ซีรีส์โคแก่

4



4

Chapter 4

โอ๊ย! ซุ่มซ่ามไม่มีใครเกิน เธอด่าตัวเองตบมือที่หน้าผากก่อน จะร้องด้วยความเจ็บ หญิงสาวรีบไปที่ลานจอดรถปรากฏว่ายาง รถของเธอแบนทั้งสี่ล้อ

“ห้ะ! ซวยอะไรแบบนี้นี่” เธอหันรีหันขวางกำลังจะโทรตามช่าง แต่เสียงคุ้นหูที่เธอจำได้ติดใจก็ดังขึ้น

“รถเป็นอะไรครับ”

“ไม่เห็นหรือไงว่ายางแบน

“ตอนนี้เห็นแล้วครับ” เขาบอกเธอก่อนจะเดินจากไป

ใยไหมอ้าปากค้าง เขาจะเดินไปเฉยๆ แบบนี้น่ะเหรอ

“อาจารย์ไม่คิดจะช่วยกันเหรอคะ”

“คุณไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากผม”

“แต่ก็ควรจะถามไถ่แสดงน้ำใจว่าอยากช่วย มันเป็นสิ่งดีงามที่ สุภาพบุรุษควรทํา”

“ครับ งั้นจะให้ผมช่วยอะไร

“ก็ช่วยเปลี่ยนยางล้อรถ ตามช่างไงคะ”

“ผมมีอีกทางเลือก”
“อะไรคะ”

“คุณมาขึ้นรถผม เดี๋ยวผมไปส่งเพราะบ้านคุณอยู่ใกล้บ้าน ผม” เธอครุ่นคิดกำลังยืนลังเลเขาก็เดินไปยังรถ เธอเลยรีบวิ่งจัด ไปเปิดประตูรถนั่งใกล้คนขับในทันที ที่เธอทำแบบนั้นไม่ใช่ เพราะอยากไปกับเขาหรอกนะ เพราะเธอเห็นอดีตแฟนกับเพื่อน รักหักเหลี่ยมโหดกำลังมองมาที่เธอกับดนุเดช

ตอนเข้าเรียนเธอเห็นตรกาญจน์ดูอึ้งไปเหมือนกันที่เห็น อาจารย์หนุ่มในห้องเพราะจำเขาได้ว่าเจอกันที่ผับเมื่อคืน เธอกัด ปากครุ่นคิด สองคนนั้นจะสงสัยหรือเปล่านะ โดยเฉพาะยาย เพื่อนทรยศเพราะเธอทําท่าทางเฟอะฟะในห้องเรียน ทำเหมือน ไม่อยากเจอกับดนุเดช ปิดหน้าปิดตาเหมือนไปทำความผิดอะไร มา

ดนุเดชขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัย ในขณะที่คนนั่งใกล้ๆ คิดอะไรไปต่างๆ นาๆ เขาจอดรถก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ เธอ สะดุ้งมองเขาหน้าตาเหลอหลา

“ทําไมไม่คาดเข็มขัดนิรภัย” เขาเอ่ยถามเสียง ก่อนจะจัดการ ดึงเข็มขัดคาด ให้เธอ ใบหน้าที่แนบชิดมาหาห่างกันแค่คืบ ทําเอาเธอแทบกลั้นใจ ลมหายใจร้อนๆ ของเขาและใบหน้าที่ ขยับเข้ามาจนชิดทำเอาเธอหัวใจเต้นโครมคราม เธอเลยหลับตา หนี

“ถ้าผมจูบคุณ คุณจะลืมตาไหม” คำถามของเขาทำให้เธอรีบ ลืมตา ใยไหมสบกับสายตาคมเข้มสีเหล็กกล้าของเขาแล้วเงียบงันไป

“ลืมตาแสดงว่าอยากให้จบเหรอ”

“ไม่ใช่สักหน่อย” เธอรีบปิดปากตัวเองป้องกันการจูบ เขายก ยิ้มมุมปากก่อนจะผละออกห่าง เธอล่ะเกลียดสายตาของเขาแบบ นี้เป็นที่สุด

“นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ” เธอหันไปเอ่ยถามเขา มองอย่าง ระแวงระวังและไม่ไว้ใจ

“มองผมเหมือนผมเป็นอาชญากร

“คนเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้ค่ะ

“ผมหิวข้าว”

“คะ?” เธอทำหน้างงกับประโยคของเขา

“แวะกินข้าวก่อนนะ วันนี้ยุ่งทั้งวัน ผมกินข้าวกลางวันไปแค่นิด เดียวเอง”

“ก็ได้ค่ะ” เธอติดรถเขามาแล้วจะบอกว่าไม่ได้ก็กระไรอยู่

“มีร้านอาหารแนะนำไหม ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ ยังไม่ค่อยรู้จัก ที่ไหนเลย” เขาเอ่ยถามเธอ ใยไหมเลยทำท่าครุ่นคิด

เธอเลยบอกเขาให้แวะร้านอาหารปักษ์ใต้ตรงริมทางระหว่าง กลับบ้าน ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก อาหารของเขาอร่อยและสะอาด เพราะเธอและครอบครัวแวะมารับประทานกันบ่อย

“ร้านนี้ค่ะ รับรองว่าอร่อย” เขาจอดรถและเดินตามเธอเข้าไปในร้าน ต่างมามอง เพราะร่างสูงสง่าในคน สาวหญิงสวยในชุดนักศึกษารูปร่างโปร่งบางอรชร อ้อนแอ้นมีสัดส่วนยวนตา อวบเอวคอด สะโพกผายรับ กับช่วงขาปรากฏลักยิ้มที่ข้างแก้มขึ้นมาทำให้น่ามองไปอีก ปาก อวบชมพูเรื่อ แก้มงาม หน้าผากนูนเกลี้ยงเด็ดขาดมั่นคง

ใยไหมเหลือบมองเขาเล็กน้อย แหย่แกล้งเธอ ปากแดงจัด เข้มส่งใบหน้าเรียวได้หรือ คงร้องว่าเผ็ดและดื่มน้ำเป็นใบๆ อย่างแน่นอน

สั่งเต็มที่เหมือนกันได้กินอาหารนอกบ้านแถมยังเป็นร้านโปรดด้วย สำคัญไปกว่าคนเลี้ยง

อันนี้เลยค่ะผัดเผ็ดขอเผ็ดเลยนะคะ อาจารย์” หันไปถามเขา สีหน้าเหมือนอยากแกล้ง อาจารย์หนุ่มมุมปากเล็กน้อยก่อนพยักหน้า

ใยไหมกัดปากครุ่นอาจารย์ของเธอกินผัดเผ็ดด้วยเหรอ หรือพยักหน้าไปอย่างไม่อยากเสียฟอร์ม

“อันนี้เลยค่ะคั่วกลิ้งหมูป่า เอาเผ็ดๆ ถึงเครื่องไปเลยนะคะ อาจารย์กินไหมคะ” เธอเอ่ยถามเขาก็พยักหน้าอีก

“อาจารย์คะ”

“ครับ”

“ร้านนี้เผ็ดมากเลยนะคะ” เธอเขาก็รับคำอีก เธอจึงสั่งต่อ เอาให้เม็ดตายกันไปข้างหนึ่งเลย ใยไหมคิดแค่อยากแกล้งแต่ ลืมไปว่าตัวเองก็ต้องกินอาหารพวกนั้นด้วย

พอพนักงานเสิร์ฟกลับไปแล้วเธอก็หันมานั่งคุยกับเขาปรากฏ ว่าเจอแฟนเก่ากับอดีตเพื่อนรัก เธอหลบไม่ทันสองคนนั้นเดินมา ทางนี้แล้ว

“อาจารย์” เธอเขี่ยเท้าเขา กระซิบกระซาบเสียงเบา ดนุเดชพา

เท้าหนีเขาทำตาวับใส่เธอ ใยไหมกัดปากไม่ทันได้เตี้ยมอะไร

กับเขาสองคนนั่นก็เดินมาถึงที่โต๊ะของเธอพอดี

“บังเอิญจังเลยนะคะ เรามากินอาหารที่ร้านเดียวกันเลย ไม่ ได้บังเอิญหรอก เธอตั้งใจให้แฟนหนุ่มขับรถตามมาและดูเหมือน วิษณุเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย

“สวัสดีค่ะอาจาย์ดนุเดช หนูติรกาญจน์ที่เรียนวิชา เศรษฐศาสตร์กับอาจารย์วันนี้ไงคะ อาจารย์จำได้ไหม”

“จ๋าได้ครับ” ดนุเดชตอบเสียงสุภาพรับไหว้ลูกศิษย์สาว ใน ขณะที่ใยไหมแอบหมั่นไส้
แน่ะ! ดันไปจำนางมารร้ายได้อีก ก็ใช่น่ะสิ อาจารย์หนุ่มก็ต้อง จ่าลูกศิษย์ผู้หญิงได้อยู่แล้ว แต่ผู้ชายอย่าหวังว่าจะจำได้

เธอขอตั้งฉายาแบบหนังจีนกำลังภายในให้เขาเลย หวังฟัน

ศิษย์!!!

คนคิดเป็นตุเป็นตะนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พอคนโดนด่าในใจ หันมาเธอก็ฉีกยิ้มกลบเกลื่อน

“จะรังเกียจไหมคะถ้าพวกเราจะขอร่วมโต๊ะด้วย พอดีลูกค้า เยอะไม่มีโต๊ะว่างเลยค่ะ” ติรกาญจน์เอ่ยขอเสียงสุภาพในขณะที่ วิษณุมองหนุ่มสาวทั้งสองนิ่งๆ ไม่แสดงความไม่พอใจออกมา ใย ไหมเลิกกับเขาไม่ทันไรก็มีแฟนใหม่ คิดแล้วรู้สึกหงุดหงิดเหลือ เกิน

“ห่อกลับไปกินที่บ้าน ไม่มีที่ว่างให้เธอนั่งหรอกนะ” ใยไหม รีบตอบแต่ดนุเดชเอ่ยอนุญาตแทน ใยไหมหันไปมองเขาเหมือน จะกินเลือดกินเนื้อ

“ขอบคุณค่ะอาจารย์” ติรกาญจน์ทำท่าจะเข้าไปนั่งใกล้ด เดชแต่ใยไหมลุกพรวดพราดขึ้นเสียก่อน

“เธอมานั่งใกล้แฟนเธอสิ” คนพูดเสียงแข็งมองตาเขียวปั๊ด ติ รกาญจน์เองก็ไม่กล้าเพราะเห็นวิษณุกำลังมองมาเช่นกัน เขาไม่ ชอบให้แฟนตัวเองเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าหรืออยากไปนั่งใกล้คน อื่น

ติรกาญจน์เดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้ของใยไหมที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ใยไหมไปนั่งใกล้ดนุเดชเธอหันหน้าไปมองเขาเหมือนขอร้องอะไรบางอย่าง ตนุเดชไม่เข้าใจแต่เขาก็รอดูท่าที

“อาจารย์คบกับไหมนานแล้วเหรอคะ” ติรกาญจน์ไม่รอช้ายิ่ง คําถามที่อยากรู้ในทันที

“ก็ไม่นานนะ เพราะอาเดชเพิ่งย้ายมาอยู่ใกล้บ้านฉัน แต่เรา มองตากันก็ปิ้งกันเลย” คนตอบคือใยไหม เธอกอดแขนเขาได แก้มสาวเหมือนลูกแมวเหมียว มองเขาอย่างขอร้อง

“จริงไหมคะอาเดช” เธอตีเนียนเรียกเขาเสียสนิทสนม ดนุเดช เงียบไปไม่ยอมตอบ ทุกคนเหมือนรอฟังคำตอบ ใยไหมหัวใจ เต้นระทึกแทบกลั้นใจ ลุ้นตัวโก่งว่าดนุเดชจะตอบว่ายังไงเสียง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ