ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

บทที่ 8 เด็กน้อย โตแล้วนะ



บทที่ 8 เด็กน้อย โตแล้วนะ

“เฮ้” เหล่าผู้ชายที่นั่งไม่ไกลจากเขาจ้องมองไปทางประตูเหมือน กัน มีคนเรียกขึ้น “ลูกพี่ หลีซินบอกว่าเมื่อคืนพี่กับพี่สะใภ้ เร่าร้อนกันมากไม่ใช่เหรอ? ตามพละกำลังของพี่แล้ว วันนี้เธอมี ชีวิตชีวาขนาดนี้ มันไม่น่าจะเป็นงี้นะ”

คนที่พูดคือฉินซาง ในบรรดาเพื่อนเขาอยู่ลำดับที่สาม เขาเป็น คนที่เล่นสนุกได้มากที่สุดในบรรดาพวกเขา ผู้หญิงที่ไม่เคยขาด อาจเป็นเพราะความร้ายโดยธรรมชาติของเขา โชคความรักของ เขาค่อนข้างเยอะ

โหมวยเหลือบมองเขาที่หนึ่ง รู้สึกได้ถึงการตักเตือนของเขา ฉินซางยักไหล่แล้วหุบปาก

ถ้าเทียบกับฉินซางแล้ว ต้วนเพิ่งที่อยู่ลำดับที่สองมั่นคงกว่า เยอะ เมื่อเห็นโหมวยว่ายถึงข้างๆพวกเขา น้ำเสียงของเขาดู กังวล “ตอนนี้ถึงเวลาหรือยัง? ทางนายท่านบ้านนาย…….

“ยังไม่ถึงเวลาอีกเหรอ? เด็กน้อยบ้านเขาอายุยี่สิบสองปีแล้ว โตขนาดนี้แล้วนะ? ลูกพี่รอมานานหลายปี ถ้ายังไม่เด็ดก็จะถูก คนอื่นเด็ดไปแล้วนะ” ฉันซางมองบน คำพูดติดตลก

โหมวยู่ไม่ได้สนใจเขา ลุกขึ้น หยิบผ้าขนหนูมาผูกรอบเอว “ทางที่ดีอยากให้ฉันรู้นะว่าพวกนายใครเป็นคนปล่อยข่าวออก ไป ถ้าเธอหลุดแม้เป็นขนเส้นหนึ่ง ฉันให้พวกนายดื่มน้ำในสระ จนหมดแน่”
“ไอ่เหี้ย! ใจร้าย!” ฉินซางชี้แผ่นหลังของโหมวยแล้วกระทืบ เท้า ชางหลังโผล่หัวออกมาจากประตู กำลังจะดูว่ามีคนตามมา

หรือเปล่า เสียงของหลีซินก็ดังขึ้นข้างหูเธอ

“พี่สะใภ้หาผมเหรอครับ?” ราวกับผี ทางหลิงตกใจตัวสั่น แล้ว มองจากที่นี่ หลีซินยืนอยู่ข้างประตู คนทางหลังถือเสื้อที่เตรียม เปลี่ยนเอาไว้

“นายทําฉันตกใจแทบแย่!” ซางหลิงดึงสติกลับมา

“ขอโทษครับพี่สะใภ้!” หลีซินพูด พร้อมกับโค้งคำนับให้กับ เธออย่างเคารพ แม้แต่คนข้างหลังก็โค้งคำนับตาม อีกอย่างว่าที่ภรรยาของเขามาหาถึงที่ ถ้าเธอทำตัวเป็นจุด

สนใจ มันเป็นการรอให้เขามาจัดการเธอไม่ใช่เหรอ?

“โอเค ฉันจะตามติดฉันไม่ห่างแม้แต่นิ้วก็ได้ แต่นายสั่งคน พวกนี้แยะย้ายซะ ฉันไม่ชิน” ชางหลิงหุ่นยนต์ที่สีหน้าไร้อารมณ์ ใส่ชุดสีดำข้างหลัง

“เอ่อ……” หลีชินลังเลสักพัก “โอเคครับ

ก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง จะสามารถหนีภายใต้สายตา เขาได้เหรอ?

ชายในชุดดำส่งเสื้อผ้าที่เตรียมเปลี่ยนเข้าไปในห้องเปลี่ยน ชุด ชางหลิงเข้าไปเปลี่ยนชุดเปียกออก
ต้องบอกเลยว่าหลีซินเอาใจใส่จริงๆ ตั้งแต่ในถึงนอก แม้แต่ ไซส์ก็ถูกเป๊ะไม่มีผิด ยังเข้ากับสไตล์การแต่งตัวในปกติของเธอ ชุดเดรสสีขาว ดูสะอาดบริสุทธิ์เรียบหรู

ชางหลิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกมา หลีซินพาเธอไปทาน ข้าวที่ร้านอาหารชั้นล่าง และในขณะที่ซางหลังพยายามคิดวิธีจะ หนีอย่างไรนั้น ตาแหลมคมของเธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยมากๆจน ไม่รู้จะคุ้นเคยยังไงแล้วตรงที่นั่งหน้าต่าง ซูเสี่ยวเฉิง! เธอเป็น เพื่อนสนิทของเธอ ในตอนนี้เธอกำลังนั่งกับผู้ชายแปลกหน้าคน หนึ่ง ไม่ต้องถามก็รู้ พ่อแม่เธอต้องให้เธอมานัดบอดแน่ๆ

ชางหลังพบผู้ช่วยชีวิตแล้ว ทักทายหลีซินแล้วรีบวิ่งไปหา

“หลิงหลิง!” เมื่อซูเสี่ยวเฉิงเห็นชางหลังก็ตกใจมากเหมือนกัน “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? ฉันนึกว่าเธอคิดสั้นไปฆ่าตัวตายซะละ!”

เมื่อผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกันก็ไม่สนใจว่าตัวเองอยู่ใน สถานการณ์ไหน หลีซินและคู่นัดบอดคนนั้นถูกทิ้งไว้ข้างๆสบตา กัน ใครก็ไม่มีพื้นที่ในการพูด

ชางหลิงดึงซูเสี่ยวเฉิงเข้าไปในห้องน้ำ หนีจากสายตาของหลี ซินชั่วคราว

“เธอเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ตอนเช้านพ่อแม่ของฉันได้รับข้อความ จากบ้านเธอ บอกว่าอาทิตย์จะจัดงานแต่งงาน แต่ทำไมเจ้าสาวก ลายเป็นซางฉิงไปล่ะ?” ซูเสี่ยวเฉิงถามอย่างเป็นห่วง

“ข้อความ?” ซางหลังตกใจ
“ใช่” ซูเสี่ยวเฉิงเปิดโทรศัพท์ แคปภาพรูปหนึ่ง ให้เธอดู “พ่อ แม่ฉันนึกว่าเขียนชื่อผิดซะอีก ให้ฉันมาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น กันแน่”

ชางหลิงดูเอสอง อบนนั้น มือของเธอกำหมัดแน่นขึ้นมา อย่างไม่รู้ตัว

เมื่อกี้หยูเฉินยังขอโทษเธออย่างเสแสร้ง ซางฉิงยิ่งเลยแสดง ท่าทีจะตายเพื่อไถ่โทษ แต่กลับตัดสินใจตั้งนานแล้วว่าจะ แต่งงานกัน แทบรอไม่ไหวที่จะประกาศให้โลกรู้

ต้องบอกเลยว่า แม่ลูกคู่นั้นมีวิธีจริงๆ คนหนึ่งแย่งพ่อของเธอ อีกคนแย่งผู้ชายของเธอ

น่ารังเกียจ! น่าขยะแขยงจริงๆ!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซูเสี่ยวเฉิงไม่เข้าใจ “เมื่อวานเธอ ควรที่จะไปจดทะเบียนสมรสกับหยูเฉินไม่ใช่เหรอ? ฉันยังรอดู เธออวด ใบทะเบียนสมรสอยู่เลย”

ตามนิสัยของชางหลิงแล้ว ถ้าหากจดทะเบียนสมรสสำเร็จ โพสต์ลงโซเชียลไปนานแล้ว ไม่ใช่หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ เช้า

“เรื่องมันยาว…… ชางหลิงกลัดกลุ้ม เธอจดทะเบียนสมรสก จริง แต่เนื้อคู่กลับไม่ใช่หยูเฉิน แถมยังเสียตัวแบบงงๆอีก

ซูเสี่ยวเฉิงเบิกตากว้าง

“เรื่องมันยาวงั้นก็สรุปสั้นๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ