นางบำเรออุ้มรัก

บทที่ 7 ไฟสุมใจ 2



บทที่ 7 ไฟสุมใจ 2

ณ ไร่เพียงฟ้า

ประพจน์เจ้าของไร่เพียงฟ้ากำลังนอนเหยียดตัวคว่ำ หน้าลงบนที่นอน ใบหน้าเขามีความเคลิบเคลิ้มราวกับว่า กำลังเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ทำอยู่

“อึมดีมากรวี ตรงนั้นแหละ โอ้…ดีๆ” ประพจน์พูดขึ้น ขณะยังคงหลับตา รอยยิ้มพอใจระบายเต็มใบหน้า “รวี นวดดีจัง กดลึกถึงเส้นเลย”

“คอยดูนะ พ่อแกต้องมีหมอนวดประจำตัวแน่ๆ” สมสมร พูดกับภูริภัทร เมื่อได้ยินคำพูดสามี “แต่จะว่าไป รวีนวดดี จริงๆ เมื่อคืนแม่นอนหลับสบาย ไม่ปวดหลังเลย”

“ผมก็ว่าอย่างนั้น เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ยินคุณแม่บ่น ว่า ปวดเมื่อยตัวเลย

“ถ้ารวีเปิดร้านนวดล่ะก็ พ่อว่าลูกค้าเพียบแน่ๆ ฝีมือ ระดับนี้คนขี้เมื่อยติดตรึมชัวร์” ประพจน์เอ่ยขึ้น คิดว่าไม่ ผิดจากที่พูด “รวีไปเรียนนวดที่ไหนมาล่ะ นวดดีกว่าหมอ นวดมืออาชีพซะอีก”

“ตอนที่คุณลุงยังอยู่ รวีนวดให้คุณลุงบ่อยๆ ค่ะ คุณลุง บ่นปวดหลัง ปวดเอว รวีก็ไปดูวิธีนวดในยูทูป แล้วก็มา นวดให้คุณลุง คุณลุงก็คอยบอกคอยสอนให้รวีนวดด้วยค่ะ”

รวีตอบ เป็นคำตอบที่ตอบไม่หมด ไม่เพียงแค่หล่อนนวด ให้เชษฐาเพียงคนเดียว ณัฐรวียังนวดให้เนาวรัตน์และ เมฆาอีกด้วย

“มิน่าล่ะถึงนวดเก่ง อิจฉาคนบ้านโน้นจริงๆ เห็นทีลุงต้อง จ้างรวีมานวดอาทิตย์ละวันซะแล้ว พักนี้ปวดเมื่อยตัวบ่อย เสียด้วย” เจ้าของคำพูดคือประพจน์

“นอกจากจะนวดเก่งแล้ว ยังทำกับข้าวอร่อยอีกด้วย ป้า กินแกงส้มมาเกือบทั้งชีวิต แต่ไม่มีแกงส้มของใครอร่อย เท่าของรวีเลย ทั้งที่สูตรก็ไม่น่าจะหนีกันนะ แต่ทำไมกิน แกงส้มผักแปดเซียนของรวีแล้ว ไม่อยากกินของใครอีก เลย ว่างๆ สอนป้าทำบ้างนะ” รสชาติแกงส้มผักแปดเซียน ฝีมือณัฐรวียังติดอยู่บนลิ้น เป็นคำชมจากใจหาได้ยกยอ

“ใช่ครับ อร่อยสุดๆ ถ้าเมื่อวานมีปลาสลิดทอดด้วย ผม ว่าจะอร่อยมากกว่านี้”

“ว่าแต่รวีไปได้สูตรมาจากไหนล่ะ” ประพจน์ถาม

“ได้จากยายค่ะ ยายเคยสอนรวีทำตอนเด็กๆ ตอนนั้นรวี จำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ยายจดใส่สมุดไว้ให้รวี รวีมาหัด ทำจริงจังตอนมาอยู่ไร่ดุจตะวันค่ะ” ณัฐรวีตอบ”สมัยยายสาวๆ ยายเป็นแม่ครัวร้านอาหารน่ะค่ะ ต้น ตระกูลเจ้าของร้านที่ยายทำงานเป็นแม่ครัวเก่าแก่ในวัง ค่ะ เลยได้สูตรอาหารอร่อยๆ มาหลายอย่างค่ะ”

“ป่าชักอยากกินอาหารฝีมือรวีอีกแล้วสิ มีเมนูอะไรเด็ดๆ ไหม” สมสมรน้ำลายสอขึ้นมา

“คุณป้าเคยกินแกงรัญจวนไหมคะ” ณัฐรวีถามกลับ

“จำได้ว่าเคยกินครั้งนึงนะ แต่นานมาแล้ว นานจนลืม รสชาติของมัน

“ลุงก็เหมือนกัน ลืมรสชาติแล้ว” ประพจน์พูดขึ้นบ้าง

“พี่เคยได้ยินแต่ชื่อแกงนี้นะ ไม่เคยกินเลย” ภูริภัทรพูด ต่อ

“รวีทำให้กินดีไหมคะ รวีก็ไม่ได้ทำนานแล้ว” หมอนวด จำเป็นเสนอเมนู

“เอาสิ” สมสมรรับคำ ขณะที่ภายในบ้านกำลังพูดคุย ถึงเรื่องอาหารเที่ยง รถยนต์คันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้าน ประพจน์ คนในรถก้าวลงมาพร้อมของฝากเจ้าของบ้าน หลายถุง
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”

เสียงนายแพทย์ภารดรหรือหมอเดย์ดังมาก่อนตัว และ เมื่อเขาเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ สายตาเขาจับจ้องไปยัง ร่างเล็กที่กำลังนวดประพจน์ หล่อนหันมองเขาพอดี ภาร ดรจึงได้เห็นดวงหน้าหวานสวยเต็มตา ทําให้เขาชะงักไป ชั่วขณะหนึ่ง ถูกใจสาวสวยคนนี้ขึ้นมาทันใด

“เสียงมาก่อนตัวเลยนะเดย์” สมสมรทักเพื่อนสนิท ลูกชาย ความสนิทสนมของทั้งคู่ดำเนินมาตั้งแต่เยาว์วัย หากนับเป็นเวลาก็ล่วงเลยมากกว่ายี่สิบกว่าปี

“ผมไปญี่ปุ่นมาครับ ซื้อของมาฝากคุณพ่อคุณแม่ พี่ปิ่น แล้วก็ไอ้ภูด้วยครับ” ภารดรวางถุงหลายใบลงบนโต๊ะตัว เล็กหน้าโซฟาตัวยาวที่สมสมรนั่งอยู่ ก่อนหันไปมองดู มอนวดหน้าหวานนวดตัวให้ประพจน์ “เห็นคุณพ่อนวด ตัวชักอยากนวดขึ้นมา รู้สึกปวดหลังน่ะครับ”

“คงไม่ได้เพราะรวีไม่ใช่หมอนวดมืออาชีพ รวีแค่มานวด ให้คุณพ่อ พอนวดเสร็จก็จะไปทำกับข้าวให้กูกับคุณ พ่อคุณแม่กิน คงไม่มีเวลานวดให้มึง” ภูริภัทรรีบพูดดักคอ เพื่อน เพราะดูจากสายตา ภารดรไม่ได้ปวดเมื่อตามปาก พูด คงหาเหตุให้ได้ใกล้ชิดกับณัฐรวีตามประสาพ่อไก่แจ้ “ถ้ามึงเมื่อย กูโทรเรียกหมอนวดมานวดให้ เอาไหม
“ถ้าอย่างนั้นไม่นวดแล้ว รอกินกับข้าวฝีมือคนสวยดีกว่า กูก็เริ่มหิวแล้วด้วย” ภารดรไหลลื่นยิ่งกว่าปลาไหล

“รวีนวดเสร็จแล้วค่ะ” ณัฐรวีบอกเมื่อทำการนวดตัวให้ ประพจน์เสร็จ “รวีขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ”

“ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ จะได้ให้ตุ่นไปซื้อให้

“ค่ะคุณป้า” แม่ครัวเฉพาะกิจตอบกลับ ก่อนเดินไปยัง ห้องครัวที่อยู่ทางด้านหลังของบ้าน

“ใครครับคุณแม่ หน้าตาสวยเชียว” ภารดรรีบถามสม สมร

“เธอชื่อรวี อยู่ไร่ดุจตะวัน” สมสมรตอบ “อย่าทำรุ่มร่าม นะเดย์ คนนี้แม่ขอ รวีเป็นเด็กดี ถ้าไม่จริงจังก็ปล่อยผ่าน ไปเถอะ”

คนพูดรู้นิสัยภารดรดี เจ้าชู้ ไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิง คนไหน ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คือของเล่นที่เล่นเบื่อ ก็ทิ้งลงถังขยะ แยกย้ายกันตามระเบียบ

“เล่นพูดดักคอซะแล้ว” ภารดรแอบบ่น

“ก็น่าพูดดักอยู่หรอก มึงน่ะตัวพ่อเรื่องเจ้าชู้เลย”ภูริภัทรรู้นิสัยเพื่อนเช่นกัน

“ไม่รู้สิ กับรารู้สึกแปลกๆ แววตาเธอน่าสงสารนะ เศร้า เขียว มองสบตาแล้วใจหวั่นไหวอย่างไงบอกไม่ถูก การ ดรบอกความรู้สึกตัวเองให้เพื่อนรักกับคนในห้องโถงใหญ่ รับรู้

“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า มึงมากับกูนี่ กูอยากคุยกับมึงเรื่องรี สอร์ตพอดี”

ภูริภัทรเดินไปหาเพื่อนรัก ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินไปยัง ระเบียงข้างบ้าน เพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ