พ่อนมหยิ่งผยอง

บทที่ 18 ผมลงทุนหนึ่งพันล้าน



บทที่ 18 ผมลงทุนหนึ่งพันล้าน

ทั้งสี่คนนั่งลง ยังไม่ทันได้เสิร์ฟอาหาร จางผังกล่าวก่อนว่า “ได้ยินจ้าวหยวนซานบอกว่าคุณมีโครงการหนึ่งอยู่ในมือ คุณ ช่วยอธิบายให้ละเอียดได้ไหม”

อู๋เต้าพยักหน้าและอธิบายว่า “โครงการนี้มุ่งเป้าไปที่ตลาด ต่างประเทศเป็นหลัก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดสะสมของเก่า โบราณในประเทศอยู่ในระดับดีมาก บริษัทของเราจึงตั้งใจที่จะ สำรวจตลาดต่างประเทศ ในแง่หนึ่งมันจะช่วยให้ค้นพบของเก่า โบราณที่มีค่าควรแก่การสะสมมากขึ้น สามารถยืนหยัดตลาดใน ประเทศได้ในเวลาเดียวกัน และเป็นผู้นำในการยึดตลาดต่าง ประเทศ”

จางผิงพยักหน้า เรื่องสะสมของโบราณ เขาไม่ค่อยเข้าใจมาก นัก แต่เนื่องจากจ้าวหยวนซานให้ตนเองมาออกหน้า ดังนั้นการ ลงทุนครั้งนี้น่าจะได้ผลกำไรอย่างแน่นอน และแม้แต่โอกาสก็มี ค่อนข้างมาก

เมื่อครุ่นคิดสักครู่ จางผิงกล่าวต่อไปว่า “พูดตามตรงมาเลย ว่าคุณต้องการเงินลงทุนเท่าไหร่ อีกอย่าง และการแบ่งหุ้นเป็น อย่างไร”

อู่เต้าไม่คาดคิดว่าจางผิงจะเป็นคนตรงขนาดนี้ เขาอดไม่ได้ที่ จะเหลือบมองไปที่จ้าวหยวนซานแวบหนึ่ง และพบว่าอีกฝ่าย กำลังจดจ่ออยู่กับการจิบชา ขณะนี้เขาแสดงท่าทางเหมือนกับว่ามันไม่สำคัญสำหรับฉัน

สิ่งที่เขาเตรียมมาก่อนหน้านี้ยังไม่ทันได้พูด ถูกจางฝั่งพูดข้าม ไปเลย ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยในใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่า ชายหนุ่มคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่

นี่คือการพูดคุยเรื่องร่วมมือหรือ? ทำไมรู้สึกเหมือนเล่นเกม

มากกว่า?

อย่างไรก็ตาม เพราะฐานะของจางผิง เต้าจึงเปิดปากและ กล่าวว่า “คืออย่างนี้ บริษัทของเราต้องการเงินลงทุนทั้งหมด 500 ล้าน เรื่องการแบ่งหุ้น เราสามารถโอนหุ้น 30% ของบริษัท ให้คุณ ไม่รู้ว่า…….

“500 ล้าน? ร้อยละ30%”

จางผิงโบกมืออย่างหงุดหงิด และขัดจังหวะการพูดของอู่เต้า ซึ่งทําให้อีกฝ่ายรู้สึกตกใจ

หรือว่า ตัวเลขนี้จะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจหรือ? โลภมากอยาก เรียกข้อเสนอเยอะ?

อู่เต้ากำลังจะอธิบาย แต่จางยิ่งก็กล่าวต่อไปว่า “ผม ลงทุน1000 ล้าน แต่มีเงื่อนไขว่า บริษัทของคุณต้องให้หุ้นร้อย ล่ะ60% คุณคิดว่ายังไง? ”

หนึ่ง……..หนึ่งพันล้าน?!

อู๋เต้าแทบจะกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ บริษัทของเขาดำเนินธุรกิจ มาหลายปีแล้ว และถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ทรัพย์สินทั้งหมดมีเพียง1000 ล้าน ซึ่งรวมถึงของเก่าโบราณและ ทรัพย์สินถาวรอื่น ๆ อีกมากมาย

ถ้านับเฉพาะเงินทุนหมุนเวียน เกรงว่ามี100 ล้านก็ดีเท่าไหร่ แล้ว มิเช่นนั้น เขาจะกังวลเรื่องเงินลงทุนไปทำไม แต่ชายหนุ่มที่ อยู่ตรงหน้า แค่เปิดปากก็บอกจะลงทุน1000 ล้าน เงินจำนวนนี้ สามารถซื้อบริษัทของพวกเราได้เลย!

มองไปที่อู่เต้าที่แสดงสีหน้าตกตะลึง จางฝั่งจึงถามว่า “ทำไม น้อยไปหรือ?”

“ไม่ ๆ ๆ ไม่น้อยไปเลยสักนิด! พอแน่นอนครับ!”

ศีรษะของเต้าส่ายไปมาเหมือนกลองไม้เขย่า มีเงิน1000 ล้านนี้ เขามั่นใจว่าเขาสามารถขยายตลาดไปยังบางประเทศใน เอเชียกลางกับใต้ และยุโรปเหนือได้อย่างรวดเร็ว ขอแค่ไม่เกิด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน อีกไม่กี่ปีต่อมา มูลค่าตลาดสามารถทะลุ ถึง1000 ล้านได้อย่างแน่นอน!

“เมื่อไม่มีข้อสงสัยใด ๆ แล้ว งั้นก็ตกลงตามนี้ พรุ่งนี้คุณแก้ไข สัญญาเสร็จ ก็ไปหาจ้าวหยวนซานเพื่อเซ็นสัญญา”

เรื่องที่ตกลงเรียบร้อยแล้ว จางผิงเฉลียวฉลาดมีไหวพริบ ผลัก ปัญหาปวดหัวภายหลังให้จ้าวหยวนซาน จะคอยดูว่าเพื่อดูว่าไอ้ ตาเฒ่านี้จะพูดอะไรได้อีก

หลังจากคุยธุระเสร็จ ขั้นตอนต่อไปคือทานข้าว ต้องบอกว่า อาหารของโรงแรมหยูนตวนมีความโดดเด่นมาก รูปแบบ สวยงาม รสชาติอาหารไม่มีที่ติ
เป็นเวลานานแล้วที่จางผิง ไม่ได้มาโรงแรมที่หรูหราเช่นนี้ เขา ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กินอย่างตะกละตะกลาม ทำให้อู่เต้ากับ เสียวเสี่ยวตกตะลึง สำหรับจ้าวหยวนซานตอนนี้หน้าผากของเขา ย่นจนเห็นเป็นเส้นสีดำ

คุณชายน่ะ! คุณชาย! ถึงแม้ว่าคุณไม่อยากจะร่วมการประชุม ในครั้งนี้ ก็ไม่ควรทำให้อับอายขายหน้าเช่นนี้

เขาไม่รู้ว่า จางผิงแค่อยากกินของให้มากหน่อยแค่นั้น

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว จางฝั่งสะอึกอย่างไม่รักษาภาพ ลักษณ์ กินอิ่มจนพอใจก็ออกไปจากห้อง เสี่ยวเสียวมองไปบน โต๊ะอาหารมลายหายไปจนหมดสิ้น เธออ้าปากค้าง นี่เป็นคน ประเภทไหนกันนี่? แค่พูดประโยคเดียวก็สามารถควักเงินออก มา1000 ล้าน โดยไม่รู้สึกแยแส แต่กินเหมือนผีที่ตายอดตาย อยาก!

หรือว่า คนรวยสมัยนี้มีบุคลิกแบบนี้หรือ?

“พวกคุณไม่ต้องเดินไปส่ง ผมมีธุระขอตัวไปก่อน

จางผิงไม่ลืมที่จะกล่าวลาคนทั้งสอง เดินออกจากห้องด้วย ตนเอง โดยมีจ้าวหยวนซานเดินตามหลัง

อู่เต้าโบกมือตามสัญชาตญาณแล้วตอบว่า “คุณ……คุณชาย เดินทางดี ๆ!”

ใบหน้าของจ้าวหยวนซานแดงระเรื่อ เขาคุ้นเคยกับงานใหญ่ มากมาย แต่วันนี้เขารู้สึกว่าอับอายขายหน้า จากนั้นมองไปที่จางผิง เขากำลังใช้ไม้จิ้มฟันและฟันอยู่ เดินโซซัดโซเซเหมือนนก เพนกวิน ใบหน้าของเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

สิ่งนี้ทําให้เขาถอนหายใจ คุณชายคือคุณชาย สไตล์การใช้ ชีวิตไม่เหมือนคนทั่วไป ดูเหมือนว่าตนเองจะให้เกียรติเขามาก เกินไป

ขณะนี้ ชายวัยกลางคนที่อ้วนคนหนึ่งเดินเข้ามา มองแล้ว ท่าทางชวนให้คนอื่นชื่นชอบ เขาเป็นคนที่ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ

จ้าวหยวนซาน รีบก้าวไปข้างหน้าทันที ขัดขวางชายคนนั้นไว้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “คุณเป็นใคร มีธุระอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายคนนั้นก็ยิ้มอย่างเป็นมิตร และหยิบการ์ดที่ มีลวดลายสวยงามออกมาและกล่าวว่า “คุณจ้าว อย่าเข้าใจผิด ผมเป็นคนดูแลโรงแรมหยูนตวน คุณเรียกผมว่าเจิ้งผ้าง ได้ยินมา ว่าคุณชายจางได้มาที่โรงแรมของเรา ผมรู้สึกเสียมารยาทเพราะ ไม่ได้มาต้อนรับด้วยตนเอง ดังนั้นจึงมามอบบัตรสมาชิกใบนี้ ให้

“คุณชาย คุณว่ายังไง?

“ไม่เป็นไร ให้เขาเข้ามาเถอะ”

จางผิงรับบัตรสมาชิก ใส่เข้าไปในกระเป๋า หลังจากกล่าว ขอบคุณแล้ว ก็เดินออกจากประตูโรงแรม “คุณชาย คุณจะกลับ ไปที่บริษัทโดยตรงหรือเปล่า?”

จ้าวหยวนซานเดินไปถามข้าง ๆ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีอะไรต้องทำอีกแล้ว รีบส่งคุณชายกลับไป ดูท่าทางเขาแล้ว ก็สุดจะทนจริง

“ไม่ต้อง คุณกลับไปก่อน ผมจะเดินย่อยอาหารก่อน อีกสักครู่ ผมจะกลับไปเอง”

จางผิง โบกมือ ถ้าหากนั่งรถกลับไปตอนนี้ อาหารในกระเพาะ ไม่สามารถย่อยได้แน่ เพื่อสุขภาพของตนเอง ต้องเดินเล่นให้ อาหารย่อยเสียก่อน

จ้าวหยวนซานพยักหน้า หันหลังแล้วจากไป

“ตอนนี้เวลาเที่ยงจะทำอะไรดีนะ?”

ขณะที่เขาเดินช้าๆไปตามถนน จางผิงกำลังคิดว่าหลังจากนี้จะ ทําอะไรต่อ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงกังวลเกี่ยวกับยอดขาย แต่ตอนนี้ กลับ

กลายเป็นว่าเขาไม่รู้จะทำอะไร

“ไม่ได้ จะเป็นคนที่เอาแต่กินแล้วขี้เกียจสันหลังยาวไม่ได้ จะ ต้องกระตือรือร้นพัฒนาตนเอง เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหยุ่นเอ อร์”

หลังจากคิดครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดจางผิงก็ตัดสินใจครั้ง สำคัญ นั่นคือ หยุดเดิน แล้ววิ่งเหยาะๆแทน!

ขณะนี้ มีเสียงที่ค่อนข้างประหลาดใจดังเข้ามาในหูของเขา “จางผิง คุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่?!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ