งานแต่งพี่สาว แต่...ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว



บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว

เสียงผู้ชายในโทรศัพท์พูดอย่างกระตือรือร้น “ซูซี ทุกคนรอ นายอยู่นะ”

ซูซีมก้มหน้ามอง มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย

“ไม่ว่าง” พูดสองคำนี้เสร็จ เตรียมจะกดวางสาย ผลลัพธ์คือ คำพูดที่ดังมาจากทางนั้น ทำให้การกระทำของเขาหยุดลง

“ไม่ว่างเหรอ ซูซีนายล้อเล่นหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่า คู่หมั้นของนายหนีงานแต่งไปแล้ว หรือว่าคืนนี้นายยังยุ่งอยู่กับ เตรียมเข้าหอเหรอ รีบมาที่คลับเหา

ลูกสาวของโลชิงไปคนนั้นหนีงานแต่งงานไปแล้วเหรอ ซูซี เม้มปาก พูดอย่างจืดชืด “คืนพรุ่งนี้สองทุ่ม” พูดจบก็ตัดสาย โทรศัพท์ สายตามองขึ้นมา

โล่เฟยเอ๋อพบว่าซูซีม่ว่างสายโทรศัพท์แล้ว ตกใจอยากจะละ สายตาหนี ผลลัพธ์คือเธอยังไม่ทันจะละสายตาหนี สายตาของ ซีมก็มองขึ้นมา ทั้งสองสบตากันผ่านกระจกมองหลัง ดวงตาเย็น ชาของซูซี ราวกับทะเลตอนเที่ยงคืน แม้ว่าจะมีกระจกมองหลัง กั้น แต่กลับทําให้ใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นผิดจังหวะอย่างแรง

เธอก้มหน้าลงอย่างใจหวิว

สายตาของโล่เฟยเอ๋อเบือนหนี ทำให้ดวงตาของซูซีมที่มี ความหวังเหมือนน้ำนิ่งที่ถูกทำให้เกิดคลื่น แต่ทว่าในไม่ช้าคลื่นบทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว

เสียงผู้ชายในโทรศัพท์พูดอย่างกระตือรือร้น “ซูซี ทุกคนรอ นายอยู่นะ”

ซูซีมก้มหน้ามอง มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย

“ไม่ว่าง” พูดสองคำนี้เสร็จ เตรียมจะกดวางสาย ผลลัพธ์คือ คำพูดที่ดังมาจากทางนั้น ทำให้การกระทำของเขาหยุดลง

“ไม่ว่างเหรอ ซูซีนายล้อเล่นหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่า คู่หมั้นของนายหนีงานแต่งไปแล้ว หรือว่าคืนนี้นายยังยุ่งอยู่กับ เตรียมเข้าหอเหรอ รีบมาที่คลับเหา

ลูกสาวของโลชิงไปคนนั้นหนีงานแต่งงานไปแล้วเหรอ ซูซี เม้มปาก พูดอย่างจืดชืด “คืนพรุ่งนี้สองทุ่ม” พูดจบก็ตัดสาย โทรศัพท์ สายตามองขึ้นมา

โล่เฟยเอ๋อพบว่าซูซีม่ว่างสายโทรศัพท์แล้ว ตกใจอยากจะละ สายตาหนี ผลลัพธ์คือเธอยังไม่ทันจะละสายตาหนี สายตาของ ซีมก็มองขึ้นมา ทั้งสองสบตากันผ่านกระจกมองหลัง ดวงตาเย็น ชาของซูซี ราวกับทะเลตอนเที่ยงคืน แม้ว่าจะมีกระจกมองหลัง กั้น แต่กลับทําให้ใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นผิดจังหวะอย่างแรง

เธอก้มหน้าลงอย่างใจหวิว

สายตาของโล่เฟยเอ๋อเบือนหนี ทำให้ดวงตาของซูซีมที่มี ความหวังเหมือนน้ำนิ่งที่ถูกทำให้เกิดคลื่น แต่ทว่าในไม่ช้าคลื่นรถ

ในขณะที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ซูซีมเดิมที่กำลังจ้องโทรศัพท์ก็ เงยหน้าขึ้น สายตามองไปที่เงาด้านนอกหน้าต่างรถที่ยิ่งไกลออก ไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

โจวเฉิงคิดว่าซูมกำลังโกรธ ก็รีบอธิบาย “ประธาน เธอก็ คือ โล่เฟยเอ๋อ”

ตอนที่ได้ยิน โล่เฟยเอ๋อ สามคำนี้ แม้ว่าสีหน้าของซูซีไม่มี การเปลี่ยนแปลงอะไร แต่มือที่กำลังถึงโทรศัพท์ ปลายนิ้วมือก็

กระตุกเล็กน้อย

เธอก็คือ โล่เฟยเอ๋อ…

ผ่านไปประมาณสองวินาที ซูซูก็พูดออกมาสองคำอย่างเย็น ชา “กลับไป”

“ครับ” ไม่เสียแรงที่เป็นประธาน แม้จะรู้ว่าเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้น คือโล่เฟยเอ๋อคู่หมั้นของเขา แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร โจวเฉิงถอน หายใจในใจ จากนั้นขับรถจากไป

หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ก็ตัวสั่นระริกๆ เดินเข้าไปใน ชุมชนปี้ให

เธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คือหวหรูเฉียวเพื่อน ที่ดีที่สุดของเธอ

ผ่านประตูและถนนที่คุ้นเคยมาถึงด้านหน้าที่พักของเพื่อนสนิท

หซิว ซูเฉียว, โล่เฟยเอ๋อกดกริ่ง
ตามด้วย ด้านหลังประตูมีเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาอย่างรีบร้อน “มาแล้ว” ประตูถูกเปิดออก เป็นใบหน้าที่สวยงาม ผมยาวคุมหัวไหล่

มองดูเหมือนกับเด็กสาวที่อ่อนโยน ถ้าคิดว่าเธอเป็นคนอ่อนโยน

งั้นคุณก็คิดผิดแล้ว หวิวหชูเฉียวคือผู้หญิงที่แข็งแกร่งและได้

มาตรฐาน

ตอนที่เธอเห็นโล่เฟยเอ๋อทั้งตัวดูไม่ได้และได้รับบาดเจ็บ เธอ ถามอย่างตะหนกตกใจ “เฟยเอ๋อ เธอไม่ใช่ไปร่วมงานแต่งของ โลหยิวชิวหรอกเหรอ ทำไมถึงเป็นสภาพนี้ได้

ได้ยิน ‘งานแต่ง’ สองคำ โล่เฟยเอ๋อก็หน้าเสีย “ไอ้คำเดียวไม่ สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้”

“อย่าเพิ่งพูดเลย รีบเข้าข้างในก่อน” หวดชูเฉียวพูดแล้วดึง โล่เฟยเอ๋อจากด้านนอกประตูเข้ามา หลังจากที่หยิบรองเท้าแตะ จากชั้นวางรองเท้าคู่หนึ่งให้โล่เฟยเอ๋อ ก็ปลีกตัวเข้าในห้องครัว

โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปในห้องรับแขก มองไปรอบ ๆ แวบหนึ่ง จากนั้นตัวอ่อนปวกเปียกลงบนโซฟา

หวเฉียวยกออกมาจากห้องครัว ส่งให้เธอ จากนั้นพูด “เธอไปอาบน้ำก่อนไป หลังจากนั้นฉันค่อยใส่ยาให้เธอ ถ้าแผล ติดเชื้อขึ้นมาก็จะยุ่งยากเอา

หลังจาก โล่เฟยเอ๋อดื่มน้ำในแก้วหมดก็ตอบกลับ “ติดเชื้อตาย ไปแล้วก็ดี”
“พูดบ้าอะไร” หวิวหชูเฉียวหัวเราะและด่าว่าโล่เฟยเอ๋อประ โยคหนึ่ง จากนั้นฉุดเธอลุกขึ้นจากโซฟา “รีบไปอาบน้ำ ฉันจะไป เอาเสื้อผ้ามาให้เธอ

โล่เฟยเอ๋อเอนตัวไปซบตัวของหวเฉียว ถอนหายใจแล้ว พูด “ก็ยังเป็นที่รักที่ห่วงใยฉัน”

“ฉันไม่เป็นห่วงเธอ แล้วฉันจะไปเป็นห่วงใคร” หวหรูเฉียว พูดแล้วผลักโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องอาบน้ำ

หลังจากครึ่งชั่วโมง โล่เฟยเอ๋อก็ออกมาจากห้องน้ำ

หซิว ซูเฉียวช่วยใส่ยาบนแผลบนแขนและขาของเธอ และโล่ เฟยเอ๋อก็เริ่มพูดเรื่องที่เธอพบเจอคืนนี้

หวหรูเฉียวพูดอย่างโมโห “ให้เธอแต่งงานแทน โลหยิวชิว นั้นใช่พ่อแท้ๆของเธอเหรอ”

สายตาของโล่เฟยเอ๋อกระพริบตา ไม่พูดอะไร

หวหชูเฉียวเคร่งขรึมอยู่สักพัก ถึงถาม “งั้นเธอยังจะกลับไป ไหม”

โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า “รอให้เรื่องผ่านไปก่อนค่อยว่ากัน”

หวหชูเฉียวสูดหายใจลึกๆ พยักหน้า “แบนนี้ก็ดี เธอก็ทำใจ ให้สบายอาศัยอยู่กับฉันที่นี่เถอะ”

“อย่าพูดว่าอาศัยอยู่ แม้ว่าเธอจะเลี้ยงดูฉัน ฉันก็ยอม” โล่เฟย เอ๋อหน้าตาแอ๊บแบ๊วมองหชิวหชูเฉียว
หวเฉียวพูดอย่างสีหน้ารังเกียจ “เธอไปหารุ่นพี่คนในใจ ของเธอให้เขาเลี้ยงดูเถอะ”

ได้ยิน ซิว ซูเฉียวพูดถึงรุ่นพี่กู้, โล่เฟยเอ๋อก็หน้าแดง

หซิวหซูเฉียวเห็นท่าทางเขินอายของโล่เฟยเอ๋อ ส่ายหน้าพูด

“ฉันว่าเธอไปสารภาพรักกับรุ่นพี่กู้ของเธอให้มันจบๆ ไปเถอะ

พอดียังสามารถแก้ปัญหาตอนนี้ของเธอได้ “สารภาพเหรอ” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความ ตกใจ ในไม่ช้า หน้าก็แดง แล้วก้มหน้ามองล่าง

หซิวหชูเฉียวตั้งใจวิเคราะห์แทน โล่เฟยเอ๋อ “ใช่สิ เธอ สารภาพ ยืนยันความสัมพันธ์ จากนั้นก็พาเขากลับไป ถึงเวลา พวกเขายังบังคับให้เธอแต่งงานกับคนแปลกหน้าคนนั้นล่ะก็ จากนั้นเธอและรุ่นพี่กู้ของเธอก็สามารถอยู่ด้วยกันจนนิจนิรันด์

โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร หวหรูเฉียวเห็นเธอทั้งเขินอาย ทั้ง ราวกับว่าเต็มไปด้วยความคาดหวัง เพียงแต่ไม่มีความกล้าพอที่ จะทำตามขั้นตอนนั้น และก็ไม่สนทนาปัญหานี้ต่อ

หลังจากที่เธอใส่ยาบนแผลตามตัวของ โล่เฟยเอ๋อ เสร็จแล้ว ก็ เก็บกล่องปฐมพยาบาล แล้วก็ลากโล่เฟยเอ๋อไปนอนบนเตียง

“ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน รีบนอนเถอะ”

เห็นโล่เฟยเอ๋อนิ่งไป หซิวหชูเฉียวก็พูดเสริมอีกประโยค “อย่า คิดมาก เรื่องราวมักจะผ่านไป

“อืม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วหลบตา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ