ตอนที่ 15 ตะลึง! นักเรียนมัธยมปลายอายุสิบห้าปี
“เธอก็พูดอย่างนี้ทุกที!” อาจารย์สาวพูดต่ออย่าง หงุดหงิด
“ชีหมู่อปป้าหล่อจังเลย….…….
“นั่นน่ะสิ เห็นอาจารย์ดุอย่างนั้น ความจริงก็ลงโทษ เขาไม่ลงหรอก”
ผู้หญิงในชั้นวิจารณ์พลาง จ้องมองหน้าอกเขาพลาง กลืนน้ำลาย หัวใจเต้นตัวตึกตัก ๆ
“เอาล่ะ ทุกคนฟังทางนี้ ครูมีเรื่องจะประกาศ!”
คุณครูสาวสวยตบมือซ้ำ ๆ เธอปล่อยผมยาวสีดำ สวม เครื่องแบบเสื้อเชิ้ตสีขาว จึงเผยให้เห็นสัดส่วนบางจุด อย่างชัดเจน
“ได้ยินว่าวันนี้ ห้องสามของพวกเรามีนักเรียนใหม่มา คนหนึ่ง ทุกคนได้ทำความรู้จักหรือยัง?”
“ทราบแล้วค่ะ/ครับ!”
“ใครเหรอ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ห้องเรียนของเรามี นักเรียนย้ายมาใหม่ด้วยเหรอ?”
เสียงภายในห้องเรียนแตกออกเป็นสองฝั่ง นักเรียน ไม่น้อยหันไปมองทุกทิศ เพื่อเสาะหาเงาร่างของ นักเรียนใหม่
“งั้น นักเรียนใหม่ช่วยยืนขึ้นแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ!”
อาจารย์สาวยิ้มตาหยี
หลิ่วหมิงซีหน้าแดงยืนขึ้น ท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง มาของฝูงชน
เธอกระแอมไอ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลิ่วหมิงซี ปีนี้อายุ สิบห้า ยินดีที่ได้เข้ามาอยู่ชั้นมัธยมปีสองห้องสาม เป็น เพื่อนร่วมชั้นกับทุกคนค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน? ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? อายุสิบห้า!”
“เธออายุแค่สิบห้าปี!”
ไม่เพียงนักเรียนในชั้นที่ตกตะลึง กระทั่งLKกับเซิน หมู่ซีหลั่งเองก็มองมายังเธออย่างอึ้ง ๆ
อายุสิบห้าปีก็ได้เรียนมัธยมปลายปีสองแล้ว กรณี อย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ โรงเรียนมัธยมEDUN
“ไม่จริงมั้ง? ซีเอ๋อร์เธออายุน้อยขนาดนั้นเชียวเหรอ? ลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของฉันอายุสิบห้าปียังเพิ่งขึ้นชั้น มัธยมต้นปีสองอยู่เลย!”
ตันหนีจื่อร้องขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
“เอ๋ เหรอคะ? ฉันไม่รู้เลย………..หมิงซีชะงักงันสีหน้าสลด
เธออาศัยอยู่ในเมืองซานเฉิงมาตลอด ที่นั่นราวกับ สรวงสวรรค์ที่มีอยู่จริง
ดังนั้นเธอจึงไม่รู้จักระบบการศึกษาของโลกภายนอก ว่าเป็นอย่างไรเท่าไหร่
เสียงซุบซิบดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว:
“ล้อเล่นหรือเปล่า? เธออายุน้อยแค่นี้จะมาเรียนชั้น เดียวกับพวกเราได้ยังไง?”
“นั่นน่ะสิ! พวกเราต้องผ่านการสอบเข้ายากเย็นระดับ ปีศาจถึงจะเข้าโรงเรียนมัธยมปลายEDUNได้! แล้วเธอ มีสิทธิ์อะไร!”
“ดูจากเสื้อผ้าเธอแล้ว ครอบครัวคงจะมีฐานะดี แต่
อาศัยเพียงแค่นี้ก็ใหญ่พอที่จะใช้เส้นได้แล้วเหรอ?”
“แบบนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเราเลยนะ! เราไม่ อยากเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับคนแบบนี้หรอก!”
เมื่อเสียงคัดค้านขึ้นมาอย่างนี้ หานชิงเหอยังคง กอดอก ใบหน้าหล่อเหลาอันเย็นชาไม่แสดงอารมณ์ ออกมาแม้แต่น้อย
มีเสียงอย่างนี้ขึ้นมา
เขาไม่รู้สึกประหลาดใจสักนิดเดียว
อีกอย่างชั่วขณะนั้นที่เห็นยัยคนนี้ปรากฏตัวขึ้นใน ห้องเรียน เขาก็รู้สึกรับไม่ได้
หานเคออยากจับให้เธอกับเขาอยู่ชั้นเรียนเดียวกัน แต่กลับไม่คิดถึงเงื่อนไขอันเป็นไปได้ยากของเธอ
ต่อให้ถูกคนหัวเราะเยาะก็ยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เสียงกดดันยิ่งที่ยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลิ่วหมิงซียืนอยู่ กับที่อย่างโดดเดี่ยวทำอะไรไม่ถูก มองยังทุกคนแล้ว สีหน้าค่อย ๆ ซีดเผือดลงทุกที
เธอไม่เข้าใจ
ตัวเอง……ก็แค่อยากจะเป็นเพื่อนกับทุกคน
แต่ว่า—
“เด็กอายุสิบห้าปีควรจะกลับไปเรียนมัธยมต้น!”
“ใช่แล้ว มายืนตรงนี้อยู่ได้ไม่กลัวคนหัวเราะเยาะเอา ซะเลย!”
“ฉันล่ะอยากให้เธอร้องไห้หนีไปแต่แรกแล้ว………..
เสียงพูดรุนแรงเสียดแทงยิ่งเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับกระแสน้ำที่สาดซัดเข้ามา
หลิ่วหมิงซีก้มหน้าลง แผ่นหลังราวกับถูกเข็มทิ่มแทง เธอกัดริมฝีปากตัวเองไม่ขยับ กำมือแน่นอย่างเงียบ ๆ
หานชิงเหอเหลือบมองไปยังเธออย่างเฉยชา
ราวกับอยากจะดูว่าเมื่อต้องเผชิญคำวิจารณ์ของผู้คน รอบข้าง แล้วเธอจะตอบโต้กลับอย่างไร
“stop! ทุกคนเงียบ ๆ หน่อย พวกเรามาฟังว่าคุณหลิ่ว จะพูดอย่างไรดีไหม?”
ใบหน้าของคุณครูสาวเผยให้เห็นความลำบากใจ
ความจริงเธอรู้ว่าหลิ่วหมิงซีเป็นคนที่ท่านประธาน บริษัทHOSEกรุ๊ปแนะนำเข้ามา รวมถึงอยู่ในรายชื่อ สำคัญที่ไม่สามารถกล่าวโทษได้
แต่ว่าเธอจะถูกปกป้องมากเกินไปในสถานการณ์ อย่างนี้ก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการสาดน้ำมัน เข้ากองไฟอย่างไม่ต้องสงสัย
“พวกเธอบอกว่า ฉันไม่คู่ควรจะมาอยู่ตรงนี้ งั้นขอ ถามเพื่อนนักเรียนทุกคนว่า ฉันควรทำอย่างไร ถึงจะ คู่ควรเหมาะสมกับการถูกพวกเธอเรียกว่านักเรียน มัธยมปลาย”
เหมือนหลิ่วหมิงซีจะสงบอารมณ์ลงได้แล้ว
เธอเงยหน้าขึ้น คำพูดเชื่องช้าแต่ชัดถ้อยชัดคำสายตากวาดไปยังทุกคนภายในห้องที่มีสีหน้าสงสัยใน ตัวเธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ