จากวันนี้ไป นายเป็นสามีเก่าแล้ว

บทที่4 โดนเมาท์กระจาย



บทที่4 โดนเมาท์กระจาย

เงินอีเวยไม่ได้พูดอะไร เธอรอให้เขาพูดต่ออย่างเงียบๆ

“สองปีก่อนเธอทําร้ายเงินหุ้ยจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรายัง ไม่รู้จักสำนึกอีก ให้เธอตายน่ะมันง่ายไป เธอก็สบายไปสิ สู้เอา เธอมาอยู่ข้างกายค่อยๆทรมาน ฉันว่าเป็นวิธีการลงโทษที่ดีที่สุด นะ”

ทําร้ายเงินหุ้ยจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา…… เธอยังจำได้ถึงกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนั่น ในห้องมืดๆนั่น เธอรู้สึก ได้ว่าสอันฉิงเคยเข้าไป

แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ เพราะสอันจึงเป็นเพื่อนรักของเงินย

หล่อนไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งเงินหุ้ยแล้วเข้ามาช่วยเธอ

เธอยิ้มเยาะตัวเอง เพราะวินาทีนี้เธอรับรู้ได้ว่าพวกนักโทษ ตอนได้รับประกาศให้จำคุกตลอดชีวิตรู้สึกยังไงแล้ว คงเหมือน เธอตอนนี้ล่ะ

ฉันไม่ฆ่าเธอ ดีกับเธอ แต่ก็ทวนตอกย้ำความผิดที่เธอเคยทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้เธอรู้สึกว่าตัวเองสมควรตาย แม้ว่านั่นจะไม่ใช่ เรื่องจริงก็ตาม

ใช่สิ นี่สิถึงจะสมเป็นเชิงเจ๋อเฉิง

งานแต่งงานเลิศหรูอะไร ก็แค่ภาพลวงตา เป็นกรงที่เขาใช้กักขังเธอเพื่อลงโทษต่างหาก

“คืนพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงกับฉัน โลเคชั่นเดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งไปให้งาน เริ่มสองทุ่ม อย่าสายล่ะ”

เงินอีเวยเหนื่อยหมดแรงนอนแบบบนเตียง ไม่มีแรงคิด วิเคราะห์คําพูดของขา

“ใส่ให้สวยด้วยล่ะ อย่าให้ฉันขายหน้า

พูดจบ เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่สนใจเธออีก และเปิดประตูเดินออกไป เลย

เพิ่งเจ๋อเฉิง ฉันขายหน้าให้กับนายไม่เหลือแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นสามี ภรรยากัน ทั้งๆ ที่กลับบ้านเดียวกัน แต่เขากลับไม่คิดแม้แต่จะ ถามไถ่เธอสักค่า…..

“หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ที่พึ่งมาเมื่อเดือนก่อนของบริษัทเราน่ะ มี ใครคุ้นเคยกับหล่อนบ้าง? ”

“เธอหมายถึงหัวหน้าเสิ่นหรอ ทำไมอ่ะ?”

ที่ไหนมีผู้หญิงที่นั่นมีข่าวเมาท์ ความจริงข้อนี้เสิ่นอีเวยรู้ดี แต่ เธอไม่คิดว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ก็มีด้วย

พอกดน้ำชักโครกเธอยังไม่ออก แต่นั่งฟังเหล่าสาวๆเมาท์กัน กระจายก่อน

“พวกเธอไม่คิดว่าหล่อนหญิงหรอ? เธอดูปกติท่าทางหล่อน ตอนเดินสิ หน้าเริ่ดเชิดหยิ่งจะตาย เหมือนไม่เห็นใครในสายตาเลย ให้ฉันเดานะ บางทีอาจเป็นพวกแบมือขอเงินพ่อแม่ก็ได้ ได้ยินว่าแม่หล่อนก่อนนี้ก็ทำงานด้านนี้นะ แถมยังเป็นรุ่นท็อปซะ ด้วย”

พอได้ยินถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยสีหน้าเปลี่ยนทันที

“อันนี้ไม่ชัวร์ค่ะ แค่รู้สึกว่าหล่อนสนิทกับเจ้านายเรา” พูดไปก็ ส่งสายตารู้กันกับเพื่อน

“ไม่จริงน่ะ? เล่นเส้นหรอ? เจ้านายเราถึงจะจบนอก แต่หน้าตา หัวหน้าเงินก็พอได้หรอก แต่ถ้ามาเทียบกับเจ้านายเราเหมือนจะ ด้อยไปหน่อย แถมหล่อนยังเก่งด้วยนะ”

“สมัยนี้ใครเขาสนหน้าตากันล่ะ ผู้หญิงที่ชอบเงินมีถมไป หัว หน้าเงินอาจจะ…”

จู่ๆแขนของคนที่พูดอยู่ก็โดนดึง เหล่าสาวที่ยืนแต่งหน้าหน้า อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ พอมองเห็นคนที่ยืนด้านหลังจากกระจก ตรงหน้า ทั้งสามคนก็เหลือบมองกันและเงียบในบัดดล

เสิ่นอีเวยสองมือกอดอกยิ้มบอกว่า “ทุกคนดูจะมีเวลาว่างพอดู นะ ไม่คิดว่าฉันจะได้รับเกียรติเป็นหัวข้อเมาท์กระจายยามพัก ของทุกคน”

นิสัยของเธอปกติก็ค่อนข้างเงียบแล้ว ไม่เคยไยดีอะไรใคร นอกจากเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอเองได้รับฉายาเย่อหยิ่ง เชิดเริศมาตั้งแต่ เล็กจนโต ชินซะแล้วล่ะ

แต่ประโยคที่ว่าแบมือขอเงินพ่อแม่ เธอกลับรู้สึกแสลงหู
เธอเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ถึงจะยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มนั่นกลับไป ไม่ถึงดวงตา เธอเหยียดตามอง “แต่ว่าฉันขอแก้ข่าวหน่อยละกัน แม่ฉันเป็นระดับท็อปของวงการนี้จริง แต่พ่อแม่ฉันเสียไปตั้งแต่สี่ ปีที่แล้ว เรื่องที่ว่าฉันยังแบมือขอเงินพวกเขา คิดให้ดีก่อนพูดจะ กว่า”

พูดจบ เธอสะบัดสายตามีดบินใส่ก่อนเดินไป แววตาปิดความ เจ็บปวดไม่มิด ก๋ามือแน่นซ่อนในกลีบกระโปรง

“อ๋? พ่อแม่ของหัวหน้าเป็นตายยังไง? ฉันสนใจนะเนี่ย”

อยู่ดีๆก็มีเสียงแทรกขึ้นมาจากช่องทางเดินด้านซ้ายของเสี นอีเวย พอหันไปดู

สวี่อันนึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ