ตอนที่11 สิ่งล่อใจ
“โจวซินเหยางั้นหรือ?”
ซินเหยาตะลึงงันเล็กน้อย ชื่อนี้ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเหมาะ กับนาง
นางเป็นเด็กกําพร้า ตั้งแต่วัยเยาว์ถูกส่งเข้าเรียนในค่าย ฝึกหัดเพื่อรับการฝึกแบบนรก นางมีเพียงชื่อที่เรียกว่าซินเหยา แต่ไรก็ไม่เคยมีแซสกุล
โจวหยุนถึงเห็นนางสีหน้าเรียบเฉย จึงกล่าวอย่างรู้ความ “ซิน เหยา เจ้าพักผ่อนให้ดี พี่สี่ขอตัวลาก่อน รออีกสักสองวันเมื่อ ร่างกายเจ้าดีขึ้น พี่สี่จะพาเจ้าออกไปเที่ยวเล่น
“ออกไปเที่ยวเล่นหรือเจ้าคะ?” ซินเหยามีบางสิ่งล่อใจ
นางกลับไม่ได้ต้องการจะออกไปเที่ยวเล่นจริงจัง เพียงแค่ สามารถออกไปสัมผัสและเห็นภายนอกด้วยตาของตนเอง อาจ ค่อยเข้าใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น
ซินเหยากล่าว “พี่สี่ ทีจริงร่างกายของข้าเกือบจะดีแล้วเจ้าค่ะ”
โจวหยุนถึงหัวเราะตอบ “เจ้าอย่าได้รีบร้อน ยังพักอีกสักสอง วันเกิด เจ้าบอกว่าแต่ก่อนเจ้าอาศัยอยู่ในภูเขาร้าง ผู้คนบางตา ด้านภาษาก็ยังมีอุปสรรคอย เล็กน้อย เจ้าวันนี้เจ้าพักผ่อนให้ มาก พูดคุยสื่อสารกับผู้คนให้มาก อุปสรรคก็จะหายไปเอง ถ้า หากเจ้าคิดว่ามีความจำเป็น พี่สามารถเชิญอาจารย์กลับมาสอนเจ้า”
ซินเหยากล่าวตอบ “ขอบใจพี่เจ้าค่ะ นี่คงไม่ต้อง
ความสามารถด้านภาษาของนางสูง โดยทั่วไปไม่มี อุปสรรคทางด้านการสื่อสาร เพียงแต่เพิ่งจะเริ่มจดจำ จำนวนคำ ศัพท์ก็ค่อนข้างน้อยจึงยังไม่คุ้นอยู่บ้างก็เท่านั้น
โจวหยุนถึงกล่าวยิ้มซื่อๆ “ซินเหยาเด็กโง่! ข้าเป็นพี่ชายเจ้า นะ พวกเราสองคนพี่น้องไม่พบพานนานหลายปี แน่นอนว่าพี่จะ ปฏิบัติกับเจ้าให้ดีเพื่อชดเชยกับความยากลำบากหลายปีที่เจ้า ได้รับ เจ้ายังมากล่าวขอบใจ ไม่ใช่ว่าเกรงใจเกินไปจนเห็นเป็น คนนอกแล้วหรือ?”
ซินเหยากล่าว “ซินเหยาต่อไปจะไม่กล่าวขอบใจแล้วเจ้าค่ะ”
โจว์หยุนถึงกล่าว “ต้องแบบนี้สิ! เหอๆ ในจวนยังมีธุระ มากมายที่ต้องวุ่นวาย พี่ไม่รบกวนเจ้าพักผ่อนแล้ว เจ้าพักให้ สบายสักสองวันเกิด พ้นสองวันไปเมื่อไหร่เจ้าก็จะวุ่นแล้วล่ะ”
ซินเหยาถาม “วุ่นวายอะไรกันหรือเจ้าคะ?”
โจวหยุนถึงยิ้มลึกลับตอบ “ความลับ! เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้ได้ เอง เจ้าฉลาดเฉลียวเช่นนี้ แน่นอนว่า…ฮ่ๆ พี่ไปก่อนอีกสองวัน จะมาเยี่ยมเจ้าใหม่”
โจวหยุนถึงเพิ่งเดินถึงธรณีประตู ก็ชนเข้ากับนายหญิงเชียวที่
กําลังมา
นายหญิงเซียวเป็นอนุภรรยาของโจว์เส้าฉี ถึงแม้ว่านางจะถูกแต่งตั้งเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายในภายหลังจากที่นาย หญิงหมิ่นตายไป แต่เนื่องจากถือกำเนิดขึ้นในตระกูลชาวนาที่ ยากจนฐานะต้อยต่ำ ทำให้เมื่อขึ้นเป็นภรรยาเอกก็ยังคงได้ สถานะในจวนอ๋อง ไม่อาจได้รับความเคารพจากผู้ใด โดยปกติ ทั่วไปกระทั่งยังต้องทํางานของคนรับใช้
“นายหญิงเซียวสบายดี
โจวหยุนถึงเป็นฝ่ายเข้าทักทาย เขาคือหนึ่งเดียวในจวนที่ไม่ ดูถูกชาติกำเนิด ต้อยของนายหญิงเชียว
“คาราวะคุณชายสี่”
นายหญิงหมิ่นถึงแม้ว่าสถานะจะเป็นแม่เลี้ยง แต่ไม่ว่าอย่างไร สถานะโจวหยุนถึงก็เป็นนาย นางเป็นบ่าว นางย่อมต้องให้การ ค่านับแก่โจวหยุนถึง
“นายหญิงมาเยี่ยมซินเหยาอีกแล้วหรือ?”
“อืม”
“นายหญิงช่างมีน้ำใจ หลายวันนี้ข้ายุ่งจนเกรงว่าไม่สามารถ จะว่างได้ รบกวนนายหญิงดูแลซินเหยาให้มาก นางยังไม่ทันได้ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่”
“เจ้าค่ะ คุณชายสี่”
โจวหยุนถึงมอบหมายงานหลายประโยคจึงเร่งรีบจากไป
นายหญิงเซียวเป็นสตรีที่จิตใจดีและซื่อสัตย์คนหนึ่ง อายุสี่สิบปีก็มักจะเป็นหญิงแก่หน้าเหลือง” ในวัยนี้ ทว่านางกลับรักษารูป ลักษณ์ได้สองสามส่วน คิดดูแล้วในวัยนี้นับเป็นหญิงงามคนหนึ่ง
(หญิงแก่หน้าเหลืองเป็นคำด่าที่หมายถึงผู้หญิงที่ไม่น่าสนใจ หรือแก่แล้วก็ไม่สวยแล้ว)
“คุณหนู” นายหญิงเซียวเดินเข้ามา
“นายหญิงเซียวนั่งตามสบาย อยู่กับข้าที่นี่ไม่ต้องมากพิธี หรอก”
ซินเหยาเรียกนายหญิงตามโจวหยุนถึง ยากที่นางจะทำความ เข้าใจยิ่ง เหตุใดที่โลกใบนี้ยามแม่เลี้ยงพบธิดาของภรรยาเก่า แล้วยังต้องคํานับ?
“เจ้าค่ะ คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ หลายวันนี้ความอยากอาหารไม่ ค่อยดีใช่หรือไม่? ข้าเห็นว่ากับข้าวที่ห้องครัวส่งมาให้คุณหนู ล้วนไม่แตะต้อง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ