รักนะ นายขี้หึงของฉัน

บทที่9 โทรศัพท์ที่มาแบบกะทันหัน



บทที่9 โทรศัพท์ที่มาแบบกะทันหัน

บทที่9 โทรศัพท์ที่มาแบบกะทันหัน

“พี่คะ นี่ถือว่าพี่กำลังขู่ฉันอยู่หรอ? ถ้าอิงตามสภาพของ พี่ในตอนนี้แล้ว พี่มีความกล้ามาจากไหน?” สศิชาหัวเราะ แบบไม่เกรงใจ

“สศิชา เรื่อง วๆที่พวกเธอสองแม่ลูกทำไว้ ไม่กลัวกรรม จะตามสนองหรอ?” รินรดาพูดกลับอย่างรุนแรง

“กรรมตามสนอง? พี่ไม่ลองมองตัวเองในตอนนี้ แล้วจะ เป็นกรรมสนองแบบไหน? ฉันสศิขาใช้ชีวิตที่ดีแบบนี้ นี่ก็ คือกรรมตามสนองหรอ?”

“ไม่ใช่ยังไม่สนอง แต่แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง!”

รินรดาพูดไว้คำนึง แล้วก็หันหลังเดินจากไป เธอไม่ อยากยืดเยื้ออยู่ตรงนี้นานๆ

“รินรดา เธออยากมาก็มา อยากไปก็ไป! เธอคิดว่าที่ของ ฉันคืออะไร?”

ด้านหลังมีเสียงที่เย็นชาของชฎายุ รินรดาหันกลับไป ก็สบตากับเขา
แววตาของรินรดาไม่แสดงถึงความกลัว แต่เต็มไปด้วย ความดื้อดึง

สศิชายืนอยู่ข้างๆของชฎายุ ทำเหมือนนกที่พึ่งพิงคน มองรินรดาด้วยความท้าทาย

เธอชอบความรู้สึกที่แย่งผู้ชายของพี่สาว และมีผู้ชาย ของพี่สาวคอยปกป้องเธอ

“ชฎายุ นายจะเอายังไง?” รินรดาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย

ในแววตาของชฎายุเต็มไปด้วยไฟความโกรธ จับใบหน้า เล็กๆของสศิชาแล้วถามว่า “ที่รัก เธอว่า จะทำโทษเธอยัง ไงดี?”

“อุ๊ย! วันนี้ตอนเช้าเธอตบเขาไป1ที เขาจะเอาคืนเธอสิบ เท่า!” สศิชาพูดอย่างออดอ้อน

พอฟังสศิชาพูดจบ ชฎายุเงยหน้ามองรินรดา “ได้ยิน มั้ย? เธอจะทำเอง หรือว่าจะให้ผมช่วย

“นาย พวกเธออย่าทำเกินไปนะ! ต้องมีใครตายสักคนใช่ ไหม ฉันรินรดาก็ไม่กลัวพวกเธอหรอก!”

ยอมเป็นเศษหยกก็ไม่ยอมเป็นเศษกระเบื้อง! รินรดาก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ ยอมรับการกลั่นแกล้งแบบนี้!

“ใช่หรอ? เมื่อก่อนฉันไม่เคยบังคับนายเลย! แค่ว่า ฉัน คิดว่าตอนนี้นายควรทำความรู้จักฉันใหม่!”

ชฎายุเต็มไปด้วยไฟโมโห ก็จะพยายามค่อยๆบังคับขู่รี นรดา รินรดาก็เตรียมพร้อมที่จะสู้อย่างสุดแรงไว้แล้ว

ในห้องทำงานนี้ ดูอึดอัดมาก แต่สศิชากลับใช้ความรู้สึก สบายๆมองดูเหตุการณ์ในตอนนี้

เธอไม่ยอมปล่อยโอกาสใดที่จะสามารถกดขี่

รินรดาไปสักครั้ง

เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น ทำให้สถานการณ์ที่เคร่งเครียด แบบนี้ค่อยๆหายไป ชฎายุเอาโทรศัพท์ออกมารับสาย

จากนั้นไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมา ถึงกับแสดงสีหน้าที่ดูกังวล

สศิชาที่รู้สึกแปลกๆ ก็รีบถาม “ชฎายุ มีอะไรหรอ?”

ชฎายุไม่ได้ตอบสศิชา แต่กลับเงยหน้าขึ้นมองรินร ดาแล้วพูด “เธอไปเถอะ!”
รินรดาที่นิ่งๆ ไม่รู้ว่าสายเข้าเมื่อสักครู่คือใครโทรมา ตกลงทำให้เกิดผลขนาดนี้

สศิชาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ “ชฎายุ นายจะปล่อยเธอ ไปแบบนี้เลยหรอ?”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ใหเธอไป!” ชฎายุพูดส่งๆไป

“ชฎายุ ถึงแม้ว่าวันนี้นายจะปล่อยฉันไป แต่ฉันก็ไม่รู้สึก ขอบคุณนายสักนิดเลย พวกเธอต้องได้รับกรรมที่ทำไว้

รินรดาไม่ได้กลัวเลย แต่กลับตอกกลับแรงๆ

สีหน้าของชฎายุเปลี่ยนไป ไม่ได้ตอบอะไรรินรดา เขารู้ ดีว่าถ้าต่อไปเจอเธอ เธอก็คงคิดว่าเขาเป็นศัตรูของเธอ

แต่ว่า ในสถานการณ์แบบนี้ เขาทำได้แค่เลือกแบบนี้

รินรดาออกจากนั้นโดยการส่งทางสายตาของชฎา ยุและสศิชา พอออกจากห้องทำงาน เธอค่อยสบายใจขึ้น

ในสถานการณ์ตอนนั้น บอกว่าไม่กลัวก็คงไม่จริงเพราะเธอกําลังเผชิญหน้ากับสศิชาและชฎายุสองคน

ถ้าตอนจบสุดท้ายแล้วกลายเป็นสถานการณ์ที่จบดีไม่ ได้ คนที่เสียเปรียบก็คงเป็นเธอ

แต่ว่า สายนั้นใครเป็นคนโทรมา?ต้องเป็นเพราะ โทรศัพท์ที่โทรมาสายนั้นแน่เลย ที่ทำให้ชฎายุไม่ได้ทำ อะไรเธอ

พอเดินออกมาจากตึกเขียนหนังสือของชฎายุ ธีรโรจน์ ก็รออยู่บนรถ พอเห็นเธอเดินมา ก็ลงจากลงไปเปิดประตู ให้เธอเลย

“คุณหนูใหญ่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” ธีรโรจน์ถาม “ไม่เป็นไร เมื่อครู่นายโทรหาใคร?” รินรดาถามเขา

พอรินรดาถามมากะทันหัน ธีรโรจน์ก็ตกใจ เธอคงจะยัง ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณติณห์เร็วขนาดนี้มั้ง?

“เพื่อนคนหนึ่ง คุณหนูใหญ่ คุณไม่ได้เป็นไรใช่ไหม?” ธีรโรจน์ก็ถามขึ้นมาอีก

“อ๋อ เมื่อกี้ที่ชฎายุเกิดอะไรขึ้นนิดหน่อย ดีที่โทรศัพท์สายนึงมาช่วยไว้ ฉันคิดว่านายเป็นคนโทร” รินรดายัง นึกถึงเรื่องนั้นอยู่

“อย่างนั้นคงไม่ใช่ผมแน่”

ธีรโรจน์ปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ว่าในใจของเขาเหมือนจะเดา ได้ว่าใครเป็นคนโทร

“คุณหนูใหญ่ ตอนนี้จะไปไหน?” ธีรโรจน์จับที่พวงมาลัย แล้วถาม

“นายไปส่งฉันที่คุณทนายไวทินอยู่”รินรดาตอบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ