นางบำเรออุ้มรัก

บทที่ 10 แผนร้าย



บทที่ 10 แผนร้าย

15.05 น. วันเดียวกัน

หลังจากทำหน้าที่นางบำเรอจนเมฆาพอใจ หน้าที่ทำงาน บ้านก็เป็นลำดับต่อไปที่ณัฐรวีต้องทำ แม้ว่าบ้านหลังนี้ จะมีคนรับใช้ก็ตามที่ หล่อนก็ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ และที่พักอาศัย ซึ่งหล่อนก็ทำหน้าที่ทุกอย่างได้อย่างดี เยี่ยม

เสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้าน ไม่นานนักคนในรถมิ นิแวนก็เดินเข้ามาในบ้าน กิ่งโพยมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา คลี่พัดในมือโบกไปมาขับไล่ความร้อน ที่นั่งด้านข้างถูก เนาวรัตน์ครอบครอง โซฟาตัวเล็กมีแก้วตาจับจอง ส่วน อิ่มนั่งอยู่บนพื้นข้างเจ้านาย

“น้ำส้มเย็นๆ ค่ะคุณย่า” นุ่มนำน้ำส้มคั้นแช่เย็นมาให้เจ้า นายทั้งสาม

“นังรวีไปไหน” เสียงเรียบเย็นของกิ่งโพยมเอ่ยถามนุ่ม

“นั่งเล่นอยู่หลังบ้านค่ะ” นุ่มตอบ

“หนอย เป็นกาฝากแท้ๆ กลับไปนั่งเล่นหลังบ้าน แทนที่ จะช่วยงานในไร่” กิ่งโพยมแสดงความไม่พอใจออกมา ทันที “ไปตามมันมาหาฉันเดี๋ยวนี้”
“ค่ะคุณย่า” นุ่มรีบทําตามคําสั่ง ไม่นานเกินรอ ณัฐรวีก็ เดินมาหากิ่งโพยม

“คุณย่าเรียกรวี มีอะไรให้รวีรับใช้คะ”

“แกนี่จะสบายมากเกินไปแล้วนะ งานในไร่มีออกเยอะ แยะ ดันไปนั่งเล่นหลังบ้านสบายใจเฉิบ แกนี่สันดานเลว เหมือนแม่แกไม่มีผิด” กิ่งโพยมไม่ออมคำพูด นางต่อว่า ณัฐรวีโดยไม่ถามไถ่อะไร

“รวีทำงานเสร็จแล้วค่ะ เลยไปนั่งเล่น”

“แกไม่ต้องมาแก้ตัว สันดานแก ฉันรู้ดี” กิ่งโพยมเสียง เขียว “มานั่งใกล้ๆ ฉันสิ”

ณัฐรวีคลานไปนั่งแทนที่อิ่มที่ขยับตัวไปนั่งข้างเนาวรัตน์ กิ่งโพยมมองหน้าณัฐรวี ไล่สายตาไปยังเสื้อผ้าที่หล่อน สวมใส่ ความเกลียดชังที่มีเป็นทุนเดิม มาบวกกับความ หมั่นไส้ที่ณัฐรวีทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ทำงาน ทำการ เอาแต่นั่งเล่นไปวันๆ อีกทั้งคำพูดของแก้วตาที่ ว่า ณัฐรวีไม่สนใจเสื้อผ้าที่ตนซื้อให้ พุ่งความสนใจไปที่ เสื้อผ้าของปิ่นประภา เหมือนกับกิ่งโพยมคุมสติไม่ได้ มือ เหี่ยวย่นตามวัยจับตรงคอเสื้อที่ณัฐรวีสวมใส่ นางกระ ชากแรงๆ สองสามครั้งจนคอเสื้อแยกขาด การกระทำ ของกิ่งโพยมสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้อง โถง
“ว้าย! คุณย่า คุณย่ากระชากคอเสื้อรวีทำไมคะ” ณัฐรวี ถาม ขณะมือจับมือกิ่งโพยมไว้

“แกอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนก็ไม่มีสิทธิ์ใส่ชุดที่ปั่นให้ แกต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เน่าๆ ของแกเท่านั้น ถ้าแกไม่เชื่อ ฉันล่ะก็ ฉันจะเอาเสื้อผ้าพวกนั้นไปเผาทิ้งให้หมด เพีย ะ…แควก”

กิ่งโพยมตบหน้าณัฐรวี ก่อนกระชากคอเสื้อหลายครั้ง ติดกันเพื่อให้เสื้อตัวนี้สวมใส่ไม่ได้ ตรงบริเวณคอมีรอย แดงจากการเสียดสีของเนื้อผ้ากับผิวเนื้อ ณัฐรวีทั้งเจ็บ และแสบร้อนตรงบริเวณนั้น

เนาวรัตน์ได้แต่มอง ใจหนึ่งก็สงสาร ใจหนึ่งก็สะใจ จะ มีเพียงคนเดียวที่มีความสะใจเต็มที่ ยิ้มเยาะในใจ คน นั้นคือแก้วตา ภายใต้ใบหน้าที่แสดงความสงสาร เห็นใจ ซุกซ่อนความริษยาและสาแก่ใจไว้เต็มพิกัด

“คุณย่าขา พอแล้วค่ะคุณย่า” แก้วตาท่าตัวราวกับเป็น นางฟ้า ร้องห้ามกิ่งโพยม ไม่เพียงแค่พูด ยังลุกขึ้นไปหา นางอีกด้วย “คุณย่าพอนะคะ เดี๋ยวความดันขึ้นนะคะ คุณย่า”

แก้วตาดึงมือกิ่งโพยมออกจากเสื้อตัวสวยของณัฐรวี พูด ในใจว่า ‘สมน้ำหน้า
“รวีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” ก่อนบอกณัฐรวีที่นั่งร้องไห้บน พื้น “ใส่ชุดเก่านะ คุณย่าจะได้ไม่โกรธ”

ณัฐรวีปาดน้ำตาราวกับเด็ก ลุกขึ้นยืนเดินไปยังชั้นบน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตามความต้องการของเจ้าของบ้าน โดยมีสายตาหยามเหยียด ชิงชังของกิ่งโพยมมองตามไป

“มันยโสเหลือเกิน ไม่น่าเลี้ยงมันไว้เลย ให้มันชูคอเป็น กิ้งก่าอยู่ได้ เห็นหน้ามันทีไร ฉันอดใจไม่ไหวทุกที” กิ่ง โพยมไม่ออมความเกลียดชัง นางมีให้ณัฐรวีมากขึ้นทุก วัน

“เอาเถอะค่ะคุณแม่ ไหนๆ ก็ให้มันอยู่ที่นี่แล้ว ก็ให้มัน อยู่ต่อไป อีกอย่างเราก็ไม่ใช่ว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อมันดี ทำ ราวกับมันเป็นขี้ข้าคนนึง แต่แค่ให้มันอยู่ร่วมบ้านเดียวกับ เรา เพื่อจะได้โขกสับมันได้สะดวก แก้แค้นแม่มันไม่ได้ก็ ลงที่ลูกนี่แหละค่ะ” เนาวรัตน์พูดกับแม่สามี “รัตน์ว่า คุณ แม่ขึ้นไปพักข้างบนดีกว่าค่ะ พอถึงเวลาอาหารเย็น รัตน์ จะให้นุ่มขึ้นไปตามค่ะ”

“ไปค่ะคุณย่า ขึ้นไปพักบนห้องนะคะ คุณย่าบ่นว่าปวด ขา แก้วตานวดให้นะคะคุณย่า”

แก้วตาได้ทีเอาใจกิ่งโพยมเต็มที่ คนสูงวัยที่อารมณ์เย็น ลงส่งยิ้มบางให้หลานสาวนอกสายเลือดที่ประคองร่างนางขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

แก้วตามาหยุดยืนหน้าห้องนอนของณัฐรวี ในมือมีชุดเด รสสีชมพูตกแต่งด้วยลูกไม้สวยงาม แววตามาดร้ายมอง ไปยังประตูตรงหน้า ก่อนยกมือเคาะประตูตามมารยาท แล้วเปิดประตูเข้าไปด้านใน

“รวี” แก้วตาเอ่ยชื่อเจ้าของห้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สายตามุ่งร้ายปรับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เจ้าของชื่อเล่นที่ ฟุบหน้าร้องไห้บนที่นอนเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามา

“แก้วตา” ในบ้านหลังนี้คงจะมีเพียงแก้วตาคนเดียวที่ดี

กับตน

“เป็นไงบ้าง ตอนที่ฉันไปห้ามคุณย่า ฉันเห็นคอเธอเป็น รอยแดง เจ็บมากไหม” แก้วตาทรุดตัวนั่งข้างณัฐรวีที่ขยับ ตัวลุกขึ้นนั่ง

“ไม่เจ็บแล้ว” ณัฐรวีตอบ

“ช่วงที่คุณย่าอยู่ที่นี่ รวีก็ใส่ชุดเก่าไปก่อนนะ อย่าใส่ชุดที่พี่ปินให้คุณย่าเห็นจะโกรธเอาอีก แล้วรวีก็จะเจ็บ ตัว” แก้วตาทำเป็นพูดดี แต่ประสงค์ร้าย “แก้วตาไม่อยาก เห็นใครทําร้ายรวี ไม่อยากเห็นความรุนแรงในครอบครัว”

แก้วตาทำเป็นพูดดี น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงไว้ซึ่งความ

เมตตาเห็นอกเห็นใจ

“ขอบใจแก้วตามากนะ” ณัฐรวีไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง

ของแก้วตา เลยคิดว่าแก้วตาเป็นคนดี เป็นคนที่ห่วงตน

เสมอ

“ไม่เป็นไร เราก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นเหมือนพี่ เหมือนน้องกันนี่นา” แก้วตายังคงพูดดีต่อไป “วันมะรืน เป็นวันเกิดคุณย่า รวีใส่ชุดนี้นะ เป็นชุดของแก้วตาเอง”

แก้วตาส่งชุดในมือให้ณัฐรวี

“ถ้ารวีใส่ชุดนี้ คุณย่าจะไม่โกรธเหรอ” คนพูดถามด้วย ความกังวล

“เป็นชุดของแก้วตาเอง เดี๋ยวแก้วตาจะบอกคุณย่าว่า ที่ ให้รวีใส่ชุดนี้เพราะไม่อยากให้คุณย่ากับคุณป้าและพี่ เมฆขายหน้า ที่ใครต่อใครเห็นรวีใส่ชุดเก่า พานจะเป็น ขี้ปากชาวบ้านซะเปล่าๆ รับรองว่าคุณย่าไม่ว่าแน่นอนจ้ะ” แก้วตาบอกให้ณัฐรวีสบายใจ “ใส่ชุดนี้นะ แก้วตาอยากเห็นรวีใส่ชุดสวยๆ”

“ขอบใจนะแก้วตา

“วันงานแก้วตาจะมาแต่งหน้าทำผมให้รวีนะ รวีจะได้ สวยๆ ไง”

“รวีแต่งไปก็ไม่สวยหรอก แก้วตาสวยกว่ารวีอีก”

“เอาเป็นว่า แก้วตามาแต่งหน้าทำผมให้รวีนะ” แก้วตาพูด ตัดบท “แก้วตาไปก่อนนะ ต้องไปดูแลคุณย่า”

“รวีก็ต้องลงไปทํากับข้าวเหมือนกัน”

สองสาวยิ้มให้กัน ก่อนพากันเดินออกจากห้อง ก่อนจะ เดินแยกไปคนละทาง แก้วตาเดินไปห้องกิ่งโพยม ใน ขณะที่ณัฐรวีเดินไปยังบันไดบ้าน ความที่แยกกันคนละ ทาง ทำให้ณัฐรวีไม่มีโอกาสได้เห็นสายตาของแก้วตา ที่ เวลานี้เปรียบเสมือนแววตานางมารร้ายในละคนไม่มีผิด เพี้ยน มีความริษยาเต็มกำลังทั้งที่ณัฐรวีน่าจะเป็นฝ่าย อิจฉาริษยาแก้วตามากกว่า เนื่องจากแก้วตาได้รับความ รัก ความเอาใจใส่จากทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะเมฆา ชายหนุ่มที่ทำร้ายจิตใจและร่างกายหล่อนอย่างแสน สาหัส แต่น่าแปลกที่เขาคือรักครั้งแรกของตน เป็นความ รักเก็บซ่อนไว้ลึกสุดใจ
บ่ายวันรุ่งขึ้น

ณัฐรวีเดินเข้ามาในคลินิกตามเวลานัดหมาย ไร้เงาเมฆา เช่นทุกครั้ง หล่อนจะเข้ามาฉีดยาคุมที่นี่คนเดียว ส่วน เมฆารออยู่ที่รถบ้าง หรือไม่ก็รออยู่ร้านกาแฟใกล้ๆ มีบาง ครั้งที่เขาทิ้งตนไว้ที่นี่ แล้วไปทําธุระก่อนวกกลับมารับตน ที่ร้านกาแฟ

“มาฉีดยาคุมค่ะ” ณัฐรวีบอกเจ้าหน้าที่คลินิก

“คุณรวีมีนัดฉีดวันนี้หรือคะ” รุ่งนภาถามกลับอย่างคุ้น เคย เนื่องจากณัฐรวีมาฉีดยาคุมกำเนิดที่นี่เป็นเวลาสามปี แล้ว

“ใช่ค่ะพี่รุ่ง”

“รอสักครู่นะคะ” เจ้าหน้าที่หันไปค้นประวัติในลิ้นชัก เอกสาร ก่อนหยิบบัตรคนไข้ของณัฐรวีขึ้นมาดู “นั่งรอ ก่อนนะคะ”

ผู้พูดเดินหายไปด้านหลังพร้อมประวัติคนไข้ สีหน้าไม่ ได้แสดงความวิตกกังวล ทว่าในใจกลับมี
“เปิ้ล ลูกค้าคนนี้ใครเป็นคนโทรนัด” รุ่งนภาเอ่ยถามเปิ้ล ผู้ช่วยพยาบาลวิชาชีพที่ประจำอยู่คลินิกแห่งนี้

“พี่นาจ้ะ มีอะไรเหรอพี่” เปิ้ลถามกลับ

“เลยกำหนดฉีดยาคุมมาหกวันน่ะสิ พี่เลยอยากรู้ว่า ทางเราแจ้งลูกค้าช้าหรือว่าลูกค้ามาช้าเอง ถึงได้มาหลัง กำหนดฉีดยาคุม” รุ่งนภาสีหน้าเป็นกังวล “นาอยู่ไหน”

“นั่นไงพี่ มาพอดีเลย” เปิ้ลชี้ไปทางด้านหลัง

“นา ลูกค้าคนนี้นาโทรไปนัดมาฉีดยาคุมเมื่อไหร่” รุ่ง นภาถามนาที่ทำหน้างงๆ รับใบประวัติคนไข้มาดู

“เมื่อวานซืนนะพี่รุ่ง” นาตอบ

“แล้วบอกลูกค้าว่ามีนัดฉีดยาคุมวันนี้ใช่ไหม” รุ่งนภา

ถามต่อ

“ใช่พี่ ก็กำหนดมันวันนี้ ก็ต้องให้มาวันนี้สิพี่”

“มันวันนี้ที่ไหนกันล่ะ มันวันที่ 10 ต่างหากล่ะ” นามีสีหน้า ตกใจทันที “พี่เขียนเลข 0 แต่มันมีหัวขึ้นมาเลยมองว่า เป็นเลข 6″
รุ่งนภาอธิบาย

“แล้วทำไงดีล่ะพี่ จะบอกลูกค้าไหม” นาหน้าตาซีด เสียง

สั่น

*ไม่ต้องบอกก็ได้ ถ้าบอกมีหวังโดนฟ้องแน่

รุ่งนภาตอบ อันที่จริงแล้วหน้าที่โทรนัดลูกค้าเป็นหน้าที่ ของหล่อน ทว่าหล่อนลาพักงานหนึ่งสัปดาห์เพื่อไปร่วม งานศพมารดา เพิ่งกลับมาทำงานวันนี้เป็นวันแรก หากตน อยู่ รับรองว่าไม่มีเรื่องผิดพลาดแน่นอน

“แล้วถ้าเผื่อลูกค้าท้องล่ะพี่ ไม่แย่เหรอ” เปิ้ลเป็นเจ้าของ คำถาม

“คงไม่มั้ง” รุ่งนภาไม่แน่ใจในคำตอบของตนเช่นกัน

“หกวันนะพี่ ไม่ใช่แค่วันเดียว” เปิ้ลพูดขึ้นมา รุ่งนภากับ นาถึงกับหนักใจมากขึ้น

“แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อนก็แล้วกัน บางทีลูกค้าอาจไม่ ได้มีอะไรกับสามีช่วงนั้นก็ได้” รุ่งนภาคิดในทางที่ดี แต่หา รู้ไม่ว่า เรื่องอย่างว่าระหว่างเมฆากับณัฐรวีเกิดขึ้นหลาย ครั้งในช่วงระยะเวลาหกวัน “นาจัดการยาด้วย พี่จะออก ไปบอกลูกค้า อ้อ…แล้วอย่าทำตัวน่าสงสัยล่ะ”
นาพยักหน้ารับรู้ รุ่งนภาเดินออกไปจากห้องเตรียม อุปกรณ์ทางการแพทย์ เดินไปยังเคาน์เตอร์ด้านหน้า

“คุณณัฐรวีเชิญห้องฉีดยาค่ะ” ณัฐรวีลุกขึ้นเดินไปยัง ห้องฉีดยา ในห้องนั้นมีเปิ้ล ผู้ช่วยพยาบาลยืนคอยอยู่ และการฉีดยาคุมกำเนิดก็แล้วเสร็จใจเวลาต่อมา “นัดอีก ที่ 16 มิถุนานะคะ ทางเราจะโทรไปแจ้งล่วงหน้าหนึ่งวัน ค่ะ”

“ค่ะ” ณัฐรวีรับคำ “พี่รุ่งคะ ปกติรวีฉีดยาคุมวันนี้ใช่ไหม คะ”

คนถามเพิ่งนึกได้ว่า ปกติจะฉีดยาคุมกำเนิดทุกวันที่ 10 ของทุกสามเดือน ทว่าเดือนนี้ฉีดยาคุมกำเนิดวันที่ 16 ณัฐรวีกลัวว่าตนเองจะตั้งครรภ์ จึงเอ่ยถามเพื่อความ แน่ใจ

คนถูกถามนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง รุ่งนภาพยายามปรับ สีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติที่สุด หล่อนต้องแก้ไข สถานการณ์นี้ให้ได้

“จริงๆ แล้วต้องเป็นวันที่ 10 ค่ะ แต่ยาคุมชนิดนี้ป้องกัน การคุมกำเนิดได้สามเดือนสิบวันค่ะ ฉีดเกินมาหกวันไม่มี ปัญหาค่ะ รวีสบายใจได้นะคะ”

รุ่งนภาปดไปคำโต ในใจนึกหวั่นไม่น้อย บอกอีกฝ่ายให้สบาย แต่กลับเป็นว่า ตนเองนี่แหละไม่สบายใจเสียเอง

“อ๋อค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ

“ครั้งหน้าพี่โทรนัดเองนะคะ มาฉีดตรงวัน รวีจะได้ไม่ เป็นกังวล”

“ค่ะพี่รุ่ง” ณัฐรวีรับรู้ “เท่าไหร่คะ”

*300 บาทค่ะเหมือนเดิมค่ะ” ณัฐรวีหยิบธนบัตรให้รุ่ง นภาตามจำนวนเงินนั้น “ขอบคุณค่ะน้องรวี”

คนมารับการบริการยิ้มให้รุ่งนภาที่ส่งยิ้มบางๆ ตอบกลับ ในใจรู้สึกผิดที่ไม่บอกความจริงให้ณัฐรวีรู้ ได้แต่ปล่อย เลยตามเลยแล้วหวังว่า คงไม่มีทารกถือกำเนิดขึ้น ณัฐรวี เดินออกจากคลินิกโดยไม่รู้เลยว่า ตนเองฉีดยาคุมล่าช้า กว่ากําหนดหลายวัน และมีผลตามมาในอนาคต

เมฆายกกาแฟร้อนขึ้นจิบ เขาคร่าเวลารอณัฐรวีใน ร้านกาแฟ จิบกาแฟไปพลางกับดูข่าวสารบ้านเมืองและ เศรษฐกิจผ่านมือถือ ขณะนั้นข้อความไลน์ก็เด้งขึ้น เขา ยิ้มเมื่อรู้ว่า ใครเป็นคนทักตน การสนทนาระหว่างเมฆากับแก้วตาผ่านทางไลน์จึงเริ่มขึ้น

ณัฐรวีเดินเข้ามาในร้านกาแฟหลังจากทำธุระเรื่องฉีดยา คุมกำเนิดเสร็จ หล่อนเดินมานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับ เมฆาที่ยังเล่นไลน์คุยกับแก้วตาอยู่ หล่อนนั่งรอโดยไม่ พูดขัดจังหวะเพราะเกรงว่า จะทำให้เมฆาไม่พอใจ

“เสร็จแล้วเหรอ” เมฆาถามหลังคุยกับแก้วตาเสร็จ “ไป กันได้แล้ว ฉันต้องซื้อของให้คุณแม่กับแก้วตา”

“คุณเมฆคะ รวีขอไปซื้อของใช้ส่วนตัวได้ไหมคะ” ณัฐ รวีใจกล้าพูดออกไป

“ซื้ออะไร เธอต้องใช้อะไรเป็นส่วนตัว” เมฆาถามกลับ สุ่มเสียงบอกได้เลยว่ากำลังไม่พอใจ

“ซื้อเสื้อในกางเกงในค่ะ ของเก่าใช้มาสามสี่ปี มันจวน ใช้ไม่ได้แล้วค่ะ” ณัฐรวีตอบ “รวีมีเงินที่ได้จากค่านวด ไม่ รบกวนเงินคุณเมฆค่ะ”

เมฆาตวัดสายตามองณัฐรวี ก่อนกระตุกยิ้ม

“เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งพูดกับฉันแบบนี้แล้วเหรอ ได้เงิน มาเยอะล่ะสิท่า”
“ไม่ใช่ค่ะ รวีอยากได้ตัวใหม่มานานแล้ว แต่ไม่กล้าขอ คุณเมฆ พอดีได้เงินมาก็เลยอยากซื้อค่ะ” ณัฐรวีตอบ เสร็จก็รอลุ้น

“ก็ไปพร้อมฉันนี่แหละ ฉันจะไปซื้อของพอดี”

“คุณป้ากับแก้วตาฝาก ออะไรคะ รวีไปซื้อให้ดีกว่าค่ะ คุณเมฆนั่งรอที่นี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องตากแดดตากลม” ณัฐรวี ขันอาสาด้วยความหวังดี ทว่าเขากลับไม่คิดเช่นนั้น

“ที่ไม่ให้ฉันไปด้วยเพราะนัดใครไว้ใช่ไหม” เขาเริ่มเสียง เขียว

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ณัฐรวีตอบกลับทันควัน “ถ้าไม่…” เสียงเมฆาระงับลง เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“เมฆ กูกำลังโทรหามึงพอดีเลย” เจ้าของเสียงคือมา โนช เจ้าของรีสอร์ตดังทางภาคเหนือ ณัฐรวีที่รู้จักมาโน ชยกมือไหว้ตามมารยาท มาโนชยิ้มทักทายกลับ เมฆา หันมองเพื่อน ก่อนเลื่อนสายตามองชายหนุ่มคนหนึ่งที่ ยืนข้างเพื่อน “คุณอเนก เขาจะมาออกแบบรีสอร์ตของ เรา ฉันตั้งใจว่า จะโทรหาแกให้แกมาหา เราจะได้คุยราย ละเอียดกัน”

เมฆาลุกขึ้นยืนทักทายอเนกอย่างสากลคือการจับมือก่อนที่มาโนชกับเอนกจะนั่งบนเก้าอี้อีกสองตัวที่ว่าง

“คุณเมฆอยู่คุยกับพี่น่านนะคะ เดี๋ยวรวีไปซื้อของเอง ค่ะ ขอรายชื่อของที่คุณป้ากับแก้วตาอยากได้ด้วยค่ะ” เหมือนกับมัดมือชกไปในที เมฆาคงปฏิเสธไม่ได้แม้ว่าใจ อยากทํา เมฆากดเปิดข้อความในไลน์ ไล่ดูจนเจอรายชื่อ สิ่งของที่มารดาและแก้วตาสั่ง ก่อนยื่นให้ณัฐรวีดู “ได้ค่ะ รวีจําได้ค่ะ”

“นี่เงิน ซื้อเสร็จแล้วให้มาที่นี่ ฉันให้เวลาเธอสี่สิบห้า นาที” เมฆาส่งเงินให้ขณะพูด

“ค่ะคุณเมฆ” ณัฐรวีรีบลุกเดินออกจากร้านกาแฟชื่อดัง มาโนชลุกขึ้นไปสั่งกาแฟเพิ่มสองแก้วก่อนกลับมานั่งร่วม โต๊ะกับเพื่อนรักตามเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ