ตอนที่9 เจ้าหญิง
ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับนางได้มายังโลกที่ไม่คุ้นเคยอย่างสิ้น เชิง…..
ไม่ว่าในกรณีใดความตื่นตัวและทักษะการประเมินที่แม่นยำ ของสายลับกำลังบอกนาง เมื่อความแข็งแกร่งฟื้นฟูขึ้นมา ทักษะ ในการรับมือและหลบหนีพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอันตราย เพียง แต่เรื่องราวยังไม่กระจ่างจึงไม่เหมาะที่จะลงมือผลีผลาม ดังนั้น นางจึงแสร้งทําเป็นหมดสติ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวันมานี้ ทำให้นางตื่นตระหนก รุนแรง!
ทุกวันจะมีแพทย์เฉพาะทางมาช่วยวินิจฉัยอาการป่วยของนาง
อีกทั้งยังป้อนน้ำแกงโอสถแสนขมให้กับนางอีกด้วย…..
และในทุกวันจะมีคนรับใช้มาปรนนิบัติป้อนข้าวป้อนน้ำ ผลัด เปลี่ยนเสื้อชำระร่างกายนาง…..
ไม่มีศัตรู!
ไร้การข่มขู่ต้อนให้จนมุม!
ยิ่งปราศจากการทรมานที่เขย่าขวัญผู้คน
นางเพลิดเพลินกับการต้อนรับที่ประหนึ่งกับ…..เจ้าหญิง
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกินกว่าขอบเขตการจินตนาการของซินเหยา นางสับสน โดยสมบูรณ์
“ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?”
นางตระหนักว่าหากต้องการจะเข้าใจสภาพแวดล้อมของตน หนทางเพียงหนึ่งเดียวนั้นก็คือการเรียนรู้ภาษาของคนแปลกหน้า เหล่านั้น!
นางเป็นอัจฉริยะที่มีความสามารถทางภาษา ยามที่แสร้งหลับ ก็พยายามลอกเลียนอย่างตั้งใจ ศึกษาเรียนรู้คำพูดของทุกคน
ครึ่งเดือน ให้หลัง นางก็เชี่ยวชาญพื้นฐานทักษะทางภาษาของ โลกนี้
นางยังทราบถึงข้อเท็จจริงอย่างช้าๆ
ตื่นตระหนกไร้ที่เปรียบกับความจริงอันน่าเหลือเชื่อ
นางข้ามโลกมา!
คาดไม่ถึงว่านางได้กลายเป็นผู้เดินทางข้ามโลกที่นิยมกันมาก ที่สุดในยุคปัจจุบัน!
นี่ใช่โลก(เดิม)ของนางหรือไม่นางไม่แน่ใจ หนึ่งเดียวที่นาง พอจะมั่นใจก็คือ นางอาศัยอยู่ในช่วงยุคสมัยที่ไม่ปรกติไม่ใช่ยุค คริสตศักราชแต่เป็นยุคสมัยราชวงศ์เทียนส่ง
อำนาจทางการเมืองของประเทศนี้ขับเคลื่อนด้วยราชวงศ์ เทียนส้ง เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์อย่างมากมาย อาณาเขต กว้างใหญ่ กองทัพเต็มประสิทธิภาพ กว่าหนึ่งร้อยปีที่แล้วจักรพรรดิหลายพระองค์แห่งราชวงศ์เทียนสังริเริ่มศึกสงครามต้า ซึ่งตระเตรียมไพร่พลทหารม้า เข้ายึดผืนแผ่นดินใหญ่ ร้อย กว่าปีที่ผ่านมานี้ ประเทศล้วนไร้การศึกสงคราม เศรษฐกิจและ วัฒนธรรมภายในประเทศได้รับความก้าวหน้ามหาศาลการ พัฒนาการยิ่งยวด
ในโลกนี้การให้ความสำคัญด้านการทหารเปรียบเป็นกระแส ลมขับเคลื่อน กำลังการทหารอันเกรียงไกรคือรากฐานการ ปกป้องประเทศอันมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าบุรุษหรือสตรี ทุกคนล้วนต้องร่ำเรียนวิชายุทธ์ แม้กระทั่ง เด็กเล็กปฐมวัยสามขวบล้วนต้องฝึกฝน ที่ประเทศเช่นนี้จึง ปรากฏผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการต่อสู้นับไม่ถ้วน ที่ได้รับการขนาน นามมีชื่อเสียงมากที่สุดคือสามตระกูลแห่งวิชาการต่อการต่อสู้ จวนจื่อจินโจวอ๋อง ตระกูลเปียวฉีป้ายโหว” จวนเฉิงเซี่ยงถาง เปิ่น*
(โหว* บรรดาศักดิ์ขุนนางจีนราชสำนัก เฉิงเซี่ยง* เสนาบดี) จวนจื่อจินโจวฮ่องควบคุมกองกำลังทหารเสือชั้นหัวกระทิหนึ่ง แสนนาย เป็นอ๋องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งทิศเหนือ
ตระกูลเปียว ป้ายโหวครอบครองกำลังทหารสามแสนนาย คุ้มครองจักรวรรดิฝั่งทิศใต้ ชื่อเสียงน่าเกรงขามทั่วดินแดนเขย่า ขวัญใต้หล้า
จวนเสนาบดีถางเป็นควบคุมอำนาจทหารและทหารองครักษ์ที่ คุ้มครองเมืองชั้นในหนึ่งหมื่นนาย รับผิดชอบพิทักษ์ความปลอดภัยเมืองหลวงแห่งจักรวรรดิ และในฐานะเสนาบดีที่ สืบทอดสกุลถางเปิ่น จึงได้ควบคุมเส้นเลือดสำคัญทางการค้า และภาษีของพระราชสำนักทั้งหมด ร่ำรวยอิทธิพลเรืองอำนาจ
สาเหตุที่สามตระกูลใหญ่มีอำนาจเกรงขามสะเทือนใต้หล้าต่อ เนื่องมาหลายศตวรรษ นอกเหนือจากทรัพย์สินยศถาบรรดาศักดิ์ ที่เหนือ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือทักษะยุทธ์อันเหนือชั้น
ทรัพย์สมบัติสามารถหดหาย อำนาจสามารถถดถอย ทว่าวร ยุทธ์ชั้นยอดนั้นกลับมากพอที่ทำให้สามตระกูลใหญ่ยืนหยัดชั่วนิ รันดร์ ห้อมล้อมอยู่ภายใต้ราชวงศ์มหรุง ปกครองใต้หล้า
ที่แท้จวนอ๋องโจวเฉกเช่นอำนาจฝ่ามือปิดผืนฟ้า
ซินเหยาตกตะลึงอยู่เงียบๆ
แล้วที่น่าตกตะลึงยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เห็นได้ชัดว่าคนของจวน อ๋องโจวได้ปฏิบัติว่านางเป็นคุณหนูเก้าที่สาบสูญไปจากจวนอ๋อง เมื่อยี่สิบปีก่อน…ทรง
ซินเหยาแสร้งหมดสติเพื่อลอบฟังข่าวสาร ปะติดปะต่อทีละชิ้น ทีละส่วนก็พอเข้าใจได้คร่าวๆ
ที่แท้คุณชายสี่แห่งจวนอ๋องโจว์ โจวหยุนถึงบังเอิญพบซิน เหยา ถนน….
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ