บทที่ 9 พบฉาวเถียนโดยบังเอิญ
“เงินแค่นี้คุณถือดีอย่างไรมาคิดว่าผมจะจ่ายไม่ไหว?” จางยิ่งพูด เสียงเยียบเย็น
เสี่ยวลี่ดูเหมือนจะอึ้งอยู่เล็กน้อยที่จางผิงยังกล้าพูด คำพูด องอาจ’ แบบนี้อีก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมาอีกครั้ง พูด ด้วยท่าทางปลิ้นปล้อนว่า “ไอ้หยา นายเลิกเสียเถอะ ต่อให้นาย กินหมั่นโถวทั้งปีก็รวบรวมเงินมาซื้อมือถือพวกนี้ไม่ได้หรอก”
จางผิงได้ยินอย่างนั้น อารมณ์ที่เดิมที่ดี ๆ อยู่นั้นก็หายไปอย่าง ไร้ร่องรอย ในทันใด เขาเองก็ขี้เกียจจะโต้เถียง
“ก็ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ นายก
“พนักงาน! ยังไม่รีบมากันอีก!”
ในตอนที่จางผิงตัดสินใจที่จะซื้อโทรศัพท์ ฉันพลันก็มีเสียง หงุดหงิด ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเขา เสี่ยว ที่เดิมใส่อารมณ์กับจางฝั่งอยู่ก็มองไปทางคนคนนั้น สายตา สว่างไสวในทันใด ยิ้มประจบแล้วพูดว่า “นี่ไม่ใช่พี่ก้าวหรอกเห รอ! ลมอะไรหอบท่านมาที่นี่คะเนี่ย!”
พี่ฉาว?
จางผิงรู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูเป็นอย่างมาก ใจเต้นขึ้นมา เอน ศีรษะไปมอง นี่มันไม่ใช่จ้าวเถียนเพื่อนของเขาหรอกเหรอ
ตอนนี้ข้างกายของฉาวเถียนยังมีหญิงสาวที่แต่งตัวงดงาม พราวเสน่ห์เต็มที่มาด้วยหนึ่งคน แต่งกายได้อย่างใจกล้า หน้าอกขาวผ่องปรากฏร่องลึกออกมาให้เห็น แต่งหน้าเข้ม ฉูดฉาด ในระหว่างที่กำลังเหลือบซ้ายแลขวาปรากฏให้เห็นนิสัย ชอบมองเหยียดคน
เนื่องจากเสี่ยวลี่ยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน ยิ่งจางผิงไม่ได้หันมา มองโดยสิ้นเชิงด้วยแล้ว ฉาวเถียนก็เลยไม่รู้ตัวว่าที่นี่ยังมีคนคุ้น เคยของเขาอยู่ด้วย เขาพูดกับสาวพราวเสน่ห์ข้างกายด้วยน้ำ เสียงอาจหาญเทียมเมฆว่า เหม่ย เลือกตามใจชอบเลยนะ! พี่ ฉาวของเธอจะจ่ายให้เอง!!
ต้าเหมียน่าจะเป็นชื่อเล่นของผู้หญิงคนนั้น แม้ว่าจะไม่มี รสนิยม แต่ก็คงจะเหมาะกับนิสัยของเธอแล้ว เพียงลูกตาของเธอ กลอกกลิ้งไปมา ยิ้มอย่างนุ่มนวล เอวบิดพลิ้วไหว ค่อย ๆ เดินมา ถึงข้างกายจางผิง ชี้ไปที่ไอโฟน 8 บนเคาน์เตอร์
“พี่ฉาวขา หนูชอบมือถือเครื่องนี้มากเลยค่ะ ต้องรบกวนพี่ ด้วยนะค้า~”
จ้าวเถียนแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ เดินมาหาแล้วพูดเสียงดังว่า “แค่หมื่นกว่าหยวนเอง! ซื้อเลย! พนักงาน ออกใบเสร็จ!
“เรียบร้อยค่ะ! พี่น้าวใจถึงจังเลยนะคะ! ไม่เหมือนกับคนบาง กลุ่ม ดูก็รู้ว่าจ่ายไม่ไหว ยังมายืนหน้าด้านไม่ยอมไปไหนอยู่อีก ขยะจริง ๆ!”
เสียวยิ้มอย่างชื่นมื่น แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะกระแนะกระแหนจางผิงหนึ่งประโยค พูดจบก็หมุนตัวไปปริ้นท์ใบเสร็จที่เคาน์เตอร์
ฉาวเถียนเพิ่งจะรู้สึกถึงจางฝั่ง สีหน้าแข็งค้าง รีบหมุนตัวกลับ ไปทันที ทำเป็นมองไม่เห็น
แต่ต้าเหมียที่อยู่ข้างกายกลับวิพากษ์วิจารณ์เสียงต่ำ “พี่ว่าคน คนนี้ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้นะคะว่าไหม จ่ายไม่ไหวยังมา ยืนอวดดีไม่ไปไหนอยู่ตรงนี้อีก โดนพนักงานขายดูถูกขนาดนี้ ถ้าหากหนูเป็นเขานะ คงจะไม่มีหน้าอยู่ตรงนี้ต่อไปแน่ ๆ เป็นคน ที่น่ารังเกียจจริง ๆ”
จางผิงไหนเลยจะอ่านความคิดของฉาวเถียนไม่ออก ในใจอด ที่จะเกิดอารมณ์ร้อนไม่ได้ เอ่ยปากขึ้นเองว่า “เหอะ ๆ ทำไมเหรอ ครับ ตอนนี้ก็ไม่รู้จักผมแล้วเหรอ?”
ฉาวเถียนโดนเขาพูด ใส่แบบนี้ก็เริ่มหัวร้อนขึ้นมา พูดตะโกนสี ยงต่ำ “นี่ไม่ใช่พี่จางหรอกเหรอ! ไอ้หยา! ลูกสาวของพี่ไม่ใช่ว่า ใกล้ตายแล้วเหรอ รวบรวมค่ารักษาพยาบาลมาครบแล้วเหรอ ถึงมาซื้อมือถือที่นี่ได้?”
ต้าเหมียดูออกว่าสองคนนี้ไม่กินเส้นกัน ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พี่จ้าวคะ คนนี้คือใครเหรอคะ ไม่ยักรู้ว่าพี่จะรู้จักคนเฮงซวย แบบนี้ด้วย?”
ฉาวเถียนแกล้งทําเป็นโมโหแล้วพูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ จะเรียกว่าคน เฮงซวยได้ยังไง? พี่จางของผมเนี่ย แม้แต่เงินรักษาชีวิตลูกสาว เร่งด่วนยังให้ไม่ได้เชียวนะ คนเฮงซวยยังดีกว่าเขาเสียอีก!”
ต้าเหมียเข้าใจในทันที ร้องขานว่า “เป็นถึงผู้ชายคนหนึ่งแต่เหยาะแหยะได้ถึงขั้นนี้ เป็นฉันฉันคงไปตายแล้ว”
ทั้งสองคนถูก ‘อารมณ์ขัน ของตัวเองทำให้ไม่หยุด จางฝั่ง มองสองคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ ความร้อนรุ่มในใจเย็นลงหลาย ส่วน คนต่ำ ๆ แบบนี้ไม่คู่ควรจะทำให้เขาโมโห
แต่ว่าเรื่องที่ต้องชำระก็ยังต้องชำระ
“จ้าวเถียน ในเมื่อนายพูดอย่างนี้แล้ว ฉันก็มีเรื่องบางเรื่องที่ จะต้องบอกกับนาย เงินหนึ่งแสนที่นายยืมฉันไปเมื่อสามปีก่อน เมื่อไหร่จะคืนเหรอ?”
เสียงหัวเราะของจ้าวเถียนสิ้นสุดลงอย่างฉับพลัน สีหน้า เปลี่ยนเป็นครึ้มฟ้าครึ้มฝน “หนึ่งแสน? หนึ่งแสนอะไร? พี่กำลัง พูดล้อเล่นกับผมอยู่เหรอ?”
จางผิงคาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะมีท่าทีเช่นนี้ พูดเสริม อย่างช้า ๆ ว่า “สามปีก่อน นายเอาเงินฉันไปแสนหนึ่งเพราะ ต้องการหมุนเงินด่วน เป็นเพราะฉันเชื่อใจนายดังนั้นเลยไม่เคย ทวงหนี้นาย ทำไม่เหรอ หรือนายเป็นคนยิ่งใหญ่ที่ความจำสั้น ขนาดนี้เลยเหรอ?”
จ้าวเถียนร้อง ‘เฮอะ เสียงเย็นออกมา กลับพูดจาเสียดสีออก มา “ผมว่านะจางผึ้ง พี่อย่ามาพูดจาหยาบคายใส่คนอื่นจะดีกว่า แสนหนึ่งอะไร พี่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยสักนิด พี่กำลังใส่ร้าย ป้ายสีอยู่นะ!”
ต้าเหม่ยเองก็เอ่ยปากพูดว่า “นั่นสิ นี่มันสมัยไหนแล้ว นึกไม่ ถึงว่าจะมีคนแบบแกอยู่อีก ดูจากที่แกพูดแล้ว ฉันก็คงจะพูดได้เหมือนกันว่าแกติดเงินฉันไว้สามล้าน? เหลวไหลจริง ๆ เลย!
ตอนนี้เสียวลีที่เตรียมใบเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินเข้ามา เห็นคนสามคนกำลังถกเถียงกันก็วิ่งเข้ามาทันที ด่ากราดไปที่จาง ผิงโดยที่ไม่ถามเหตุการณ์ด้วยซ้ำ
“นาย ไอ้ขอทานน่ารังเกียจ จะไม่ใสหัวออกไปก็ช่างเถอะ ยัง มารบกวนลูกค้าของฉันที่นี่อีก นายเชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันจะให้ รปภ.ของห้างมาจากตัวนายออกไป
มองดูท่าทางน่าเกลียดของทั้งสามคนจางผิงก็ยิ้มน้อย ๆ นี่ แหละสันดานของมนุษย์ เห็นได้ชัดว่าเขาพูดเรื่องจริง แต่ว่าฐานะ ของตนในใจของพวกเขาเมื่อเทียบกับฉาวเถียนแล้วช่างไร้ค่า คำที่พูดออกมาก็เหมือนกับลมตดไปโดยปริยาย
น่าสนุก น่าสนุกจริง ๆ
จางผิงล้วงเอาบัตรทองออกมา ตบหน้าของเสี่ยวอย่างโหด ร้ายไปหนึ่งที พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เอาไอโฟน 8 พลัส ทั้งหมดที่มีอยู่ในร้านของพวกคุณมาใส่ถุงให้ผมกลับบ้าน! ยังมี อีก ในมือของเขานั่นผมก็จะเอาด้วย จ่ายสองเท่า!”
เสี่ยวโดนตบหน้าจนตะลึง พอสำนึกได้ก็คิดจะสู้รบตบมือ แต่ พอได้เห็นบัตรทองในมือก็อึ้งรับประทานไป
“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
ถึงแม้จะเป็นแค่พนักงานขายเล็ก ๆ แต่สายตาของเธอนั้นไม่ ได้ตื้นเขิน โดยปกติแล้วงานอดิเรกหลัก ๆ ของเธอก็คือการอ่านนิตยสารเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ทุกแบบในประเทศ ฝันว่าวันหนึ่ง ได้ใกล้ชิดกับมหาเศรษฐีมีชื่อเสียง กลายเป็นหงส์ขาว
และบัตรทองแม้ว่าผู้มีอิทธิพลใหญ่ในนิตยสาร เศรษฐกิจพวกเพียงแค่ไม่
หรือว่าชายหนุ่มที่กายบ้านนอกนี่จะเป็นลูกของคน
คนรวยตระกูลใหญ่สักตระกูล!
หลังจากที่ยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าปลอม เสี่ยวลี่ตื่นเต้นเนื้อตัวสั่น เอวผอมบางก็โค้งเก้าสิบ องศามาตรฐาน ยิ้มบนใบหน้างดงามหาใดเปรียบ ไม่ด้อย ไปว่าพนักงานต้อนรับสาวบนเครื่องบินเลยสักนิด
แม้แต่ความเจ็บปวดบนใบหน้ายังดูเหมือนอย่างนั้น ท่าทางอกเอาใจ
คุณผู้ชายท่านนี้ ยินดีต้อนรับท่านเข้าร้านของค่ะ ไม่ ทราบท่านต้องการใบเสร็จหรือไม่คะ”
จางผึ้งชำเลืองมองฉาวเถียน พูดอย่างหยิ่งยโสว่า แค่ โทรศัพท์ไม่เครื่องเท่านั้นเอง ผมไม่จำเป็นต้องหรอก เงินพอแล้ว!
ได้ค่ะกรุณาสักครู่นะท่าน
เสี่ยวพยักหน้า แต่กลับไม่เคาน์เตอร์โดยตรง กลับมองไปคนสองที่ยืนเหม่ออยู่ที่ เดิมแล้วว่า คุณผู้ชายท่านนี้ ขอโทษนะคะ ไอโฟน 8 พลัสทั้งหมดในร้านเราถูกคุณผู้ชายท่านนี้เหมาทั้งหมดแล้วค่ะ ถ้า หากท่านไม่ขัดข้อง สามารถยอมรับรุ่นอื่นได้ เชิญเลือกซื้อต่อไป ได้เลยนะคะ”
ชั่วพริบตาเดียวต้าเหม่ยก็ระเบิดอารมณ์ น้ำเสียงดุเดือด “ถือดีอย่างไร! พวกเรามาก่อนนะ พวกเราซื้อก่อน พวกคุณทำ ธุรกิจกันแบบนี้เหรอ!?” จ้าวเถียนเสียงสั่น ชี้ไปที่จางผิงแล้วพูด ว่า “คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ไอ้คนเฮงซวยน่ารังเกียจที่จะมา มีบัตรทองที่พิเศษและมีจำนวนจำกัดได้อย่างไร! มันต้องมาต้ม ตื่นแน่ คุณอย่าไปเข้าใจผิดนะ!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ