ชีวิตสําส่อนของฉัน 18+

บทที่2 เธอลูบไล้ผมอย่างอ่อนโยน



บทที่2 เธอลูบไล้ผมอย่างอ่อนโยน

ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ช่วงล่างสวมใส่ กางเกงสีขาว มันช่างดูนุ่มนวลเหลือเกิน เมื่อมือของผมได้สัมผัส กับหน้าอกของเธอ ผมอ้าปากค้าง ผมอยากจะบรรเทาความเจ็บ ปวดที่เกิดจากฤทธิ์ของสารเสพติด

ตอนนั้นผมไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด แต่เป็นเพราะสารเสพ ติดที่อยู่ในตัวผม ผมจึงดูเหมือนคนที่มีเซ็กส์อย่างชำนาญเหลือ

เกิน

ร่างกายของเธอมีกลิ่นหอมเย้ายวน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเธอใช้ น้ำหอมอะไร เธอโดนผมจูบอย่างเคลิบเคลิ้มรื่นรมย์ใจ เธอเงย หน้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “พ่อหนุ่มน้อย นาย ร้ายกาจมาก BEAUTIFUL! ” เธอพูดภาษาอังกฤษค่นั้นออก มาทำให้ผมรู้ว่าเธอไม่น่าจะเป็นผู้หญิงธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่มี การศึกษา

ผมพูดด้วยอาการเหนื่อยหอบ ทำให้ผมตายเถอะ!”

ในตอนนั้นผมรู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วจริงๆ นั่นคือความ จริง หลังจากที่เธอฟัง เธอพยักหน้า แต่ก็รีบส่ายหัวแล้วพูด “ไม่ ตายสิ ต้องมีความสุข!

หลายนาทีผ่านไป อยู่ๆเธอเข้ามากัดหูของผม จากนั้นพูด “เป็นเด็กดีนะ หยุดแบบหนึ่ง อยากทำให้พี่ตายจริงๆหรอ?”
ผมหยุดการกระทํา จากนั้นหันหน้าไปอีกด้าน ผมจ้องมองแสง สีในช่วงค่ำของเมืองนี้ ช่วงเวลาแห่งความดิ้นรนทุกข์ทรมาน เหล่านั้นมันทำให้ผมรู้สึกอยากตายจริงๆ

เธอหลุดหัวเราะออกมา ผมหันหน้ามามองเธอ ผมเห็นทรงผม ที่เรียบร้อย ในตอนแรกของเธอโดนผมท่าจนยุ่งเหยิงไม่เป็น ทรง กระดุมเสื้อบริเวณหน้าอกถูกปลดออกจนเผยให้เห็นหน้าอก ที่เปลือยเปล่าออกมาครึ่งหนึ่ง เม็ดองุ่นสองเม็ดก็ถูกเปลือยออก มาเช่นกัน เธอไม่จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ใบหน้าของเธอแดง ภายใต้ความมืดมิดของแสงไฟที่อยู่ข้างๆเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่ สวยมาก ดวงตาดวงโตสีดำสนิทคู่นั้น ริมฝีปากของเธอมีสีแดง ระเรื่อ

เธอจ้องมองผม จากนั้นเอามือมาจับที่ใบหน้าของผม เธอยิ้ม แล้วพูด “นายชื่ออะไร?”

ผมตอบอย่างไม่ต้องคิด “หลินเจียเหลียง! ”

“อายุเท่าไหร่แล้ว?” เธอยิ้มที่มุมปาก จากนั้นจ้องมองผมด้วย สายตาอันหยาดเยิ้ม “ยี่สิบรึยัง?”

“ผมยี่สิบสามแล้ว!” ผมก้มหน้าลง

“พี่จะไม่ฟ้องว่านายทำอนาจาร นายเองก็จะไม่ฟ้องว่าพี่ทำ อนาจารนายใช่มั้ย?” หลังจากพูดคำนี้จบเธอก็หัวเราะออกมาอีก ครั้ง เธอเริ่มขับรถต่อ

เธอขับรถไปด้วยมองทางข้างหน้าไปด้วย จากนั้นเปิดเพลงใน รถแล้วพูด “นายเป็นนักเรียนใช่มั้ย? นักศึกษาหรอ?”
ผมในตอนนั้นไม่รู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น ผมตอบ “ใช่”

“มหาวิทยาลัยเมืองเจียง? ” เธอเตาถูก ฉันกำลังจะตอบว่าใช่ แต่ผมก็รีบตอบไปว่า “ไม่ใช่”

เธอยิ้มออกมาอีกแล้ว มือข้างหนึ่งของเธอยื่นมาวางอยู่ตรงนั้น ของผมแล้วพูด “ไม่ดีเท่าพวกเด็กๆเหล่านั้นใช่มั้ย? พวกเด็กๆ ใน มหาวิทยาลัยใสซื่อบริสุทธิ์มาก!”

ผมไม่ได้พูดอะไร ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้า เธอผมก็เป็นเหมือนไอ่นั่งคนหนึ่ง ในตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์ที่จะ มาพูดว่าชอบใคร ทำกับใครแล้วมีอารมณ์ แม้ว่าผมจะเป็นผู้ชาย ที่ยังบริสุทธิ์ เป็นเพราะยาเสพติด ผมจึงเพิกเฉยต่อความ ปรารถนาแรกของผู้ชาย

“ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ใช่คนไม่ดีที่ไหน ถึงแม้งานที่ทำ จะไม่ใช่ งานที่น่าพูดถึงเท่าไหร่ เห้อ แต่พี่ก็เป็นคนมีศีลธรรมพอ นายว่า ยังไงล่ะ? เจียเหลียง! ”

เมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อของผม ผมหันหน้ามาแล้วพูด “อะไร?” เธอแลบลิ้นออกมาแล้วพูด “ดูสิทำให้นายตกใจแบบนี้ ครั้ง แรกหรอ?”

เมยิ้มออกมาครั้งแรก เธอทำให้ ผมพูด “เธอชื่ออะไร?” เยิ้มได้ ผมก้มหน้าแล้วยิ้ม

“พ่อหนุ่มน้อยอย่างนายยิ้มเป็นด้วยหรอ พี่จะบอกให้ พี่ชื่อเหม ย นายเรียกว่าพี่เหมยละกัน!
“อย่างกับชื่อของคนญี่ปุ่น?” ผมพูดพิมพ์ออกมา

“หึ นาย คนญี่ปุ่น นายนี่มันร้ายไม่เบานะ!” พูดๆอยู่เธอก็ดึง

มือของผมไปแล้วพูด “ฉันเกลียดคนญี่ปุ่นที่สุด คุณปู่ของฉันโดน คนญี่ปุ่นฆ่าตาย ถ้าฉันเป็นผู้หญิงญี่ปุ่น นายฆ่าฉันให้ตายไป เลย!” เมื่อเห็นเธอทำตัวร้ายเช่นนี้ ผมจึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า

“โอเค ยังไงซะผมก็ไม่กลัวตายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว!”

“ฉันก็ไม่กลัว!” เธอพูดๆอยู่ก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ถึง แล้ว! พ่อหนุ่มน้อย ใจเย็นๆเดี๋ยวขึ้นไปจะทำให้นายหายอยาก เลยทีเดียว!”

ผมเงยหน้าขึ้นมามองดู ที่นี่คือโรงแรมโฟร์ซีซั่นการ์เด้นเมือง เจียง เป็นโรงแรมห้าดาว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ