นางบำเรออุ้มรัก

บทที่ 6 ไฟสุมใจ



บทที่ 6 ไฟสุมใจ

ไฟสุมใจ

ก่อนเวลาภูริภัทรมารับณัฐรวีครึ่งชั่วโมง เมฆาเดินมา เคาะประตูห้องณัฐรวีแทนการใช้กุญแจไขเช่นทุกครั้ง ที่ เขาทำเช่นนี้เป็นเพราะแก้วตากลับมาบ้าน เขาจะทำตัว เข้านอกออกในห้องนี้ตามใจชอบไม่ได้ เจ้าของห้องเดิน มาเปิดประตู พอรู้ว่าเป็นใคร ใจหล่อนเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กับ สายตาไม่พอใจที่กวาดมองตนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

ทุกวันตลอดสามปีเมฆาจะเห็นณัฐรวีสวมเสื้อผ้าตัวเก่า ซ้ำไปซ้ำมา สีหมองลงตามเวลา บางตัวมีรอยปะรอยชุน ทว่าวันนี้หล่อนสวมเสื้อเชิ้ตแขนตุ๊กตาสีชมพู กางเกงเป็น แบบพอดีตัวสีครีมที่ดูเข้ากัน ณัฐรวีสวมชุดนี้แล้วดูแปลก ตา ดูสดใสน่ารัก และน่ามอง

“ใส่ชุดใหม่ซะด้วย” น้ำเสียงบอกให้รู้ได้ว่า เมฆากำลังไม่ พอใจ

“ชุดที่พี่ปิ่นให้รวีมาค่ะ พี่ปิ่นบอกว่า วันนี้ให้รวีใส่ชุดที่เธอ ให้ค่ะ” ณัฐรวีบอกเมฆา เขาไม่ได้พูดอะไรก้าวเดินเข้าไป ในห้อง มาหยุดยืนหน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนเปิดมันออก ทำบาง อย่างที่เจ้าของห้องตกใจ “คุณเมฆเอาเสื้อผ้ารวีออกมา ทำไมคะ”
เมฆาไม่สนใจคำถาม เขาหยิบเสื้อผ้าที่แขวนไว้เป็น ระเบียบออกจากตู้ โยนมันลงบนพื้น เหลือเพียงเสื้อผ้า เก่าของณัฐรวีที่แขวนอยู่บนราว

“เอาไปเผาน่ะสิ” เขาตอบเสียงเรียบ หันมามองหน้าณัฐ

รวี

“นี่มันเสื้อผ้ารวีนะคะ คุณเมฆเอาไปเผาได้ยังไง” ณัฐ รวีรีบเข้าไปหยิบเสื้อผ้าตัวสวย ที่ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่มี ปัญญาซื้อ เป็นเพราะราคาของมันแต่ละตัวสูงถึงหลักพัน บางตัวยังมีป้ายราคาติดไว้ สามพันเจ็ดร้อยบาท หล่อน เห็นแล้วถึงกับอึ้ง และดีใจไปในทีที่ได้เสื้อผ้าใหม่แถม สวยมาสวมใส่ แต่พอได้ยินประโยคนี้ หล่อนตกใจเข้าไป หยิบเสื้อผ้าขึ้นมากอดไว้ ทว่าเมฆาก็ดึงออกจากอ้อมแขน หล่อนเต็มแรง

“เธอไม่มีสิทธิ์ใส่เสื้อผ้าพวกนี้ หน้าอย่างเธอใส่แต่เก่าๆ หมองๆ น่ะดีแล้ว เสื้อผ้าของพี่ปิ่นราคาแพงทั้งนั้น ไม่ เหมาะกับเธอสักนิดเดียว”

“เหมาะไม่เหมาะมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณเมฆ ชุดพวกนี้พี่ปิ่น ให้รวีมา มันก็เป็นของรวี” หล่อนเถียงสู้ และนั่นยิ่งทำให้ เชื้อไฟแห่งความโกรธโถมใส่หัวใจเขามากขึ้น

“เดี๋ยวนี้เธอกล้าเถียงฉันเหรอ ไปไร่โน้นแค่วันเดียวเธอ ถึงกับผยองกับฉัน อยากลองดีกับฉันหรือไง” เมฆาก้าวเท้ามาหาณัฐรวีที่ยังคงกอดเสื้อผ้าสองสามตัวไว้แน่น

หล่อนก้าวถอยหลังหนีร่างหนาก้าวต่อก้าว

“รวีไม่ได้เถียง ไม่ได้ผยองกับคุณเมฆ แต่เสื้อผ้าพวกนี้ พี่ปุ่นให้รวีมา มันเป็นของรวี” น้ำตาคนพูดเริ่มไหล ความ กลัวไม่หนีไปจากจิตใจเลย

“อย่างนี้แหละที่เรียกว่าเถียง ปีกกล้าขาแข็งอย่างนี้ต้อง สั่งสอนให้เข็ด ให้หลาบจำ” เมฆาทำในสิ่งที่ณัฐรวีไม่คาด คิด นอกจากจะดึงเสื้อผ้าออกจากอ้อมแขนหล่อนแล้ว เขายังกระชากเสื้อที่ณัฐรวีสวมใส่ เสื้อเชิ้ตช่วงแขนฉีก ขาดตามแรงกระชาก ณัฐรวีกรีดร้องด้วยความตกใจ ปัด ป้องเขาพัลวัน และเสียงของณัฐรวีได้ลอดผ่านประตูห้อง ที่ปิดไม่สนิท

“นี่มันอะไรกัน เมฆทำอะไรรวี” เจ้าของเสียงคือเนาว รัตน์ที่เดินมาตามเสียงกรีดร้อง พอดันประตูห้องให้เปิด กว้าง ภาพที่นางเห็นคือ เมฆากำลังดึงทิ้งเสื้อผ้าของณัฐ รวี เสื้อผ้าหลายตัวเกลื่อนพื้น

“คุณป้าช่วยรวีด้วยค่ะ” ณัฐรวีวิ่งมาหาเนาวรัตน์อย่างคน หาที่พึ่ง ทั้งที่รู้เต็มอกว่า นางไม่มีวันเข้าข้างตน

“แม่ถามไม่ได้ยินหรือไงเมฆ ทำไมทำรวีแบบนี้ แก้วตา อยู่บ้านนะ ทำอะไรหัดดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิ” เนาวรัตน์ ไม่อยากให้แก้วตารู้เรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเมฆากับณัฐรวี เพราะนางหมายมั่นปั้นมือไว้ว่า ภรรยาใน อนาคตของลูกชาย คือแก้วตาคนเดียวเท่านั้น

“ผมไม่ได้ทำอะไรรวีอย่างที่คุณแม่คิดหรอกครับ” เมฆา ทำใจเย็น ตอบคำถามมารดา “ผมแค่จะเอาเสื้อผ้าที่พี่ปิ่น ให้รวีไปเผาทิ้งก็แค่นั้น”

เนาวรัตน์ตกใจกับคำตอบของบุตรชาย นางไม่คิดว่า ความคิดนี้จะอยู่ในหัวเมฆา ความจงเกลียดจงชังทำให้ เมฆาไม่คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ

“แม่ว่าเมฆทําอย่างนี้ไม่ได้นะ” เป็นครั้งแรกที่เนาวรัตน์ ค้านการกระทำของเมฆา

“ทำไมจะทำไม่ได้ครับ ก็ผมเป็นเจ้าชีวิตรวี จะทำอะไร ก็ได้”

“แต่ครั้งนี้แม่ไม่เห็นด้วย เสื้อผ้าพวกนี้ปิ่นเป็นคนให้มา ถ้ารวีไม่ได้ใส่ให้คนไร่โน้นเห็น ถ้ามีค่าถามกลับมาจะ ตอบเขาว่ายังไง ในเมื่อให้เสื้อผ้ารวีมาแล้วรวีก็ต้องใส่สิ จะใส่เดิมๆ ทำไม” เนาวรัตน์ให้เหตุผล “แม่ไม่อยากผิดใจ กับคนไร่โน้นเพราะเรื่องเสื้อผ้าพวกนี้ ปล่อยให้มันมีความ สุขเล็กๆ น้อยๆ กับเสื้อผ้าใหม่บ้างก็ได้”

เมฆานิ่งไปกับเหตุผลของคนเป็นแม่ ตวัดสายตามองณัฐ รวีที่ยืนร้องไห้ข้างเนาวรัตน์ สายตาเขาไม่พอใจแข็งกระด้าง

“แต่ถ้าเมฆอยากจะเอาไปเผาทิ้ง เอาไปครึ่งหนึ่งที่มัน ได้มาก็ได้ เหลือก็ให้มันเวียนใส่ ทางโน้นจะได้ไม่สงสัย” เนาวรัตน์หาทางออก “แกต้องยอมรับตามที่ฉันบอก ไป เลือกเสื้อผ้าที่แกอยากใส่ครึ่งหนึ่งที่ได้มา ไปเลือกสิ ดี กว่าไม่ได้ใส่สักตัวนะ”

ณัฐรวียังคงยืนอยู่ที่เดิม หล่อนยืนร้องไห้เสียใจกับเรื่อง ที่เกิดขึ้น หล่อนไม่เข้าใจว่า แค่เสื้อผ้าพวกนี้ทำไมเมฆา ถึงต้องโกรธและนำมันไปเผาทิ้ง ความเกลียดชังในใจเขา รุนแรงเหลือเกิน

“ไปสิ ยืนบี้ออยู่ได้ เดี๋ยวไม่ได้ใส่สักตัวกันพอดี” เนาว รัตน์ตวาดใส่ณัฐรวีที่รีบเดินไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาหลายตัว และหยิบเป็นชุดเดียวกันมาอีกสามชุด ก่อนจะยืนกอดไว้ แน่น ราวกับกลัวว่ามันจะถูกพรากไปจากตน

“เมื่อวานคุณป้าสมสมรให้เงินเธอมาเท่าไหร่” เมฆาถาม ถึงสินน้ำใจที่สมสมรให้ณัฐรวี

“ทำไมคะ” ณัฐรวีถามกลับเสียงเครือสั่น

“ไม่ต้องถามกลับ ตอบมาว่าเท่าไหร่” เมฆาคาดคั้นถาม อีกรอบ
“สองพันค่ะ”

“เอามา” เมฆาแบมือตรงหน้าณัฐรวี

“เมฆจะเอาเงินมันทำไม” เนาวรัตน์สงสัย

“รวีไม่สมควรมีเงินติดตัว อยู่แบบไม่มีอะไรเลยน่ะดีแล้ว มีข้าวกิน มีที่ซุกหัวนอนคงไม่ต้องใช้เงิน” เมฆาตอบ มารดาที่อึ้งไปชั่วครู่ “มีเงินติดตัว เดี๋ยวได้คิดทําเรื่องชั่วๆ เหมือนกับแม่ของเธอ”

“พอแล้วเมฆ แค่นี้ก็พอแล้ว เงินที่มันได้มาก็เพราะมันไป นวดตัวให้สมสมร ถือว่าเป็นรายได้ของมัน มันจะไปซื้อ อะไรก็เรื่องของมัน ส่วนเรื่องที่เมฆกลัวว่ามันจะทำเรื่อง ชั่วล่ะก็ คนมันจะทำชั่วต่อให้ไม่มีเงินติดตัวมันก็ทําอยู่ดี ซึ่งแม่ก็รู้ว่ามันไม่กล้า เพราะถ้ามันทำ แม่มันจะเดือดร้อน ไม่ได้เดือดร้อนธรรมดา เดือดร้อนหนักด้วย” เนาวรัตน์ ปรามลูกชายที่ทำเกินพอดี “รวี แกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วลงไปข้างล่าง ใกล้เวลาภูมารับแล้ว”

ณัฐรวีรีบทำตามคำสั่งเนาวรัตน์ หล่อนเดินเข้าไปใน ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมฆามองตามร่างอรชรด้วย สายตาที่ยังแข็งกร้าว ก้มลงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมายัดใส่ถุง กระดาษที่วางไว้ข้างตู้เสื้อผ้า แล้วเดินออกไปจากห้องนอ นของณัฐรวีทันที
เนาวรัตน์มองดูการกระทำของลูกชายแล้วรู้สึกว่า ผิด ปกติ เมฆาไม่น่าจะไม่พอใจเรื่องเสื้อผ้าที่ปั่นประภาให้ ณัฐรวี บุตรชายอาจไม่พอใจที่เห็นณัฐรวีแต่งตัวสวยๆ และมีเงินใช้ หากณัฐรวีแต่งกายให้ตัวเองดูดีขึ้น หล่อน ก็จะตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มที่พบเห็น หากมีเงิน ติดตัวก็อาจหนีไปจากที่นี่ เมฆาจึงต้องกันไว้ก่อนแก้ ด้วย การนำเสื้อผ้าณัฐรวีไปเผาทิ้งและริบเงินที่ได้จากสมสมร ทว่าอีกใจก็ค้านว่าไม่น่าใช่ เมฆาเกลียดณัฐรวี หมายให้ เจ็บปวดใจ การทำเช่นนี้ถือว่า ทำร้ายจิตใจณัฐรวีอย่าง หนึ่ง ซึ่งนางก็หวังว่าจะเป็นอย่างหลัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ