ลูกเขยสายเปย์

บทที่3 เลียรองเท้าฉันให้สะอาด



บทที่3 เลียรองเท้าฉันให้สะอาด

บทที่3 เลียรองเท้าฉันให้สะอาด

ได้ยินเสียงร้องของสาวสวยขายาว พวกรปภ.ที่กำลังจะลง ไม้ลงมือกับลู่เสี้ยงหยางต่างพากันหยุดมือ แล้วหันไปมองเธอ หน้าตาของใจ

พวกเขาจะสอนบทเรียนให้เด็กยาจกนี่ ทำไมถึงโดนผู้จัดการ ห้ามไว้? แล้วสีหน้าของผู้จัดการทำไมโอเวอร์ขนาดนั้น?

สาวสวยใส่แว่นที่นั่งอยู่ในเคาร์เตอร์ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ รีบร้อน เดินออกมา พยุงผู้จัดการสาวสวยขายาวที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นมา

เธอคิดว่าผู้จัดการสาวสวยขายาวถูกทำให้ตกใจเพราะเหตุการณ์ ขัดแย้งนี้ รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการวางใจเถอะค่ะ ฉันได้ เรียกรปภ.มาสั่งสอนยาจกที่ก่อเรื่องแล้ว จะรีบกำจัดเขาออกไป ทันที”

ผู้จัดการสาวสวยขายาวไม่เห็นด้วยกับหล่อนแม้แต่น้อย ปัดมือ หล่อนออก รีบร้อนเดินเข้าไปสองสามก้าวจนถึงตัวลู่เสี้ยงหยาง โค้งคำนับเก้าสิบองศา แล้วเอ่ยด้วยความเคารพ “นายลู่ผู้มีเกียรติ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง คนของดิฉันมีตาหามีแวว ทำให้ท่าน ขุ่นเคือง ดิฉันจะลงโทษให้สาสม นอกจากนี้ดิฉันเรียนถามท่าน ต้องการทำธุระอะไร ดิฉันจะจัดการให้ด้วยตัวเองค่ะ”

เงียบกริบ!

รอบด้านไร้การส่งเสียง

ผู้จัดการพูดกับยาจกคนนั้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบานอบน้อมเช่นนี้ ใช้แม้กระทั่งคำว่าท่าน

แม่เจ้า!

รปภ.จ้องกันตาเป็นมัน สงสัยว่าพวกเขาฟังผิดหรือเปล่า

สาวสวยสวมแว่นตาปาดเหงื่อเย็นๆจากหน้าผาก แล้วพูดว่า “ผู้ จัดการ คุณจำคนผิดหรือเปล่าคะ? ไอ้ยากจนคนนี้มาสร้างความวุ่น วายแน่ๆ

พูดจบเธอก็หันไปถลึงตาใส่รปภ. “ยังไม่รีบโยนมันออกไปอีก ไม่ อย่างงั้นรบกวนผู้จัดการขึ้นมา พวกแกได้โดนไล่กลับบ้าน

“ครับครับครับ” พวกรปภ.ตอบรับทันที เข้าล้อมลู่เสี้ยงหยาง เตรียมที่จะลงมือ
เพี้ยะ!

แต่ในเวลานั้น ผู้จัดการสาวสวยขายาวก็ง้างมือตบเข้าที่หน้าของ หัวหน้ารูปภ. แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้แกโดนไล่ออก แล้ว”

“อะไรนะ?” หัวหน้ารูปภ.ที่ถูกตบมึนงงไปชั่วครู่ ภายในใจไม่

เป็นสุข

สาวสวยขายาวสีหน้าเย็นชาเดินมาถึงตรงกลาง หยิบบัตรสีดำ ชั้นหนึ่งบนเคาร์เตอร์อย่างระมัดระวัง โชว์บัตรต่อหน้าหัวหน้า รปภ.พร้อมพูดว่า “ให้แกเข้าใจไว้ก่อนตาย รู้ไหมนี่อะไร? นี่คือ บัตรสีดำชั้นหนึ่ง ธนาคารทั่วทั้งโลกจำกัดอยู่แค่100ใบ

ตบ!

เมื่อพูดคำนั้นออกมา ดวงตาของหัวหน้ารูปภ.ซีดขาว เนื้อตัว อ่อนแรงล้มลงไปนั่งกับพื้น

ถึงแม้เขาจะเป็นแค่รปภ.ต่ำต้อยคนหนึ่ง แต่ก็ยังพอมีความรู้ ทั่วไปอยู่บ้าง จะทำบัตรชั้นหนึ่งได้ ต้องเคยฝากเงินมากกว่า หมื่นล้านในธนาคารของพวกเขา แต่บัตรชั้นหนึ่งแบบนี้ไม่ใช่ แค่มีเงินก็ทำได้ ยังต้องมีฐานะและสถานภาพที่น่ากลัว
“ว่าไงนะ? นี่..นี่…นี่…คือบัตรน่าชั้นหนึ่งจริงๆหรอ?” สาวแว่น สมองว่างเปล่า ความคิดกันยุ่งเหยิง แล้วตามมาด้วยความหวั่น ผวา

ลู่เสี้ยงหยางถือบัตร ชั้นหนึ่งอยู่จริงๆ คนระดับสูงขนาดนี้กับ เธอคนธรรมดา อย่างนั้นเธอก็คงได้ตายอย่างมีจังหวะแน่นอน เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ ของเหลวสีเหลืองฉุนก็ค่อยๆไหลกระจาย มาจากหว่างขาเธอ

ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวจนช็อคไปแล้ว

ส่วนวงล้อมเมื่อครู่ พวกคนที่ยืนเยาะเย้ยก็หนีหายไปตั้งนานแล้ว

“เฮ้อ” ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจพร้อมส่ายหัว ด้วยสถานะและ ฐานะของเขาขี้เกียจเกินกว่าจะไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ พวกตัวตลก ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วพูดกับผู้จัดการสาวสวยขา ยาว ให้เวลาเธอสิบนาที ฉันจะเอาเงิน10ล้าน”

“ค่ะค่ะค่ะ คุณผู้ชาย ดิฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้เชิญมาที่ห้อง ทำงานดิฉันก่อน” ผู้จัดการสาวสวยขายาวพยักหน้ารับพร้อมโค้ง คํานับ

ไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางก็เดินตามผู้จัดการสาวสวยขายาวมาถึงห้อง

ทํางาน
ผู้จัดการสาวสวยขายาวรีบแนะนำตัวกับลู่เสี้ยงหยาง เธอชื่อหลี่

ปิง

ในช่วงเวลานั้นเธอยังรินน้ำชาให้ลู่เสี้ยงหยาง เหมือนกับเป็น สาวใช้ตัวน้อยของลู่เสี้ยงหยาง แล้วไม่รู้ด้วยเจตนาหรือไม่ เธอยังล่อลวงลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางเจาะเข้าไปในความคิด ของหลี่ปิง น่าขำนิดหน่อย เขารู้ว่าในตอนนี้ตราบที่เขาพอใจ ก็ สามารถถัดการกับความงามที่ร้อนแรงนี้ได้ในห้องทำงานนี้

แต่ยังไงภายในใจของเขาก็มีเพียงเย่สวนคนเดียว

“คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญท่านดื่มชาก่อน ดิฉันจะไปเอาเงินมาให้ เดี๋ยวนี้” หลังทักทายลู่เสี้ยงหยางเสร็จ หลี่ปิงถึงเริ่มให้บริการ

ระหว่างกระบวนการเธอแอบมองลู่เสี้ยงหยางอยู่เรื่อยๆ แค่มอง เห็นแววตาสดใสของลู่เสี้ยงหยาง ที่แทบจะไม่คิดอะไรกับเธอ เลย ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ยังไม่รู้สึกพอใจ เมื่อลู่เสี้ยงหยางดื่ม ชาหมด ตอนเติมชาให้ลู่เสี้ยงหยาง เธอก็ลูบมือของลู่เสี้ยงหยาง เล็กน้อย

แต่ถึงอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ยังไม่มีความคิดใดๆต่อเธอแม้แต่ น้อย
เห็นเป็นเช่นนี้ หลี่ปิงก็พูดอะไรไม่ออก กล้าคิดกับลู่เสี้ยงหยาง เป็นความผิดพลาด น่าเสียดายเสียจริง

สิบนาทีต่อมา ล่เลี้ยงหยางแบกเงินสองกระสอบเดินออกจาก ธนาคาร อจิน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เยสวน หลิวจิ้งและไปสู้สู้ต่างก็ นั่งอยู่บนโซฟา

เป้สู้สู้ใบหน้าไม่สู้ดีพูดออกมา “สวนจื่อ เธอทำได้ยังไง? วันนี้ ประธานจางจะคุยกับเธอเรื่องเงินลงทุนไม่ใช่หรอ? ทำไมเธอไป ทำให้ประธานจางไม่พอใจ ทำเอาแฟนฉันก็โดนพักงานไปด้วย

พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เย่สวนก็โมโห ชักสีหน้าพูดตอบ “ทั้งหมด เป็นเพราะไอ้ขยะลู่เสี้ยงหยางทำฉันเสียเรื่อง เธอต้องกลับไป บอกกับแฟนของเธอ พรุ่งนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวประธานจาง ขอโทษ ให้เป็นเรื่องเป็นราว

“โอเค” ไปสู้สู้พยักหน้า ในที่สุดก็วางใจได้ เธอนึกว่าเย่สวนรู้ จิตใจของประธานจางแล้ว กลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกสวะอย่างลู่เสี้ยง หยางทำเสียเรื่อง

“หึ ช่างเป็นความล้มเหลวเสียจริง แล้วยิ่งกว่าความพ่ายแพ้ รอ ไอ้ขยะนั้นกลับมาบ้าน ลูกก็หย่ากับมันซะ” หลิวจิ้งขบฟันพูด
ทั้งสามพูดอย่างเข้มแข็ง เลี้ยงหยางเดินมาถึงห้องรับแขกแล้ว

พอเห็นลู่เสี้ยงหยาง ใบหน้าสวยงามของเยสวนก็เคร่งขรึมทันที ในหัวอดคิดไม่ได้ เลี้ยงหยางทุบรถปอร์เช่ของจางดั่งเทียน ค่า ซ่อมแซมนี้ต้องทําให้เธอตก า าแย่ลงอย่างแน่นอน

หลิวจิ้งยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ลูกสาวเธอเดิมทีวันนี้มีแนวโน้ม ที่จะได้เงินทุนจากจางดั่งเทียน แต่ทั้งหมดกลายเป็นขี้เพราะหนู สกปรกอย่างล่เลี้ยงหยาง

เธอลุกขึ้นทันทีโดยไม่ลังเล เดินมาถึงหน้าลู่เสี้ยงหยาง ยกเท้า ขึ้นถีบขาของลู่เสี้ยงหยาง ชี้นิ้วไปที่หน้าลู่เสี้ยงหยางแล้วด่าทอ แกไอ้คนโง่ เล่นอะไรอยู่ คิดว่าตัวเองเป็นหัวหอมหรอ? แกก็แค่ หมาตัวหนึ่งที่พวกเราตระกูลล่เลี้ยงไว้ กล้าดียังไงมาก้าวก่าย ธุรกิจของครอบครัวเรา?

ล่เลี้ยงหยางสีหน้านิ่งเฉย มองหลิวจิ้งด้วยสายตาเย็นชา

ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกที่ผิดหรือไม่ ถูกลู่เสี้ยงหยางมองแบบนี้ หลิวจิ้งจู่ๆก็รู้สึกเนื้อตัวเย็นวาบ ร่างกายสั่นขึ้นมา

“แม่ ผมกำลังช่วยสวนเอ๋อ” ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างสงบ
“ช่วยสวนเอ๋อ??” หลิวจิ้งยิ้มเยาะ ยังคิดที่จะด่าต่อ แต่ในตอนนี้เป็ สวนดึงมือเธอแล้วพูดว่า “แม่คะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หนูมีเรื่องจะ ถามเขา”

หลิวจิ้งพ่นลมออกจากจมูก ไม่พูดอะไรต่อ

“ลู่เสี้ยงหยาง ฉันไม่ใช่ให้นายคุกเข่าสำนึกผิดนอกบ้านหรอ? นายหายไปไหนมา?” เสวนถามอย่างเย็นชา

ลู่เสี้ยงหยางเขย่ากระสอบเงินสองถุงในมืออย่างจริงจัง แล้วพูด ว่า “ผมไปถอนเงินมาให้คุณ คุณต้องการเงิน10ล้านไม่ใช่หรอ? อ่ะ ทั้งหมดอยู่ในนี้แล้ว

พอพูดจบ ดวงตาของเย่สวน หลิวจิ้งและไป์สู้สู้ทั้งสามคนก็จ้อง ไปที่กระสอบสองถุงในมือของลู่เสี้ยงหยาง

ไป สอด ก่อนไม่ได้ เธอหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า สวนจื่อ ไอ้ สวะนี่หลอกฉันอยู่หรอ? คนสภาพอย่างหมาหยิบกระสอบสองถุง มาจากถังขยะ ยังมีหน้ามาบอกว่ามีเงิน10ล้าน เขาจะทำฉัน ตาย จากนั้นสืบทอดสมบัติฉันหรอ?”

ลู่เสี้ยงหยางตัดบท พูดพึมพำ “ขีดจำกัดนั้นของเธอ ต่อให้ชดใช้ ฉันเป็นร้อยเท่ายังไร้ค่า
ใบหน้าของเยสวนสีเขียวปนม่วง ใบหน้ากล้ำกลืน น้ำตาเริ่มไหล ออกมา

เธอสืบสายเลือดมาแปดชั่วอายุคน ดันมาแต่งงานกับคนน่า สมเพชนี

พวกเพื่อนสมัยเรียนของเธอ คู่สมรสที่แย่ที่สุดคือเถ้าแก่น้อย ของบริษัท มีทรัพย์สินล้านกว่า

ในตอนนั้นเธอเรียนเก่งที่สุดในชั้น รูปร่างหน้าตาดี เป็นดอกไม้ งามประจำห้อง นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอจะเป็นคนที่ได้แต่งงานกับ ผู้ชายที่น่าสมเพชที่สุด

หลิวจิ้งโกรธจนตัวสั่น ยิ่งมองลู่เสี้ยงหยางยิ่งเหมือนดินโคลนที่ ก่อกำแพงไม่ได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นแค่คนโง่ คิดว่าตัวเองเป็นประตู ไฟจริงหรือ? ถุงกระสอบสองใบก็นำเงิน10ล้านมาได้?

“วันนี้ ถ้าทำให้แกกับลูกสาวฉันหย่ากันไม่ได้ ฉันก็ไม่ใช่คนสกุล หลิว” หลิวจิ้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด

ลู่เสียงหยางไม่สนใจฟัง ก้มหัวลง แก้มัดเชือกกระสอบอยู่เงียบๆ
ไป๋สู้สู้ยังคงหัวเราะ หัวเราะจนตัวขด ถึงกับหัวเราะจนน้ำตาไหล “ลิงก็คือลิง คิดว่าใส่เสื้อผ้าแล้วจะกลายเป็นคนได้จริงหรอ? อย่า คิดว่าทุกคนมองไม่เห็นความเลวทรามในกระดูกแกกับจิตใจที่ อัปลักษณ์ แต่อย่าพูดไป ลิงตัวนี้เล่นตลกได้น่าดูไม่เลว อะฮ่าฮ่า ฮ่า!”

“เธอดูมีความสุขมากเลยนะ?” ทันใดนั้นเลี้ยงหยางก็เงยหน้า ขึ้นมองไปสู้สู้

ไป์สู้สู้ยังคงหัวเราะ แต่สายตาที่มองลู่เสี้ยงหยาง ราวกับมองคน โง่เขลา

“หึหึ” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างขี้เล่น “เธอจำสิ่งที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ได้ไหม ถ้าฉันหาเงินแสนนึงมาได้ เธอจะเชื่อฟังฉัน?”

“แน่นอนว่าจำได้ แต่ถ้าแกหามาไม่ได้ ก็ต้องคุกเข่าลงเลีย รองเท้าฉันให้สะอาด” ไปสู้สู้ยกรองเท้าส้นสูงขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

“โอเค” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างชั่วร้าย มือทั้งสองออกแรงพร้อม กัน พลิกกระสอบที่อยู่ในมือ

พรวด! พรวด! พรวด!
ทันใดนั้น กองธนบัตรสีแดงก็หล่นออกจากกระสอบราวกับน้ำ ไหล กองเป็นภูเขาเงินสองลูกบนพื้นอย่างรวดเร็ว

เงียบกริบ!

ทั่วทั้งห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสาก อากาศต่างแข็งตัวโดย สมบูรณ์ !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ