บทที่ 4 ต่อยซูอ่ยับ
ซูอู่ในตอนนี้มีสีหน้าอ่อนโยน ปลอบใจหลีเสวีเสียงเบา ร่างกาย ของเขาโน้มเอียงลงไปเล็กน้อย มักจะสัมผัสโดนร่างกายอรชร ของหลี่เสว่อยู่บ่อยครั้ง
แถมตอนนี้เบ้าตาของหลี่เสาแดง ยังสามารถมองเห็นคราบ น้ำตาที่ยังไม่แห้งดีบนใบหน้าของเธอ ถึงแม้จะดูออกว่าเธอตั้งใจ จะรักษาระยะห่างจากซู แต่ไม่ให้โอกาสเช่นนั้นกับเธออย่าง ชัดเจน
ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มเคลื่อนไหว ชูพูด “ไม่ทันระวัง นึกไม่ ถึงว่าจะโอบไหล่บอบบางของหลี่เสาไว้อย่างหน้าตาเฉย!
“ปล่อยคุณแม่นะ!” เสี่ยวยุ่นเอ๋อร์ร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงไร้
เรี่ยวแรง
หลี่เสวรีบดิ้นหลุดจากอ้อมกอดของเขาทันที สายตาฉายแวว ไม่พอใจ ถ้าหากไม่ใช่เพื่อลูกละก็ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีทาง ติดต่อซูอู่ไปก่อนเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจางผิงจะไร้ประโยชน์มากแค่ ไหน แต่เธอก็ทําเรื่องที่ผิดต่อจางผิงไม่ได้
แต่ว่าในตอนนี้ เพื่อเสี่ยวยุ่นเอ๋อร์แล้ว เธอจะไม่ทอดทิ้ง เกียรติศักดิ์ศรีของตัวเองไม่ได้
ซูอู่ไม่ใส่ใจความไม่พอใจของหลี่เสาเลยสักนิด จ้องมองเสี่ยว ยุ่นเอ๋อร์อย่างดุร้าย ทั้งยังแสยะปากพูดกับหลี่เสวว่า “เสบู่เอ๋อร์ผมไม่ได้ตั้งใจนะ เป็นเพราะโดนคนเบียดมานะ”
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนอย่างฉับพลัน “จริงสิ ไอ้สวะจางฝั่งล่ะ? ทำไมถึงไม่เห็นเขาล่ะ
“ซูอู๋ นายระวังคำพูดด้วย!”
น้ำเสียงของหลี่เสว่เปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้วพูดว่า “ไม่ว่า อย่างไรจางผิงก็เป็นสามีของฉัน ฉันแค่มีเรื่องขอร้องนายเท่านั้น แต่ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อน ถ้าหากนายยังทำแบบ นี้อีกก็เชิญนายกลับไปเถอะ!”
“ดูเธอสิ จะโกรธฉันขนาดนี้เพื่อไอ้สวะนั้นเพื่ออะไรกัน ผู้ชาย ทั้งคน แม้แต่รวบรวมเงินเพื่อมารักษาลูกก็ทำไม่ได้ คนแบบนี้ก็ คุ้มค่าที่จะให้เธอปกป้องเหรอ?”
ซูอู่หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “เท่าที่ฉันดูนะ เธอน่ะตาบอดถึงได้ เลือกสวะนั่น ถ้าหากใส่ใจครอบครัวนี้จริง ๆ เขาพยายามสัก หน่อยทำไมจะยืมเงินมาไม่ได้ล่ะ
หลี่เสว่เงียบ ไม่ได้โต้แย้งอะไร ที่พูดมานั้นไม่ผิด หลายปีมา นี้ ความผิดหวังหลาย ๆ ครั้งทำให้เธอหมดกำลังใจอยู่บ้างแล้ว หรือว่า ในตอนนั้นเธอมองพลาดไปจริง ๆ
ในตอนนี้เองกลุ่มคนส่งเสียงดังอื้ออึงกันฉับพลัน เธอยังไม่ทัน ได้เงยหน้าดูเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง อู่ก็ล้มลงไปอยู่บนพื้น
จางผิงสองตาแดงก๋ายังอยู่ในท่าแกว่งหมัด
ฉากที่ภรรยาของตนโดนเจ้าชู้ใส่ทำให้เขาโมโหอย่างรุนแรง หลี่เสว่รีบรั้งแขนของจางผิงเอาไว้ ร้องตะโกน “จางผิง นาย เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”
เธอไม่ได้ปกป้อง แต่คนคนนี้เป็นคนที่พวกเขาจะไปล่วงเกิน ไม่ได้ ตระกูลของซูอู่ไม่ใช่ธรรมดา ๆ ถือว่ามีชื่อเสียงไม่น้อยใน ៗ เมืองชิงไห่
แต่ก่อนเห็นแก่หน้าของหลี่เสวกับคอนเนคชั่นทางห้างสรรพ สินค้าที่มีไม่น้อยของพ่อของเธอ เขาถึงไม่สร้างความลำบากให้ จางผิง แต่ตอนนี้โดนต่อยแล้วนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ซูอู่ลุกขึ้นมาจากพื้น ใช้มือเช็ดปาก มองเห็นเลือดสด ๆ ในมือ สายตาของเขาก็ราวกับหมาป่าที่หิวโหยจ้องเขม็งไปที่จางผิง
“ดี จางผึ้ง แกกล้าต่อยฉัน ฉันว่าสวะอย่างแกไม่ได้มีชีวิตอยู่ดี
ๆ แล้วล่ะ!”
ซูมองดูเอ็นและกล้ามเนื้อที่ดูไม่ชัดเจนใต้เสื้อผ้าของจางผิง หัวเราะเหอะเสียงเย็นอย่างแรงไม่ตก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทร ออกไปยังหมายเลขหนึ่งแล้วพูดว่า “พี่จ้าว รบกวนพี่มาโรง พยาบาลตี้อีหน่อยครับ ผมโดนคนต่อย!”
พี่จ้าว ชื่อเต็มคือจ้าวเทียนเหลย เป็นหัวหน้าคนหนึ่งของสถานี ตำรวจเมืองชิงไห่ รู้จักกับพ่อของซู มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นเพราะเช่นนี้ หลายครั้งที่ซูอู่ทำธุระก็จะได้รับการปกปิด ความผิดให้ส่วนหนึ่ง
หลังจากวางสาย ซู มองจางฝั่งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความโอหังและโหดร้าย พูดว่า “แก แกทระนงมากนักนะ ฉันจะดู สิว่าอีกสักพักแกยังจะทำหน้าแบบนี้ได้อยู่อีกไหม!
หลี่เสวถอนหายใจหนึ่งครั้ง ร้องขอความเมตตา “ซูอู๋ จางผิง เขาก็แค่ใจร้อนไปชั่วขณะ หรือจะให้เขาขอโทษนายดี ปล่อย เรื่องนี้มันไปเถอะนะ”
“ขอโทษ? ดี ให้เขาโขกหัวคำนับ ให้ผมดัง ๆ สักสามที ผมก็จะ ปล่อยเขาไป! หรือไม่…
ซูสีหน้าตื่นกาม พูดว่า “คืนนี้เธอไปอยู่โรงแรมเป็นเพื่อนฉัน สักคืนก็ได้เหมือนกัน”
“นาย… จางผิง!
เมื่อกี้หลี่เสว่กำลังจะเปิดปากด่าก็ต้องร้องขึ้นมาด้วยความ ตกใจในทันที นึกไม่ถึงว่าจางฝั่งจะพุ่งเข้าใส่ออีกครั้ง จับเขากด ลงกับพื้นแล้วค่อยอย่างโหดเหี้ยม
ซูอู่โมโหจนแทบบ้า เขาเป็นถึงคุณชายซูผู้ยิ่งใหญ่ ชาตินี้ทั้ง ชาติไม่เคยมีใครกล้าแตะต้องเขา นึกไม่ถึงว่าไอ้สวะสมควรตาย นี่ยังกล้าลงมือ!
เขาอยากจะต่อต้าน แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรหมัดของจางผิง ก็ตกลงบนร่างของเขาราวกับห่าฝน ทั้งยังต่อยที่จุดอ่อนอย่างใต้ ซี่โครงและจมูก โดยเฉพาะ ในไม่ช้าเขาก็โดนต่อยจนเบลออย่าง ถึงที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาก็เปลี่ยนเป็นเลือนรางไปด้วยเลือด
“หลีกไป! รีบหลีกไป
พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลได้ยินข่าวก็รีบ มา เสียแรงไปเยอะกว่าจะดึงตัวจางสิ่งที่อยู่บนตัวชู ออกมาได้ ดุด่าเสียงดังว่า “นี่มันในโรงพยาบาล พวกคุณก็ไม่รักษากฎ เกณฑ์อย่างนี้เหรอ? ห้ามขยับทั้งหมด รอตำรวจมาเคลียร์!
มองดูซูอู่ที่โดนต่อยจนหมดสติอยู่บนพื้น ในใจของพนักงาน รักษาความปลอดภัยหลายคนรู้สึกหนาวเหน็บ มองไปยังจางผิง ด้วยความหวาดกลัว ชายหนุ่มคนนี้ดูผอมบางอ่อนแอ ไม่คิดว่า จะลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้
ตอนนี้หลีเสวนั่งลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มองเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งหมดอย่างเหม่อลอย หัวใจราวกับเถ้าถ่านที่มอดดับ
อาการโรคร้ายของลูกเร่งด่วนเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด ตอนนี้ ซูอู่ก็โดนต่อยจนสภาพเป็นแบบนี้อีก ไม่ต้องพูดเรื่องภูมิหลังของ อู่ แค่ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องเป็นรายจ่ายก้อนโตแน่ ๆ
เงินยังยืมไม่ได้ ยังยั่วโมโหออีก
นี่มันผีซ้ำ พลอยชัด ๆ เลย ใจของเธอค่อย ๆ หมดหวัง ๆ จางผิงดิ้นหลุดจากพนักงานรักษาความปลอดภัย เดินไปถึง
ด้านหน้าของหลี่เสา ยิ้มน้อย ๆ ยื่นมือล้วงเอาบัตรทองออกมาส่ง
ให้
“เสบู่เอ๋อร์ ค่ารักษาพยาบาลของลูกอยู่นี่ อีกสักพักเธอรีบเอา ไปจ่ายนะ ผมต้องรีบไปสถานีตำรวจสักหน่อย”
หลี่เสว่ค่อย ๆ รับบัตรธนาคารมา ในดวงตาไม่ได้ปรากฏ อาการดีใจใด ๆ
“จางผิง นายยืมเงินมาได้ แต่นายรู้จุดจบของการล่วงเกินซู ไหม?”
ตอนนี้ใจของเธอสั่นไหวไปทั้งใจ ทำไมจางผิงไม่เข้าใจ จะต้อง
ต่อยซูอู่จนกลายเป็นแบบนี้
ตอนนี้ แม้ว่าหลี่เสว่จะกลับบ้านไปขอร้องให้พ่อออกหน้าให้ ไม่สามารถข่มความโกรธแค้นของตระกูลซูลงได้
ครอบครัวนี้จบลงโดยสิ้นเชิง…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ