ผมจะออกไปแตะขอบฟ้า

บทที่9 เป็นเกียรติของผมอย่างยิ่ง



บทที่9 เป็นเกียรติของผมอย่างยิ่ง

บทที่9 เป็นเกียรติของผมอย่างยิ่ง

ได้ยินคำพูดของประธานลั่ว ร่างกายของทุกคนก็แข็งทื่อ

ประธานลั่วเป็นผู้จัดการใหญ่ เป็นหัวหน้าที่ใหญ่ที่สุด ของสาขาแล้ว คนที่จะถูกเขาเรียกอย่างนี้ได้มีเพียงคน เดียวเท่านั้น นั่นก็คือท่านประธานของบริษัท

คิดถึงที่เมื่อกี้ตัวเองเกือบจะลงมือ ใบหน้าของหัวหน้า จางก็หมองหม่น

“พริบ” เขาคุกเข่าลงที่พื้นใกล้เท้าหยางเฉิน แล้วรีบพูด ขอร้อง “ท่านประธานครับ ผมมีตาหามีแววไม่ มองคนอื่น ต่ำต้อย ท่านเป็นคนสูงส่งต้องใจกว้างได้โปรดปล่อยผม ไปสักครั้งเถอะครับ!”

ประธานลั่วยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้ที่ได้รับข่าวว่า ท่านประธานจะเข้ามาบริษัท เขาก็รีบมา แต่คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะยืนอยู่ตรงหน้าบริษัทแล้ว และดูเหมือนจะมี ปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับลูกน้องด้วย

“เกิดอะไรขึ้น?”ประธานลั่วถามด้วยความโมโห
กว่าเขาจะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ นั้นต้องเสียสละไปไม่ น้อย วันนี้สาขาย่อยเพิ่งจะก่อตั้งขึ้น ลูกน้องของตัวเองก็ มามีปัญหากับท่านประธาน จึงโมโหขึ้นมาในทันที

ใบหน้าหยางเฉินเย็นชา “เป็นคนสูงส่งต้องใจกว้าง? ถ้า หากว่าฉันไม่ปล่อยนายไป ฉันก็จะกลายเป็นคนต่ำต้อย งั้นสิ?”

เมื่อได้ยินคําพูดของหยางเฉิน หัวหน้าจางตกใจแทบจะ ฉี่ราด เกือบจะร้องไห้แล้ว “ท่านประธานครับ ผมไม่ได้ หมายความว่าอย่างนั้น ผมรู้สึกผิดไปแล้วจริงๆครับ ได้ โปรดให้โอกาสผมสักครั้งเถอะครับ”

หยางเฉินตะโกนค่าหนึ่ง “ไปให้พ้น!”

ประสบการณ์การเป็นทหารห้าปีมานี้ หยางเฉินเรียนรู้มา แล้วว่า เมื่อทําผิดก็จําเป็นต้องได้รับบทลงโทษ

ตามตำแหน่งของเขาแล้ว ไม่จําเป็นต้องไปคิดแค้นอะไร กับรปภ. แต่ว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นเพียงสิ่งเดียวที่แม่ของ เขาเหลือไว้ให้บนโลก ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาทำลาย ภาพลักษณ์ของมันได้

หัวหน้าจางยังอยากจะขอร้อง แต่ประธานลั่วก็เตะเขา ออก แล้วพูดว่า “โยนมันออกไปเดี๋ยวนี้!
ปี นอบน้อมถ่อมตนมาก ข่าวลือเกี่ยวกับหย่างเป็น เขาก็พอรู้มาบ้าง

ทั้งสองเดินเข้าไปในบริษัท ทุกคนมองดูหยางเฉินอย่าง ตกตะลึง ประธานลั่วที่สูงส่งในสายตาของพวกเขา ตอนนี้ กลับโค้งคํานับเล็กน้อยและเดินตามหลังของหยางเฉิน

พวกเขารู้มาแต่แรกแล้วว่าท่านประธานของเยี่ยนเฉิ นกรุ๊ปจะมาบริษัท แล้วดูท่าทางระมัดระวังของลัวปิง ตำแหน่งของหยางเฉินจึงปรากฏให้ทุกคนได้รู้

“ประธานลั่วเพิ่งมาเจียงโจว ก็มีตระกูลชั้นสูงมากมายมา เยี่ยมเยียน ตอนนี้กลับเดินตามหลังชายหนุ่มคนหนึ่ง ช่าง น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“ไร้สาระ ฐานะของประธานล้ว ถึงแม้จะเป็นคนรวย อันดับหนึ่งของเจียงโจวมาก็ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างนี้ ชายหนุ่มคนนี้จะต้องเป็นท่านประธานแน่ๆ

“ท่านประธานจะหนุ่มเกินไปแล้วมั้ง? ใจฉันจะละลาย แล้ว”

การปรากฏตัวของหยางเฉิน ทำให้เกิดการซุบซิบนินทา ขึ้น
“ยัยี เธอรีบดู คนที่ประธานลั่วเดินตามใช่หยางเฉิน เปล่า?”

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัครงานแล้วเพิ่งมากถึงห้อง โถง ซุนเถียนก็เห็นแผ่นหลังของหยางเฉิน สีหน้าก็ตก ตะลึงในทันที

เมื่อฉินยืมองไป หยางเฉินก็เดินหายไปยังสุดทางเดิน แล้ว

“เธอก็พูดแล้วว่าเป็นคนที่ประธานลั่วเดินตาม เธอคิดว่า จะเป็นไอ้ขยะไร้ประโยชน์คนนั้นงั้นหรอ?” ฉินยีพูดขึ้น อย่างขบขัน

ซุนเถียนทุบหน้าผาก “ฉันเบลอไปแล้วแน่ๆ คนที่ ประธานลั่วจะต้อนรับอย่างนี้ได้จะต้องเป็นท่านประธาน ของบริษัทที่จะมาในวันนี้แน่นอน”

ชั้นบนสุดของบริษัท ด้านในห้องทำงานที่หรูหรา

หยางเฉินนั่งลงที่โซฟาอย่างสบายๆ หลับตาแล้วก็ไม่พูด อะไร

ประธานล่ำวยืนอยู่ข้างๆอย่างระมัดระวัง “ท่านประธาน ครับ ท่านมาถึงนี่ จะต้องมีเรื่องอะไรที่จะสั่งแน่นอน ท่าน เชิญสั่งมาได้เลยครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

“รอก่อน!”

หยางเฉินตอบกลับนิ่งๆ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก และก็ยัง หลับตาอยู่เหมือนเดิม

เวลาผ่านไปทีละวิทีละนาที หยางเฉินก็ยังหลับตาอยู่ หยางเฉินที่เป็นแบบนี้ทำให้ลั่วปิงรู้สึกกดดันเป็นมาก เหงื่อค่อยๆผุดมาบนหน้าผาก ในใจรู้สึกไม่สงบสุข ท่าน ประธานพูดว่ารอก่อน กำลังรอใครงั้นหรอ? คงไม่ใช่ว่า ท่านประธานไปเจออะไรเข้าหรอกใช่มั้ย?

ในขณะที่ลั่วปิงกำลังกังวล ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิด ออก เขากำลังจะต่อว่า ก็เห็นคนๆนั้นเดินไปหาหยางเฉิน แล้วยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้ “พี่เฉินครับ สิ่งที่พี่ต้องการ ครับ”

จนถึงตอนนี้หยางเฉินถึงจะเปิดตา เปิดดูเอกสาร สีหน้า ค่อยๆมืดมนลงเรื่อยๆ

ในใจลั่วปิงร้อนรนมาก สายตามองดูเอกสารฉบับนั้นไม่ ห่าง อยู่ๆในใจก็มีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้น

“พี่บ!”
หยางเฉินโยนเอกสารใส่ตัวของลั่วปิงอย่างแรง “อ่าน

ออกมา!”

มองดูหยางเฉินที่อยู่ๆก็ระเบิดอารมณ์โมโห ลั่วปิงถึงกับ ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้ รีบเก็บเอกสารขึ้นมาจากบนพื้น

“วันที่ 5 เดือน 6 โรงแรมจินชื่อหยวน รับสินบน..….…….

ลั่วปืนอ่านเพียงแค่ประโยคเดียวก็หยุด จะกล้าอ่านต่อ ได้ยังไงกัน?

ในเอกสาร เป็นหลักฐานความผิดตั้งแต่ที่เขามาดำรง ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ที่ทำให้เขา กลัวมากที่สุดก็คือ แม้แต่เวลาและสถานที่ที่ทำผิดก็มีอยู่ อย่างละเอียด ถึงแม้จะแก้ตัว ก็ไม่สามารถทําได้

หยางเฉินระเบิดอารมณ์ “อ่านต่อไป!”

ลั่วปิงตกใจกลัวจนตัวสั่น “พรึ่บ” คุกเข่าลงข้างเท้าหยาง เฉิน “ท่านประธานครับ ผมผิดไปแล้ว ไม่กล้าทำอีกแล้ว ครับ ได้โปรดให้โอกาสผมสักครั้ง…….

ลั่วปิงในตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เขาเริ่มจาก พนักงานตำแหน่งที่ต่ำที่สุดของบริษัท กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่ง่ายเลยสักนิด สิบกว่าปีที่อยู่ในบริษัท เขาทำตามกฎ ระเบียบตลอด ไม่เคยรับสินบน จนกระทั่งสาขาหลักให้เขามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ที่สาขาเจียงโจว คน ใหญ่คนโตนับไม่ถ้วนเข้ามาทำดีกับเขา สุดท้ายเขาก็ทน สิ่งล่อลวงไม่ไหว จึงแอบรับของขวัญเป็นการส่วนตัวไว้ไม่ น้อย

“พี่เฉินครับ จะฆ่าดีมั้ยครับ?”

ในขณะที่ลั่วปิงกำลังกังวลว่าจะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ต่อ ไปมั้ย หม่าชาวกลับพูดคำนี้ขึ้น ทำให้เขาตกใจจนเกือบ จะเป็นลม

แน่นอนว่าหม่าชาวไม่ได้ล้อเล่น เขารู้ดีว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ ปมีความหมายต่อหยางเฉินมากแค่ไหน ลั่วปิงรับสินบน ก็ แสดงว่าเขาทําสิ่งที่มีผลเสียต่อบริษัทเพื่อพวกเดียวกัน ช่างใจกล้าจริงๆ

ตึก! ตึก! ตึก!

หยางเฉินไม่พูดอะไร ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ เหมือนกับ สัญญาณที่กำลังเร่งความตาย

ลั่วปิงนั้นไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว แม้แต่แรงจะขอให้ยกโทษ ให้ก็ไม่มี

“เห็นแก่ที่นายทําผิดครั้งแรก ฉันสามารถให้โอกาสนาย สักครั้ง แต่จำไว้ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าทำผิดอีกสินบนพวกนั้น นายรับมา ก็ถือจะว่าเป็นเงินที่นายอ ชีวิตไว้ล่วงหน้าละกัน” หยางเฉินหรี่ตาพูด จากนั้นก็ลุก ขึ้นเดินจากไป

ลั่วปิงนั้นเต็มไปด้วยความดีใจที่รอดชีวิต แล้วก็รีบรับ ประกันกับแผ่นหลังของหยางเฉิน “ขอบคุณครับท่าน ประธาน ผมรับรอง ว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแน่นอนครับ”

ตอนแรกเขาคิดว่าจะถูกส่งไปกินข้าวคุกแล้ว แต่คิด ไม่ถึงเลยว่า หยางเฉินจะยอมให้โอกาสเขา ในใจรู้สึก ขอบคุณเป็นอย่างมาก แล้วสาบานในใจว่า จะต้องช่วย หยางเฉินทำงานให้ดีที่สุด

เดินตามหยางเฉินมาจนถึงนอกบริษัท หม่าชาวถึงได้ ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “พี่เฉินครับ ทำไมพี่ยังเก็บมันไว้ ละ?”

“ฉันเพิ่งกลับมา ในมือมีคนที่ใช้งานได้ไม่เยอะ ให้มัน หายไปนั้นง่าย แต่หาผู้จัดการใหญ่คนหนึ่งที่รู้จักเยี่ยนเฉิ นกรุ๊ปเป็นอย่างดีนั้นยาก”

หยางเฉินตอบกลับประโยคหนึ่ง แล้วก็พูดต่อว่า “เยี่ยน เฉินกรุ๊ปถูกตระกูลอวี่เหวินยึดไปนานหลายปี พวกผู้ บริหารของบริษัทต่างก็ถูกฝึกฝนจากตระกูลอวี่เหวิน นอกจากว่าตอนนี้ฉันจะเปลี่ยนทุกคนทิ้ง แต่ถ้าทำแบบนี้ จริงๆ บริษัทคงจะล้มเพราะฉันแล้วละ ถ้าจะเปลี่ยนจริงๆก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ เรื่องนี้ ไม่ควรจัดการด้วยความใจร้อน”

“ผมเข้าใจแล้วครับ พี่เฉินตั้งใจจะเลี้ยงพวกเขาให้เป็น คนสนิทของตัวเอง เมื่อรอถึงเวลาที่เหมาะ ค่อยจัดการ เปลี่ยนทีเดียวให้สาขาหลักกระอักเลือด

ถึงแม้หม่าชาวจะชอบการต่อสู้ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่นาน ก็เข้าใจถึงความตั้งใจของหยางเฉิน “พี่เฉินมีหลักฐานที่ ลั่วปิงทำผิดอยู่ในมือแล้วแท้ๆ และในตอนที่เขากำลังจะ พังทลาย พี่เฉินก็ให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาจะต้องสำนึก บุญคุณแน่นอน แล้วก็ทำงานให้บริษัทอย่างตั้งใจ”

“ถ้าหลังจากนี้ลั่วปิงทำงานให้บริษัทอย่างถูกกฎระเบียบ และมีความสามารถจริงๆ พี่เฉินก็จะให้ตำแหน่งที่ดีขึ้นกับ เขาแน่นอน”

หยางเฉินมองดูหม่าชาวด้วยสีหน้าซับซ้อน แล้วก็ถอน หายใจเบาๆ “ตามความสามารถของนายแล้วถ้าอยู่ที่ ชายแดนเหนือ อนาคตคงจะอีกยาวไกล มาตามอยู่กับฉัน น่าเสียดายจริงๆ!

หม่าชาวยืนตรงด้วยจิตใต้สำนึกแล้วพูดด้วยใบหน้า จริงจัง “สำหรับชายแดนเหนือแล้ว พี่เฉินนั้นเป็นเทพ ถ้า หากไม่มีพี่เฉิน ผมคงจะตายมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว สามารถอยู่ ข้างกาย เฉินได้นั้นเป็นเกียรติของผมอย่างยิ่ง!”
หยางเฉินไม่ได้พูดอะไรอีก เพิ่งเดินไม่กี่ก้าว อยู่ๆก็หยุด แล้วพูดขึ้นว่า “สืบเรื่องหนึ่งให้ฉันหน่อย ห้าปีก่อน ใครกัน แนที่เป็นคนลอบท่าร้ายฉันกับฉินซี”

ทันใดนั้น ความน่ากลัวก็แพร่ออกมาจากตัวหยางเฉิน สายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ