ผู้พิทักษ์ใกล้ตัวของเจ้านายหญิง

ตอนที่ 9 ร้านเก่าแก่ร้อยปี



ตอนที่ 9 ร้านเก่าแก่ร้อยปี

ฉันเพิ่งตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจนถึงฟ้าสว่าง ไม่ได้มีเรื่องอื่นเกิดขึ้น อีก

“ถ้าหาวิธีหาคนนั้นออกมา ไม่นั้นก็จะกังวลอยู่อย่างนี้ก็ไม่ดี ฉันเพิ่งเอาหัวนอนทับสองมืออยู่บนเตียงมองไปที่เพดานคิดไว้ใน ใจ

เวลานั้นวุ่นวายเกินไป ฉันเพิ่งยังไม่ทันคิดเยอะขนาดนี้ แต่ พอได้ผ่านการทบทวนมาทั้งคืน เขาได้รู้สึกว่าตอนที่คนนั้นลงมือ เหมือนมีอะไรติดค้าง ไม่เหมือนการต่อสู้เพื่อเอาเป็นเอาตาย อย่างจริงจัง ถ้าไม่นั้นตัวเขาอาจไม่สามารถทำให้เขาได้รับบาด เจ็บได้ง่ายขนาดนี้

คิดเยอะก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อได้ยินป่ายฉันตื่นมาลงบันไดแล้ว ฉินเฟิงก็ได้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นค่อยเดินออกไปอย่างไม่เร่งรีบ

“เสี่ยวฉิน รีบมาทานอาหารเช้าเลย เมื่อน้าหรุงเห็นฉินเฟิงก็ รีบดีใจโบกมือให้มา

“ไปก่อนนะ” เมื่อเห็นฉันเพิ่งออกมา ทันใดนั้นหน้าของป้ายฉัน ก็ได้แดงขึ้นยืนขึ้นเดินออกไปขนาดอาหารเช้ายังไม่กินเลย เพราะรีบเดินไปเกือบทำเก้าอี้ล้ม พอเป็นแบบนี้หน้าของเธอก็ แดงกว่าเดิม

ป่ายฉินไม่หันหัวกลับมาและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยว่า“เดี๋ยวมีคนของวิลล่าหวงถิ่นเป่ยวนจะมา เธออยู่ต่อจัดการเรื่องที่ บ้าน ไปบริษัทสายหน่อยไม่เป็นไร”

พูดจบก็รีบเดินออกไปเลย

ฉันเฟินรู้สึกมีอะไรแปลกๆ เดินมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลง ถาม ว่า”น้าหรุง หลอนนี้เป็นอะไรหรือ?”

น้าหรุงใส่หัว ยิ้มอ่อนๆพูดว่า”ก็เป็นเพราะเธอนั้นละ

“ฉัน?”

“ใช่แล้ว คุณหนูต่อหน้าคนนอกก็จะให้เห็นว่าเป็นคนเข้มแข็ง มาตลอด แต่เมื่อวานไปร้องไห้ต่อหน้าเธอไปก็จะมีความรู้สึกอาย เล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว รอผ่านไปสักพักก็จะหายไป พอน้าหรุงพูดถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจ พูดว่า “คุณหนูเป็นคนน่า สงสาร ต่อจากนี้ไปเธอต้องดูแลหลอนดีๆนะ”

“อืม “ฉินเฟิงตอบอย่างไม่ตั้งใจ ตอนนี้ความสัมพันธ์เขากับ ป่ายฉินติดอยู่ในเส้นใต้บางๆ เรื่องของหลังจากนี้ยังไม่สามารถ พูดให้มันชัดเจนเลยจริงๆ

ฝีมือของน้าหรุงดีจนฉันเพิ่งกินโจ๊กไปสามถ้วยใหญ่ๆถึงจะวาง ตะเกียบอย่างเต็มใจ

ในเวลาเดียวกัน เสียงกระดิ่งประตูได้ดังขึ้น หลังจากน้าหรุง เปิดประตูแล้วเดินเข้ามาสามคน คนที่เดินหน้าใส่เสื้อสูทสีขาว ยืนตัวตรง บนดั้งจมูกมีแว่นขอบสีทองห้อยไว้ได้ช่วยปกปิด สายตาที่ดุ ด้านหลังของเขามีชายร่างใหญ่แต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ดอีกสองคน น่าจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของ วิลล่าหวงกินเป่ยวน

“ประธานป่ายอยู่ไหม?”ชายที่สวมแว่นยิ้มเล็กน้อยถามกับฉัน

เฟิง

“ท่านนี้คือคุณฉิน พวกเธอคุยกับเขาได้เลยน้าหนึ่งยืนอยู่ด้าน ข้างขมวดคิ้ว แสดงว่าไม่ค่อยยินดีจะเจอชายที่สวมแว่นคนนี้

ชายที่สวมแว่นอึ้งไป แต่ก็ยังเดินมาทางฉินเฟิง มองฉันเฟิ งด้วยท่าทางมองจากด้านบนมองไปด้านล่าง ถามว่า “เธอคือคุณ ฉันหรือ? ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับประธานฝ่าย?”

เมื่อฉันเพิ่งได้ยินประโยคนี้ก็รู้เลยว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่จะมาจีบ ป่ายฉิน แน่นอนเลยที่จะต้องชักสีหน้าใส่ พูดว่า”มีเรื่องอะไรก็คุย ถ้าไม่มีก็รีบใส่หัวไปเลย ฉันยุ่งมาเลยรู้ไหม วันนี้ไม่มีเวลามาคุย เล่นกับเธอ”

“ฉันเป็นคนดูแลของวิลล่าหวงถิ่นเป่ยวนหลินเชื่อ จะมาตรวจ สอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ หวังว่าคุณฉิน ให้ความร่วมมือรอย ยิ้มบนใบหน้าของชายสวมแว่นหลินเชื่อหยุดสักพัก แต่ก็ยัง อดทนไว้และพูดเข้าประเด็น

“ตรวจสอบ?ไม่ใช่มาขอโทษหรือ?”ฉินเฟิงพูด วิลล่าหวง ถินเป่ย่วนมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองจิง แต่มีเรื่องเกิดขึ้นว่า เจ้าของบ้านโดนโจมตี ถ้าข่าวกระจายออกไปก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แล้ว

หลินเซ่อพยักหน้า พูดว่า”รอให้หลังจากได้การตรวจสอบแล้วทางเราจะให้คําตอบแน่นอน

“น้าหรุงพาพวกเขาขึ้นไปดู”ฉันเพิ่งพูดกับน้าหรุงโดยไม่ลังเ

หลินเชื่อโบกมือให้กับบอดี้การ์ดด้านหลังสองคน ให้พวกเขา ตามน้าหรุงขึ้นไปที่ชั้นสองไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

“เมื่อคืนคุณฉันได้มีการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม ไม่รู้ว่าสามารถ ให้หลักฐานอะไรบ้างไหม?” หลินเชื่อมองไปทางฉันเพิ่งอย่างน่า สงสัย เพราะดูเหมือนฉันเพิ่งเป็นคนธรรมดาเกินไปดูไม่ออกว่า เป็นคนยอดฝีมือ

“ฉันไม่มีอะไรจะพูด เธอสามารถไปถามกับอาลี่ เขาอาจจะเห็น หน้าตาของฝ่ายตรงข้าม”ฉันเพิ่งใส่หัว ไม่ใช่ไม่ให้ความร่วมมือ เป็นเพราะคิดอะไรไม่ออกจริง

จากนั้นหลินเชื่อก็ได้เดินไปทางห้องของอา

ฉันเพิ่งมองสังเกตด้านหลังของหลินเชื่ออย่างเงียบๆ ดูท่าทาง แล้วเขาคุ้นเคยกับที่นี่ หรือว่าเป็นเพราะอาลี่มีชื่อเสียงในวิลล่า หวงถิ่นเป่ยวน สิ่งที่ทำให้ฉันเพิ่งรู้สึกประหลาดใจคือ ตำแหน่ง ของอาลีบอกว่าเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ด แต่เหมือนไม่ค่อยที่ จะออกหน้า ไม่รู้ว่าในตรงนี้มีเรื่องอะไรปิดปังอยู่

บ้านตระกูลป้ายเหมือนอยู่ในหมอกโดนทิ้งไว้

อันที่จริง การตรวจสอบอย่างนี้เป็นแค่ทำตามขั้นตอน จะตรวจ อะไรออกมาได้ที่ไหน

ไม่นาน หลินเชื่อและบอดี้การ์ดอีกสองคนก็ได้กลับมาที่ห้องรับแขก

“สิ่งที่แน่ใจได้คือมีคนบุกเข้ามา รอให้มีความคืบหน้าแล้วฉัน

จะมาอีกครั้ง หลังจากหลินเซ่อพูดคำนี้ไว้แล้วก็เดินออกไปเลย ฉันเฟิงกะพริบตา แบบนี้ก็จบแล้วหรือ? รู้ว่าเป็นอย่างนี้เขาจะ ไม่ได้นั่งรอตรงนี้

“ได้แล้ว เรื่องในบ้านมีฉันดูแลอยู่ เธอไปบริษัทได้แล้ว”น้าหรุ งก็ได้ออกคําสั่งไล่แล้ว ผลักฉันเพิ่งไปทางประตูตรงๆ

ฉันเพิ่งยิ้มแบบไม่มีทางเลือกได้แต่เดินออกไป

รอให้เขามาถึงหน้าประตูวิลล่าหวงถิ่นเป่วนถึงจะรู้ว่ามี ปัญหา ไม่ใช่ว่าตัวเองจะต้องเดินออกไปแบบนี้หรือ?วิลล่าหวง กินเป่ยวนอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง จากตรงนี้ไปถึงถนนหลักอย่าง น้อยระยะทางยังมีหนึ่งกิโล

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สำหรับฉันเฟิงแล้วไม่ใช่ปัญหาอะไร มากมาย เดินก็เดิน

“เอี๊ยด!”

ทันใดนั้น เสียงเบรกรถดังขึ้น รถวิ่งคันสีแดงจอดอยู่ข้างฉัน เฟิง ชายคนที่แต่งผมยุ่งเหมือนรังไก่แต่งตัวทันสมัยได้เขย่า หน้าต่างรถลงมา ตะคอกใส่ฉันเพิ่งว่า “พี่น้อง เธอคิดจะไปออก กำลังกายหรือ? ทําไมไม่วิ่งเลยละ

ฉันเพิ่งมองไปทางซ้ายทางขวา ถามอย่างไม่เข้าใจว่า”เธอคุย กับฉัน เหมือนฉันไม่รู้จักเธอ”
“ฮาๆ ฉันรู้จักเธอก็พอ”ชายผมเหมือนรังไก่หัวเราะเยาะเสียง ดังพูดว่า “ขนาดคนเหมือนภูเขาน้ำแข็งอย่างป้ายฉันเธอยังเอา อยู่ เมื่อไหร่จะสอนวิชาให้ฉัน

ฉันเฟิงไม่พูดอะไรก็เปิดประตูนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ พูดว่า” ส่งฉันที ฉันค่อยพิจารณา”พูดเรื่องจริง ครั้งแรกของเขายังหาย ไปแบบงงๆ มีวิชาพิเศษที่ไหนมา แต่เด็กโง่คนนี้พูดมาเองเขาก็ ไม่อยากจะไปปฏิเสธ

“ฉันชื่อเฉินฉี พี ออะไร?” เห็นได้ว่าใบหน้าของเฉินแสดงถึง อารมณ์ ค ถามต่อไป

“ฉินเฟิง!”

ปัง!

เฉินเห็นฉันเฟิงนั่งดีแล้วก็ขับรถขึ้นถนนต่อไป ถามว่าเธอจะ ไปที่ไหน?”

“บริษัทปายฉัน ฉันทำงานที่นั่น”ฉินเฟิงตอบไปหนึ่งประโยค พูดว่า”ทางผ่านไหม”

“อันที่จริงไม่ใช่ทางผ่าน แต่พอเจอพี่เธอแล้วก็ต้องเป็นทาง ผ่านไป”เฉินฉียิ้มเสียงแหะๆ พูดว่า”เธออยู่ตำแหน่งอะไรใน บริษัท พาฉันไปดูสักหน่อย”

“เหมือนเป็นผู้ช่วยอะไร ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เธอเข้าไปทำอะไร ไม่ใช่จะไปทำเรื่องไม่ดีหรือ?”ฉันเพิ่งอยากจะทำความรู้จักกับ ปายฉินเยอะกว่านี้ ก็ได้พูดเรื่องไร้สาระกับเฉินไปเรื่อย
จากนั้นก็ได้รู้ว่า ที่ไหนได้เฉิน ชอบพนักงานหญิงภาพใน บริษัทของป่ายฉิน แต่หลังจากได้ก่อกวนไม่หยุดไปหลายวันก็ โดนปายฉันออกคำสั่งว่าห้ามเฉินฉันเข้ามาในบริษัท ตอนนี้เจอ ฉินเฟิง ทันใดนั้นดวงตาของเฉินฉีสว่างขึ้นมาทันที พูดว่า “พี่น้อง ความสุขของฉันอยู่ในมือของเธอแล้ว เธอจะต้องยื่นมือช่วงน้อง ด้วยนะ”

“แคะๆ เรื่องนี้ฉันจะต้องว่าเธอแล้ว เธอวิ่งเข้าไปเหมือนลิง ขนาดนี้ใครจะมาสนใจเธอ ฉันเพิ่งคิดไปสักพัก ทำท่าเหมือน เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ พูดจาค่อยเป็นค่อยไปว่า “เธอจะต้องไม่ สนใจหลอน ปล่อยหลอนไปสามถึงห้าเดือน หลอนจะต้องร้องไห้ วิ่งเข้ามาหา ถึงเวลานั้นเธอจะทิ้งก็ทิ้งไม่ได้แล้ว

เฉินมองไปที่ฉันเพิ่งอย่างสงสัย พูดว่า”เป็นเรื่องจริงหรือ เธอ อย่ามาโกหกฉันนะ”

ฉันเพิ่งพยักหน้าแรงๆ พูดว่า”เธอถามประสบการณ์กับฉัน ฉัน ก็พูดไปแล้ว เชื่อไม่เชื่ออยู่ที่เธอ ถ้าไม่นั้น เดี๋ยวฉันจะพาเธอเข้า บริษัท ส่วนที่เหลือก็ไม่มีเรื่องของฉันแล้ว”

“ไม่เอา ฉันจะเชื่อฟังเธอได้ไหม “ทันใดนั้นเฉิน ตื่นตัวรีบพูด

ไม่นานเฉินฉีก็ได้ส่งฉินเฟิงมาถึงหน้าบริษัทของป่ายฉิน หลัง จากฉินเฟิงลงจากรถแล้วโบกมือรีบออกไปเลย

ส่วนเฉิน คือ ใคร เขาลืมไปหมดแล้ว

ตอนที่จะเข้าไปบริษัทก็ได้วุ่นวายตั้งนาน ดีที่มีคนจำได้ว่าเมื่อ วานฉินเฟิงเคยมา เขาถึงจะไม่ได้โดนไล่ออกไป
“คุณภรรยา ฉันมาแล้ว” ฉันเพิ่งทำเสียงเหอะๆผลักประตูห้อง ทํางานของป่ายจิน

ป้ายฉันกำลังดูเอกสารชุดหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงหวานๆแบบนี้ เงยหน้ามองไปที่ฉินเฟิง สีหน้าเริ่มหนักพูดว่า” อยู่ในบริษัทเรียก ฉันว่าท่านประธานป่าย”

“รู้แล้ว คุณภรรยาท่านประทาน” ฉันเพิ่งทำหน้าทะเล้น

“ใส่หัวไปที่ห้องทํางานของตัวเอง ไม่มีอะไรอย่ามายุ่งกับฉัน มี เรื่องอะไรก็ไม่ต้องมาหาป้ายฉันทำหน้าดุร้ายจ้องไปที่ฉันเพิ่ง

ฉันเพิ่งดูแล้วท่าทางไม่ค่อยดี หน้าตาแบบนี้เหมือนจะระเบิด ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ ภายในสามวินาทีก็หายตัวไปแบบไร้ร่องรอย

“”” เมื่อเห็นหน้าตาของฉันเฟิง ปายฉันอดที่จะหัวเราะไม่ได้

ยิ้มเหมือนดอกไม้ที่เบิกบานสีสันสวยงาม

หลังจากที่ได้กลับมาห้องทำงานผู้ช่วยแล้ว ทันใดนั้นฉันเพิ่ง เหมือนไม่มีอะไรทำ ทุกคนก็รู้กันอยู่ว่า ตำแหน่งผู้ช่วยของเขาก็ แค่เป็นตำแหน่งเฉยๆไม่ได้ทำอะไร มีเรื่องอะไรก็ไม่ได้มาหาเขา หลังจากที่ได้ไปเดินรอบข้างที่ทำงานแล้ว ฉินเฟิง ยิ่งมั่นใจกว่า เดิมว่า ตัวเองเหมือนกับคนที่ไร้ตัวตน รู้สึกไม่สนุกเลย ก็ได้กลับ ไปที่ห้องทํางานแล้วนอนลงบนโซฟา

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหนฉันเพิ่งรู้สึกได้ว่ามีคนเข้าใกล้ รีบลืมตา ขึ้นมาดู มีหน้าที่อ่อนโยนเหมือนดีดไปหนึ่งที่ก็จะแตกตอนนี้อยู่ ต่อหน้าเขา เขาไม่ตั้งใจยื่นมือออกมารูดบนใบหน้าที่เล็กและ อ่อนโยน การสัมผัสความรู้สึกดีมาก
“อา!” ปายฉินร้องเสียงตกใจรีบยกตัวขึ้น พูดว่า”เธอทำ อะไร?”

ฉันเพิ่งรู้สึกตัวเองโดนเข้าใจผิด แบมือออกมา พูดว่า “ฉัน กำลังนอนอยู่คือตัวเธอเองก็ได้เข้าใกล้มา นี่ก็ผิดที่ฉันอีกหรือ?”

“ถุย ความคิดต่ำ” ปายฉันรู้สึกตัวเองโดนกระทำที่ไม่เหมาะ กับกาลเทศะ ยังเพราะตัวเองไปเข้าใกล้ อารมณ์ตอนนี้รู้สึก สับสนมาก ต่อจากนี้ก็ได้ทำหน้าเย็นชา พูดว่า” ไปเถอะ ไปกิน ข้าว”

“อ๋อ ดี” ฉินเฟิวพลิกตัวนั่งขึ้นมา

หลังจากตามป่ายฉินออกจากบริษัทแล้ว ฉันเพิ่งอดถามไม่ได้ ว่า”ไม่ใช่จะไปกินข้าว ทำไมไม่ไปโรงอาหาร?”

“วันนี้ฉันอยากจะไปกินข้างนอก” ป้ายฉันเดินไปข้างหน้าโดน

ไม่หันหัวกลับมา

“เธอมีความสุขก็พอแล้ว”ฉันฟังรู้สึกยังไงก็ได้ สำหรับเรื่องกิน เขาไม่ค่อยถือสาอะไร ถ้าป้ายฉันจะเอาอาหารมาทรมานเขา ใน ที่สุดผลที่ออกมามีแค่ไม่ประสบความสำเร็จ ในเวลาที่เคยผ่าน มา กระเพาะของเขาโดนทรมานมากพอแล้วจนได้ภูมิคุ้มกันตั้ง นานแล้ว

“ตรงนี้มีร้านเก่าแก่ร้านหนึ่ง รสชาติดีมาก แต่ข้างในมีคนหลัก หลายรูปแบบ ก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้ามา” ป้ายฉันยังได้อธิบายให้ ฟัง ก็เป็นเพราะพฤติกรรมการต่อสู้ของฉันเพิ่งอย่างมีพลังทำให้ ป้ายฉันเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
” พูดไปพูดมา ก็อยากจะให้ฉันเป็นบอดี้การ์ดให้ไม่รู้ว่าเธอ เตรียมเงินไว้เท่าไหร่?” ฉันเพิ่งพูดยิ้มเหอะๆ

ความเย็นชาบนใบหน้าของป้ายฉันเหมือนละลายไปแล้วเล็ก น้อย พูดว่า”เงินไม่มี แต่ฉันจะเลี้ยงข้าวเธอมื้อนี้ถือว่าเป็นการ ตอบแทน”

ถึงแล้ว ก็คือที่นี่”ทันใดนั้นป้ายฉันหยุดเดิน

สายตาของฉันเพิ่งถึงย้ายออกจากตัวปายฉันไปสังเกตร้าน เก่าแก่ร้อยปีที่ปายฉันพูดถึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ