ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี?!

บทที่ 15 มีความรู้สึกให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง



บทที่ 15 มีความรู้สึกให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง

ผ่านมาแล้วห้าปี พอเจอกันอีกครั้งเจียงซื้อสื่อนึกว่าตัวเองจะ สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้

แต่ความจริงแล้ว ความโกรธเกลียดที่ถูกฝังลึกภายในจิตใจ จู่ๆก็ถาโถมออกมาอย่างรุนแรง ใจของเธอเริ่มเดือดดาลบ้าคลั่ง ขึ้นแล้ว

ความทรงจำไหลย้อนกลับมาราวกับหนังเรื่องเก่าถูกฉายขึ้น มาอีกครั้ง เสียงของเจียงนวลนวลลั่นเข้ามาเต็มสองหู”ฉันเป็น คนดึงหน้ากากออกซิเจนของเธอออกเองแหละ

“เจียง ออฉันอยากทำลายชีวิตเธอ

“คุณพ่อเป็นของฉัน มรดกทรัพย์สินของตระกูลเจียงเป็นของ ฉัน พี่ซื้อเฉินเป็นของฉัน เธอมันก็แค่หมาหัวเน่าที่ถูกตระกูลเจียง ตัดหางปล่อยวัดไปแล้วก็เท่านั้น…….

คำทุกคำ ประโยคทุกประโยค มันยังคงชัดเจนอยู่ในใจของเธอ

เจียง ออปวดหัวอย่างรุนแรง เธอไม่อยากจะไปข้องเกี่ยว อะไรกับพวกเขา จึงหันตัวเดินเข้าไปในห้องชงกาแฟทันที

เจียงนวลนวลตาไว พอเห็นคนที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตาเมื่อตะกี้ ก็ ชะงักนิ่งไป พร้อมกับพูดขึ้น“ตะกี้นั่นมัน…….
“หืม? อะไรเหรอ?” หลานซือเฉินที่กำลังพูดคุยอยู่กับหลี่เซ็ง พอได้ยินที่เธอพูด ก็หันไปถามอย่างช่วยไม่ได้

เจียงนวลนวลส่ายหัวพร้อมกับพูดตอบกลับไป ไม่มีอะไรค่ะ

สงสัยฉันจะดูผิด”

แม้ว่าจะพูดแบบนั้น แต่ตากลับจ้องมองอยู่แต่ตรงทางเดิน ใน ใจแจ่มแจ้งแล้วว่า ตัวเองไม่ได้ดูผิดแน่นอน

เจียงสื่อสื่อ……ต่อให้เธอเหลือแต่เถ้าถ่าน ฉันก็จำเธอได้ดี!

เสียงฝีเท้าของพวกเขา ค่อยๆเดินจากไป

เจียงซื้อสื่อที่อยู่ในห้องชงกาแฟ ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ ความโกรธเกลียดในใจ ยังไม่จางหายไป

จู่ๆ มือถือก็ดังขึ้น

เจียงสื่อสื้อเปิดขึ้นมาดู มือถือมีข้อความเสียงส่งมา

เธอกดเปิดฟัง เสียงน่ารักน่าเอ็นดูของเสี่ยวเป่าก็ดังขึ้นมา “น้า สื้อสื้อ ผมกับพ่อมาถึงบริษัทแล้วนะ”

เจียงซื้อสื่อใจเต้นขึ้นมา อารมณ์ที่ยึดติดก่อนหน้านี้ ก็ราวกับ หิมะต้องแสงอาทิตย์ ละลายหายไปทันที

เธอยกมุมปากด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วส่งข้อความเสียงกลับ ไป“จ้า เสี่ยวเป่าต้องเชื่อฟังคุณพ่อนะ”

เสียงอันนุ่มนวลและอ่อนโยนที่ดังออกมาจากในมือถือ ได้ยิน แล้วก็ทำให้จิตใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
สองตาที่ใสแป๋วของเสี่ยวเป่า หันไปมองพ่อของตัวเองอย่าง ไม่สบอารมณ์ทันที”คืนนี้ผมไปบ้านน้าสื่อซื้อไม่ได้จริงๆเหรอ?”

“ไม่ได้” จิ้นเฟิงเฉินตอบด้วยสีหน้านิ่งๆไร้อารมณ์”อีกเดี๋ยวคุณ

ปู่คุณย่าก็จะมารับแล้ว”

เสี่ยวเป่าไม่ยอมลดละความพยายามถามขึ้นต่อ”ถ้าอย่างนั้น ผมจะเชิญให้น้าสื่อสื่อ มาเป็นแขกที่บ้านได้ไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินที่กำลังเปิดเอกสารดูอยู่นั้น หยุดชะงักลง ก่อนจะ พูดขึ้น ตอนนี้คงจะยังไม่เหมาะ

เสี่ยวเป่าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที วางมือถือลงด้วย ความเอาแต่ใจ สบถออกมาก่อนจะรีบปืนลงจากโซฟา แล้ววิ่ง ออกไปข้างนอกทันทีเกลียดแดดดี้ที่สุดเลย ผมจะไปหาคุณอา

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยให้เขาไป แต่สายตากลับเพ่งมอง

มายังมือถือที่วางอยู่บนโซฟา

เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินไปหยิบมือถือขึ้นมาเปิดข้อความเสียงนั้น เสียงที่อ่อนโยน ดังเข้ามาในหู ฟังแล้วรู้สึกเพลินอย่างบอกไม่ถูก

ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นเส้นโค้งอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ ตัว นิ้วมือก็เลื่อนไปกดดูตรงหน้าไทม์ไลน์ของเจียงซื้อสื่ออย่าง ช่วยไม่ได้

ในโมเมนต์ของเธอ มีโพสต์อยู่แค่ไม่กี่โพสต์
มีแชร์ของกิน มีงานที่เพิ่งจะเริ่มทำ ฉลองวันเกิดคนเดียว แล้ว ก็เดินช็อปปิ้งคนเดียว พอเห็นของสวยๆงามๆ ที่ตั้งโชว์อยู่ใน กระจกพวกนั้น ก็มีความต้องการสุดๆ

หญิงสาวในภาพ ยิ้มอย่างสดใสร่าเริง แต่ว่าตั้งแต่เริ่มจนจบ กลับมีแค่ตัวคนเดียว

หลังจากที่ จิ้นเฟิงเฉินอ่านแล้ว ก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวอย่างบอก ไม่ถูก

เขาไม่ใช่คนที่ชอบก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

แต่ว่าตอนนี้ ในใจกลับมีแรงกระตุ้น อยากรู้เรื่องราวในอดีต

ของเธอขึ้นมาย่างบอกไม่ถูกซะอย่างนั้น ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อน

บังเอิญ มีเสียงเคาะประตูดังออกมาจากข้างนอกพอดี

เขาปิดมือถือลง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เชิญเข้ามาได้

ประตูเปิดออกอย่างไว ผู้ชายรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเกิน บรรยาย แว่นตากรอบทองที่คั่นตรงสันจมูก ดูอบอุ่นอ่อนโยน และละเอียดอ่อน เขาเดินเข้ามาจากข้างนอก พร้อมกับพูดเปิด ประเด็นถามขึ้นเรียกผมกะทันหันแบบนี้มีธุระอะไรครับ?

“มีธุระแน่นอน”

จิ้นเฟิงเฉินเชิญให้เขานั่งลงพลางพูดส่งข้อความบอกให้ เนียนเอากาแฟเข้ามาเสิร์ฟ
เซิ่นมป้ายทำตัวตามสบายเต็มที่ พอก้นนั่งลงถึง โซฟา ก็พูด บ่นขึ้นทันที เมื่อคืนฉันดูคนไข้ไปตั้งหลายคน ยุ่งจนเพิ่งได้มา นอนเมื่อเช้า ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ ฉันเอานายตายแน่!

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธอะไร นั่งลงตรงข้ามกับเขา เงียบไปสัก พัก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ “ฉัน……..นเริ่มมีความรู้สึกกับผู้หญิง คนหนึ่งแล้ว”

เชิ้นมู่ป่ายอึ้งไปชั่วขณะ ไม่รู้จะมีปฏิกิริยาตอบกลับยังไงดี หลังจากผ่านไปสักพัก ก็ยืดตัวขึ้นมานั่งตรง พร้อมกับถาม ขึ้น ความรู้สึกแบบไหน?”

จิ้นเชิงเฉินพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งนายคิดว่าแบบไหนล่ะ?” เซิ่นมู่ป้ายก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที จริงเหรอ? ผู้หญิงแบบ ไหน? มหัศจรรย์ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? ฉันเคยเจอไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินหน้านิ่งราวกับถูกแช่แข็ง”วันนี้ที่เรียกนายมา ก็ให้ มาช่วยวินิจฉัย ไม่ใช่ให้นายมาถามนุ่นถามนี่

เซิ่นมู่ป้ายก็รู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นเกินไปหน่อย ไอกระแอมก่อน จะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาปกติตามเดิมพร้อมกับพูดขึ้น แสดงว่า นายไม่ใช่คนรักเพศเดียวกัน แล้วก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีความต้องการ ทางเพศ นายก็แค่ไม่มีสิ่งกระตุ้นต่อผู้หญิงที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ในทางกลับกัน สำหรับผู้หญิงที่รู้สึกอะไรด้วย ก็จะมีแรงกระตุ้น มาก อะไรกันเนี่ย……ผู้หญิงที่นายรู้สึกด้วย คงจะมีความสุขแน่ๆ ในโลกนี้ไม่มีใครที่ทุ่มเทและเอาใจใส่แบบนายอีกแล้ว!
“แล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี?” จิ้นเชิงเฉินมองเพ่งที่เขา

เช่นป้ายพยักหน้าคอแทบหลุด เป็นเรื่องดีแน่นอน เมื่อก่อน ฉันยังคิดเลยว่านายอาจจะเป็นโรค แต่ชัดเจนแล้วว่านายไม่ได้ เป็น ระบบต่างๆ ในร่างกายถือว่าทำงานปกติ สภาพจิตใจไม่มี ปัญหาอะไร ทำเอาฉันเกือบจะลังเลแล้วว่า ทักษะทางการแพทย์ ของฉันไม่ดีมากพอ”

จิ้นเชิงเฉินพยักหน้า ก่อนจะพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ ในเมื่อไม่มี ปัญหาอะไรแล้ว นายก็ใสหัวไปได้แล้ว”

เซิ่นมป้ายแทบจะกระอักเลือด”ฉันเพิ่งจะมาถึง กู้เงี่ยนก็ยัง ไม่ทันเอากาแฟมาเสิร์ฟเลย นายก็ไล่ฉันกลับแล้ว! ยังไงก็ให้ ฉันดื่มกาแฟให้กระรี้กระเปร่าหน่อยสิ ถ้าเกิดอีกเดี่ยวขับรถเกิด อุบัติเหตุขึ้นมาเพราะว่านอนไม่พอจะทำยังไงล่ะ?”

จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะออกมาเล็กน้อย แล้วก็เปลี่ยนหัวข้อคุย ช่วง นี้เสี่ยวเป่าก็ร่าเริงขึ้นเยอะ

“อ้อ? ทำไมล่ะ?” เซิ่นมู่ป้ายแปลกใจเล็กน้อย

จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้น เพราะว่าผู้หญิงคนเดียวกันกับฉันนั่นแหละ”

เซิ่นมู่ป้ายประหลาดใจไม่น้อย เรื่องบังเอิญขนาดนี้ คงจะ ไม่ใช่ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่าใช่ไหม?”

เขาก็แค่พูดไปเรื่อย รอฟังจิ้นเชิงเฉินพูดตอบกลับอย่าง มั่นใจ“ไม่มีทาง”
ทำไมนายมั่นใจขนาดนี้?” เซิ่นมู่ป้ายพูดเสริมต่อ ผู้หญิงที่มี ความสัมพันธ์กับนายในตอนนั้น นายก็มีความรู้สึกให้กับเธอ พอ หลายปีมานี้ ก็มีอีกคนปรากฏตัวขึ้นมาอีก ดูๆแล้วก็เหมือนถูกจัด เตรียมไว้แล้วไม่ใช่หรือไง”

จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าบึ้งตึงขึ้น หน้าตาท่าทางดูบูดเบี้ยวไม่ น้อย ตอนนั้น…….ฉันโดนเฟิงเหราวางยา”

นิ่งเงียบไป ก่อนจะพูดเสริมขึ้นอีกคำยาชนิดร้ายแรง! ” เซิ่นมป้ายตาโตปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

หลังจากอึ้งอยู่นาน จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเห็นอก เห็นใจ แล้วไอ้น้องนั้น ทำไมถึงไม่ถูกนายที่ตายไปล่ะ

จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไป เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะพูดต่อแล้ว

เซิ่นมู่ป้ายก็อยากจะหยุด แต่ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น จึงถามต่อ แล้วต่อไปนายจะทำยังไงต่อ? คนแบบนี้ไม่ได้หา ง่ายๆ อย่าปล่อยไปจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นนายได้ครองโสดตลอด ชีวิตแน่ๆ”

จิ้นเฟิงเฉินกลับมานิ่งขรึมตามเดิม ก่อนจะพูดขึ้น”ฉันจะคว้า โอกาสไว้

ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพัก แล้วเป็นป้ายจึงค่อยจากไป จิ้นเชิงเฉินยืนอยู่หน้ากระจก แววตานิ่งสงบ ไม่รู้ว่ากำลังคิด อะไรอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ