บทที่5 คําถามจี้ใจ
บทที่5 คําถามใจ
ไม่รอให้เขาระเบิด ฉินซีก็แย่งลูกสาวจากมือของคุณ แม่ฉิน ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา “แม่ หนูบอกกับแม่กี่ครั้ง แล้ว? เธอยังเด็ก อย่าขู่เธอ ทำไมแม่ยังจะทำอย่างนี้อีก? ถ้าหากยังมีครั้งต่อไป หนูจะพาเสี้ยวเสี้ยวออกไปอยู่ข้าง นอก
คุณแม่ฉันรู้สึกละอายใจ แล้วรีบพูดว่า “ฉันก็แค่ขู่เฉยๆ ไม่ได้จะขังจริงๆสักหน่อย ขอแค่แกรีบหย่ากับไอ้ขยะนี่ อะไรก็คุยกันได้ง่าย”
ฉินซีไม่สนใจคุณแม่ฉิน แต่กลับมองไปที่หวังเจี้ยน พูด อย่างประชดว่า “คุณชายหวัง บ้านและธุรกิจคุณใหญ่ โต ฉันไม่เหมาะสมกับคุณ อีกอย่าง ฉันแต่งงานแล้ว และ ถึงแม้ว่าจะยัง ฉันก็ไม่มีทางคบกับคุณ นอกจากนี้…เขาก็ กลับมาแล้ว รบกวนคุณอย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของพวกเรา อีก ขอบคุณ!”
ตอนนี้ สีหน้าของหวังเจี้ยนแย่มาก แต่ว่าเห็นใบหน้าที่ สวยงามของฉินซีเขาก็อดทนไว้ ในใจแอบคิดว่า รอกูได้ มึงมาอยู่ในกำมือ กูจะทำให้มึงรู้ถึงความเก่งของกู
“เสี่ยวซี นี่แกพูดอะไรเนี่ย? เสี่ยวหวังทำเพื่อเธอ ช่วย เหลือพวกเรามามากแค่ไหน แกไม่รู้หรอ?”
คุณแม่ฉินโมโห ดุว่าฉินซี แล้วก็หันไปมองหวังเจี้ยน “เสี่ยวหวัง นายอย่าไปฟังเธอพูดนะ บ้านนี้ยังไงก็ต้องฟัง ฉัน”
หวังเจี้ยนยิ้มอ่อน “คุณป้าครับ คุณสบายใจได้ ผมจะใช้
ความจริงใจทำให้ฉินซีหวั่นไหวเองครับ หยางเฉินท่าทางเย็นชา กล้าแสดงออกว่าจะจีบผู้หญิง
ของเขาต่อหน้าเขา
“สมแล้วที่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหวัง ดูท่าทางนี้ ไม่ใช่ คนบางคนแถวนี้จะสามารถเทียบได้”
“เสี่ยว ของพวกเราหน้าตาสะสวย ก็มีเพียงแค่ขายหนุ่ม มีความสามารถอย่างหวังเจี้ยนถึงจะเป็นคู่ครองที่เหมาะ สมที่สุด”
“คุณชายหวัง รอวันที่คุณและเสี่ยวซีแต่งงานกัน ฉันจะ ให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับพวกคุณแน่นอน”
ญาติทั้งหลายต่างก็พูดคุยกัน เอาอกเอาใจหวังเจี้ยนอ ย่างไม่ปิดบัง ทุกคำพูดต่างก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ ต่อหยางเฉิน
ฉินซีเองก็โมโหจนตัวสั่น แต่ว่าทุกคนที่นั่งอยู่ก็ล้วนแต่ เป็นผู้ใหญ่ สายตาเธอมองไปสำรวจตัวหยางเฉิน เห็นใบหน้าไร้อารมณ์ของหยางเฉิน เงียบงัน ทั้งไม่เถียงและ
ไม่โกรธ ในใจก็ยิ่งผิดหวังต่อหยางเฉินมากขึ้น
ถ้าหากหยางเฉินรู้ความคิดของฉินซี คงจะหดหู่มาก ที่ เขาอดทนเงียบไว้ ก็เพราะไม่อยากให้ฉินซีอึดอัด
ในตอนนี้ แม่บ้านก็เอาอาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ทุกคนถูก คุณแม่ฉินเชิญไปที่โต๊ะอาหาร ยกเว้นหยางเฉิน
หยางเฉินจะไปก็ไม่ใช่ ไม่ไปก็ไม่ใช่
“พ่อจ๋า หนูจะให้พ่ออุ้มหนูกินข้าว”
อยู่ๆเสียงของฉินเสี้ยวเสี้ยวก็ดังขึ้น ดวงตาเป็นประกาย วิบวับ มือเล็กๆที่ขาวผ่องโบกมือให้หยางเฉิน
ในตอนที่เสียงของลูกสาวดังขึ้น ความโมโหทั้งหมดก็ หายไปในทันที โดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำว่า “พ่อจ๋า” ใจเขา แทบจะละลาย
แต่คุณแม่ฉินนั้นไม่จบไม่สิ้นทั้งที ดุว่าเด็กสาว “หุบปาก เดี๋ยวนี้! มันไม่ใช่พ่อของแก พ่อของแกตายไปนานแล้ว”
ฉินเสี้ยวเสี้ยวเบะปากอยากจะร้องไห้อีกครั้ง
“แม่!”
น้ำเสียงของฉินซีเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธออุ้ม ลูกสาวขึ้นจากที่นั่ง แล้วก็พูดเย็นชาว่า “นายนั่งที่นี่!”
คำพูดนี้พูดกับหยางเฉินอย่างเห็นได้ชัด หยางเฉินมอง เธออย่างขอบคุณ แล้วก็รีบไปนั่ง
“หนูจะให้คุณพ่ออุ้ม!
นั่งอยู่ในอ้อมกอดของคุณพ่อ เด็กน้อยมีความสุขมาก จับหูของคุณพ่ออย่างสนใจ แล้วก็จับหน้าของคุณพ่อ จากนั้นก็หัวเราะออกมา มีความสุขมาก
เห็นภาพนี้ ในสายตาของฉินซีมีความอบอุ่นแวบเข้ามา
ทุกคนนั่งล้อมรอบโต๊ะอาหาร ยังไม่เริ่มกิน หวังเจี้ยนก็ เอากล่องของขวัญสีชมพูที่ดูหรูหรามากออกมา ยื่นให้กับ ฉินเสี้ยวเสี้ยว “นี่คือของขวัญวันเกิดที่คุณอาหวังให้หนู สุขสันต์วันเกิดเสี้ยวเสี้ยว!”
ที่แท้วันนี้ก็วันเกิดของลูกสาว คิดถึงว่าตัวเองพลาดการ เติบโตในสี่ปีมานี้ของลูกสาว ในใจหยางเฉินก็รู้สึกผิดอีก ครั้ง
ฉินเสี้ยวเสี้ยวมองหวังเจี้ยนอย่างเขินอาย ยังไงซะก็อายุ แค่สี่ขวบ เมื่อได้รับของขวัญก็มีความสุข สายตาเอาแต่ จ้องไปที่กล่องของขวัญที่ห่อด้วยสีชมพูลายการ์ตูน
ฉินเสี้ยวเสี้ยวรับของขวัญมา “ขอบคุณค่ะคุณอาหวัง!” หวังเจี้ยนยิ้มด้วยรอยยิ้มสดใส “เปิดดูสิว่าชอบมั้ย?”
เด็กน้อยที่สนใจกล่องของขวัญสีชมพูอยู่แต่แรกแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวังเจี้ยน ก็แกะกล่องของ ขวัญออกอย่างรีบเร่ง
หลังแกะห่อที่อยู่ข้างนอก ด้านในก็มีกล่องที่หรูหราอีก อัน เมื่อแกะอีก ก็เห็นกําไลข้อมือที่ส่องประกาย
“เป็นสร้อยข้อมือที่สวยมากจริงๆ!”
คุณน้าอย่างฉินยีร้องขึ้นอย่างตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วย ความอิจฉา
“หลังจากที่ผมรู้วันเกิดของเสี้ยวเสี้ยวแล้วก็ตั้งใจขอร้อง ให้เพื่อนจากประเทศเฟย ซื้ออัญมณีจากร้านเหมืองเพชร พลอยแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญอัญมณีที่มีชื่อ เสียงแห่งนานาชาติออกแบบให้เสี้ยวเสี้ยวโดยเฉพาะ ทั้ง โลกนี้ มีเพียงเส้นเดียวเท่านั้นครับ”
หวังเจี้ยนใบหน้าภูมิใจ ในประโยคก็บอกถึงความแพง ของสร้อยข้อมือเส้นนี้ รวมทั้งเขาที่เห็นถึงความสำคัญต่อ วันเกิดของฉินเสี้ยวเสี้ยว
“ในเมื่อเป็นสร้อยข้อมืออัญมณี แล้วยังเป็นผู้เชี่ยวชาญ อัญมณีที่มีชื่อเสียงแห่งนานาชาติเป็นคนออกแบบ และ สั่งทําส่วนตัว อย่างน้อยก็น่าจะแสนกว่าใช่มั้ย?”
ดวงตาของฉินยีเป็นประกาย อยากจะเอาสร้อยข้อมือ เส้นนี้มาเป็นของตัวเองซะเหลือเกิน
รอยยิ้มภูมิใจของหวังเจี้ยน เอนหลังไปพิงเก้าอี้ให้รู้สึก สบายหน่อยแล้วถึงจะพูดว่า “ตัวอัญมณีไม่ถือว่าแพงมาก เท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือให้ผู้เชี่ยวชาญอัญมณีออกแบบ เสียเงินไม่น้อย แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะ รวมๆทั้งหมดแล้วก็ ประมาณ 6 แสนมั้งครับ!”
6 แสน!”
ได้ยินราคา ญาติทุกคนสูดหายใจเข้าอย่างตกตะลึง “สมแล้วที่เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลหวัง ใจกว้างจริงๆ
“ที่สำคัญคือดีกับเสี้ยวเสี้ยว รอคุณชายหวังเป็นพ่อของ เสี้ยวเสี้ยวแล้ว วัยเด็กของเสี้ยวเสี้ยว จะต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
“ใช่แล้ว เสี้ยวเสี้ยวนี่มีบุญจริงๆ ไม่นานก็จะมีคนใหญ่คน โตอย่างคุณชายหวังมาเป็นพ่อแล้ว”
ญาติทุกคนเหมือนจะไม่สนใจการมีอยู่ของหยางเฉิน หวังเจี้ยนที่ได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็ยิ้มมากกว่าเดิม และไม่ ลืมที่จะมองหยางเฉินอย่างยั่วโมโห
สีหน้าของฉินซีนั้นแย่มากจนถึงที่สุดแล้ว ถึงแม้เธอจะ ผิดหวังในตัวหยางเฉินมาก แต่เธอก็ไม่เคยตกลงจะแต่ง กับหวังเจี้ยน
“วันนี้เป็นวันเกิดของเสี้ยวเสี้ยว นายคงจะไม่ได้ไม่ เตรียมของขวัญมาสักชิ้นหรอกใช่มั้ย?”
ในตอนนี้เองอยู่ๆฉินยีก็ถามขึ้นอย่างติดตลก ชั่วขณะ เดียวทุกสายตาก็หันไปมองหยางเฉิน
“มีแน่นอน!”หยางเฉินพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณพ่อ ใบหน้าเสี้ยวเสี้ยวเต็มไป ด้วยความตั้งตารอคอย สำหรับเธอแล้ว ไม่ว่าของขวัญ อะไรก็เทียบไม่ได้กับของขวัญจากคุณพ่อ
คุณแม่ฉินคิ้วขมวด หยางเฉินมามือเปล่า ถ้าหากเขา เตรียมของขวัญมาจริง จะเก็บไว้ตรงไหนได้?
ทุกคนก็มีความคิดเดียวกัน
ในขณะที่ทุกสายตามองดู หยางเฉินเอาจี้ที่ใส่ไว้บนคอ ออกมา
ฉินยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พูดอย่างเกินจริงว่า “หยางเฉิน นี่คือของขวัญที่นายเตรียมไว้ให้ลูกสาวแท้ๆ? ก้อนหินที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน? นี่คงไม่ได้เก็บมาจาก ข้างทางหรอกใช่มั้ย?”
หยางเฉินส่ายหน้า ตอบอย่างจริงใจว่า “เก็บมาจากทะเล ทรายโกบี”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
ฉินซีที่เมื่อกี้ก็ตั้งตารอดูหยางเฉิน ใบหน้าแสดงออกถึง ความนิ่งเงียบ นี่คือวันเกิดครั้งแรกที่เขาอยู่กับลูกสาว แต่ กลับให้แค่ก้อนหินที่เก็บมาแค่ชิ้นเดียว? ที่สำคัญ ทั้งบ้าน ก็มีแต่ญาติ นี่เป็นการหักหน้าเธอชัดๆ
ไม่มีใครรู้ ก้อนหินก้อนนี้ที่เก็บมาจากทะเลทรายโกบีเคย ช่วยให้เขารอดชีวิตจากการโจมตีหลายครั้ง รอยทุกรอย ล้วนเป็นความทรงจำที่เคยผ่านมา
มีเพียงฉินเสี้ยวเสี้ยวที่เห็นสร้อยเส้นนี้แล้วชอบใจมาก เงยหน้าที่สวยงามขึ้น แล้วก็ยิ้มแย้ม “ของขวัญของคุณ พ่อ หนูชอบมากค่ะ คุณพ่อใส่ให้เสี้ยวเสี้ยวเร็ว”
ใบหน้าหยางเฉินเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ค่อยๆใส่ สร้อยเส้นนี้บนคอของลูกสาวอย่างระมัดระวัง
อย่าว่าเลย ก้อนหินที่เหมือนดั่งหยกก้อนนี้ ถึงแม้จะเต็ม ไปด้วยรอยขีดข่วน แต่เมื่อใส่ไว้บนคอของเสี้ยวเสี้ยว กลับสวยงามมาก เหมือนกับว่าจงใจสั่งทำมาเพื่อสาวน้อย คนนี้
เพียงแต่ว่านี่เป็นสิ่งที่หยางเฉินให้ ไม่มีใครอยากยอมรับ ว่าก้อนหินก้อนนี้มีคุณค่า
“ก็แค่ก้อนหินที่เก็บมา มีอะไรน่าดีใจ?”
คุณแม่ฉินใบหน้าไม่พอใจ แล้วก็มองไปที่ฉินซี “รีบเอา สร้อยข้อมือที่คุณชายหวังให้มาใส่ให้เสี้ยวเสี้ยว จะได้ให้ ใครบางคนรู้ถึงความแตกต่างของฟ้ากับดิน”
ในขณะที่ยกยอหวังเจี้ยนก็ไม่ลืมที่จะเหยียบย่ำหยางเฉิน
แต่ว่าในตอนนี้เอง อยู่ๆหยางเฉินก็เอาสร้อยข้อมือที่เต็ม ไปด้วยอัญมณีโยนลงถังขยะอย่างไม่มองดูด้วยซ้ำ
การกระทำของเขา ทำให้ทุกคนเบิกตากว้าง เขาเอา สร้อยข้อมือมูลค่า 6 แสนทิ้ง?
“แกทำอะไร?” คุณแม่ฉินโมโหหนัก
หยางเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย “สร้อยข้อมือเส้นนี้ ใส่ไว้ นานแล้วไม่ดีต่อร่างกาย”
“แกตอแหล!”
หวังเจี้ยนที่นิ่งสงบมาตลอด เห็นหยางเฉินเอาสร้อยข้อ มือทิ้งต่อหน้าทุกคน ก็โมโหขึ้นมาทันที “ฉันเสียแรงมาก ขนาดนั้นถึงจะได้สร้อยข้อมือเส้นนี้มา เป็นสิ่งที่ขยะอย่าง แกจะมาดูถูกได้ที่ไหนกัน?”
หยางเฉินมองดูหวังเจี้ยนนิ่งๆ ถามว่า “นายบอกว่าสร้อย ข้อมือที่เต็มไปด้วยอัญมณีเส้นนี้นายเสียเงินไป 6 แสน?”
หวังเจี้ยนพูดอย่างโมโห “นายคิดว่ามันมีปัญหา?”
ถ้าหากนายเสียเงิน 6 แสนจริงๆ ฉันก็ทำได้แค่เพียงพูด ว่า นายมันเป็นคนรวยที่โง่!”
หยางเฉินหัวเราะ ไม่ให้โอกาสหวังเจี้ยนเถียง ก็พูดต่อว่า “ทับทิมคืออัญมณีที่หายากที่สุด หายากจนถึงขั้นที่ไม่มี ราคาที่แน่นอน ในตลาดอัญมณีแทบจะไม่มีแม้แต่เงาของ พวกมันปรากฏ มีเพียงแค่งานประมูลขึ้นชื่อบางงานถึงจะ มีมาปรากฏตัว”
“ปี 1987 ในงานประมูลโซเธอบี้มีประมูลจำนวน 95% อยู่หนึ่งเม็ด ราคาอยู่ที่ 880,000 เหรียญ แสดงได้ว่าทุกๆ กะรัตมีค่า 920,000 เหรียญ ถ้าเป็นเงินจิ่วโจว ก็จะราคา หกสิบกว่าล้าน
“แต่สร้อยข้อมือเส้นนี้ของนาย อย่างน้อยก็น่าจะมี 1.5 กะรัตใช่มั้ย? นายบอกฉันสิว่านายใช้เงิน 6 แสนซื้อสร้อย ข้อมือทับทิมมาได้ยังไง?”
“นี่ไม่ใช่ทับทิมแท้บริสุทธิ์ แต่เป็นอัญมณีธรรมดาที่ผ่าน การฉายแสง อัญมณีแบบนี้ มีกัมมันตภาพรังสีที่รุนแรง มาก ถ้าใส่ระยะยาวจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายสูง มาก และสร้อยข้อมือนี้ที่ผ่านรังสีมาอย่างหนัก นายกลับ มอบให้กับเด็กสาวอายุ 4 ขวบ มีเจตนาอะไรกันแน่?”
สายตาหยางเฉินแหลมคมมาก แล้วเล็งคำถามจี้ใจมาได้ ทำให้หวังเงี่ยนพูดไม่ออก ทั้งห้องเงียบงันไร้เดียง ทุก สายตามองไปยังหวังเงี่ยน สายตาของฉันซีก็แปรเปลี่ยน เป็นมืดมน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ