บทที่7 ความปลอดภัยของเธอสำคัญกว่าทุกอย่าง
บทที่7 ความปลอดภัยของเธอสำคัญกว่าทุกอย่าง
“ไอ่คนทรยศ! พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทํางานในบริษัทแล้ว! แก ถูกไล่ออก!”
อธิชาถลึงตา ตะโกนเสียงดังใส่ธีรโรจน์ ทำให้คนรอบ ข้างหัวเราะสมเพช
“ผู้หญิงคนนี้ ทำไมไม่มีเหตุผลขนาดนี้”
“จากการพูดและการกระทำ ก็คงไม่ใช่คนดี”
คำพูดดของคนอื่น ทำให้อธิชาหน้าเสีย เธอเลยทำตัว อันธพาล “นี่เป็นเรื่องของตระกูลบวรพลของฉัน คงไม่ถึง กับต้องให้คนนอกอย่างพวกแกมายุ่งด้วย?”
“แยกย้ายเถอะ แยกย้าย ไปทํางานของตัวเองเถอะ!” คนที่อยู่ด้านนอกใส่เสื้อกาวน์สีขาวหัวหน้าแผนก ตะโกน บอกคนที่ล้อมรอบอยู่
ผู้คนที่แยกย้าย ก็แสดงอาการดูถูกกับอธิชาที่ไม่มีเหตุผล
“คุณผู้หญิง ผมทำงานให้กับบริษัทของท่านประธาน ไม่ ใช่แค่จ้องเล่นงานแค่คุณคนเดียว” ธีรโรจน์พูดอย่างมี เหตุผล
“หึ! อธิบายก็ไม่มีประโยชน์ ฉันเคยบอกแล้ว นายถูกไล่ ออกแล้ว!”
พออธิชาพูดจบ ก็จ้องที่รินรดา และก็ไม่ได้ยึดเยื้อกันต่อ หันไปทางห้องพักผู้ป่วยvipแล้วเดินไป
เพราะเวลาที่เร่งรีบ เธอต้องทําให้ทยากรเปลี่ยนการ ตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นความพยายามของเขาทั้งสองแม่ลูก ก็คงจะสูญเปล่า
“ธีรโรจน์ ขอโทษนะ เป็นเพราะฉันเอง คุณเลยตกงาน นรดาพูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
“คุณหนูใหญ่ ไม่เป็นไรเลย บริษัทไม่ใช่ของเธอ ตอนนี้ ทั้งบริษัทต่างก็ไม่ชอบสองแม่ลูกนี้ บอกว่าพวกเธอไม่รู้ เรื่องการจัดการบริษัท แต่ก็มายุ่งเรื่องในบริษัทมากเกิน ไป”
พวกรินรดาเองก็เข้าใจ สองแม่ลูกก็คงเห็นว่าพ่อเหลือ เวลาไม่มากแล้ว อยากจะรีบเข้าไปจัดการบริษัท ทำให้บริษัทอยู่ในการดูแลของตัวเอง
“มีดีคนก็ช่วย ไม่มีดีคนก็ไม่ช่วย ฉันว่าสองแม่ลูกนั้นก็ คงจะไม่ได้สักกี่วันหรอก!” รินรดาพูดอย่างโมโห
“คุณหนูใหญ่ พวกเราต่างก็หวังอยากจะให้คุณมารับช่วง ดูแลเรื่องในบริษัทต่อ ผมรู้ว่าคุณมีเมตตาใจกว้างกับผู้อื่น ขอแค่คุณยอมที่จะรับช่วงต่อ ลูกน้องอย่างพวกผมก็จะ รวมตัวกันอยู่รอบๆตัวคุณ ช่วยคุณ!”
ครั้งแรกเธอยังคงลังเลกับพินัยกรรมของพ่อ แต่ว่า พอได้ยินธีรโรจน์พูดอย่างนี้แล้ว ในใจของรินรดาก็ผ่อน คลายขึ้น
ถึงจะพูดยังไง ก็คงจะไม่ปล่อยสองแม่ลูกนั้นไปง่ายๆ บริษัทเป็นเลือดเนื้อชีวิตของพ่อ ไม่ควรปล่อยให้พวกเธอ ทำอะไรเด็ดขาด
“อืม ความหมายของพ่อก่อนตายก็คือแบบนี้ รอฉันมี เวลาไปคุยกับทนายไวทิน!” รินรดาพูด
“คุณหนูใหญ่ คุณคิดแบบนี้ก็ถูกแล้ว อีกอย่าง ในช่วง เวลาที่ท่านประธานพักรักษาตัวในโรงพยาบาล พูดถึง บ่อยที่สุดก็คือพวกคุณสองแม่ลูก ท่านรู้สึกผิดต่อพวก คุณจากใจจริงๆ อยากจะ อยากจะทดแทนคุณ”
“ฉันรู้” รินรดากดความรู้สึกเสียใจในใจไว้แล้วพูด
ก้าวต่อไปที่เธอกำลังคิดอยู่ก็คือ ต้องหย่ากับชฎายุก่อน แล้วก็เอาเวลาทั้งหมดมาจัดการเรื่องบริษัทของพ่อ
ในเมื่อทุกคนต่างสนับสนุนเธอ เธอเองก็มีกำลังใจในการ รับช่วงต่อพ่อของเธอ ให้สองแม่ลูกนั้นเสียแผน
“ฉันมีเรื่องนิดหน่อย ไปจัดการก่อนนะ กลับมาแล้วจะไป หาทนายไวทิน” รินรดาพูด แล้วเดินไปทางลิฟต์
“คุณหนูใหญ่ นี่จะไปไหน? ผมขับรถไปส่งคุณ!”ใน ระหว่างที่ ธีรโรจน์พูดอยู่ด้านหลังของเธอ
ได้ฟังคำของธีรโรจน์ รินรดาก็หยุดเดิน คิดสักพัก
“ขอบคุณนะ ฉันจะไปบริษัทของชฎายุ นายสะดวกที่จะ ไปส่งไหม?”
“ไม่มีปัญหา เมื่อก่อนผมทำตามที่ท่านประธานสั่ง ต่อ
ไปนี้คำสั่งของคุณก็คือคำสั่งของท่านประธาน”ธีรโรจน์ ใช้แววตาที่หนักแน่นมองเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความ ซื่อสัตย์
ในแววตาของรินรดาก็ฉายแววขอบคุณและชื่นชอบไม่น้อย ในสมัยนี้ทุกคนต่างก็ทำเพื่อกำไรผลประโยชน์ กัน คนที่ซื่อสัตย์นั้นมีไม่มากแล้ว
ธีรโรจน์ขับรถพารินรดาไปส่งที่บริษัทของชฎายุ ในใจก็ รู้สึกไม่ไว้วางใจ ก็เลยรออยู่ข้างล่างบริษัท
ก่อนเข้าไป เขากำชับรินรดา “คุณหนูใหญ่ ถ้ามีเรื่อง อะไรต้องบอกผมทันที”
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้พวกเขาคงยังไม่กล้าทำอะไรฉัน”
“รินรดายิ้มออกมาอย่างสบายใจ หันหลังเดินไปทางห้อง ทำงานของชฎายุ
เห็นร่างของรินรดาหายเข้าไปในบริษัทสนิคม พอหาย ไป เขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“คุณติณห์ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้คุณหนูรินรดา ปลอดภัยดี!เสียงของเขาถ่อมตัวมาก
“ อืม มีเรื่องอะไร ต้องบอกผมในเวลาแรกเลย! อย่างอื่น ผมยังไม่ยุ่ง ต้องแน่ใจว่าเธอปลอดภัย!”
เสียงในสายก็ดูเย็นชา แต่สิ่งที่ได้ยินคือเขาอยากจะปกป้องคนที่อยู่ในใจของเขา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ