ชีวิตสําส่อนของฉัน 18+

บทที่4 ผู้หญิงที่สง่างาม



บทที่4 ผู้หญิงที่สง่างาม

ในตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความรัก ชีวิตคนเรามีภพก่อน มี ภพหน้า แต่ไม่มีชีวิตนี้ ระหว่างตรงนั้นมันคือข้อผิดพลาด ทันใด นั้นผมได้ก้าวกระโดดมาอยู่ในขั้นตอนที่แปลกประหลาดและ มหัศจรรย์

บางครั้งคุณต้องเชื่อในโชคชะตาของตัวเอง

คืนนั้นพวกเรามีอะไรกันหลายครั้ง รอบหลังๆเรามีอะไรกันใน ท่าที่เธอหมอบตัวลง หลังจากนั้นเธอกับผมมีอะไรกันในห้องน้ำ อีกหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนั้นเธอเป็นคนสอนและชี้นำผม เธอเป็น เหมือนครู เป็นเหมือนพี่สาว เป็นเหมือนแม่ ผมยังคงจำความ อบอุ่นจากเธอในวันนั้นได้ดี รสชาติจากมือของเธอ ความประทับ ใจนั้นยังคงอยู่ตลอดเหมือนกับวันแรกที่ได้รู้จักกัน

พี่เหมยดูเป็นผู้หญิงที่มีความซุกซน มีน่ารักอยู่ในตัวอีกด้วย คุณไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าสาวใหญ่คนหนึ่งจะมีความไร้เดียง สาที่ดูสง่างามได้เพียงนี้ ต่อมาเธอลากผมไปอาบน้ำ เธออาบน้ำ ให้ผม เธอจ้องมองตรงนั้นของผม เธอเบะปาก เธอยิ้ม เธอส่าย หัว เธอถอนหายใจแล้วพูด “เห้อ พ่อเณรน้อยคนนี้ต้องอาบน้ำดี ดีแล้วล่ะ!”

ตอนนั้นผมอดที่หัวเราะออกมาไม่ได้ เธอทำให้ผมรู้สึกตลก เธอเห็นผมหัวเราะจึงเอามือมาจักจี้บริเวณรักแร้ของผม ยิ่งผม หัวเราะเท่าไหร่เธอก็ยิ่งจักจี้ผมหนักขึ้นทุกที ตัวผมถูกเธอแกล้งเล่นราวกับเป็นสาวใหญ่คนหนึ่ง เธอหัวเราะอย่างสนุกสนาน สุดท้ายเธอไม่หยกก้นของผมจากในห้องน้ำจนออกมาอยู่บน เตียง ตอนอยู่บนเตียงเธอโอบกอดผม จากนั้นจ้องมองผมอย่าง ใจจดใจจ่อแล้วพูด “นายเหมือนเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยแอบ ชอบตอนสมัยเด็กๆ นายรู้มั้ย?”

ผมพยักหน้าตอบ “อืม!”

“นายชื่อบื้อรึเปล่า ฉันจะพูดอะไรนายก็ตอบลืมหมดเลยหรอ!” เธอพูดไปด้วยลูบไล้ตัวของผมไปด้วย “ฉันรู้ว่านายไม่ได้ทำงาน ในบาร์นั้นแล้ว เพราะทำผิดอะไรบางอย่างเลยโดนเจ้านายไล่ ออก ใช่มั้ย?”

ผมส่ายหัวแล้วพูด “ไม่ใช่ เป็นเพราะผมไม่อยากทำแล้ว ฝึกงานยุ่งมาก ผมทำงานสองที่ไม่ไหว!

“นายวางแผนเกี่ยวกับอนาคตยังไงบ้าง? อยากไปเรียนต่อที่

ต่างประเทศมั้ย?”

“เรียนต่อต่างประเทศ?” ผมส่ายหัวแล้วพูด “ผมไม่เคยคิด แบบนั้นมาก่อน ผมอยากทำงานในรัฐวิสาหกิจ ผมเรียนด้าน เครื่องจักรกลมา อย่างเช่นได้ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจด้าน อุตสาหกรรมหนักต่างๆ มีงานการที่มั่นคง” ผมเล่าเรื่องเหล่านี้ซึ่ง เป็นเรื่องที่ผมเคยชอบเล่าให้กับเพื่อนๆตอนสมัยอยู่หอพักให้ เธอได้ฟัง

แต่เธอพยักหน้าแล้วพูด “จริงๆแล้วไปเรียนต่อต่างประเทศดี มากๆนะ อย่างเช่นไปเรียนที่สิงคโปร ไทย หรือประเทศอื่นๆ ในอาเซียน!”

ผมไม่ได้พูดอะไร ผมยิ้มอย่างเดียว

เธอพูดอีกว่า “ถ้านายอยากจะไปเรียนต่อทางนั้น ฉันช่วยนาย ได้นะ มันง่ายมากๆ แต่ฉันก็ได้ยินมาว่าด้านอุตสาหกรรมของ เยอรมนีพัฒนาก้าวไกลมาก แต่ฉันไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น ฉันเคย อยู่ที่ฝรั่งเศสกับอิตาลีแค่ปีสองปี

คำพูดของเธอ ผมไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด นั่นคือเรื่องของเธอ

“บ้านเกิดนายอยู่ที่ไหน?” เธอนั่งอยู่บนเตียง ส่วนผมนอนอยู่ ไม่รู้ว่าเธอหยิบบุหรี่555ออกมาจากตรงไหน เธอยื่นบุหรี่มวน หนึ่งให้ผม

ผมในตอนนั้นไม่ค่อยสูบบุหรี่ เธอจุดบุหรี่ให้ผม จากนั้นจุดให้ ตัวเอง เธอพ่นควันออกมาแล้วพูด

“เขตซีเปีย! ” ผมหันหน้าไปพูดกับเธอ ผมเห็นเธอนั่งเปลือย อยู่ตรงนั้น หน้าอกสองข้างของเธอยังคงดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ หย่อนยานเลยสักนิด มีรูปทรงที่สวย เป็นก้อนกลมๆยื่นออกมา จากตรงนั้น เธอดูแลตัวเองได้ดีจริงๆ

ในตอนนั้นเองที่ผมค้นพบว่าบนร่างกายของเธอมีรอยสักหนึ่ง จุดอยู่เยื้องๆบริเวณบนเนินอก เป็นรูปดอกกุหลาบเล็กๆหนึ่งดอก

“ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ใช่ที่ที่จางอี้โหมวไปถ่ายทำหนังสื เปล่า!”

ผมพยักหน้าแล้วพูด “น่าจะใช่นะ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงหนังเรื่องไหน!!

ตอนนั้นคือปี1999 อินเทอร์เน็ตยังไม่พัฒนาเหมือนทุกวันนี้ หนังที่จะย้อนกลับไปดูได้มีไม่เยอะ

ในค่ำคืนนั้นพวกเรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ พี่เหมยหัวเราะอย่าง สนุกสนาน เธอใช้แววตาที่ลุ่มลึกจ้องมองมาที่ผม เธอเป็นคน ฉลาดมาก อีกทั้งยังเป็นคนสนุกสนาน ใจกว้าง เธอดูสง่ากว่าผู้ หญิงจากบ้านเกิดของผมเยอะ อีกทั้งดูสง่ากว่าผู้หญิงในเมือง ใหญ่อีกมากมาย ตัวเธอให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับคนธรรมดา ทั่วไป ราวกับเป็นคนจีนที่เคยอาศัยอยู่ในต่างประเทศมาเป็น เวลานาน

บางครั้งเธอก็เผลอหลุดพูดภาษาอังกฤษออกมา ภาษาอังกฤษ ของผมที่เรียนในรั่วมหาวิทยาลัยไม่ได้แย่ เธอพูดอะไร ผมก็ เข้าใจ บางครั้งผมก็ใช้ภาษาอังกฤษไม่กี่ประโยคในการพูดคุย กับเธอ หลังจากที่เธอได้ฟังเธอก็รู้สึกประหลาดใจมาก เธอบอก ว่าผมออกเสียงได้ดีมาก เธอชมว่าผมเป็นคนฉลาด จะต้องมี อนาคตที่ดีและสวยงามแน่นอน ผมในตอนนั้นไม่รู้ว่าอนาคตที่ สวยงามอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

ผมจำได้ว่า ในคืนนั้น ผมถามเธอว่าทำไมถึงดูมีความสุขขนาด นี้ เธอพูดออกมาคำหนึ่งว่า “เจียเหลียง ชีวิตคนเรามันสั้น เรามี ชีวิตอยู่หลายสิบกว่าปี บางทีถึงบทที่ชีวิตจะจบแล้วมันก็จบลง จริงๆ ทำไมจะต้องไม่มีความสุขแล้วปั้นหน้าเศร้าด้วย นายว่า มั้ย? พ่อหนุ่มน้อย!”
ผมยิ้มอ่อนๆแล้วพยักหน้าตอบ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมี เหตุผล เธอเป็นคนรู้จักพูดราวกับเป็นนักกวี

ค่าคืนนั้นเธอนอนกอดผม เธอกอดผมไว้แน่น เธอบอกว่าตอน เด็กๆเธอชอบนอนกอดตุ๊กตาแล้วหลับไป เธอกอดผมแน่นมาก ทําให้ผมนอนไม่หลับ พอถึงกลางดึกผมจึงค่อยๆเผลอหลับไป ผมตื่นขึ้นมา ในตอนเช้าพบว่าเตียงนั้นว่างเปล่า ผมเจอกระดาษ แผ่นหนึ่งกับเงินหนึ่งปีกอยู่ใต้ผ้าห่ม ในกระดาษเขียนไว้ว่า :

เจียเหลียง พ่อหนุ่มน้อย ที่มีธุระเลยต้องบินออกไปในเช้านี้ ตอนที่พี่ออกไปพี่เห็นว่านายยังหลับสนิทเลยไม่ได้ปลุก พี่ไม่รู้ว่า เพราะอะไรนายถึงรู้สึกไม่มีความสุขเช่นนี้ พอมาคิดดูดีดีบางทีนี่ อาจจะเป็นบุคลิกนิสัยของนายก็ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่า คิดมาก เข้มแข็งให้มากๆ

พี่ให้เงินกับนายเอาไว้ นายอย่าคิดมากนะ พี่ไม่ได้หมายความ ว่าอย่างนั้น นายตั้งใจฝึกงานให้มากๆ พยายามเข้านะรอให้ฉัน จัดการธุระในช่วงนี้เสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมาหานาย ถึงแม้ว่า ฉันจะไม่รู้ช่องทางการติดต่อกับนาย แต่เชื่อพี่ จากความ สามารถของพี่แล้วพี่จะต้องตามหานายจนเจอ บาย!

ผมจ้องมองกระดาษแผ่นนี้ ความรู้สึกราวกับว่าคืนนั้นผมได้ฝัน ไป เป็นความฝันที่ยาวนาน แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความฝันอยู่ดี มัน คือเรื่องจริง

พอมานึกย้อน ในวันนี้ เหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นใน เมื่อวาน
เป็นไปตามที่เธอพูด หนึ่งเดือนผ่านไป เธอตามหาผมจนเจอจริ งๆ แล้วในวันนั้นเองที่เธอได้ค้นพบเรื่องสกปรกโสมมทั้งหมดใน ตัวผม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ