ตอนที่ 9 ทำไม่ง่ายเลยจริงๆ
ถังซิ่นตะลึงไปพักหนึ่ง ถึงได้เข้าใจแล้วว่าเมื่อกี้ทำไมเขาถึงมอง ท้องของเธอแบบนั้น เธอเป็นอายจนแก้มแดง “ไม่ใช่อย่างที่ ท่านประทานคิดหรอกค่ะ ฉันเพียงแค่กินเยอะในตอนเช้า ก็เลย ไม่ค่อยสบายท้องเท่าไหร่
เฉินหยวนก้มหัวลง ยังมีเวลาพินิจพิเคราะห์ถังซิน เมื่อเทียบ กับสภาพที่บาร์ในวันนั้น สวมเดรสสายเดี่ยว เมามายไร้สติ ทั้ง ตัวมีเสน่ห์ทำให้คนหลงใหล ใจกล้ากระโจนมาบนร่างของเขา ช่างมีความแตกต่างกันจริงๆ
ครั้งนี้เธอได้สวมชุดสูทสีเทา รูปร่างเพรียวบางสะสวย เท้า สวมรองเท้าส้นสูงสีอ่อนคู่หนึ่ง กร้าวผมแต่งกายเป็นหญิงสาว มาดมั่น เธอก้มหน้าลงต่ำ เหมือนจะไม่กล้าจ้องมองเขาโดยตรง ไม่มีแม้กลิ่นหอมที่โชยเข้าจมูกของเขา ส่วนล่างของชาย หนุ่มก็ดึงขึ้นมา หญิงสาวผู้นี้ช่างงดงามเหลือเกิน เขาเคยได้ลิ้ม ลองที่ห้องของโรงแรมในคืนนั้น
“มู่หยางซิวเป็นหลานของผมในนาม คุณไม่ต้องเรียกผมว่า คุณอาหรอก” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ ยิ่งเขยิบเข้าไปหาถังซันจน ใกล้ “ก็ตอนที่คุณอยู่ที่บาร์แบบนั้นไง?
ถังซิ่นตะลึงจนสมองว่างเปล่า
คืนนั้น เธอถูกมหยางชิวกับแม่สามีบีบบังคับ จึงคิดผิดไปบาร์ เพื่อปลดปล่อย ที่จริงเป็นแค่อารมณ์อยากจะเอาคืนหยางชีวเธอก็เคยเสียใจที่ทำผิดไป แต่ไม่คิดว่าจะผูกความสัมพันธ์กับ เงินหยวน
เธอคิดว่าผ่านไปครึ่งเดือนกว่าแล้ว เฉินหยวนคงลืมเรื่องนั้น ไปหมดแล้ว
…คุณอาม ขอโทษค่ะ” ถังซินเดินถอยหลังไม่กี่ก้าว ขาก็มี อาการสั่น “ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเป็นคุณจริงๆ เพียงแต่เห็นรูปร่าง ของคุณดูดี ตอน…ตอนนั้นก็เลยหน้ามืดตามัว”
เฉินหยวนไม่พูดอะไร เพียงเพ่งมองเธอ บรรยากาศดูอึดอัด ในใจถึงซินรู้สึกกลัว หลังจากเฉินหยวนถึงมือกลับไป เธอจึง ถอนหายใจหนึ่งครั้ง วินาทีต่อไป ก็ได้ยินเฉินหยวนถามแบบไม่ สนใจไยดีว่า “ฉันทราบมาว่า คุณกับมหยางซิวแต่งงานกันมาก ว่าแล้ว”
ถังซินรู้ความนัยของคำพูดว่าหมายถึงอะไร ทำไมแต่งงา นกับปูหยางซิวมาปีกว่าแล้วยังสะอาดบริสุทธิ์ ถังซันคิดถึงเรื่อง นั้นของมู่หยางซิว เพียงได้แต่ฝืนยิ้มแล้วตอบเสียงเบา ๆ “อืม” แล้วก็รับเปลี่ยนประเด็นสนทนา
“ท่านประทานมู่ ฉันมีของจะให้คุณ
ถังในควานหาของในกระเป๋า อยากจะเอากระดุมแขนเสื้อเม็ด นั้นคืนให้เฉินหยวน ช่างบังเอิญมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามา พอดี
เป็นน้องสาวคนเล็กชื่อ กวนหลิงเอ๋อ
ถังขนพูดขออภัยมู่เฉินหยวน แล้วถือโทรศัพท์ไปรับอีกฝั่ง แล้ว กดเสียงต่ำา “อะไรเหรอ? ”
“พี่คะ ฉันโทรหาพี่หลายครั้งแล้วทำไมไม่รับสาย
“วันนี้ฉันมีธุระ เลยปิดเสียง เธอมีเรื่องอะไรพูดมา
“คุณแม่หกล้มขาหัก รู้หรือเปล่า? “ค่าพูดนั้นดูเหมือนกวน หลิงเอ๋อกำลังกล่าวโทษ “ที่จริงฉันต้องไปแคสติ้งบทสำคัญ แต่ ต้องกลับมาดูแลคุณแม่ เลยต้องทิ้งบทนั้นไป! ”
กวนหลิงเอ๋อ ให้ถังซินรีบมาโรงพยาบาล แล้วนําเงินสดติดตัว มาเยอะ ๆ พูดไม่กี่ค่า ถังนก็วางสาย
“ท่านประทานมู่ ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันมีเรื่องด่วนจะต้องรีบ ไป” เพราะว่าเป็นห่วงคุณแม่ น้ำเสียงของถังซินเปลี่ยนเป็นเสียง กระวนกระวาย “บ้านของฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย
เสียงสนทนากันเมื่อกี้ เฉินหยวนก็ได้ยินอยู่บ้าง เมื่อเห็นถึง ซินดูมีความกังวลแบบนั้น เขาก็ตัดความคิดที่จะถามถึงซินให้ ถึงที่สุดออกไป “อืม ไปเถอะ
“ขอบคุณมากค่ะท่านประทาน” ถังซินจึงรีบเดินจากไป ลืม เรื่องที่จะคืนกระดุมแขนเสื้อให้เฉินหยวนทันที
ผู้ช่วยเสร็จจากทำธุระเร็วมาก เมื่อเฉินหยวนกลับออกมา เขาก็ส่งตัวแทนของสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ท่านประทาน ผลการทดลองพืชชนิดนั้นออกมาแล้ว” ผู้ช่วย จางเอาข้อมูลที่ถืออยู่ในมือส่งให้เฉินหยวน ในน้ำเสียงมีความตื่นเต้นแบบเก็บอาการไม่ได้ เหมือนที่ท่านได้คาดเดาไว้เลย
ครับ
เฉินหยวนเปิดเอกสาร สายตาค่อยๆ เลื่อนลงมา
เมื่อดูค่าตัวเลขสำคัญของการทดลอง เขาไม่ดีใจเหมือนกับผู้ ช่วยจาง เพียงแต่พูดว่า “แม้ว่าพวกเราจะหาเจอ คนกลุ่มอื่น อาจจะหาได้เจอเหมือนกัน คุณรีบจัดการแบบลับ ๆ หานักแปล หนึ่งคนรีบเดินทางไปต่างประเทศกับฉัน รีบไปเซ็นต์สัญญาก่อน คนอื่น”
ผู้ช่วยจางไม่ตอบรับในทันใด แสดงสีหน้าลำบากใจออกมา
มู่เฉินหยวนเหลือบไปมองเขา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมหล่ะ เรื่องง่ายๆ แค่นี้มันยากเหรอ?
“ท่านประทาน ทำได้ยากจริง ๆ” ผู้ช่วยจางสีหน้าเคร่งขรึม “คนหมู่บ้านนั้นพูดได้แต่เพียงภาษาอูเค่อป๋อ แต่ในหนังสือมี ภาษาของคนกลุ่มน้อยนี้ ซึ่งในโลกนี้ไม่มีใครที่จะสามารถแปล ได้”
สีหน้าเฉินหยวนซีเรียสขึ้นมาทันที
เขาก็ลืม โดยสนิทเลย ถ้าสามารถสื่อสารกับคนในหมู่บ้านนั้น ได้ พืชชนิดนั้นก็ถูกคนอื่นซื้อไปแต่แรกแล้ว
ครุ่นคิดสักครู่ เฉินหยวนก็ปริปากพูดว่า “คุณแอบไปถาม อาจารย์ของนักเรียนที่โรงเรียนแปลภาษา ในเมื่อมีภาษาแบบนี้ ในหนังสือก็ต้องมีเบาะแสไม่มากก็น้อย”
“ได้ครับ ฉันจะรีบไป” ผู้ช่วยจางพยักหน้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ