พ่อนมหยิ่งผยอง

บทที่ 3 พบกันโดยบังเอิญ



บทที่ 3 พบกันโดยบังเอิญ

ในใจของจ้าวหยวนซานลุกลี้ลุกลน

หากไม่มีเชิงหลง เขาจ้าวหยวนซานเป็นไม่ได้แม้แต่กัน

พนักงานออฟฟิศที่ผ่านไปผ่านมาเพ่งมองไปที่จางยิ่งที่อยู่ ท่ามกลางกลุ่มคน ในใจทั้งหวาดกลัวทั้งตื่นตระหนก พ่อหนุ่มคน นี้ศักดิ์สิทธิ์มาจากไหน นึกไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้ประธานจ้าว คุกเข่าเลียแข้งเลียขาอย่างไม่ละอายเช่นนี้

หัวหน้าซุนสั่นไปทั้งตัว ดวงตากลอกไปที่หนึ่ง ร้องตะโกนไป ด้านหลัง “เสนอหน้าออกมาขอโทษคุณชายเดี๋ยวนี้!

พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ยินก็ทั้งกลิ้งทั้งคลานมาจนถึง ด้านหน้าของจางผิง คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตูบ น้ำหูน้ำตาไหล พูดว่า “คุณชาย! เป็นเพราะผมมีตาหามีแววไม่ ขอประทานโทษ ครับ ลูกของผมป่วยหนักอยู่บนเตียง ถ้าหากไม่มีงานนี้ละก็ ครอบครัวผมต้องแย่แน่ ๆ

จางผิงได้ยินเขาเล่าความทุกข์เกี่ยวกับลูกที่เป็นโรคร้ายแรง ก็ นึกไปถึงยุ่นเอ๋อร์ของตนที่ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ความร้อนรุ่มใน ใจก็หายไปหลายส่วน

“ช่างเถอะ พอแค่นี้แล้วกัน”

พูดจบจางผิงก็หันหน้าไปมองจ้าวหยวนซานที่ยังค้อมกายไม่ กล้าเงยหน้าแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ลุงเฉียนน่าจะออกสั่งให้คุณทําอะไรแล้วใช่ไหม? อย่าให้ผมต้องเสียเวลาอีกเลย”

“ครับ! ครับ! ครับ! จะไปทำให้เดี๋ยวนี้เลยครับ เชิญท่านตาม ผมมาเลยครับ!”

จ้าวหยวนซานพยักหน้าทันที ในใจผ่อนลมหายใจออกมาค่ หนึ่ง ยืนอยู่ด้านข้างของจางผิง ก้าวเดินตามจังหวะก้าวของเขา

ทำหน้าที่เป็นคนรับใช้คอยนำทาง

และคนที่อยู่ด้านหลังของทั้งสองคน ระดับสูงของอาคารในหัว ทุกคนรักษาระยะห่างจากทั้งสองคนนั้นไว้ไม่กล้าเอ่ยปากพูด อะไรออกมาแม้แต่คำเดียว สายตาปกปิดความหวาดผวาที่ล้ำลึก เอาไว้

ในห้องทำงานหรูหราห้องหนึ่งในชั้นบนสุดของอาคาร จางฝั่ง กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แดงตัวหนึ่ง และด้านหน้าของเขามีแฟ้ม เอกสารใหญ่วางอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ

“คุณชาย นี่คือสัญญาที่ท่านเฉียนมีคำสั่งมา ท่านลองดูเอา เถอะ”

จ้าวหยวนซาน ใช้สองมือประคองกาน้ำชายืนอยู่ด้านข้างของ จางผิง เขารับหน้าที่ในน้ำเหมือนลูกจ้างในร้านเองโดยไม่มีใคร สั่งเพื่อที่จะเหลือความประทับใจที่ดีไว้ให้กับคุณชาย โอกาสที่จะ สามารถติดต่อใกล้ชิดกับคุณชายแห่งเถิงหลงกรุ๊ปได้นั่นเป็น เรื่องที่เกินฝันของใครหลาย ๆ คน ทำไมเขาจะไม่คว้าเอาไว้ล่ะ

จางผิงส่งเสียง “อืม’ ออกมาคำหนึ่งแล้วเปิดแฟ้มเอกสารออก มา ตัวอักษรแต่ละบรรทัดปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนตรงหน้าเขาหลังจากกวาดตามองครั้งหนึ่งเขาก็เอาแฟ้มเอกสารวางลงอีก ครั้ง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มฝัน ๆ ตาแก่ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว เงื่อนไขของคุณยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด ก็ได้ ในเมื่อเป็น เช่นนี้จากวันนี้ไปผมจะเป็นประธาน ๆ ของเถิงหลงกรุ๊ป!”

จ้าวหยวนซานสั่นไปทั้งตัว รีบวางกาน้ำชาลงแล้วหยิบปากกา บนโต๊ะส่งให้กับจางผิง

“ยินดีด้วยครับคุณชาย ยินดีด้วยครับคุณชาย!”

จางผิงเซ็นชื่อของตัวเองลงบนท้ายเอกสารอย่างเด็ดขาด โดย ไม่ได้ใส่ใจจ้าวหยวนซานที่มีสีหน้าเอาอกเอาใจ แล้วโยนไปให้ จ้าวหยวนซาน และกล่าวว่า “เงินล่ะ?”

การกระทำของจางยิ่งทำให้ข้าวหยวนซานตกใจอยู่ไม่น้อย เก็บเอกสารมือไม้พันกันยุ่งเหยิง นี่มันเป็นสัญญาที่เกี่ยวพันไปถึง ทรัพย์สินมูลค่าอย่างน้อยก็ล้านล้านหยวนเลยนะ

“ครับ! คุณชาย เงินอยู่ที่นี่แล้วครับ!

จ้าวหยวนซานโบกมือใหญ่ ๆ หนึ่งที่สาวงามคนหนึ่งก็เดิน นวยนาดเข้ามา ร่างกายงดงามยั่วยวน โฉมหน้าสวยสด สองมือ ประคองถาดสีทองถาดหนึ่ง ตรงกลางถาดมีบัตรสีทองใบหนึ่ง วางอยู่

จางฝั่งมองข้ามสายตาที่เต็มไปด้วยความรักความเสน่หาของ สาวสวยคนนั้น แล้วหยิบบัตรสีทองขึ้นมา หันหลังเดินออกนอก ประตูไป
“คุณ คุณชาย! ไม่ต้องการให้ผมเลี้ยงต้อนรับให้เหรอครับ?”

จ้าวหยวนซานอยากจะตามออกไปแต่ก็ไม่กล้าทำได้เพียงยืน ร้องเรียกเสียงเบาอยู่ที่เดิม

“ไม่จำเป็น ต่อไปยังมีโอกาส ตอนนี้ผมอยู่เมืองชิงไห่ ผ่านไป อีกสักช่วงหนึ่งมีธุระจะต้องมาหาคุณอีก

จางผิง โบกไม้โบกมือค่อย ๆ เดินไปไกล ๆ

มองดูเงาที่ค่อย ๆ จากไป ข้าวหยวนซานโบกมือทั้งสองข้าง อย่างไม่รู้สึกตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข ทันใดนั้นเขาก็มี สีหน้ามึนงง รีบหันไปถามสาวงามที่อยู่ข้าง ๆ ว่า เมื่อคุณชาย พูดว่าไงนะ?!”

สาวงามตกใจ พูดเสียงเบาว่า “บอกว่า บอกว่าต่อไปมีธุระจะ มาหาท่านอีกค่ะ”

“ไม่ใช่ประโยคนี้ ยังมีอีกสิ?”

“ดูเหมือนคุณชายจะพูดว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองชิงไห่ค่ะ”

“ยอดไปเลย!”

อีกนิดหนึ่งจ้าวหยวนซานก็จะกระโดดขึ้นมาจากพื้นอยู่แล้ว เขาตื่นเต้นจนหน้าแดง นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ โอกาสหนึ่ง ได้ ใกล้ชิดคุณชายก่อนคนอื่นก็ได้รับผลประโยชน์ก่อน ในเมื่อ คุณชายอยู่เมืองชิงไห่ โอกาสที่ตนจะได้แสดงความสามารถก็น่า จะมีอยู่มาก ถ้าหากใช้วิธีที่ถูกต้องเหมาะสมเขามีความมั่นใจ กระทั่งว่าจะสามารถก้าวหน้าได้สักหนึ่งก้าวแน่!
“ไม่ได้ ฉันต้องรีบมีคำสั่งลงไป ให้ทุกคนจดจำลักษณะของ คุณชายไว้ จะให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีกไม่ได้

จ้าวหยวนซานรีบออกไปนอกประตูทันที เรียกรวมพลพนักงาน ทั้งอาคารมาประชุมใหญ่ แถมยังนึกไม่ถึงว่า ใจความสำคัญของ การประชุมก็เป็นเพียงรูปภาพของคนคนหนึ่ง

รอจนจางผิงกลับมาถึงโรงพยาบาลก็เป็นตอนบ่ายแล้ว เพื่อ เป็นการกระชับเวลาเขาจึงเดินตรงไปที่จุดชำระเงิน คิดจะจ่ายเงิน ค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกก่อนแล้วค่อยคุย ส่วนทางด้านของ หลี่เสวอีกสักพักค่อยอธิบายก็ไม่สาย

เนื่องจากคนที่มารอชำระเงินมีจำนวนมาก จางผิงจึงทำได้ เพียงต่อแถวยาว ๆ อยู่หลังผู้คนจำนวนมาก หัวใจกระสับ กระส่ายร้อนรน

จางผังหมดอาลัยตายอยาก พิจารณาโดยรอบ ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็จ้องมองนิ่งไปยังที่ที่หนึ่ง ร่างกายสั่นไหวไปทั้ง

“นี่ไม่ใช่เสว่เอ๋อร์เหรอ? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่าจะ รวบรวมค่ารักษาพยาบาลได้แล้ว?

ไม่สิ แล้วผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอเป็นใคร?!”

แต่งงานมาหลายปี จางยิ่งรู้จักหลีเสว่ดีที่สุดแล้ว จางผิงเข้าไปใกล้ ๆ โดยไม่ให้คนอื่นรู้ตัว ในที่สุดก็เห็น หน้าตาของผู้ชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน
รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา ถึงแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลาง ผู้คนมากมายเบียดเสียดก็ยังดูสูงส่งมีเสน่ห์ นี่มันไม่ใช่ซู แฟน เก่าของภรรยาเขาหรือไง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ