รักนายมันเจ็บเหลือเกิน

บทที่ 6 เธอก็เป็นได้แค่หมาที่อยู่ใต้เท้าฉันไปตลอดชีวิต



บทที่ 6 เธอก็เป็นได้แค่หมาที่อยู่ใต้เท้าฉันไปตลอดชีวิต

“ถ้าตอนนี้เธอยอมคุกเข่าขอร้องฉันละก็นะ ฉันจะยอมพาเธอ เข้าไปก็ได้” วิคจากอดอกมองเหยียด “ไม่อย่างนั้น ตลอดชีวิตนี้ ของเธอก็อย่าหวังว่าจะได้พบเซนอีก!

รสรินกัดปากตัวเองแน่น ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา

เธอมักจะตกหลุมพรางของวิคณาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าครั้ง นี้เธอจะพลาดท่าอะไรอีกหรือเปล่า เธอจะไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

แต่ว่า…

ลูกสาวของเธอยังจําเป็นต้องใช้เงินรักษา ไหนจะเรื่องบริษัท ของพ่อเธออีก เธอรอไม่ได้แล้ว…

เธอไม่มีเวลาแล้ว

“ไม่เต็มใจหรอ งั้นก็เชิญรอต่อไปแล้วกันนะ” วิคณาพูดก่อนจะ หมุนตัวหลับ

“รอเดี๋ยว!” รสรินร้องเรียกเธอเอาไว้ พยายามข่มใจตัวเอง อย่างขมขื่น “ฉันขอร้องละ พาฉันเข้าไปเถอะ”

วิคณายิ้มเยาะอย่างพอใจ ก่อนจะยื่นรองเท้าคู่สวยออกไปข้าง หน้า “ขอร้องอย่างนี้ดูไม่จริงใจเลยนะ คุกเข่าลง แล้วเช็ด รองเท้าฉันให้สะอาด หลังจากนั้นโขกหัวให้ฉันสามครั้ง แล้วฉัน จะพาเธอเข้าไป
รสรินกําหมัดแน่น เล็บของเธอจิกเข้าไปในเนื้อจนเลือดไหล

ซึม แต่เธอก็อับจนหนทางแล้วจริง ๆ “ยัยร้น ความอดทนของฉันมันมีจํากัดนะ!”วิคณาประกาศ

กร้าว

เพื่อลูก เพื่อบริษัทของพ่อ…

รสรินข่มตาลงอย่างอดกลั้น ก่อนจะคุกเข่าลงอีกครั้ง พร้อม เอามือไปทําความสะอาดรองเท้าให้วิคณา หลังจากนั้นก็โขกหัว สามครั้งให้กับเธอ

“ขอร้องละ พาฉันเข้าไปด้วย

วิคณายกรองเท้าส้นสูงของเธอขึ้น ก่อนจะเหยียบมันลงบนหัว ของรสริน

“รสริน เธอจําเอาไว้ให้ดี ตลอดชีวิตนี้เธอมันก็เป็นได้แค่หมาที่ อยู่ใต้เท้าฉันเท่านั้นแหละ! อย่าได้คิดมาแกร่งแย่งกับฉัน เพราะ แกมันไม่คู่ควร!” วิคณาเอ่ยถ้อยคำดูถูกออกมา “แม้แต่ของ เหลือใช้จากฉัน เธอก็ไม่มีสิทธิ์! รู้ใช่มั้ย?”

รสรินกัดปากตัวเองแน่นอย่างคับแค้นใจจนเลือดไหลซึม

“ฉันรู้”

“หึ” วิคณายอมยกเท้าออก “ไปกันเถอะ ฉันจะเมตตาพาเธอ เข้าไปเอง”

เมตตางั้นหรอ?
เธอไม่รู้มาวิคณามีสีหน้ายังไงตอนที่พูดคำนี้ออกมา

รสรินเช็ดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะเดินตามวิคณาเข้าคฤหาสน์

ไป

“เซน…” เธอเปิดเข้าไปในห้องสมุด ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ เซนเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า รสรินเห็น สีหน้าของเขาช่วงดูอบอุ่นและอ่อนโยน “วิ..

ก่อนหน้าเข้าจะเย็บชาไปทันตาเมื่อมองมาเห็นรสรินที่อยู่ ด้านหลังของวิคณา

“รสริน เธอเข้ามาทำอะไร?”

“วิเป็นคนพาเข้ามาเองค่ะ” วิคณาเดินเข้าไปยืนด้านหลังของ เขา ก่อนจะเอามือลูบไหล่ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “เธอบอกว่าเธอมา หาคุณเพื่อขอหย่า จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้อยากพาเธอเข้ามารบก วนคุณหรอกนะคะ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะถึงกลับคุกเข่าขอร้อง ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็จะหย่ากับคุณให้ได้”

ดวงตาคมกริบของเซนหลตามองไปทางรสรินอย่างไร้อารมณ์ “เธออยากจะหย่างั้นหรอ?”

รสในกำมือแน่นก่อนเอ่ยตอบ “ใช่ ฉันจะหย่ากับคุณแล้วจะไม่ มาวุ่นวายเรื่องของคุณกับวิคณาอีก และฉันก็หวังว่าคุณจะไม่มา ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของฉันและครอบครัวฉันอีก ปล่อยให้พวกไป ตามทางของพวกเราพอ”
เซนยิ้มเยาะ สายตาที่มองมาดูอำมหิตอย่างกับปีศาจร้าย

“หย่าก็ได้ ปล่อยเธอกับครอบครัวเธอไปก็ได้” เซนพูดทีละคำ

อย่างชัดเจน แต่ชีวิตยัยเด็กที่เธอคลอดออกมา ฉันปล่อยไว้ไม่

ได้!” รสรินตกตะลึงใจหายวาบ “ลูกสาวของฉัน เขาก็เป็นเลือดเนื้อ

เชื้อไขคุณนะ!”

เซนตอบกลับมาอย่างไร้อารมณ์ “รสริน เธอยังจะให้ฉันต้อง พูดอีกกี่รอบ? เด็กนั้นมันก็เป็นแค่สิ่งที่ฉันรังเกียจ ฉันไม่มีวัน ยอมรับเป็นลูกฉันหรอกนะ!”

รสรินไม่เข้าใจในเหตุผลของเขาแม้แต่น้อย เธอเพียงคาดไม่ ถึงว่าเข้าจะเป็นคนโหดร้ายถึงเพียงนี้

“ถึงยังไงลูกก็ไม่ผิด คุณไม่ยอมรับเขาก็ไม่เป็นไร ฉันจะพาเขา

ไปแล้วไม่กลับมารบกวนคุณอีก…

“รสริน!” เซนตะโกนขัดจังหวะอย่างโมโห “เธอฟังภาษาคนไม่ เข้าใจหรอ? ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ต้องการยัยเด็กไร้ค่านั้น ต่อ ให้เด็กนั้นจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันก็ไม่ได้! เด็กนั้นต้องไม่มี ชีวิตอยู่บนโลกนี้!”

รสรินตะลึงจนตัวชาวาบ

ต้องไม่มีชีวิตอยู่…

“ถ้าเธอจะขอร้องให้ช่วยบริษัทพ่อเธอ ก็เอาชีวิตเด็กนั้นแลก! แค่เธอยอมลงมือฆ่าเด็กเอง ไม่เพียงแต่ฉันจะปล่อยเธอไป แต่ยังรวมถึงบริษัทของครอบครัวเธอด้วย แล้วฉันยังจะให้เงินเธอไป อีกสิบล้าน! เป็นการต่อรองที่คุ้มค่าจะตาย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ