มัจจุราชทะเลทราย

ตอนที่ 1 ของฝากจากเมืองไทย



ตอนที่ 1 ของฝากจากเมืองไทย

ภายในผับหรูแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา แสงไฟสลัวและ หลากสีทําให้ด้านในดูไม่มืดและมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ลางๆ เสียงเพลงที่ดีเจเปิดก็เป็นเพลงสากลที่ไม่เร็ว และไม่ช้าจนเกินไป ทำให้ฟังแล้วผ่อนคลาย ผู้คนภายใน ผับแห่งนั้นก็ดูไม้วุ่นวายมากนัก ทุกคนไม่มีใครสนใจใคร นอกจากคนที่มาด้วยกันทำให้ดูเป็นส่วนตัว สําหรับคน ที่ไม่ชอบผู้คนที่จอแจ และจุดประสงค์ของทุกคนที่มาที่นี่ ก็เพื่อพักผ่อนหย่อนคลายสมอง รวมไปถึงชายหนุ่มต่าง ชาติกลุ่มนี้ด้วย

กาเลนยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นจิบ ปกติเขาไม่ใช่คนชอบ ของมึนเมานอกเสียจากจะเข้าวงสังคมหรือสังสรรค์กับ เพื่อนฝูงเท่านั้น วันนี้เขาลูกน้องคนสนิทของตัวเองมานั่ง ฟังเพลงและจิบกันเล็กๆ น้อยๆ ที่ผับแห่งนี้ก่อนจะเดินทาง กลับประเทศในช่วงสายๆ ของพรุ่งนี้

“อยากดื่มอะไรสั่งตามสบายเลย” เขาบอกสั้นๆ สายตา ที่คมกริบราวกับมีดแต่เย็นชาคู่นั้นมองนิ่งไปยังฟลอร์ เต้นรำที่มีคู่ชายหญิงวาดลวดลายกันอยู่หลายคู่ โดยไม่ สนใจสายตาของพวกสาวแก่แม่หม้ายที่มองจ้องเขาเขม็ง เหมือนกับอยากจะเข้ามานั่งบนตักแล้วลูบไล้ใบหน้าคม เข้มนั้นเสียเหลือเกิน คิ้วหนาดกดำกับผมซอยสั้นทำให้ ใบหน้าของเขาดูดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

หลังจากเสร็จจากงานที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาถึงประเทศไทย เขาก็พาลูกน้องทั้งสองคนที่ติดตามมาคอย ปกป้องเขามาเที่ยวพักผ่อน เพราะใครๆก็รู้ว่าถ้ามาเมือง ไทยก็ต้องมาเที่ยวที่พัทยาถึงจะคุ้มค่า ที่นี่มีทั้งแสง สี เสียง สุราและนารีเพียบพร้อม ถึงเขาจะไม่ใช่พวกที่เจ้าชู้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านพวกผู้หญิง จะมีบ้างก็บางครั้ง เท่านั้น แต่ก็เฉพาะกับผู้หญิงที่เต็มใจเท่านั้น

สุนีย์ก็เป็นหญิงสาวอีกคนที่จ้องมองไปยังกลุ่มของชาย หนุ่มหล่อทั้งสามคน ชญานันท์หันไปมองตามสายตาของ เพื่อนสาว เธอยอมรับว่าพวกผู้ชายต่างชาติพวกนั้นดึงดูด สายตาของพวกสาวๆ ในผับนี้ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ สวมเสื้อยืดสีดำที่นั่งไขว้ขาอยู่ ผิวสีแทน ผมถูกซอยสั้น รับกับใบหน้าที่ได้รูป คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ท่าทาง ของเขาราวกับพญาราชสีห์ก็ไม่ปาน ดูน่าเกรงขามและ น่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่ผู้ชายยิ่งหล่อยิ่งอันตราย เธอ เคยเห็นมามากแล้ว ชญานันท์นึกค้อนอยู่ในใจก่อนจะหัน กลับมามองทางเพื่อนสาวที่นั่งมองตาเยิ้มอยู่ข้างๆ

“สนใจคนไหนล่ะฉันจะได้ไปขอให้”

“บ้า” คนถูกแซวหันมายิ้มกับเพื่อนรัก

“บ้าอะไร ก็ฉันเห็นเธอนั่งมองพวกเขาตาไม่กระพริบ เลย จะหิ้วกลับไปสักคนไหมล่ะ?” หญิงสาวพูดปนหัวเราะ ก่อนจะหันไปมองทางประตูทางเข้าผับเพื่อหาอะไรบาง อย่างก่อนจะหันกลับมาทางเพื่อนสาวอีกคน
“แล้วเมื่อไรเจ้าภาพของงานจะมาเนี่ย ทำเป็นพวกตัว สำคัญไปได้ ต้องให้ชาวบ้านเขามารอ” ชญานันท์บ่น อย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวก็คงจะมา ใจเย็นๆ ก่อนน่า” สุนีย์แตะแขนเพื่อน สาวเบาๆ

สุนีย์เป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตา ผิวขาวอมชมพูผมสั้น แค่ไหล่ ใบหน้ายาวรูปไข่ ส่วนคนที่หญิงสาวกล่าวถึงเมื่อ ครู่จะเป็นหญิงสาวที่สวยแบบฉูดฉาด ดูเปรี้ยวและเหย่อ หยิ่ง ส่วนอีกสาวหนึ่งดูเรียบๆ ผิวสีคล้ำกว่าสองสาว ผม ดู๋หยักศกยาวแค่หลัง คิ้วเรียวยาวดำอย่างเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากเรียวเข้ารูป แต่สิ่งที่สามสาวมี เหมือนกันก็คือรูปร่างสูงเพรียวที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นนาง แบบได้สบายๆ

ฮิสมานั่งมองไปยังโต๊ะของหญิงสาวอีกฝั่งนิ่ง ท่าทาง สนใจนั้นทำให้ผู้เป็นเจ้านายต้องหันไปมองตามสายตา ของลูกน้อง และสิ่งที่เขาเห็นก็คือหญิงสาวสองคน คน หนึ่งผิวขาวเนียน สวยสะดุดตา ส่วนอีกคนผิวคล้ำกว่า แต่ ดูสวยคมไปอีกแบบ

“สนใจหรือไง?” เขาหันมาถามลูกน้องพร้อมกับอมยิ้ม

“ก็ไม่เชิงครับ แต่พวกเธอก็ดูน่าสนใจกว่าผู้หญิงกลุ่มอื่น ไม่ใช่หรือครับ” ฮิสมาบอกพร้อมกับเหลือบหางตามามองทางนายหนุ่ม

“ใช่ แต่ดูพวกเธอจะเจนจัดไม่เบา ไม่งั้นก็คงไม่มาเที่ยว ในที่แบบนี้หรอก” ชายหนุ่มให้ความเห็นก่อนจะยกแก้ว บรั่นดีขึ้นดื่ม

“แต่ผมว่าคนที่มาใหม่ เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดน่าดูเลยนะครับ นาย” โซฮันกุ้ยปากไปทางโต๊ะของพวกหญิงสาวที่พวก เขากําลังใช้สนทนากัน ทั้งสามหนุ่มหันไปมองพร้อมกัน

กิตติมาอยู่ในชุดเดรสสั้นเลยเข่าสีแดงสดเข้ากับริม ฝีปาก ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มเอาไว้อย่างบรรจง หญิง สาวนั่งลงข้างๆกับเพื่อนสาวที่ชื่อสุนีย์ ก่อนจะมองปราด ไปที่ชญานันท์

“ไม่คิดว่าเธอจะมาด้วย เพราะไม่ได้เชิญ

“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาอยู่แล้ว แค่มาเป็นเพื่อนนีเขา กลัว ว่าเธอจะทําให้เพื่อนของฉันเสียคน” ชญานันท์สวนกลับ อย่างทันควันก่อนจะนั่งกอดอกพิงกับพนักเก้าอี้แล้วมอง หญิงสาวที่มาใหม่อย่างไม่พอใจ

“เอาน่าเจส ฉันเป็นคนชวนนั้นเขามาเป็นเพื่อนเอง เธอ ก็อย่าโมโหไปเลย วันนี้วันเกิดเธอ ทำจิตใจให้สบายแล้ว ก็สนุกกันดีกว่า บอกตรงๆนะว่าฉันไม่เคยมาเที่ยวที่พรูๆ แบบนี้หรอก” สุนีย์สารภาพตามตรง อย่างมากเธอกับชญานันท์ก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันตามข้างทางมากกว่า

“เพราะแบบนั้นไง ฉันถึงได้ชวนเธอมาเที่ยวเสียบ้าง จะ ได้รู้ว่าอะไรมันเป็นอะไร ไม่ใช่อยู่แต่ในห้อง ทำตัวเป็นคน แก่หัวโบราณเหมือนกับบางคน” กิตติมาพูดพร้อมกับเชิด หน้าไป ทางชญานันท์ที่ยกขาขึ้นไขว้กันเอาไว้ น่องขา เรียวเนียนสร้างความตื่นตาให้กับชายหนุ่มรอบข้างได้ไม่ น้อย

“สั่งอะไรมาดื่มกันดีกว่า ฉันไม่อยากเสียบรรยากาศ” เธอกระแทกเสียงใส่แล้วมองหาบริกร พลันสายตาของ เธอก็หันไปสบเข้ากับสายตาคู่คมของชายหนุ่มต่างชาติ คนหนึ่ง ซึ่งเธอดูอย่างผิวเผินแล้วน่าจะเป็นพวกชาวตะวัน ออก หญิงสาวหัวใจเต้นแรง เธอไม่เคยเจอใครที่หล่อ บาดใจเธอได้ขนาดนี้เลย หญิงสาวคลี่ยิ้มไปให้อย่างมี ไมตรี และพวกชายหนุ่มก็ยิ้มตอบกลับมา ชญานันท์หัน ไปมองตามสายตาของเพื่อนแกมคู่อริอย่างหมั่นไส้

“พวกนี้อีกแล้วหรือ หล่อตรงไหน?” เสียงหญิงสาวพึมพำ

เบาๆ

“ที่เธอมองพวกเขาไม่หล่อก็เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจ เธอน่ะสิ” กิตติมาหันมายิ้มเยาะ

“ถึงฉันจะไม่สวย ไม่รวยเหมือนกับเธอ ฉันก็พอใจที่จะมีอยู่แค่นี้เพราะฉันไม่ใช่คนที่ทะเยอทะยาน” ชญานันท์ เอนตัวขึ้นมาหยิบแก้ว า มขึ้นจิบ

“เชอะ” อีกฝ่ายทําเสียงขึ้นจมูกแล้วหันมาทางสุนีย์ที่ อมยิ้มมองไปทางชายหนุ่มกลุ่มเดียวกับตนเอง “เธอชอบ คนไหนหรือนี ฉันชอบคนที่ใส่เสื้อสีดำทั้งหล่อ ทั้งแมน” หญิงสาวทําท่าทางเพ้อฝัน

“ฉันชอบอีกคนที่นั่งข้างซ้ายของเขา เขาจะสภาพดี” สุ นีย์บอกอย่างเขินๆ ใบหน้าขาวแดงระเรื่อเมื่อกลุ่มผู้ชาย โบกมือให้

“ว้าย! นีดูสิพวกเขาโบกมือมาทางพวกเราด้วย วันนี้ฉัน ว่าเราหาเจ้ามือได้แล้วนะ”กิตติมาบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง วันนี้เธอคงได้ใช้เสน่ห์อย่างคืนที่ผ่านๆมา

“เงินตัวเองก็มียังจะไปเบียดเบียนคนอื่นอีก น่าไม่อาย จริงๆ” ชญานันท์พูดออกมาตรงๆ ทำให้กิตติมาหันมามอง ตาขวาง

“นี่ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็หุบปากไปเลยนะก่อนที่จะโดน

ตบ”

“ตบก็ตบสิ คิดว่าฉันกลัวเธอหรือไง” ทั้งคู่เชิดหน้าเข้าหา กัน แต่ก็ยังดีที่สุนีย์ใช้มือกันทั้งสองสาวออกจากกันได้ แล้วหลิวตาไปทางด้านหน้าโต๊ะ
“พอได้แล้ว โน่นหนุ่มหล่อเดินมาโน่นแล้ว” หญิงสาว บอกพร้อมกับอมยิ้มให้กับชายหนุ่มที่เธอแอบมองอยู่

สมาโค้งให้กับสามสาวก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพด้วย ภาษาอังกฤษ “นายของพวกเราอยากเชิญคุณผู้หญิงทั้ง สามไปร่วมโต๊ะกับพวกเราครับ จะรังเกียจไหมครับ”

“รังเกียจ” ชญานันท์ตอบกลับไปอย่างไม่คิด

“ไม่…ไม่รังเกียจค่ะ พวกเรายินดีค่ะ” กิตติมาหันมาทำตา ดุใส่คู่อริแล้วหันมายิ้มให้กับฮิสมา

“ถ้างั้นเชิญที่โต๊ะของพวกเรานะครับ” ชายหนุ่มผายมือ ไปที่โต๊ะของตนเอง กิตติมารีบลุกขึ้นเดินนำหน้าเพื่อน สาวทั้งสองคนไป

“ไปเถอะนัน เป็นเกียรติให้เขาหน่อย ไม่มีอะไรเสียหาย นี่นา ถือว่าเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต” สุนีย์หันมามองหน้า เพื่อนรัก ที่นั่งทำหน้างออยู่

“แล้วเธรู้เหรอว่าพวกเนี่ยจะขอเชื่อมสัมพันธ์ทางการ ทูตกับพวกเธอแบบไหน ฉันไม่ไปแล้วเธอก็ห้ามไปด้วย ปล่อยแม่นั่นไปคนเดียวเถอะ เรื่องพวกนี้ยัยนั่นถนัดอยู่ แล้ว” หญิงสาวเสไปมองหญิงสาวที่นั่งลงข้างๆกับชาย หนุ่มเสื้อดำ ฮิสมาเลิกคิ้วเหมือนเป็นเชิงถาม สุนีย์ยิ้มให้เขาก่อนจะหันมาทางเพื่อนสาวอีกครั้ง

“ไปเถอะนั้น ถือว่าเป็นเพื่อนกันนะ เผื่อมีอะไรเธอจะได้ ช่วยฉันได้ด้วย นะ ไปนะ” เธอบอกพร้อมกับดึงแขนเพื่อน สาวให้ลุกขึ้น ชญานันท์ขืนตัวเอาไว้แล้วนิ่งคิด ก่อนจะลุก ขึ้นยืน

“ก็ได้ แต่แค่แป๊บเดียวนะ ฉันไม่ชอบพวกผู้ชายต่างชาติ”

“จ้ะ” สุนีย์ยิ้มร่าแล้วเดินจูงแขนเพื่อนสาวไป โดยที่ทั้ง สองสาวไม่รู้เลยว่าบทสนทนาที่เป็นภาษาไทยของพวก เธอนั้นชายหนุ่มต่างชาติฟังออกทุกคำ และเขาก็แอบขำ ที่ในโลกนี้ยังมีหญิงสาวที่ไม่สนใจคนหล่อๆ อย่างพวก เขาอยู่ด้วย โดยเฉพาะเจ้านายของเขา ถ้ารู้คงหัวเราะ ขำกลิ้งแน่ๆ เพราะผู้หญิงทั้งที่คูลฮาร์นและสาวสวยจาก ต่างแดน ต่างก็ต้องการอยู่เคียงข้างนายหนุ่มของเขาทั้ง นั้น 3 สิงห์ทะเลทรายที่ทุกคนร่ำลือกันในกิตติศักดิ์ความ รํารวย ความร้ายกาจในฝีมือและความหล่อเหลา ตอนนี้ 2 สิงห์ได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เจ้าชายเรฮานกับพระ ชายานักธุรกิจหนุ่มอาเหม็ดกับอภัสราหญิง สาวลูกครึ่ง คงเหลือแต่เพียงเจ้านายของเขาเท่านั้นที่ยัง ครองตัวเป็นโสดอยู่หลังจากที่ล้มเหลวกับการแต่งงานมา แล้วครั้งหนึ่ง ฮิสมาคิดมาถึงตรงนี่ก็ต้องอมยิ้มอีกครั้งแล้ว เดินตามสองสาวไทยไป

“เชิญครับ” กาเลนผายมื้อเชื้อเชิญแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นอย่างอีกหนุ่ม โขนลุกขึ้นแล้วยกเก้าอี้ให้กับชญานันท์นั่ง เช่นเดียวกับ สมาที่ทําให้กับสุนีย์

“ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ” ฮิสมาบอกแล้วผายมือ ไปทางเจ้านายของตนเอง

“คนนี้เป็นเจ้านายของพวกผมชื่อ และผม ฮิสมาครับ” กาเลน ส่วนนั้น โซฮัน

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อกิตติมาหรือเรียกเจสก็ได้ค่ะ” เธอบอกแล้วยื่นมือออกไปจับกับชายหนุ่มทั้ง 3 คน ก่อน จะหันมาแนะนำอีก 2 สาว

“คนนั้นชื่อสุนีย์ ส่วนอีกคนชื่อชญานันท์ค่ะ” หางตาของ เธอมองค้อนให้กับชญานันท์ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจ อะไร

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” กาเลนตอบแทนพวกที่เหลืออีก 2 คน สายตาที่มองมานั่นแม้ว่าจะเรียบเฉยแต่มันก็ทำให้ ชญานันท์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ

ชญานันท์มองสำรวจสามหนุ่มอย่างคราวๆ ชายคนที่ใส่ เสื้อดำสายตาดูมีอำนาจ สายตาของเขาทำให้หัวใจของ เธอเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ ส่วนชายอีก 2 คน สวมเสื้อ ยืดสีเทาเข้ม ผมตัดสั้นซอยอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ดูหล่อ เข้ม
“ดูท่าทางเพื่อนของคุณจะไม่ชอบพวกเราสักเท่าไรเลย” กาเลนยิ้มที่มุมปากแล้วเบนสายตามาทางชญานันท์ที่นั่ง คู่กับโซฮัน

“ใช่ค่ะ ฉันไม่ชอบพวกผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้” ชญานันท์ตอบแล้วมองกลับอีกฝ่ายอย่างหมิ่นๆ โซฮันเลิก คิ้วไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดตรงขนาดนี้ ไม่เคยมีใครกล้า พูดกับเจ้านายของเขาแบบนี้สักคน

คิ้วหนาดกลําขมวดเข้าหากัน กาเลนเพิ่งเจอผู้หญิงที่ กล้าเถียงเขาก็วันนี้เอง เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ชักเริ่ม สนุกเสียแล้ว

“คุณคงจะไม่รวมหมายถึงพวกผมหรอกนะครับ เพราะ ผมแค่ต้องการเชื่อมไมตรีด้วยเท่านั้น” เขาตอบยิ้มๆ

“อย่าไปถือสาหล่อนเลยค่ะ แม่นี่ก็เป็นแบบนี้แหละ มอง โลกในแง่ร้ายเสมอ มาค่ะมาดื่มฉลองให้กับมิตรภาพของ พวกเรา” กิตติมายกแก้วขึ้นมาชนกับแก้วของกาเลน

“ฉันขอตัวก่อนนะ จะไปเข้าห้องน้ำ” ชญานันท์บอกแล้ว ลุกเดินไปดื้อๆโดยไม่แคร์สายตาของใครทั้งสิ้น

กาเลนมองตามหลังไปพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ผู้หญิง คนนี้ไม่ได้สวยโฉบเฉียว แต่ดูท้าทายและน่าลิ้มลอง มองใกล้ๆ ก็ยิ่งน่ามอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ