ผู้พิทักษ์ใกล้ตัวของเจ้านายหญิง

ตอนที่ 2 การใส่ร้ายศัตรูที่แสนยากลำบาก



ตอนที่ 2 การใส่ร้ายศัตรูที่แสนยากลำบาก

ข้อแลกเปลี่ยน? ฟังถึงตรงนี้ ฟางหยูนก็หัวเราะเสียงขึ้นจมูก สําหรับคำว่าข้อแลกเปลี่ยนของฉันเฟิง ถ้าไม่เป็นเงิน ก็คงจะคิด ว่าเธอเป็นผู้หญิงง่าย ๆ สบาย ๆ ในเวลานั้น ทัศนคติของเธอที่มี ต่อฉินเฟิงก็ดิ่งลงไป 3000 ฟุต

สายตาของเธอแสดงออกถึงดูถูกออกมาอย่างเปิดเผย วินาที ฉินเฟิงจูบที่ริมฝีปากแดงแสนเซ็กซี่ของเธออย่างไม่ทัน คาดคิด

ชั่วพริบตาเดียว ฟางหยูนทีมที่อ

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มที่โอบกอดเธอไว้คนนี้ทำไมถึง ได้ใจกล้าอย่างนี้………

อย่าว่าแต่เธอทีมที่อเลย แม้แต่หยวนโหวก็ตกตะลึงตาค้าง เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าชายตรงหน้านี้เป็นเพียงเกราะกำบัง เท่านั้น แต่ว่าเกราะกำบังนี้ทำไมถึงได้ต่อต้านเจ้าของกัน

“คุณบ้าไปแล้ว ปล่อยเธอ ผม…….ผมจะฆ่าคุณ” หยวนโหว เดือดดาลขึ้นมาจริง ๆ ไม่พูดอะไรก็ถลาไปชกฉินเฟิง ตอนนี้ใน ใจของเขาถึงกับรู้สึกอยากฆ่าฉันเพิ่งแล้ว

กำปั้นของหยวน โหวยังไม่ทันไปถึงร่างกายของฉินเฟิง ไม่ ได้เป็นเช่นนั้นเพราะโดนฉันเพิ่งยื่นเท้าถีบออกไป
จนกระทั่งตอนนี การจูบถึงได้แยกจากกัน

“อืม ความรู้สึกที่ปากก็ไม่เลว แต่ว่าเทคนิคไม่ค่อยดีเท่าไร ฉินเฟิงเลียริมฝีปากที่แตกจากการโดนกัดของเธอ สายตาเพ่งไป ที่หยวน โหวที่ล้มอยู่บนพื้น “เธอปฏิเสธคุณไปอย่างชัดเจนแล้ว คุณต้องรู้จักวางตัว อีกอย่างเวลาอยู่ข้างนอกอย่าให้คนอื่นหลบ หลีกบ่อย ๆ อะไรอย่างนั้น เพราะอาจจะเป็นจุดจบของคุณ?”

พูดได้ว่า หากไม่ใช่เพราะหยวนโหวใช้ความรุนแรงกับสาว สวยก่อน ต่อมาก็ดูถูกตัวเอง เขาก็คงขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องนี้

หยวนโหวที่โดนเขาถีบล้มลงพื้น ตอนนี้นั่งหายใจหอบแรง อยู่บนพื้น ผู้คนที่มองดูอยู่บริเวณโดยรอบยิ่งนานยิ่งมากขึ้น แต่ เดิมคนก็มาดูเรื่องข่าขันก็ยิ่งสนุกมากขึ้น พูดล้อเลียน เป็นเพราะ ฉินเฟิงละครตลกฉากนี้ถึงได้ยิ่งน่าดูมากขึ้น

ฟางหยูน ในที่สุดก็เรียกสติกลับมาได้

“คุณ……ไม่คิดว่าคุณะกล้า” ฟางหยูนฉินเฟิงอย่างโกรธ เกรี้ยว จนกระทั่งยังไม่ทันพูดจบ ก็หมุนตัววิ่งหนีไป

“เฮ้ สาวสวย คุณยังไม่ทันได้รู้ชื่อของแฟนคุณเลยนะ ผมชื่อ ฉินเฟิง” ฉินเฟิงมองแผ่นหลังของเธอที่วิ่งออกไปอย่างฉับพลัน ส่งเสียงหัวเราะออกมา ในขณะเดียวกันก็คิดอยู่ในใจว่า: การใช้

ชีวิตในเมือง มันช่างดีจริง ๆ อย่างรวดเร็ว ตอนเที่ยงมาถึงอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาต้องไป
บ้านป้าป่ายแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ ฉินเฟิงก็ออกไปทันที

นักแสดงนำของละครตลกฉากนี้เหลือหยวน โหวอยู่แค่คน เดียว อีกทั้งยังเป็นที่ตกที่นั่งลำบากที่สุด ตอนนี้เขาโกรธจนไม่ สามารถลดลมหายใจลงได้ เป็นเพราะโดนฉินเฟิงถีบ เพียงแต่ สิ่งที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นทั้งหมด

“ฉินเฟิง ฉินเฟิง ฉันจะต้องทำให้แกตายแน่นอน” สีหน้าของ หยวน โหวเย็นชา กำหมัดแน่น พยายามที่จะลุกขึ้นหลายครั้ง

เวลาเที่ยงกว่า ฉินเฟิงโบกรถไปบ้านของป้าปาย ของขวัญ นั้น แน่นอนว่าไม่ได้ซื้ออะไรมาเลย ถึงอย่างไรในข้อมูลของป้า ปายก็ระบุว่าเป็นบอสของบริษัทติดอันดับห้าร้อยของโลก ยังจะมี ของอะไรที่ขาดเหลืออยู่อีกกัน?

แต่ว่าบ้านของป้าป่ายนี้ ก็เหมือนธรรมดาทั่วไป เพียงแค่อยู่ ในเขตคฤหาสน์

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของป้าปาย ฉินเฟิงก็กดกริ่งประตู

“กริ่งกริ่ง ไปเปิดประตู” เสียงที่ไพเราะดังมาจากด้านใน ประตู และฉินเฟิงที่กำลังเตรียมคำพูดทักทายก็ยิ่งกังวล

ใครจะรู้เมื่อประตูเปิด จะเป็นหญิงสาวที่งดงามที่นอนอยู่บน เตียงเมื่อเช้า ฉินเฟิงนิ่งค้าง หญิงสาวที่งดงามที่มาเปิดประตูก็ตก ตะลึง

ผ่านไปสักพัก ทั้งสองคนก็พูดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัด หมาย: “เฮ้ย ทำไมถึงเป็นคุณ?”
ไม่พูดไม่ได้ ถึงแม้ว่าป้าป่ายจะเป็นบอสของบริษัทติดอันดับ ห้าร้อยของโลก แต่ก็เป็นบ้านธรรมดาทั่วไป เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้ ทั้งหมด นอกจาก โซฟาหนังแท้กับภาพวาดจากนักวาดที่มีชื่อ เสียงของต่างประเทศบนผนังแล้วก็ไม่มีอะไรให้ดู

อีกทั้งคฤหาสน์หลังนี้คนรับใช้ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียว ฉินเฟิงถึงกับค่อย ๆ นั่งบนโซฟาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ ออก

ส่วนสาวสวยขาเรียวแสนเซ็กซี่เมื่อคืน ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่า ฉินฉิน นั่งโซฟาตัวข้าง ๆ แล้วมองมาที่ฉินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ฉันเพิ่งคิดว่าตนเองจะต้อง กลายเป็นสลัดอย่างแน่นอน

ผ่านไปสักพัก ป้าชายก็ออกมาจากห้องครัว

ร่างที่ในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ สวมผ้ากันเปื้อน เส้นผมชี้ขึ้น แม้จะบอกว่าเธออายุได้ส่สิบกว่าปีแล้ว แต่ผิวพรรณยังขาวเนียน แม้กระทั่งเปรียบกับฉินฉันผิวก็ยังดูดีอยู่ โดยธรรมชาติแบบไม่ จําเป็นต้องพูด ลูกสาวเป็นแบบไหนแม่ก็ต้องเป็นแบบนั้น

“ฉินฉิน ทำไมถึงไม่รู้ความ มีแขกมาไม่รู้จักในน้ำให้ ป้า ป่ายเมื่อเห็นแก้วน้ำด้านหน้าฉันเฟิงไม่มีน้ำ จึงตำหนิเธอไปหนึ่ง ประโยค

ฉันฉันบ่นพึมพำ เดินเข้าไปในครัวโดยไม่พูดอะไร ฉันเพิ่งรีบร้อนยืนขึ้น พูดอย่างสุภาพ: “ไม่เป็นอะไรครับป้าปาย ผมเองก็ไม่ได้กระหายน้ำ ได้ยินมาจากคุณแม่ว่าคุณเป็นคน ที่สวยมาก ได้เห็นตัวจริงถึงได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความ งดงาม ป้าปาย ตอนที่คุณกับฉินฉินออกมา ทุกคนล้วนบอกว่า พวกคุณสองคนเป็นพี่น้องกันหรือเปล่า”

“อิอิ” ป้าป่ายหัวเราะขึ้นมา พูด “เจ้าเด็กคนนี้ ปากหวาน จริง ๆ ฉินฉินลูกดูสิเด็กคนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว พวกเธอยังเคย ทําความรู้จักกันสินะ?”

ทำความรู้จัก? ขึ้นเตียงกันก็แล้ว ยังจะต้องทำความรู้จัก

อะไรอีกหรือ?

แน่นอนว่าฉันเพิ่งไม่กล้าที่จะพูดเรื่องเมื่อคืนออกมา ไม่อย่าง นั้นสิ่งที่จะได้ดื่มคงไม่ใช้น้ำแล้ว แต่จะเป็นยาพิษแทน

“ไม่เป็นปัญหาครับ เวลายังมีอีกมาก หลังจากนี้จะค่อย ๆ ทำความรู้จักกันได้อย่างแน่นอน” สีหน้าของฉันเพิ่งค่อนข้าง กระอักกระอ่วน เรื่องนี้จะต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ คิดถึงเงิน สองแสนที่ตัวเองทิ้งให้เธอไป ก็รับรู้ถึงระดับความลึกได้เลย

ป้าป้ายหยักหน้าเห็นด้วย ทอดถอนหายใจ: “ฉันเห็นคุณมา แต่ยังเด็กก็รู้ได้ทันทีว่าคุณเป็นเด็กที่รู้จักคิดคนหนึ่ง ใช่แล้ว ตอนนี้คุณทํางานอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ? ได้ยินพ่อของคุณบอกมา ว่าหลังจากปลดประจำการอารมณ์คุณก็ไม่คี่ยจะดีเท่าไร

พูดถึงการปลดประจำการ รอยยิ้มของฉันเฟิงก็แข็งที่อ

ปลดประจําการตลอดจนสาเหตุของการปลดประจําการ เป็นสิ่งที่ฉินเฟิงไม่ยอมที่จะกล่าวถึงมาตลอดยิ่งไม่ยอมเอามาเป็นเหตุให้ปวดใจอีกต่อไป

ผ่านไปสักพัก ฉันเพิ่งถึงได้ดีขึ้นมา ยิ้มเล็กน้อยพูด: “ตอนนี้ ไม่ได้ทําอะไรครับ แต่ก็มีคิดไว้ในใจแล้ว

เฮ้ ตาเฒ่าสั่งให้ฉันต้องมาเป็นลูกเขยแต่งเข้า ก็คือความ คิดนั้นนะ ฉันเพิ่งคิดในใจอย่างหดหู แต่ว่าเข้าคิดอย่างไรก็ยังไม่ เข้าใจ บริษัทของตาเฒ่านี้กำลังจะปิดตัวลงอย่างนั้นหรือ? ทำไม ถึงให้ตัวเขาร่อนเร่มาเป็นลูกเขยแต่งเข้าที่สถานภาพน่าเวทนา อย่างนี้?

ป้าปายหัวเราะแล้วพูด “เอาอย่างนี้ไหม ฉันมีบริษัทเล็ก ๆ อยู่ที่เมืองจิง ตอนนี้ให้ฉันฉันเป็นคนบริหาร คุณกับฉันฉันก็ช่วย กันบริหารบริษัทนั้นก็แล้วกันนะ เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าใจ ความรู้สึกกันนะ”

ขณะพูด ฉินฉันก็ยกแก้วน้ำวางตรงหน้าฉันเฟิง พูดอย่างเด็ด ขาดว่า: “แม่คะ บริษัทหนูคนเดียวก็พอแล้ว ส่วนฉินเฟิงคนนี้ ให้ เขายังคงเป็นคุณชายใหญ่น่าจะสบายใจกว่านะคะ”

“ไม่ได้ ต้องให้ฉันเพิ่งไปทำงานกับลูก ทั้งสองคนจะได้มี เวลาดูแลกัน” ไม่คิดว่าป้าบ่ายจะเป็นคนที่เด็ดขาดมากคนหนึ่ง คำที่พูดออกมาล้วนมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ

ป้าป่ายมองเวลา ในนาฬิกาข้อมือแล้วพูด: “พวกเธอสองคน คุยเลยกันไปนะ ฉันจะไปดูน้ำแกง รอสักพักก็สามารถตั้งโต๊ะทาน อาหารได้แล้ว”

ป้าป่ายเดินออกไป บรรยากาศก็เย็นเยียบรุนแรงมากขึ้น
ฉินฉินกัดฟันจ้องเขม็งฉินเฟิง ยิ้มเย็น: “คุณชายฉิน มือเติบ เสียจริง สะบัดมือครั้งเดียวก็สองแสน”

“ใช่ที่ไหนกัน มันเป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน” ฉันเพิ่งยิ้มสีหน้าเหยเก

“ฉันรินน้ำให้ทำไมคุณไม่ดื่มล่ะ คุณดื่มสิ

ฉันเพิ่งมองน้ำในแก้วที่ไม่มีอะไรเจือปน ถามอย่างกังวล “สิ่งนี้ คุณคงไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปหรอกนะ?”

อย่าไปล้อเล่นกันเลย ฉันเพิ่งไม่รู้ว่าฉันฉันจะเป็นเจ้าบ้านใจ อำมหิตมือเหี้ยมโหดหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเธอใส่พิษลงไปจริง ๆ ฉินเฟิงก็คงโชคร้ายเกินไปแล้ว อีกอย่างเรื่องเมื่อคืน ก็ไม่ใช่ ความรับผิดชอบของตัวเขาเลยสักนิด

“ฮี ฉันใส่พิษลงไปแล้ว คุณดื่มก็คุณโดนพิษตาย”

ได้ยินดังนั้น ฉินเฟิงก็วางใจ ยิ้มออกมาแล้วยกแก้วขึ้น: “ถ้า อย่างนั้นก็ขอบคุณ กำลังหิวน้ำพอดี” พูดจบ กลืนน้ำลงคอไปอีก

ใหญ่

ทันใดนั้นดวงตาทั้งคู่ฉินเฟิงของก็เบิกกว้าง

ไม่ถูกต้อง เจ้าTMนี่เป็นน้ำอย่างนั้นหรือ? ทำไมถึงได้มีรส เผ็ดขนาดนี้? ผมเช็ด หรือว่าจะใส่พิษลงไปจริง ๆ ?

เดิมทีคิดว่าจะอย่างไรฉันฉันก็คงไม่ได้ใส่พิษลงไป ใครจะไป รู้ว่าที่สุดแล้วนี่คือ อะไร
ในตอนนั้นเอง ป้าปายก็เดินมาถึงห้องนั่งเล่น และพูดอย่าง อัธยาศัยดีว่า: “ฉินเฟิง ฉินฉิน มาทานข้าวกันเถอะ”

“มาแล้วค่ะ” ฉินฉันใบหน้าเต็มไปด้วนรอยยิ้มลุกขึ้นยืน แล้ว เดินไปพูดไป: “คิดไม่ถึงเลยว่าพริกไทยขาวปนกับพริกป่นจะ ใช้ได้ไม่เลวเลย อืม ครั้งหน้าซื้อไว้เยอะหน่อยก็ดี เป็นกับข้าว อย่างไรก็ต้องได้ทาน

ฉันเพิ่งรับอาเจียนน้ำที่อยู่ในท้องออกมา สีหน้าแดงเล็กน้อย มองแผ่นหลังของฉันฉันด้วยสายตาโกรธเคือง พูดเสียงทุ้ม: “ ทั้งหมดนี้คุณบังคับผมเองนะ ความแค้นนี้ถ้าไม่ได้เอาคืนคง ไม่ใช่ผม

การทานอาหารกลางวันมื้อแรกจบไปอย่างรวดเร็ว ใน ระหว่างนั้นไม่มีเรื่องอะไรอีกทึกขัดความเบิกบาน นอกจากป้า ป่ายให้ฉันฉันพาฉันเพิ่งไปบริษัทแล้วก็วางแผนเตรียมตัวเป็น ลูกเขยแค่เรื่องนี้ก็ปาไปครึ่งแล้ว

รถออดี้สีแดงคันหนึ่ง วิ่งบนถนนหลวง ความเร็วของรถ ใกล้ ถึง 180 หลาแล้ว

ฉินเฟิงนั่งที่นั่งข้างคนขับ ทำได้เพียงจับราวจับบนรถแน่น พูดอย่างเกร็ง ๆ : “ปายฉิน มีอะไรค่อย ๆ พูดกันก็ได้ อย่าวู่วาม นี่คือถนนหลวงนะ ไม่ใช่สนามแข่งรถที่บ้านคุณ

รถสปอร์ตหยุดลงอย่างรวดเร็ว ยังดีที่ฉินเฟิงคาดสายนิรภัย และมือจับราวรถไว้ไม่อย่างนั้นต้องบินออกไปนอกรถแน่นอน
“คุณพูดมา เมื่อคืนคุณเข้ามาใกล้ชิดฉันมีจุดประสงค์อะไร ในตอนนี้ ปายฉันเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา ดุร้ายและ โกรธเกรี้ยวจนแทบพ่นไฟ พร้อมหาจังหวะเอาฉันเพิ่งไปฆ่าก่อนที่ จะแยกชิ้นส่วนศพแล้วทําลายศพ

“อีสัด ทำให้ผมตกใจจนจะราดจริง ๆ” ฉันเพิ่งปาดเหงื่อบ เย็น ๆ บนหน้าผาก พูดอย่างจนใจ “พี่สาว พี่สาวปายฉัน ถ้าเมื่อ คืนผมรู้ว่าเป็นคุณ คุณสบายใจได้ ต่อให้คุณเปลือยกายอยู่บน ถนนผมก็ไม่เหลือบสายตาไปมองแน่โอเคไหม”

“ใช่หรือ? ทำไมจังหวะที่ฉันกำลังเมา คุณถึงได้ปรากฏตัวอยู่ ข้างฉัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ