ลูกเขยสายเปย์

บทที่ 18 เขาควายอันใหญ่ๆ



บทที่ 18 เขาควายอันใหญ่ๆ

บทที่ 18 เขาควายอันใหญ่ๆ

ไม่นานกระดุมเสื้อก็ถูกแกะออกจนหมด เสื้อตัวนอกถูกถอดออก ไป จึงเผยให้เห็นชุดชั้นใน

ไป์สู้สู้กัดฟัน เตรียมจะถอดชุดชั้นในต่อ

จู่ๆในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็พลันล่องลอย คนที่เขาคิดถึงยังคง เป็นเสวน เขารู้ว่าความชอบที่เขามีให้เธอมันถลำลึกลงไปมาก แล้ว

เขาขยับมือเตรียมจะขัดการกระทำของไป้สู้สู้ แต่ร่างกายอ่อน นุ่มของไป๋สู้สู้กลับโถมเข้ามาในอ้อมกอดของเขาเสียก่อน

พร้อมกันนั้นกลิ่นหอมเหมือนดอกกล้วยไม้อ่อนๆก็ปะทะเข้ามา อุณหภูมิร้อนผ่าวเฉียดผ่านตามร่างกายของลู่เสียงหยาง

“นายท่าน ให้ฉันเป็นทาสรับใช้คุณนะคะ ฉันจะปรนนิบัติคุณ อย่างดี” ไป์สู้สู้กัดฟันพูด ใบหน้าเป็นประกายแดงระเรื่อ

ในเมื่อขัดขืนไม่ได้ สู้ทำตามที่ลู่เสี้ยงหยางต้องการและเอาอก เอาใจเขายังจะดีกว่า
ที่เธอคบกับหวงโหย่วเหวย เพราะเธอแค่ชอบที่หวงโหย่วเหวย มีเงินและมีความสามารถ

แต่ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าลู่เสี้ยงหยางทั้งรวยทั้งมีความสามารถ มากกว่าหวงโหย่วเหวย ถึงจะไม่ได้เป็นแฟน ได้เป็นแค่ทาสรับ ใช้ก็ยังดี

“เอาล่ะ พอแค่นี้เถอะ” ในใจของลู่เสี้ยงหยางแอบรู้สึกรังเกียจ ขึ้นมา จึงยื่นมือออกไปดันไปสู้สู้ออก

ไป์สู้สู้งงงวย เขาพูดเองว่าให้เธอไปอาบน้ำให้สะอาดแล้วเขาจะ จัดให้หลายๆท่าไม่ใช่เหรอ?

“คุณไปได้แล้ว เรื่องก่อนหน้านี้ผมจะไม่ถือสาเอาความก็แล้วกัน และหวังว่าต่อไปนี้คุณจะควบคุมการพูดการจาของตัวเองได้ รู้ว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด” ลู่เลี้ยงหยางโบกมือ เพื่อปล่อยไป สู้ไป

“ก็ได้ค่ะ คุณชายลู่” ไป๋สู้สู้ผิดหวังขึ้นมาชั่วขณะ ถอนหายใจ ออกมายาวๆ จากนั้นก็ออกจากห้องทำงานของลู่เสี้ยงหยางไป

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกอุดอู้ จึงคิดจะออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่ ในตอนนี้เองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เมื่อล้วงออกมาดู ก็พบว่าเป็นเย่หยุนเทาที่โทรมา

เป็นไอ้บ้านี่ได้ไง! ลู่เสี้ยงหยางกดวางสายทันที

แต่ต่อมาก็มีข้อความส่งมาว่า

“ไอ้สวะ ผู้หญิงของนายถูกลักพาตัวไป ถ้าไม่อยากเห็นเธอ ตายก็รีบตามมา”

ตู้ม!

ทันทีที่อ่านข้อความเสร็จ ในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็คล้ายกับมี เสียงระเบิดดังขึ้นมา

สิ่งแรกที่ทำก็คือโทรหาเย่หยุนเทา จึงได้รู้ว่าเย่สวนถูกจับเป็น ตัวประกันอยู่ในบ้าน ดังนั้นเขาจึงรีบตรงไปที่บ้านของเยสวน

ทันที

เมื่อมาถึง เลี้ยงหยางก็เห็นคนของตระกูลเย่และตำรวจหลาย

นาย

เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยาง เย่หยุนเทาก็รีบพูดอะไรกำกวมออกมาว่า “ลู่เสี้ยงหยาง นายยอมได้เหรอ เกือบถูกสวมเขาควายอันใหญ่ๆ เลยนะ ฮ่าๆ”
“ถ้านายอยากโดนต่อยอีก ก็ลองพูดมากอีกส” ลู่เสี้ยงหยาง หน้าเย็นชา

“นาย…… เหยุนเทาโกรธจนหน้า เคล้าเครียด พอนึกไปถึง ภาพที่ถูกพี่เสือต่อยก็รู้สึกเข็ดหลาบ จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

คนในตระกูลเปต่างถลึงตาใส่เลี้ยงหยาง ด้วยสีหน้าไม่เป็น

มิตร

ท่านย่าไม่แม้แต่จะหันมามองเลี้ยงหยาง พูดออกมาว่า “ลู่เสี้ ยงหยาง เยสวนกับหลิวจิ้งอยู่ในมือของจางดิ่งเทียนแกรีบเข้าไป แลกตัวประกันออกมาได้แล้ว”

เธอพูดออกมาอย่างอยากให้เป็นตามที่ใจคิด

ไม่รอให้ลู่เสี้ยงหยางตอบกลับ หวังเสวก็ส่ายหน้าให้ลู่เสียง หยาง แล้วพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้จางยิ่งเทียนกำลัง อารมณ์ไม่คงที ถ้าคุณเข้าไปต้องเป็นอันตรายแน่ๆ ดังนั้นคุณจะ เข้าไปไม่ได้เด็ดขาด ส่วนตัวประกันสองคนข้างใน ทางตำรวจจะ หาทางช่วยเอง”

“อ่อ ขอบคุณนะครับ แต่มันเป็นเรื่องของผม ผมอยากจัดการ เอง” ลู่เสี้ยงหยางตอบกลับนิ่งๆ จากนั้นก็ตะโกนขึ้นไปยังชั้นสอง
“จาง เทียน นายมันก็ดีแต่เก่งกับผู้หญิง แน่จริงก็มาตัวต่อตัว กับฉันสิ นายพูดเองว่าฉันมันแค่เศษสวะไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันว่า ดอน นายเป็นยิ่งกว่าเศษสวะอีกนะ รู้ไหมว่าตอนนี้นายน่ากลัว ขนาดไหน? ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเมียฉันเห็นนายทีไรแล้วจะ อ้วก ก ”

ได้ยินแบบนั้น จางดิ่งเทียนก็พลันระเบิดออกมา กระชากเสวน ลุกจากเตียง แล้วลากมายังหน้าต่าง พร้อมถลึงตาใส่คนข้างล่าง * ไอ้สวะโง่เง่า แกว่าไงนะ? ไก่อ่อนอย่างแก กล้ามาเทียบกับฉัน ได้ยังไง”

เย่สวนจ้องมองลู่เสี้ยงหยาง กรอบตารื้นไปด้วยน้ำตา ร่างกาย สั่นเทิ้มไม่หยุด เวลาเธอตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วย เหลือ ก็ยังเป็นลู่เสี้ยงหยางโผล่มาช่วยเธอทุกครั้ง

“งั้นเหรอ? ที่นายพูดมาก็แค่คิดไปเองทั้งนั้น ถ้านายเก่งกว่าฉัน จริง แล้วทำไมเมียฉันถึงไม่ชอบนายล่ะ? อยากให้นายรู้เอาไว้สัก เรื่องนะ นายไม่มีทางคว้านางฟ้ามาเป็นของนายได้หรอก เพราะ นั่นมันเมียฉัน เธอนอนร่วมเตียงเคียงหมอนกับฉันทุกวัน ความ รู้สึกวิเศษๆแบบนี้ นายก็ทำได้แค่จินตนาการเอาเท่านั้นแหละ ใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางเต็มไปด้วยความถากถาง พูดตอกย้ำกับ จางดิ่งเทียนอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

จางดิ่งเทียนโกรธจนตัวสั่น ดวงตาแดงเถือกราวกับสีเลือดในหัวลุกโชนไปด้วยไฟโทสะไร้ชื่อเรียก

ที่ลู่เสี้ยงหยางพูดมันถูกทั้งหมด นางฟ้าที่เขาไม่มีทางคว้ามา เป็นของตัวเองได้ คือภรรยาของไอ้สวะ

“แม่ง! ไอ้เวร เก่งนักใช่ไหม งั้นขึ้นมานี่ ฉันจะเล่นงานแกให้ ตายเลยคอยดู” เขาตะคอกออกมา พร้อมกับใช้มืด ชี้ไปทางลู่เสี้ ยงหยาง

ล่เลี้ยงหยางหัวเราะ นี่แหละที่เขาต้องการ เขาต้องกวนโทสะ ของจางติ่งเทียนเพื่อที่จางดิ่งเทียนจะได้เรียกเขาขึ้นไปข้างบน และมันก็เป็นวิธีเดียว ที่สามารถช่วยเย่สวนกับหลิวจิ้งออกมาได้

ลู่เสี้ยงหยางก้าวเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นบน

แต่เขาเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกหวังเสมาขวางเอาไว้

“ตอนนี้คุณขึ้นไปไม่ได้ อารมณ์ของคนร้ายกำลังเดือด ถ้า คุณขึ้นไป พวกเราไม่สามารถรับประกันได้หรอกนะว่าคุณจะ ปลอดภัย” หวังเสว่เอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง

ล่เลี้ยงหยางยิ้ม พูดออกมาอย่างสบายๆว่า “ไม่ต้องห่วง เขาทำ อะไรผมไม่ได้หรอก และเขาไม่กล้าทำอะไรผมแน่
“เอ่อ……….” หวังเสวี่เหลือบตามองบน สีหน้าเต็มไปด้วยแวว เสียดสี

ในสายตาของเธอ ลู่เลี้ยงหยางก็แค่คนผอมๆคนหนึ่ง ท่าทาง ดูเหนียมๆ อีกอย่างในมือของจางติ่งเทียนยังมีอาวุธอีก ถ้าลู่เสื้ ยงหยางขึ้นไปก็ไม่เท่ากับว่าไปให้เขาฆ่าตายถึงที่เหรอ?

“คุณคะ รบกวนคุณคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย คุณขึ้นไปก็มีแต่ จะเพิ่มปัญหา มันไม่มีประโยชน์อะไรกับการช่วยตัวประกันเลย นะ” หวังเสวอธิบายออกมาอีกครั้ง

ครั้งนี้ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้สนใจเธออีก เดินผ่านเธอแล้วมุ่งตรงไป ยังชั้นบน

หวังเสว่จะห้ามไว้ก็ไม่ทัน เธอตกใจจนหน้า ด

“รีบแจ้งสำนักงานใหญ่ เราต้องการกำลังเสริม แล้วก็นักเจรจา มาถึงหรือยัง รีบเร่งให้มาถึงเร็วๆหน่อย” หวังเสวีเอ่ยถามอย่างรีบ

ร้อน

“ครับ! หัวหน้า ผมจะแจ้งสำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้ ส่วนนักเจรจา กําลังเดินทางมาครับ” ผู้ช่วยตอบกลับอย่างหนๆ
เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางกำลังขึ้นไปข้างบน ทุกคนในตระกูลเ กลับรู้สึกสะใจ ขยะอย่างเลี้ยงหยางไม่มีประโยชน์ต่อวงศ์ ตระกูลเลยสักนิด ถ้าขึ้นไปแลกตัวประกันอย่างเย่สวนกับหลิวจิ้ง ลงมาได้ ตายไปจะได้คุ้มค่า

ไม่นาน เลี้ยงหยางก็มาถึงห้องนอนชั้นสอง

เย่สวนพูดกับลู่เสี้ยงหยางไม่หยุดว่า “คุณหนีไปเถอะ ตรงนี้มัน อันตราย ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก”

หลิวจิ้งหายใจหนักหน่วง แววตาที่มองลู่เสี้ยงหยางเต็มไปด้วย ความเคียดแค้น ทำไมไอ้ขยะนี้ต้องขึ้นมา มันไม่มีประโยชน์เลย สักนิด ช่วยพวกเธอไม่ได้ไม่พอ กลัวก็แต่จะมาทำให้พวกเธอตก อยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิม

“ลู่เสี้ยงหยาง แกไสหัวไปเลยนะ” หลิวจิ้งกดเสียงต่ำอย่าง ท้อแท้

“เหอะๆ กล้าดีนี่ ลู่เสี้ยงหยาง แกคิดเหรอว่าเศษสวะอย่างแก ขึ้นมาแล้วจะช่วยอะไรได้? เดี๋ยวฉันจะทำให้เย่สวนได้เห็นกับตา ว่าผู้ชายโง่ๆอย่างแกถูกฉันทำร้ายยังไงบ้าง และแกต้องขอร้อง อ้อนวอนฉันเหมือนหมาตัวหนึ่ง อีกอย่างนะ ไอ้ปัญญาอ่อน ฉัน จะเอาเมียแกกับแม่ยายแกต่อหน้าต่อตาแกเลยคอยดู” “จางยิ่ง เทียนพูดออกมาอย่างชั่วร้าย
เสียงหยางยิ้มออกมาอ่อนๆ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าตอนนี้นาย ปล่อยทั้งสองไป ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้นายฟัง เรื่องที่ อาทิตย์ก่อนนายถูกไล่ออกจากหย่งหยวนกรุ๊ปน่ะ แม้แต่นายเอง ก็ยังไม่รู้ใช่ไหมล่ะว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกนั้นบอกนายแค่ว่า นายไปขัดใจคนที่ไม่ควรไปลองดีด้วยเขา แต่ฉันบอกนายได้นะ ว่าคนที่นายไปขัดใจเข้าน่ะเป็นใคร

ว่าไงนะ?!

เมื่อลู่เสี้ยงหยางพูดประโยคนี้ออกมา จางติ่งเทียนเบิกตาอ้า ปากค้าง

เรื่องที่เขาไปขัดใจคนที่ไม่ควรไปขัดใจ เลยถูกไล่ออกจากหย่ง หยวนกรุ๊ป มันเป็นความลับนะ แล้วทำไมล่เลี้ยงหยางรู้ล่ะ?

หลังจากเกิดเรื่องเขาก็สบมาตลอดว่าคนคนนั้นคือใคร แต่เขาก็ ไม่ได้อะไรสักอย่าง

เขาคิดแค่ว่า ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาไปขัดใจใครเข้า จะได้ไปขอร้อง เผื่อจะได้กลับไปทำงานที่หย่งหยวนกรุ๊ปอีกครั้ง

“แม่ง แกคิดจะหลอกฉันเหรอ?” จางยิ่งเทียนไม่เชื่อ
“นายอยากได้ตัวประกันไม่ใช่เหรอ? ฉันมาเป็นตัวประกันให้นาย แล้วนี่ไง แล้วฉันก็จะบอกความลับให้นายฟังเป็นข้อเสนอ แลก กับการที่นายต้องปล่อยพวกเธอไปเป็นไง?” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยพูด

“ได้ ในเมื่อแกอยากตาย ฉันจะทำให้แกสมหวังเอง เข้ามาส จางดิ่งเทียนตัดสินใจเดิมพัน

ลู่เสี้ยงหยางไขว้มือไว้ข้างหลัง แล้วเดินไปหาจางดิ่งเทียน จางดิ่งเทียนผลักเย่สวนออกไป แล้วมีดไปยังลำคอของลู่เสี้ ยงหยางแทน

“ลู่เสี้ยงหยาง คุณ….คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” น้ำตาของเยสวน ไหลออกมาเป็นสาย วินาทีนี้ลู่เสี้ยงหยางครอบครองหัวใจของ เธออย่างไม่มีเหลือให้ใครมาแทนที่แล้ว

“รีบไปแก้มัดให้แม่คุณ แล้วก็รีบพากันหนีไปเถอะ” ลู่เสี้ยงหยาง ยิ้มออกมาอ่อนๆ

“เย่สวน รีบมาแก้มัดให้ฉันได้แล้ว แกจะไปห่วงไอ้ขยะนี่ทำไม นักหนา?” หลิวจิ้งพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน กลัวว่าจางยิ่งเทียนจะ กลับคํา
ผ่านไปสักพัก เย่สวนก็แก้มัดให้หลิวจิ้งเสร็จ จากนั้นหลิวจิ้งก็ ลากเย่สวนเดินออกไปนอกห้องนอนโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง เสียงหยางเลยสักนิด

เพียงแต่ตอนที่เดินมาถึงประตู เสวนกลับหยุดฝีเท้าลง แล้วหัน กลับไปมองลู่เสี้ยงหยางอย่างโง่เง่า

“นี่ รีบไปได้แล้ว ไม่ต้องไปมอง คนไร้ประโยชน์อย่างนั้นอยู่ไป ก็ไร้ค่า เขามาแลกตัวพวกเราก็ถือว่าดีแล้ว จะได้ตายไปอย่างมี ประโยชน์” หลิวจิ้งพูดออกมาอย่างใจร้ายใจดำ พูดจบก็ลากเ สวนเดินออกไป

หวังเสว่รู้สึกร้อนใจ แม้ว่าเย่สวนกับหลิวจิ้งจะถูกช่วยออกมาได้ แต่ลู่เสี้ยงหยางยังอยู่ข้างบนนั้น

ดูสถานการณ์แล้ว ลู่เสี้ยงหยางตกอยู่ในอันตรายมากกว่าเย่ สวนกับหลิวจิ้งอีก

“ไม่ได้การแล้ว เรารอต่อไปไม่ได้แล้ว ทุกคนเตรียมความพร้อม เอาไว้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ เราก็คงต้องบุกโจมตีแล้วล่ะ” หวังเสว่ออก คำสั่งใส่เครื่องสื่อสารอย่างเด็ดขาด

“ครับหัวหน้า” ลูกน้องตำรวจรับคำทีละคน
ทว่าในตอนที่พวกเขากำลังเตรียมบุก ผู้ช่วยของเธอก็อุทาน ออกมากะทันหันว่า “หัวหน้าครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เรื่องใหญ่ มาก….มากๆด้วย ตอนนี้คนร้าย…..กำลังนั่งคุกเข่า….ตบหน้าตัว เองอยู่ครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ