ผมจะออกไปแตะขอบฟ้า

บทที่8 สวัสดีครับท่านประธาน



บทที่8 สวัสดีครับท่านประธาน

บทที่8 สวัสดีครับท่านประธาน

ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ฉินซีตัวสั่น ฉินต้าหย่งและโจ วยู่ฮุ่ยเองก็ตะลึงและแปลกใจ

ฉินซีลุกขึ้นยืนอย่างตัวสั่น เธอกัดริมฝีปากแดงแน่น เครื่องสําอางบนหน้าละลายหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถ บดบังใบหน้าที่สวยงามของเธอได้

เจี๊ยะ! เพียะ!

“หย่า?”

เธอฟาดมือไปที่หน้าของหยางเฉิน “นายเห็นฉันเป็นตัว อะไร?”

“ฉันยอมรับ เรื่องเมื่อห้าปีก่อน นายก็เป็นผู้ถูกกระทํา ถ้าไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกับฉัน นายปฏิเสธได้ ทำไม แต่งงานกันแล้วนายถึงอยากจะจากไป?”

“หลังจากที่นายจากไป ฉันต้องแบกรับคำนินทามากมาย น้อยใจแค่ไหน นายรู้มั้ย? ในโรงเรียนอนุบาลลูกสาวถูก รังแก ด่าเธอว่าเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อ นายรู้บ้างมั้ย?”
“ลูกสาวเอารูปแต่งงานที่เป็นรูปคู่เพียงแค่รูปเดียวของ พวกเรา คอยถามฉันว่าเมื่อไหร่พ่อจะกลับมา นายรู้มั้ยว่า ฉันเสียใจมากแค่ไหน?”

“กว่าฉันจะรอจนสามีกลับมา กว่าลูกสาวจะรอจนพ่อ กลับมา แต่นายกลับบอกกับฉันว่านายจะหย่า?”

“นายบอกฉันสิ ว่า นายท่ามันสมควรกับฉัน? หรือว่า

สมควรกับลูกสาว?”

ในที่สุดฉินซีก็ระเบิดออกมา ร้องไห้เสียงดัง เหมือนกับ ว่าจะเอาสิ่งที่ทนแบบรับคนเดียวมาตลอดห้าปีนี้ปล่อย ออกมาให้หมด

ทุกคำที่เธอถาม ในใจหยางเฉินก็เจ็บปวดตลอด เมื่อ ฉินซีร้องไห้โฮ นักรบคนนี้ที่ต่อสู้ในสนามรบ และถึงแม้ จะบาดเจ็บแค่ไหนก็ไม่เคยพูดว่าเจ็บ แต่ในตอนนี้กำลัง ร้องไห้

หยางเฉินขยับเข้าไปก้าวหนึ่ง แล้วดึงฉินซีเข้ามากอดไว้ แน่น

“ปล่อยฉันนะ! ไปให้พ้น! ไปจากชีวิตฉันซะ! นาย ต้องการจะหย่ากับฉันไม่ใช่หรอ? พรุ่งนี้พวกเราไปอำเภอ กัน” ฉินซีทั้งร้องไห้และขัดขืน ใช้แรงทุบลงไปที่หน้าอก ของหยางเฉิน
แขนของหยางเฉินเหมือนดั่งกรงเล็บที่แน่นมากๆ ปล่อย ให้เธอระบายอารมณ์ แล้วพูดข้างหูเธอเบาๆว่า “ฉัน ขอโทษ ทั้งชีวิต ฉันจะไม่ไปจากพวกเธออีก!”

เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของฉินซีสงบมากขึ้น โจวยู่ชุ่ยก็ ร้อนรน รีบเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน “เสี่ยวซีบอกให้ แกไปซะ แกยังจะอยู่ทำไมอีก? ไปให้พ้น!”

ผลัก! หยางเฉินถูกผลักออกไป

ถึงแม้ว่าจะถูกไล่ออกมา แต่หยางเฉินกลับมีความสุข มาก เพราะว่าฉินซีนั้นไม่ได้เต็มใจจะหย่า

ไม่ว่าจะทำเพื่อชื่อเสียงหรือลูกสาว การไม่หย่าร้างก็เป็น ผลดีกับหยางเฉินทั้งนั้น

หลังจากที่ออกมาจากบ้านฉินซี หยางเฉินก็ตรงไปที่ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว

บริษัทหลักของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอยู่ที่เยนตู แม่ของหยาง เฉิน หยางเสว่เยี่ยน ก่อตั้งขึ้นก่อนจะรู้จักกับพ่อของหยาง เฉิน แต่หลังจากที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกเปิดเผย ตระกูลอวี่เหวินก็แย่งไป

หลังจากที่ตระกูลอวี่เหวินรู้ถึงฐานะตำแหน่งของหยางเฉิ นที่อยู่ที่ชายแดนเหนือ ถึงได้คืนเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้กับหยางเฉิน

ยืนอยู่ใต้ตึกของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉินก็อารมณ์เสีย แค่เพียงคิดถึงการดูถูกและความเจ็บปวดที่แม่เคยได้รับ ในใจก็โมโหมาก

“ต้องมีสักวันที่ฉันจะไปบ้านตระกูลอวี่เหวินด้วยตัว เอง”ความโมโหในดวงตาของหยางเฉินค่อยๆหายไป

ในตอนนี้ มีรถ Maserati คันสีขาวมาจอดที่ลานจอดรถ ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หญิงสาวคนหนึ่งที่ใส่ชุดเต็มยศก้าว ออกจากรถ

ผู้หญิงคนนี้ก็คือฉินยีน้องสะใภ้ของหยางเฉิน รถหรูคัน นั้น เป็นหนึ่งในสินสอดที่ตระกูลฉินได้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมง ก่อน แค่นี้ก็อดไม่ได้อยากจะขับออกมา ไม่กลัวจะกลาย เป็นตัวตลกเลย

“ยียี อิจฉาเธอจัง! ถูกคุณชายใหญ่ตระกูลซูเล็งแล้วยัง ให้สินสอดที่มูลค่ามหาศาลขนาดนี้อีก ถ้าเธอแต่งเข้าบ้าน เศรษฐีแล้ว อย่าลืมเพื่อนสนิทคนนี้นะ!” หญิงสาวคนหนึ่ง ที่ใส่ชุดพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเดินเข้าไปหาฉินยี ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ฉินยีก็กอดแขนผู้หญิงคนนั้นไว้อย่างกระตือรือร้น แล้ว พูดอย่างมีความสุขว่า “ลืมใครก็ไม่อาจลืมเธอได้หรอกแต่ฉันเนี่ยสิ จนตอนนี้ยังคงต้องให้เธอช่วย

“ยี สบายใจได้เลย ฉันซุนเกี๋ยนเป็นคนจัดการ เรื่อง ของเธอไม่มีปัญหาแน่นอน อย่างน้อยฉันก็เป็นหัวหน้า ฝ่ายบุคคล คนที่มีอำนาจ “จัดการผู้คน” ถ้าไม่ใช่เพราะว่า บริษัทกำหนดไว้ว่าต้องยื่นเรื่องตามขั้นตอน ฉันละอยาก จะทําเรื่องเข้าทํางานให้เธอทันทีเลย แต่ว่าไม่เป็นไร ยัง ไงก็แค่ทำไปตามขั้นตอนเฉยๆ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณหัวหน้าซุนมากนะคะ!”

“เธอยังจะเกรงใจอะไรฉันอีก?”

ผู้หญิงทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะ ดูสนิทสนมกันมาก

“หยางเฉิน!”

เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูบริษัท ก็เจอเข้ากับหยางเฉิน ฉิน ยีประหลาดใจ ไม่รอให้หยางเฉินอ้าปากพูด สีหน้าเธอก็ เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ “นายนี่มันโรคจิตสะกดรอยตาม ถูก แม่ฉันไล่ออกมาแล้วอยากจะมาวุ่นวายกับฉัน? จะบอกให้ นะ ถึงแม้นายจะคุกเข่าขอร้องฉัน ฉันก็ไม่มีทางช่วยนาย
หยางเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชาว่า “สะกด รอยตามเธอมา? เธอคงไม่ได้เป็นโรคคิดว่าตัวเองถูก ทำร้ายหรอกใช่มั้ย?”

ฉินยีสะอึก พูดไม่ออกไปสักพัก แต่ไม่นาน เธอคิดอะไร

ออก ใบหน้าหัวเราะเยาะ “นายคงจะมาสมัครงานสินะ?” หยางเฉินไม่มีอะไรจะพูด ไม่ได้สนใจ ก้าวขาจะเข้า

บริษัท

เขาขยับนิดหน่อย ฉินยีก็รีบมาขวางเขาไว้ตรงหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “หยางเฉิน ฉันเดือน นายว่าอย่าเสียเวลาเลย นายรู้มั้ยว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปหมาย ถึงอะไร? นี่เป็นถึงธุรกิจในเครือของตระกูลอวี่เหวินแห่ง เย็นตูเชียวนะ ถึงแม้ว่าสาขาในเจียงโจวจะเพิ่งก่อตั้งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ที่ๆจะให้ใครก็ได้เข้าไปหรอกนะ”

“ยียี คนนี้คือ?” ซุนเถียนถามอย่างสงสัย

ฉินยีมองหยางเฉินอย่างไม่พอใจ แล้วพูดกับซุนเถียนว่า “มันก็คือคนที่หลอกพี่สาวฉันเมื่อห้าปีก่อน เอาเงินแล้วหนี ไปห้าปี สงสัยเงินจะใช้หมดแล้ว ถึงได้อยากจะเกาะพี่ฉัน บ้านฉันจะให้มันอยู่ได้ยังไง? นี่ก็เพิ่งถูกไล่ออกมาไง”
ซุนเกียนก็ตกใจ แล้วพูดขึ้น “ที่แท้ก็สวะที่ทำให้พี่สาว เธอมีมลทินคนนั้น?”

พูดจบแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าคนๆนั้นอยู่ตรงหน้า รีบปิดปาก แล้วก็พูดขึ้นอย่างอึดอัดว่า “ขอโทษค่ะ!”

“เถียนเถียน มันก็แค่ขยะ เธอไม่ได้พูดผิดสักหน่อย จะ ขอโทษทำไม?”ฉินยีพูดด้วยใบหน้าช่างมันเถอะ

ซุนเถียนมองหยางเฉินแล้วก็พูดขึ้น “ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ บริษัทของเรารับพนักงานเต็มแล้ว คุณกลับไปเถอะ!”

ผู้หญิงคนนี้ช่วยฉินยีอย่างเห็นได้ชัด สาขาเพิ่งจะก่อตั้ง เป็นช่วงที่ขาดคนอย่างมาก จะมีพนักงานอยู่เต็มแล้วได้ ยังไง?

ถึงแม้ว่าจะไม่มีเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ทรัพย์สินและเงินทองที่ เขามีอยู่ก็มากกว่าตระกูลอวี่เหวินหลายเท่า

หยางเฉินไม่สนใจ ก้าวเดินเข้าไปในบริษัท

ซุนเถียนร้อนรนขึ้นมาทันที รีบก้าวไปขวางทางหยาง เฉินไว้ “ทำไมนายเป็นคนอย่างนี้? ฉันบอกแล้วไงว่าเยี่ยน เฉินกรุ๊ปไม่รับสมัครพนักงานแล้ว ทำไมนายยังจะเข้าไป อีก? ถ้านายยังจะเข้าไป ฉันจะเรียกรปภ.แล้วนะ”
“หลีกไป!”

อยู่ดีๆหยางเฉินก็พูดขึ้น มีแต่ความอำมหิตรอบตัว ซุน เถียนตกใจจนถอยหลัง

ที่หยางเฉินยอมอดทนทั้งหมดต่อตระกูลฉิน ก็เพื่อฉินซี และลูกสาว แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครมาทำตัวไม่ดี กับเขาก็ได้

“หยางเฉิน แกใจกล้ามากนะ ถึงได้กล้าอวดเก่งที่หน้า บริษัทเยี่ยนเฉินกรุ๊ป”ซุนเถียนกลัวหยางเฉิน แต่ว่าฉินยี ไม่กลัว

“หัวหน้าซุน คุณเป็นอะไรไปครับ?”

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ใส่เสื้อรปภ.เดินเข้ามาถามซุน

เถียน

ซุนเถียนใบหน้าเย็นชาแล้วชี้ไปที่หยางเฉิน “หัวหน้า จาง คนๆนี้อยากจะบุกเข้าบริษัท ฉันสงสัยว่าเขาคิดไม่ซื่อ วันนี้ประธานบริษัทเยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะมา ถ้าหากพวกคุณ ปล่อยให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ถึงตอนนั้นคงไม่ใช่แค่ เพียงตกงานหรอกนะ”

คำพูดของซุนเถียนเต็มไปด้วยคำเตือน หัวหน้าจาง ตกใจ แล้วก็พูดกับวิทยุสื่อสาร ไม่นาน ก็มีรปภ.ที่ใส่ชุดพนักงานเรียบร้อยวิ่งมา

“ยิปี พวกเราไปกันเถอะ!ซุนเกี๋ยนมองหยางเฉินอย่าง

เป็นชา

ฉินยีท่าทางสมน้ำหน้า และมองหยางเฉิน “อยากจะทำ งานที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ชีวิตนี้ก็อย่าได้คิดเลย!”

พูดแล้วก็จากไปพร้อมกับซุนเกี๋ยน

“ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่ที่ๆนายจะมาอวดเบ่งได้นะ รีบไปให้พ้น ซะ!”หัวหน้าจางหน้าหยิ่ง

หยางเฉินยีตา พูดอย่างเป็นซาว่า “พวกนายยังไม่รู้ด้วย ซ้ำว่าฉันเป็นใคร มาทำอะไรก็จะไล่ฉันแล้ว? พวกนายห งานรปภ.กันแบบนี้?”

หัวหน้าจางยักคิ้ว “หัวหน้าชนพูดเองว่านายคิดไม่ซื่อ ฉัน ไล่นายไปจะมีปัญหาอะไร?

“เธอพูดอะไร นายก็เชื่ออย่างนั้น นายชอบเป็นหมาให้ คนอื่นขนาดนี้เชียว?

ใบหน้าหยางเฉินนิ่ง น้ำเสียงเย็นชามาก
พูดประโยคนี้ออกไป รปภ.ทั้งหลายก็นิ่งอึ้ง

“ไอ้หนุ่ม แกอยากตายหรอ!”

หัวหน้าจางโมโห แล้วก็ตะโกนขึ้น “จัดการมัน ตีไอ้สวะนี่ ให้ตาย!”

เอี๊ยด! เอียด!

ในตอนนี้เองอยู่ๆก็มีรถ Audi A8 คันสีดำเบรกแล้วมา จอดที่หน้าประตูเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

ชายหนุ่มวัยกลางคนใส่สูทรองเท้าหนังคนหนึ่งลงจาก รถอย่างรีบร้อน

“สวัสดีครับประธานลั่ว!” รปภ.ทั้งหลายรีบยืนตรง

แต่ประธานลั่วกลับไม่มองพวกเขาสักนิด ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความตื่นตกใจ วิ่งไปตรงหน้าของหยางเฉิน แล้ว ทำความเคารพ “สวัสดีครับท่านประธาน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ