ได้ขโมย ผมจะตรวจสอบให้ ชัดเจนว่า ทำไมคุณถึงได้สวมสิ่งที่อาจารย์ผู้มีพระคุณของผม หวงแหนมากที่สุด ไม่ว่าจี้หยกนี้จะถูกขโมยมาหรือไม่ แต่ในตอน นี้คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผมแล้ว เรื่องนี้จะไม่มี การเปลี่ยนแปลงชั่วคราว”

ณัฐณิชาที่ได้ยินคำว่า “คืนของให้กับเจ้าของ” กับ “สิ่งที่ อาจารย์ผู้มีพระคุณของผมหวงแหนมากที่สุด” ก็ตาโตขึ้นมาทันที

“ฉันสาบานกับสวรรค์เลยว่า อันนี้ ฉันไม่ได้ขโมยมา

“ถ้าอย่างนั้นได้มาได้อย่างไร

ณัฐณิชากัดริมฝีปากด้วยความวิตกกังวล “คุณบอกฉันก่อนว่า อาจารย์ผู้มีพระคุณของคุณอยู่ที่ไหน เป็นชายหรือว่าหญิง ฉัน สามารถพบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณของคุณได้หรือไม่”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามที่ตัวออกมาเป็นปืนกลของเธอแล้ว ธราเทพก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้า อย่างนั้นก็ต้องดูความประพฤติของคุณ”

ณัฐณิชาไร้ซึ่งอารมณ์เมื่อครูในทันที ดึงธราเทพพลางเอ่ย ขอร้องว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณบอกฉันว่า คาดหวังว่าจะให้ฉันทำอย่างไร”

ต้องรู้ว่า นั่นอาจจะเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ผู้ให้กำเนิดเธอเลย

นะ!

แม้ว่ามะเร็งสมองของเธอจะเกิดจากการวินิจฉัยผิดพลาด แต่ ก็ไม่ได้ล้มเลิกความคิดในการตามหาคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิด

ไป

เธออยากรู้ว่าเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายตัวเองเป็นของ ใคร อยากรู้ว่าเธอเป็นคริสตัลแห่งความรักของคุณพ่อคุณแม่ หรือไม่ อยากรู้ว่าทำไมพวกเขาให้กำเนิดเธอออกมาแล้วถึงได้ ทิ้งเธออย่างไร้เยื่อใย

นับตามอายุของเธอแล้ว ขอเพียงแค่ไม่เกิดเหตุไม่คาดฝัน คุณ พ่อคุณแม่ของเธอจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน

เธอไม่อยากรอจนถึงคุณพ่อคุณแม่ล้วนเสียชีวิตแล้วค่อยเริ่ม ต้นตามหา ถึงตอนนั้น เธอก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะค้นพบคําตอบของ ค่าถามเหล่านี้แล้ว

ธราเทพมองท่าทางว่านอนสอนง่ายของเธอแล้ว มุมปากก็ยก ขึ้นเล็กน้อย ก้นบึงนัยน์ตาเผยประกายขบขันออกมา

“คืนพรุ่งนี้กลับบ้านไปพบกับคนในครอบครัวพร้อมผม ถ้า หากว่าคุณแสดงได้ดี ผมก็จะพิจารณาเรื่องที่จะให้คุณพบกับ อาจารย์ผู้มีพระคุณของผม”

ณัฐณิชาพยักหน้าติดกัน “ได้! ล้วนฟังคุณ!”
เธอเป็นคนจริงจัง รู้ว่าเมื่อไรควรจะมีศีลธรรมจรรยา เมื่อไรไม่ ควรเถียงข้างๆดูๆ

ตอนนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมาในชีวิตของเธอ น เป็นช่วงที่ไม่ควรจะมีศีลธรรม และไม่ควรเถียงข้างๆๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ