บทที่8 เรื่องวุ่นวายสิ้นสุดลง
เพิ่งเจ๋อเฉิงหันไปมองเสื่นอีเวย แววตาเรียบเฉย
ไทยมุงทั้งหลายได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนั้นกับเสิ่นอีเวย ก็ เริ่มตะโกนออกความเห็น
“ประธานเซิ่ง คุณแจ้งตำรวจเถอะ!
“นั่นสิ ส่งหล่อนให้ตำรวจดูว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหล่อนมีเป้า หมายอะไรกันแน่! ”
เซิ่งเจ๋อเฉิงปรายตามองผู้หญิงบนพื้น สีหน้าเย็นชา ไม่ได้พูด อะไร
สอันถึงที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยปากขึ้น “คนนี้ถึงจะมาใส่ร้ายคุณ เซิ่ง แต่งานคืนนี้พ่อฉันเป็นคนจัด คุณเพิ่งเจอเรื่องแบบนี้ในที่ๆ ของตระกูลสของเรา ยังไงให้พ่อฉันแจ้งตำรวจเถอะ!
ไม่นาน ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็มา คนนี้คือสถั่วหมิง ประธานกรรมการของบริษัทว่านเพิ่ง
สวี่กั่วหมิงมองดูเหมือนเลยห้าสิบแล้ว ถึงจะดูออกว่าวันนี้ก็ แต่งหน้าดูแลผิวพรรณมาระดับหนึ่ง แต่หน้ามันและฟันสีเหลือง นั่นก็ทำให้เงินอีเวยพะอืดพะอม
ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของสอนฉิง? นั่นไง มีพ่อยังไงก็มีลูกสาวยัง
งั้นแหละ!
บริษัทว่านเพิ่งเดิมทีก็เป็นธุรกิจที่ใหญ่ แต่ก็ยังไม่ใช่ระดับ เดียวกับบริษัทเซิ่ง ออยู่ดี ดังนั้นสกั่วหมิงดูอายุมากกว่า ซึ่งเจ๋อ เฉิงเยอะอยู่ แต่กลับมีท่าทีนอบน้อมกับเขาไม่น้อย “คุณเพิ่ง ขอโทษด้วยจริงๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
พูดจบก็รีบหันไปบอกบอดี้การ์ด “ยังไม่รีบลากผู้หญิงบ้าคนนี้
ออกไปอีก”
สายตาที่สบกันแวบหนึ่งของสกั่วหมิงกับผู้หญิงคนนั้นโดน เพิ่งเจ๋อเฉิงจับได้อย่างไม่กระโตกกระตาก
สวี่กั่วหมิงรีบขอโทษเพิ่งเจ๋อเฉิงต่อ “คุณเชิง ขอโทษจริงๆนะ ครับ บอดี้การ์ดของเราทำงานผิดพลาดจริงๆ ผมขอโทษด้วย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ พองาน เลี้ยงเลิก ผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะครับ คุณโอเคไหม?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงเงยหน้าขึ้นจ้องมองสกั่วหมิงจนเขาอดสะท้านไม่ ได้
“หล่อนเป็นใคร?”
สวี่กั่วหมิงเองก็โมโห เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะใช้มีด ตอน แรกตกลงกันว่าแค่เข้ามาพูดก่อกวนก็พอแล้ว
สวี่กั่วหมิงมองเชิ่งเจ๋อเฉิงที่หน้าทะมึน ตื่นเต้นจนเหงื่อจับ “คุณ เซิ่ง คือ…ต้องขอประทานโทษจริงๆครับ! ”
เสิ่นอีเวยโกรธจนเลือดขึ้นหน้าตั้งนานแล้ว เธอพูดกับสถั่วหมิ งว่า “เขาว่ากันไว้จริงๆ ไม่ใช่คนบ้านเดียวกันทำไม่ได้ เห็นคุณครั้งแรกก็รู้สึกว่าคุณไม่เหมือนคนดี ไม่คิดว่าวิธีการจะขั้นต่ำได้ ขนาดนี้! ” เสิ่นอีเวยไม่สนใจสักนิดว่าสอันถึงที่ยืนข้างๆจะมีสีหน้าแย่แค่
ไหน
สวีทั่วหมิงพอได้ยินอย่างนั้นก็รีบย้อนถามกลับ “คุณนายเชิง พูดอย่างนี้หมายความว่าไง? หรือคุณคิดว่าผมเป็นคนบงการผู้ หญิงคนนั้นให้มาทำร้ายคุณเชิงหรอ?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดเสียงเรียบออกมา “คุณสที่พยายามจัดฉาก ละครนี้ขึ้นมาอย่างยากเย็น ลำบากคุณแล้วล่ะ”
เสิ่นอีเวยปล่อยแขนเพิ่งเจ๋อเฉิง พุ่งมายืนตรงหน้าสกั่วหมิง เพราะว่าใส่ส้นสูงทำให้สูงกว่าอีกฝ่ายไปครึ่งหัวเลยทีเดียว เธอ ปล่อยอารมณ์เต็มที่เลย
“ไม่แค่เรื่องเมื่อกี้หรอก! ถ้าฉันเดาไม่ผิด วันนั้นที่นัดคุยงาน กันของคุณสวีกับคุณเพิ่งน่ะ แล้วถูกนักข่าวเอามาพาดข่าวว่า (ประธานเซิ่งหลบหลังภรรยา นัดเดทชู้ที่โรงแรม ก็คงเป็นคุณ
ปล่อยข่าวล่ะสิ?” สองพ่อลูกตระกูลสหน้าถอดสีทันที เธอรู้เลยว่าตัวเองพูดถูก
ละ
สวีทั่วหมิงพยายามล้มบริษัทเพิ่งซื้อมาตลอด ความสัมพันธ์ เบาบางของสองตระกูลใครๆ ในวงการต่างรู้กันดี ช่วงก่อนนัก ข่าวจู่ๆพาดหัวว่าสถั่วหมิงจะมีการร่วมงานกับบริษัทเซิ่งชื่อออก มา ทำให้ทุกคนตกใจกันไม่น้อย
ถึงบางทีเสิ่นอีเวยจะโดนความรักบังตาไปบ้าง แต่ถ้าเกี่ยวกับ เชิงเจ๋อเฉิงล่ะก็ ขอแค่เธอสงบจิตใจคิดก็จะมองเกมส์ออกทันที เสิ่นอีเวยหันมองสวี่อันนึงที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ประชดว่า “ไม่คิด
เลยนะว่าคุณจะเป็นคนที่ทำการใหญ่ขนาดนี้ เพื่อผลประโยชน์
ของตัวเอง กล้าเอาชื่อเสียงลูกสาวแท้ๆมาล้อเล่นเนี่ย!
สอันฉ่งหน้าเหมือนกินแมลงเข้าไป แต่วินาทีต่อมาหล่อนก็ ยิ้มให้เธอเหมือนท้าทายว่ารอดูกันต่อไป
เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ
เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดอย่างโมโห ผู้ช่วยที่ยืนข้างๆได้ยินชัดเจนว่า “ทุกการร่วมมือกับบริษัทว่านเฟิงตอนนี้ยกเลิกซะ ต่อไปก็อย่าให้ มีอีก”
“ครับ”
เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดตบก็เหล่สกั่วหมิงหนึ่งที อีกฝ่ายตกใจจนเหงื่อ แตก โอกาสร่วมงานอะไรนั่นโกหกทั้งเพ เขาพยายามจะล้มเชิง เจ๋อเฉิง ให้ได้ ทําลายชื่อเสียงได้แล้ว ค่อยให้สายที่แฝงตัวใน บริษัทเชิงชื่อก่อกวนต่อถึงเวลานั้นเพิ่งซื้อไม่ตายก็ย่ำแย่แน่
แต่เขาไม่คิดเลยว่าละครวันนี้จะล้มไม่เป็นท่า หลังจากวันนี้เพิ่ง เจ๋อเฉิงต้องเตรียมการรับมือเขาไว้แน่ๆ
สกั่วหมิงโกรธยืนนิ่งอยู่กับที่ คืนนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงทำเขาขายหน้า ต่อหน้าผู้คนมากมาย สีหน้าเขาทะมึนจนน่ากลัว แต่สอนนิ่งที่ยืนข้างๆกลับจ้องไปที่เสิ่นอีเวย สายตาสวยงามคู่นั้นเหมือนมีไฟนออกมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ