ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี?!

บทที่ 13 มีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้ว



บทที่ 13 มีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้ว

พอได้ยินแบบนี้ ทั้งสามคนในห้องก็พากันอึ้งตะลึง

“ผู้หญิง?” จิ้นเฟิงเหราตอบสนองเป็นคนแรก สีหน้าท่าทางตื่น เต้นถึงที่สุด “พี่ๆๆ…..ใช่คนที่บอกก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”

“คนไหน?”

คุณท่านจนดึงสติกลับมาเป็นคนที่สอง จ้องเขม็งลูกชายด้วย สายตาโมโห

จิ้นเฟิงเหราพูดขึ้นอย่างคิดบวก ก็ผู้หญิงคนที่พี่เคยพูดไว้ว่า จะเป็นคนที่แต่งงานด้วยไง

“แต่งงาน?”

คุณหญิงจิ้นพอได้สติกลับมา ก็ถามขึ้นอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ แกมีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้ว? ใคร? ทางนั้นเป็นคนยังไง? ลูกสาวบ้านไหน? อายุเท่าไร? นิสัยดีไหม? ภูมิหลังครอบครัว ล่ะ?”

คาถามชุดใหญ่พรั่งพรูออกมา จนจิ้นเชิงเฉินปวดหัวแทบจะ ระเบิด

“แม่ ช่วยสงบจิตสงบใจลงก่อนได้ไหม?”

“ได้ พวกเราจะใจเย็นลง แต่ว่า…….ต้องบอกพวกเราว่าเกิด อะไรขึ้นกันแน่!
คุณหญิงจิ้นสีหน้าบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อเรื่องที่ว่า ลูกชายของบ้านตัวเองมีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้ว

รู้ๆกันอยู่ว่า ลูกคนนี้เกลียดผู้หญิงขนาดไหน เมื่อก่อนแค่เห็นก็

หลีกหนีไปไกลเท่าที่จะไกลได้แล้ว

เธอเซ้าซี้ให้เขาไปนัดดูตัวอยู่ตลอด แต่ทุกครั้งเขาก็แค่ไปตาม มารยาทเท่านั้น

จนทำให้เธอสงสัยแล้วว่าลูกชายของตัวเองจะชอบผู้ชาย คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาไปต่างประเทศแค่ไม่กี่วัน เขากลับได้ ผู้หญิงมาหนึ่งคนซะอย่างนั้น

จิ้นเฟิงเฉินแต่เดิมที่ไม่อยากจะอธิบายอะไรมากมาย แต่พอ เห็นพ่อแม่ถามเค้นขนาดนี้ ก็รู้สึกว่าจนตรอก หลังจากที่พาทั้ง สองเข้ามาข้างในแล้ว ก็พูดอธิบายอย่างกระชับและรัดกุม “ก่อน อื่น ผมยังไม่ได้บอกว่ามีคนที่จะแต่งงานด้วย แค่เป็นการสมมติ เท่านั้น เป็นเรื่องที่เฟิงเหราคิดมั่วซั่วเอาเองทั้งเพ อันดับสอง ผู้ หญิงคนนั้นมีอยู่จริงๆ เสี่ยวเป่าไม่ขับไสไล่ส่งเธอกลับชอบเธอ มากด้วยซ้ำ ตอนนี้กำลังติดต่อกันอยู่ มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง

ทั้งสองพอได้ยินแบบนั้น ก็เริ่มมีความหวังเล็กๆ แต่ก็ยังไม่ ยอมท้อถอย แล้วแกล่ะ ชอบเธอไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว เหมือนกับว่าไม่ค่อยคุ้นกับคำว่า “ชอบ คำ นี้สักเท่าไร ลังเลอยู่นานก่อนจะตอบแบบครึ่งๆกลางๆ ไม่ได้ เกลียด”
“ก็แสดงว่าชอบนั่นแหละ” จิ้นเฟิงเหราพูดแทรกเข้ามาจาก พอพูดจบ ก็โดนพี่ชายตัวเองมองเขม็ง ใส่

ข้างๆ

คุณท่านขึ้นเป็นคนที่ค่อนข้างเข้มงวดและมีเหตุมีผล ถาม ขึ้น “ผู้หญิงคนนั้นเชื่อถือได้ไหม? พวกแกรู้จักกันนานเท่าไร แล้ว?”

“สอง….สามเดือน” จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้นอย่างลังเลเล็กน้อย

คุณท่านจิ้นขมวดคิ้ว สองตาเข้มงวด พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เพิ่งจะไม่กี่เดือน แกก็วางใจปล่อยให้เสี่ยวเป่าไปอยู่กับเธอแล้ว ถ้าเกิดเธอคิดที่จะทำอะไรขึ้นมาล่ะก็ จะทำยังไง? แกอย่าลืมเรื่อง เมื่อไม่กี่ปีก่อนล่ะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่าอีกล่ะก็ ฉันไม่ยก โทษให้แกแน่นอน!

คุณหญิงจิ้นพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย” ใช่แล้ว เฟิงเฉิน แกมีผู้หญิง ที่ชอบแล้วมันก็ดีอยู่หรอก แต่พ่อกับแม่ยังไม่เคยเจอเธอมาก่อน แกเอาเสี่ยวเป่าไปไว้ที่เธอมันไม่เหมาะไม่ควร แกรีบไปพากลับ มาเถอะ แล้วค่อยหาเวลาพาผู้หญิงคนนั้นมาพบพวกเราแล้วกัน”

จิ้นเฟิงเฉินยิ่งปวดหัวไปอีก

มันเร็วถึงขนาดที่ต้องพามาพบพ่อแม่แล้วเหรอเนี่ย ที่เขา อธิบายไปเมื่อตะกี้ เท่ากับว่าสูญเปล่าสินะ

จิ้นเฟิงเหราพอเห็นพี่มีสีหน้าแบบนั้น ก็รู้ดีว่าเรื่องมันคงจะไม่ ง่ายแบบนั้นน่ะสิ จึงพูดขึ้นอย่างรู้งาน“พ่อ แม่ ช่วยหยุดสักประเดี๋ยวก่อนสิครับ พวกท่านยังไม่วางใจสายตาในการมองคน ของพี่อีกเหรอ? ถึงเสี่ยวเป่าจะอยู่ที่บ้านของผู้หญิงคนนั้น แต่ว่า เขาก็จัดเตรียมบอดี้การ์ดไปคอยปกป้องดูแลอยู่หน้าบ้าน มัน ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นแน่นอน…….

แถม พวกท่านก็อยากที่จะหาพี่สะใภ้ให้พี่อยู่ตลอดด้วยไม่ใช่ เหรอไง? แต่ก่อนพี่น่ะ ต่อให้ใครเข้ามาก็ไม่สนทั้งนั้น ไหนจะ เสี่ยวเป่าไม่ชอบอีก ตอนนี้ก็มีผู้หญิงที่ทั้งสองคนต่างก็ไม่ขับไสไล่ ส่งเข้ามาแล้ว พวกท่านก็อย่าไปทำให้คนเขาตกใจกลัวหนีจาก ไปอีกได้ไหม? หรือว่าอยากจะเห็นพี่ของผมโสดไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ชอบผู้ชายด้วยกันอย่างนั้นเหรอ?”

“แต่ว่า……”

ทั้งสองยังคงไม่วางใจ

จิ้นเฟิงเหราพูดตัดบททันที ไม่ต้องมาแต่อะไรทั้งนั้น พี่ก็พูด แล้ว อะไรมันก็ยังไม่เกิดขึ้นทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ผมอาจจะเข้าใจผิด เรื่องแต่งงานอะไรนั่น เป็นเรื่องที่ผมคิดเอาเอง เสี่ยวเป่าของพวก เราก็แค่พักข้างนอกบ้านหนึ่งคืน พรุ่งนี้ผมกับพี่จะไปรับเขากลับ มาเอง พวกท่านดูสิ นี่มันก็ดึกมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ล่ะครับ”

พูดพลางใช้มือดันๆทั้งสองออกจากห้อง

คุณท่านจิ้นพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์”ไอ้ตัวดี เพิ่งจะพูดกันแค่ ไม่กี่ประโยค ก็ไล่พวกฉันกลับแล้ว”

“ใช่แล้ว โซฟายังไม่ทันร้อนเลย” คุณหญิงขึ้นมองเขาตาเขม็ง
จิ้นเฟิงเหรา พูดตอบ“จะมานั่งอะไรล่ะครับ พวกท่านมาหา หลานชาย ส่วนลูกชายก็น่าจะดูจนเบื่อแล้วแถมไม่อยากเจอแล้ว ด้วยใช่ไหมล่ะ ผมรู้ดี รีบกลับไปพักผ่อนดีกว่าครับ คนขับรถ กำลังรออยู่ข้างนอก

ทั้งสามคนดันๆผลักๆพากันออกไป ส่วนคนทั้งสองก็ถูกจิ้นเชิง เหราบนั่งเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว

หลังจากจัดการกับทั้งสองเสร็จแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็รีบวิ่งแจ้นไป เอาหน้าเอาตาทันที พี่ เป็นไงล่ะ ตะกี้ผมแสดงดีเยี่ยมเลยใช่ไหม ล่ะ?”

“ก็ไม่เลวนี่” จิ้นเฟิงเฉินพูดชมจากใจจริง

จิ้นเฟิงเหราปัดๆมือทันที แล้วยิ้มอย่าง ใสซื่อ “ถ้าอย่างนั้นก็ เห็นแก่การแสดงที่สุดแสนจะยอดเยี่ยมของผมเถอะ พี่บอกผม หน่อยสิ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ? เมื่อคืนผมแทบจะนอนไม่ หลับเลยทั้งคืนเลย”

จิ้นเชิงเฉินมองน้องชายของตัวเองด้วยสายตาเย็นชา ในห้อง หนังสือมีกองเอกสารอยู่หนึ่งกอง ถ้านอนไม่หลับ ก็ไปจัดการกับ เอกสารพวกนั้นซะ”

จิ้นเฟิงเหรารอยยิ้มหุบลงทันที ก้มหน้าลงพร้อมกับพูด บ่นๆ”ทำไมต้องเป็นความลับขนาดนี้ด้วย? แค่บอกผมมันจะ เป็นไรไป หลังจากนี้ก็ต้องขอให้ผมมาช่วยอยู่ดี”

จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้นอย่างดูแคลน เช่น?”
จิ้นเฟิงเหราดอกเงยหน้าพูดขึ้น เช่นพูดโน้มน้าวพ่อแม่! ถึง แม้ว่าตอนนี้พวกท่านจะถูกโน้มน้าวไปแล้ว แต่ว่า พรอดูให้ดี อีก เดี๋ยวพวกท่านสองคนจะต้องเกิดอยากรู้อยากเห็นว่าผู้หญิงคน นั้นเป็นใคร ต่อมาก็จะส่งคนไปตรวจสอบ พอตรวจสอบเสร็จ ไม่ แน่ก็อาจจะไปตามราวีเธอ พอถึงตอนนั้น ก็ต้องมาพึ่งน้องชาย ของพี่คนนี้ ให้ไปพูดโน้มน้าวพวกท่าน ดังนั้น…….พี่ก็บอกฉันมา เถอะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

จิ้นเฟิงเฉินฟังจบ ก็ไม่ยอมรับเลยแม้แต่น้อย ฉันก็ไปพูดโน้ม น้าวพวกท่านได้ แม้ว่าจะเอาไม่อยู่ ก็แค่พูดเรื่องการแต่งงานของ แก ถึงตอนนั้น พ่อแม่ก็ไม่เป็นห่วงเรื่องของฉันอีกต่อไปแล้ว

“เห้ย! ” จิ้นเฟิงเหราอารมณ์แทบจะประทุออกมา ชี้ไปที่พี่ชาย แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโหพี่ ใจจืดใจดีมากนะ! ผมยังเป็น น้องชายของพี่อยู่ไหม?”

“ก็ใช่ไง” จิ้นเฟิงเฉินยกมุมปากสวยๆขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนจะ ยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม แล้วถามขึ้นตอนนี้ ยังจะอยากรู้อีกไหมว่าเธอเป็น ใคร?”

จิ้นเฟิงเหราน้ำตาไหลอาบเต็มหน้า “ไม่อยากรู้แล้ว ไม่บอกก็ ช่างมัน”

ผมไปสิบเอาเองก็ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ