บทที่ 6 งดงามจนอยากจะกลืนกิน
รเณศกับภัทรินก็จดทะเบียนสมรสแล้วเช่นกัน ในตอนที่ออก จากสำนักงานกิจการพลเรือน ทั้งสองคนที่ควรจะอารมณ์เบิก บานก็ทะเลาะกันขึ้นมา
ภัทรินพูดว่า “คุณเห็นเธอแต่งให้กับคนอื่นแล้ว เกิดดึงขึ้นมา ใช่หรือไม่คะ”
“คุณอย่าโวยวายอย่างไม่มีเหตุผล” รเณศเอ่ยด้วยความไม่ สบอารมณ์ ความจริงแล้วถูกภัทรินพูดแทงใจไปครึ่งหนึ่ง สิ่งที่ เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าก็คือ ผู้ชายที่ณัฐณิชาแต่งงานด้วยนั้นมี ศักยภาพมากกว่าเขาร้อยเท่า
ภัทรินเอ่ยต่อว่า “นับตั้งแต่ที่คุณเห็นเธอ ก็ใจลอยไม่อยู่กับ เนื้อกับตัว คุณยังมีความรู้สึกต่อเธออยู่ใช่หรือไม่คะ!”
รเณศไม่มองตาเธอ แต่กลับยกมือเธอขึ้นมา เอ่ยด้วยน้ำเสียง นิ่มนวล “ถ้าหากว่าผมยังมีความรู้สึกต่อเธอแล้วจะแต่งงานกับ คุณทำไม อย่าคิดเพ้อเจ้อไร้สาระ เดี๋ยวจะส่งผลกระทบต่อครรภ์”
ภัทรินรู้ว่าทุกครั้งที่รเณศโกหกจะไม่มองตาเธอ
อีกทั้งนับตั้งแต่ที่รเณศเลิกกับณัฐณิชา และเริ่มคบหากับภัทริ นอย่างเป็นทางการ เธอก็รับรู้ได้ว่ารเณศรู้สึกเสียใจในภายหลัง เสียแล้ว เขาถึงขั้นเคยตะโกนเรียกชื่อของณัฐณิชาเมื่อฝันตอน กลางคืน ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็ไม่แน่ว่ารเณศจะกลับไปนกับณัฐณิชา
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ภัทรินก็โมโหจนอยากจะระเบิดออกมา
ณัฐณิชาคนนั้นมีอะไรกันแน่ ถึงกับทำให้รเณศไม่เคยลืม กระทั่งผู้ชายอย่างธราเทพก็ยังคลั่งไคล้ในตัวเธอ
ภัทรินกล้ำกลืน โทสะนี้ลงไปไม่ไหว เธอตัดสินใจจะโต้กลับ อย่างรุนแรง จะไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นมีชีวิตอย่างมีความสุขอย่าง เด็ดขาด
ตอนนี้เวลาสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว ณัฐณิชาลูบท้องที่ร้องจ๊อกๆ พลางเอ่ยกับคุณชายเทพที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งว่า “ก่อนงาน แถลงข่าว ฉันจะกินอะไรสักหน่อยได้ไหม ถ้าหากว่าฉันหมดสติ ไปเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณจะขายหน้าผู้คนมาก
ธราเทพกวาดตามองเธอครู่หนึ่ง เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา “อีก ครู่หนึ่ง อย่าพูดมากแบบนี้ในงานแถลงข่าว
ณัฐณิชาเบ้ปาก พยักหน้าหงิกๆ “ความหิวโหยทำให้ฉันพูด มาก เมื่อกินอิ่มก็จะไม่พูดแล้ว”
ธราเทพส่ายหน้าด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ยังกลับรถมุ่งหน้าไป ยังร้านอาหารบุหงากระดังงา
แผนการเดิมของเขาคือพาเธอไปที่สตูดิโอส่วนตัวแห่งหนึ่ง ก่อน เพื่อลองเสื้อผ้าที่จะใส่ในงานแถลงข่าวช่วงบ่าย หลังจาก นั้นค่อยไปกินข้าว ตอนนี้ก็ดี แผนการทั้งหมดล้วนถูกเธอทำให้ ยุ่งเหยิงแล้ว
ทีนั่นเป็นร้านอาหารมิชลินระดับ 3 ดาว และเป็นร้านอาหารที่ แพงและหรูหรามากที่สุดที่ณัฐณิชา โตมาขนาดนี้เคยเข้า
ณัฐณิชาพลิกดูเมนูอาหารอยู่ครู่หนึ่ง ลองถามธราเทพสองครั้ง ว่า เธอสามารถสั่งอะไรก็ได้จริงๆหรือ
ธราเทพพยักหน้าอนุญาต ณัฐณิชาถึงได้วางใจสั่งอาหาร
ณัฐณิชาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองถูกวินิจฉัยอาการผิด จึงเหมือนกับได้ รับชีวิตที่สองมา บวกกับเพิ่งจะสั่งสอนหญิงร้ายชายเลวคู่นั้นไป ความอยากอาหารของเธอนั้นมีมากเป็นพิเศษ แทบอยากจะฉวย โอกาสห่อกลับไปบ้านเกิดด้วยเมื่อกินไม่หมด
ภายใต้สายตาตกตะลึงของธราเทพและบริกร ณัฐณิชาคน เดียวก็กินอาหารในส่วนของคนสามคนกิน
เมื่อเทียบกับธราเทพที่สง่างามและดูเป็นสุภาพบุรุษแล้ว
ท่าทางการกินของเธอนั้นสามารถกล่าวได้ว่าทำให้คนแค่มองก็
อิ่มแล้ว
“เห็นผอมแบบนี้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะกินเก่งมาก”
ธราเทพวางมืดและส้อมลง พลางเอ่ย พลางใช้ผ้าเช็ดปากซับ
มุมปาก
ณัฐณิชาฟังออกว่าธราเทพกำลังเสียดสีเธอ แต่ว่าเธอไม่สนใจ กลับแลบลิ้นเลียคราบมันบนริมฝีปาก โบกปีกไก่ที่อยู่ในมือ พลางเอ่ยกับเขาว่า “ตอนที่ฉันยังเด็กมักจะหิวโหยเสมอ ข้าวทุก มื้อล้วนได้กินเป็นคนสุดท้าย คุณวางใจเถอะ งานแถลงข่าวในอีกครู่หนึ่ง ฉันจะไม่พูดอะไรสักประโยค รับรองว่าจะเป็นกุลสตรี ที่น่ารัก”
“ทางที่ดีให้เป็นแบบนั้น ธราเทพซึ่งตามองเธอ
ณัฐณิชาทำมือเป็นสัญลักษณ์ OK และกัดปีกไก่อย่างคนไม่คิด อะไรมากต่อไป
เมื่อเห็นท่าทางการกินที่น่าอนาถของณัฐณิชาแล้ว มุมปาก เคร่งขรึมของธราเทพก็ค่อยๆ โค้งเป็นรอยยิ้มน้อยๆ
ตั้งแต่เล็กจนโต การกินข้าวสำหรับเขาก็เหมือนกับการถูกคุณ พ่อตรวจสอบมารยาททางสังคม เขาไร้ซึ่งหนทางในการ เพลิดเพลินไปกับอาหารอันโอชะ ในภายหลังก็กลายเป็นความ เคยชิน ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆต่ออาหารการกิน เพียงแค่สามารถ ทำให้กินจนหมดได้อย่างสง่างาม และอิ่มท้องได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ ดีแล้ว
ในวันนี้เมื่อเห็นณัฐณิชากินด้วยท่าทางดีใจขนาดนี้ เขาที่เดิม ไม่ค่อยหิวกลับมีความอยากอาหารขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึก ว่าการกินข้าวก็สามารถเป็นเรื่องที่มีความสุขได้เรื่องหนึ่ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ