จากวันนี้ไป นายเป็นสามีเก่าแล้ว

บทที่ 10 ตื่นมาที่โรงพยาบาล



บทที่ 10 ตื่นมาที่โรงพยาบาล

เงินอีเวยฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล

เธอสลบไปสามวัน แสงอาทิตย์ด้านนอกหน้าต่างสาดส่องเข้า มาจนลืมตาไม่ขึ้น ในห้องพักคนไข้ว่างเปล่า ไม่มีใครเลย

เธออยากลุกขึ้น แต่กลับพบว่าทั้งตัวเหมือนโดนอะไรทับไว้ โดยเฉพาะขาขวา มีน้ำหนักเป็นพันกิโลจนยกไม่ขึ้น

เธอรู้สึกอยากร้องไห้ แต่ก็คิดว่ามันน่าขำมาก ที่ตัวเองกล้า กระโดดลงจากรถเพื่อความรักที่ไม่มีค่านั่น

ผู้ช่วยของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่ยืนเฝ้าหน้าห้องเข้ามา “คุณเงิน ฟื้น

แล้วเหรอครับ?”

“ค่ะ”

เสิ่นอีเวยถามอีก “คุณเพิ่งล่ะ?”

สีหน้าผู้ช่วยดูลำบากใจ แต่พอเห็นสีหน้าซีดขาวของเธอที่ยัง พันผ้าพันแผลที่หัวอยู่ ก็ตอบว่า “เมื่อเช้าคุณเพิ่งได้รับโทรศัพท์ จากพยาบาล ดูเหมือนว่าอาการของคุณเงินอุ้ยจะมีการ เปลี่ยนแปลง เขาน่าจะอยู่ในห้องพักคนไข้ของคุณเงินหุ้ยครับ”

“เสิ่นหุ้ย?”

หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่ง บรรยากาศรอบตัว เงียบจนน่ากลัว
“โอเค…ฉันรู้แล้ว คุณออกไปเถอะ”

นั่นไง ในใจเขามีแต่เงินหุ้ย ขนาดเธอเองกระโดดลงจากรถ ต้องส่งโรงพยาบาล ยังพามาโรงพยาบาลที่เงินหุ้ยอยู่ ไม่งั้นเธอ เองคงไม่ได้นอนโรงพยาบาลดีขนาดนี้หรอก

หรือว่าเงินหุ้ยฟื้นแล้ว?

ในใจเธอลิงโลดด้วยความดีใจ ถ้างั้นเธอก็ไปถามหล่อนได้ แล้วสิว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าเธอจะได้ล้างมลทิน

เธอยิ่งคิดยิ่งร้อนรน แทบอยากวิ่งไปห้องเงินหุ้ยในทันที!

เธอพยายามลงจากเตียง ขนาดเสื้อผ้ายังไม่เปลี่ยน ใส่ชุด คนไข้วิ่งกระเผลกออกไป คืนนั้นเมื่อสองปีก่อนทั้งเธอและเงินย ต่างสลบ ถึงจะจำได้ว่าเป็นโรงพยาบาลนี้ แต่เธอไม่รู้เบอร์ห้อง พักของเงินหุ้ยนี่นา

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นหุ้ยพักห้องไหนหรอคะ?” พยาบาลวอร์ดเงยหน้าขึ้นเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์ และตอบ อย่างสุภาพว่า “ห้องสามศูนย์เก้าค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำระหว่างทางไปห้องพักที่ว่า

เงินหุ้ย เธอต้องบอกความจริงกับฉันนะ ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ แบบนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงคงเชื่อฉันสักที!
วินาทีที่เปิดประตูห้องพักออก ภาพเบื้องหน้าก็บาดใจเธอสุดๆ

เงินหุ้ยสีหน้าขาวซีด ตาปิดแน่น นอนหลับบนเตียงอย่างสงบ มือซ้ายเรียวบางของเธอถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงกุมไว้ อย่างอ่อนโยน เสิ่นอีเวยคิดไม่ออกเลยว่าผู้ชายที่เย็นชาอยู่เสมอ กลับมีสีหน้าแววตาที่อ่อนโยนได้ขนาดนี้

เพิ่งเจ๋อเฉิงเงยหน้าเห็นเงินอีเวย สายตาพลันเคร่งขรึมลง “เธอไม่พักผ่อนในห้องดีๆ วิ่งมาทำอะไร?”

เสิ่นอีเวยยิ้มแห้งๆว่า “ฉันได้ยินว่าพี่เงินหุ้ยฟื้นแล้ว เลยอยาก มาดูหน่อย”

“ใครบอกเธอว่าเธอฟื้นแล้ว? ต่อให้ฟื้นแล้วก็ไม่อยากเห็น หน้าเธอหรอก รีบกลับไปซะ”

เธอหันมองเงินหุ้ย คนที่นอนบนเตียงตัวนิ่งไม่ไหวติง

“ทำไม เสิ่นหยไม่ได้ฟื้น เธอคงดีใจมากสินะ? เลิกทำหน้าผิด หวังจอมปลอมนั่นซะที เสิ่นยนอนไม่ฟื้นแบบนี้ ความผิดของเธอ ก็ไม่มีใครฟ้องร้อง เธอไม่ควรจะดีใจหรือไง?”

เสิ่นอีเวยพูดอย่างโมโห “นายจะมาเข้าใจผิดฉันแบบนี้ไม่ได้ นะ! ฉันหวังมากกว่าใครๆว่าพี่เงินหุ้ยจะฟื้นโดยเร็วที่สุด!

“เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกชื่อเสิ่นหุ้ย! ” เพิ่งเจ๋อเฉิงลุกขึ้นคว้า 11 แขนเธอไว้แน่น “อย่าลืมว่าตอนนั้นเงินหุ้ยโดนเธอทำร้ายจนเป็น ยังไง ทั่วร่างมีแต่ร่องรอยการโดนทุบตี หรือแม้กระทั่งโดนผู้ชาย พวกนั้น…”
เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พูดต่อไป สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แค้น เขาแทบอยากให้ผู้หญิงตรงหน้านี้ลิ้มรับความทรมานอย่าง นั้นบ้าง!

เงินอีเวยก็ไม่อยากได้ยินแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นที่เธอฟื้นมาที่ โรงพยาบาลแล้วรับรู้ว่าเงินหุ้ยกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ทั้ง ร่างกายและจิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และ ทั้งหมดนี้ว่ากันว่าเธอเองเป็นคนทํา

หลังจากนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงที่ชอบเงินหุ้ยมาโดยตลอดก็มาขอเธอ แต่งงานฉับพลัน คำสาบานของเขา ในงานแต่งคือ “เสิ่นอีเวย เธอทำให้เงินหุ้ยกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ฉันจะทรมานเธอตลอด ชีวิต”

เงินอีเวยกำลังคิดถึงความหลัง ก็โดนหมอเบรค

“นี่ครับเป็นสภาพการฟื้นฟูของคุณเสิ่นในช่วงนี้”

เพิ่งเจ๋อเฉิงพยักหน้ารับเอกสารมาเปิดออกดูอย่างละเอียด ไม่ สนใจเธอที่ยืนข้างๆอีก เธอเงียบไปก่อยนออกจากห้องอย่าง เงียบๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ