งานแต่งพี่สาว แต่...ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

บทที่ 10 เห้อจิ้นเหยาตามหาโล่เฟยเอ๋อ



บทที่ 10 เห้อจิ้นเหยาตามหาโล่เฟยเอ๋อ

เดิมทีโล่ชิงไปคิดว่า ลูกสาวทั้งสองคนล้วนหนีงานแต่งงานแล้ว บริษัทซูซื่อต้องโกรธมากแน่ ๆ จากนั้นก็ยกเลิกงานแต่งงานของ ทั้งสองตระกูลโดยตรง

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า คุณปู่ซูโทรหาเขาบอกว่า ไม่ยกเลิกงาน แต่งงานของบริษัทซูซื่อกับบริษัท โลชื่อ สำหรับวันแต่ง ยังไม่มี กําหนดชั่วคราว

ได้รับข่าวนี้แล้ว โลชิงไปทั้งดีใจ ทั้งกลุ้มใจ

ดีใจก็คือการแต่งงานยังคงมีต่อบริษัทซูชื่อต้องให้ผลประโย ซน์กับบริษัทโล่ชื่อกลุ้มใจก็คือลูกสาวคนโตหนีออกนอกประเทศ ไปแล้ว ลูกสาวคนเล็กก็หนีงานแต่งงานไปแล้ว

เห้อจิ้นเหยาถามอย่างตกใจ “ความหมายของบริษัทซูซื่อก็คือ งานแต่งงานยังคงมีต่อเหรอ”

“ใช่ คุณปู่ซูพูดแบบนี้ในโทรศัพท์เมื่อกี้นี้” โล่ชิงไปพยักหน้า

“งั้นงานแต่งจะมีเมื่อไหร่” เห้อจิ้นเหยาถามอีก

“ยังไม่กำหนด” โล่ชิงไปตอบ

“ยังไม่กําหนดเหรอ”

ทำไมยังไม่กำหนด

โล่ชิงไปขมวดคิ้วพูด “คุณปู่ซูบอกว่าวันแต่งยังไม่มีกำหนดชั่วคราว”

ไม่กำหนดเวลาที่แน่ชัด งั้นหยิวชิวของเธอเมื่อไหร่จะกลับ ประเทศได้ เห้อจิ้นเหยา ใจเต้น ภายนอกกลับถามโล่ชิงไปอย่าง อ่อนโยน “ชิงไปงานแต่งงานนี้จะทำยังไง”

“เฟยเอ๋อ เพื่อหนีงานแต่งงาน โวยวายเล่นใหญ่ขนาดนั้น…….. โล่ชิงไปถอนหายใจเฮือกหนึ่ง จากนั้นถาม “ยังไม่ได้ข่าวของห ยิวชิวเหรอ”

เห้อจิ้นเหยาได้ยินคำพูดของโลซิงไป ปลายเล็บทีมเข้าไป ใจกลางมือแรงๆ ภายนอกกลับพูดอย่างอ่อนโยน “ก็ไม่รู้ว่าหยิว ชิวหนีไปที่ไหนแล้ว ก็ไม่รู้จักติดต่อกลับที่บ้าน

โล่ชิงไปตบมือของเห้อจิ้นเหยาพูดปลอบ “ฉันจะให้คน พยายามตามหาเขาให้ถึงที่สุด

“อืม รีบหน่อย รีบตามเธอกลับมาเถอะ แต่ไม่สามารถให้เฟย เอ๋อแต่งงานกับประธานของบริษัทซูซื่อได้…” เห้อจิ้นเหยาพูดอยู่ ก็ร้องไห้ออกมา

โล่ชิงไปไม่พูดอะไร ยืนมือกอดเรือจิ้นเหยาเข้าไปในอ้อมอก

นับตั้งแต่เจอซูซีมที่บริษัทครั้งก่อน โล่เฟยเอ๋อก็รอคอยที่จะได้ พบเขาอีกครั้ง น่าเสียดายแค่ครั้งเดียวก็ไม่มี ในใจของเธอรู้สึก ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ถูกความยุ่งวุ่นวายทำให้ลืมไป

จากเด็กฝึกงานเลื่อนขั้นเป็นพนักงานของบริษัทก้วนอย่าง เต็มตัว เดิมทีงานก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย เพิ่มกับหลินตั้งใจทำให้เธอลำบาก โล่เฟยเอ๋อยุ่งจนหัวหมุน

นี้ไม่ ตามองกำลังจะเลิกงานแล้ว หลินก็ส่งเอกสารชุดหนึ่ง ให้เธออีก

“โล่เฟยเอ๋อ เธอออกแบบภาพวาดตามในข้อเสนอของ เอกสารนี้”

“ห้า” โล่เฟยเอ๋อจ้องเอกสารในมือของหลิน หน้าตะลึง

เห็นโล่เฟยเอ๋อไม่ตอบสนองอะไร สีหน้าของหลินก็เย็นชา ทันที “โล่เฟยเอ๋อ ถ้าเธอแม้แต่การเรียนที่เล็กน้อยนี้ ก็ไม่อยาก ทำให้สําเร็จ งั้นฉันเตือนเธอไว้เลยนะ…….

หลินยี่ยังพูดไม่จบ โล่เฟยเอ๋อก็รีบพูด “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ หมายความว่าอย่างนั้น…” โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อย พูดขึ้น “พี่หลิน ฉันแค่จะพูดว่าภาพออกแบบวันจันทร์ค่อยส่งให้ พี่ได้ไหม”

หลินมองเธอแปปหนึ่งจากนั้นตอบ “วันจันทร์ก่อนเข้างาน ฉันต้องเห็นมันอยู่บนโต๊ะทำงานของฉัน

“คะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า รับเอกสารจากมือหลินมา

หลินยี่ไม่พูดอะไรอีก เชิดหน้าจากไป

รอให้หลินจากไปแล้ว จางเจียเจียที่นั่งอยู่ด้านข้างโล่เฟยเอ๋อ ก็พูดเสียงต่ำ “ไม่ใช่เป็นแค่หัวหน้าทีมเล็ก ๆ ไม่รู้ว่าเขามีอะไรดี

โล่เฟยเอ๋อก้มหน้ามองเอกสารที่หลินเอาให้ในมือ ไม่พูด
จางเจียเจียเลืองมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดอีก “เฟยเอ๋อ

เธอชั่งพูดง่ายจริง ๆ ปล่อยให้เขาหาเรื่องเธอทั้งวัน โล่เฟยเอ๋อ เงยหน้ายิ้มให้กับจางเจียเจีย แล้วพูด “เขาเป็นหัวหน้าทีม ต้อง ฟังเขา” “ไอ้…” จางเจียเจียถอนหายใจ ลุกขึ้นเดินมาพูด “เลิกงานแล้ว

ฉันกลับก่อนนะ”

“อืม บายบาย” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า โบกมีอบายๆ ให้เขา

หลังจากที่จางเจียเจียจากไป โล่เฟยเอ๋อเก็บของบนโต๊ะสัก หน่อย จากนั้นเก็บเอกสารที่หลินให้เขาลงในกระเป๋า ออกจาก ห้องทํางาน

ระหว่างทาง โล่เฟยเอ๋อ ออกมาจากลิฟต์ ยังเดินไม่ถึงประตู บริษัท หน้าต่างกระจกกั้น ก็มองเห็นกู้ชิงหลันยืนพิงประตูรถ

ถังหวเดินออกไปจากประตูหมุนพอดี กู้ชิงหลันเห็นเขา ก็รีบ ยิ้มต้อนรับถังหมิวทันที

โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบริษัท จ้องถังหซิวฉีกับกู้ ชิงหลันที่อยู่ด้านอก ตาไม่กระพริบ

เขามองเห็นกู้ชิงหลันเปิดประตูรถให้ถังหมิว เห็นเขาช่วยเธอ รัดเข็มขรัดนิรภัย

จนกระทั่งกู้ชิงหลันขับรถออกไปไกลมากแล้ว โล่เฟยเอ๋อถึงหัน สายตากลับมา จากนั้นก้าวขาเดินออกจากบริษัท เตรียมจะไปที่ สถานีรถไฟใต้ดินที่ห่างจากบริษัทร้อยกว่าเมตร นั่งรถไฟใต้ดินกลับที่พักของเซิว ซูเจียว

ปรากฏว่าเพิ่งเดินไม่ถึงสิบเมตร รถออดี้ที่คุ้นเคยกันหนึ่งก็ จอดอยู่ด้านหน้าซ้ายมือเธอเมตรหนึ่ง

ตามด้วยลดกระจกรถลง เห้อจิ้นเหยาโผล่ใบหน้าที่อบอุ่นนั้น ออกมา

โล่เฟยเอ๋ออึ้งแป๊บหนึ่ง เดินเข้าไป “คุณป้าเหยา คุณมาได้ยัง ไง”

“ป้าเหยา คิดถึงเธอ แวะมาดูเธอสักหน่อย รับขึ้นรถสิ” เห้อจิ้น เหยายิ้มแล้วเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ

โล่เฟยเอ๋อไม่ลังเล แล้วขึ้นไปนั่งบนรถ

“เฟยเอ๋อ เธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่เดิมแล้วเหรอ” เห้อจิ้นเหยาถาม

ไปด้วย สตาร์ทรถไปด้วย

โล่เฟยเอ๋อเม้มปาก แล้วตอบ “ตอนนี้ฉันพักอยู่กับหนูเฉียว สำหรับเหตุผลโล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูด เขาเชื่อว่าเพื่อนเหยาจะ เข้าใจเอง

เห้อจิ้นเหยาเอียงหน้ามองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นถามอย่างอ่อน โยน “เฟยเอ๋อ เรื่องนี้อย่าโทษพ่อของเธอเลยนะ ถ้าจะโทษก็โทษ ป้าเหยาไม่สามารถรั้งพี่สาวของเธอไว้ได้”

โล่เฟยเอ๋อก้มหน้าไม่พูด ซันเจนว่าไม่พอใจกับการกระทำของ โล่ชิงไป
เห้อจิ้นเหยาเงียบขรึมอยู่สักพัก ก็พูดขึ้นอีก “เฟยเอ๋อ กลับไป

ดีไหม”

“ไม่ดี” โล่เฟยเอ๋อปฏิเสธตรง ๆ

“เด็กคนนี้…ไอ้…” เห้อจิ้นเหยาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นถาม “หิวไหม ป้าเหยาจะพาเธอไปกินข้าวเย็น

“ตามสบาย” โล่เฟยเอ๋อ ตอบอย่างเหม่อลอย

ในที่สุดเห้อจิ้นเหยาก็พาโล่เฟยเอ๋อไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ เพื่อ ทานอาหารค่ำ อาหารบนโต๊ะที่เห้อจิ้นเหยาสั่งล้วนเป็นอาหารที่ โล่เฟยเอ๋อชอบ แต่โล่เฟยเอ๋อกลับกินอย่างไม่มีอารมณ์

กินไปสองค่า เขาก็วางตะเกียบลง

“ทำไมไม่กินล่ะ” เห้อจิ้นเหยามองเขาอย่างแปลกใจแล้วถาม “ฉันกินอิ่มแล้ว ขอตัวกลับก่อน” โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นตอบ

“ให้ฉันไปส่งเธอนะ” เห้อจิ้นเหยาวางตะเกียบลง ก็ลุกขึ้น กลับ ถูกโล่เฟยเอ๋อห้ามไว้ “คุณป้าเหยา ไม่ต้องให้คุณส่ง ฉันเรียกรถ กลับเอง”

เห้อจิ้นหยาส่ายหน้า “ฉันไม่วางใจ

ในที่สุดโล่เฟยเอ๋อ ก็ยอมเห้อจิ้นเหยา ถูกเขาพามาส่งที่หน้า ประตูทางเข้าชุมชนที่พักของหวหรูเฉียว

ตอนที่จะลงจากรถ เห้อจิ้นเหยา ก็กำชับอีกครั้ง “เฟยเอ๋ออยู่ ข้างนอกตัวคนเดียวต้องดูแลตัวเองให้ดี อากาศหนาว ใส่เสื้อผ้าหมา…”

“อืม ลาก่อนคุณป้าเหยา” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า ผลักประตูรถ

เปิดออก

เพิ่งก้าวขาได้สองก้าวเข้าประตูชุมชน ด้านหลังก็มีเสียงเรียก ของหวหชูเฉียว “เฟยเอ๋อ.

โล่เฟยเอ๋อหันหน้ากลับ ก็เห็นหวหรูเฉียวอยู่ไม่ไกลจากด้าน หลังของเธอ “หชูเฉียว เธอเลิกงานแล้วเหรอ”

หซิวหชูเฉียว ตอบ ‘อึม ค่าหนึ่ง จากนั้นก็ถามกลับอีก “เมื่อกี้ แม่เลี้ยงเธอเหรอ”

“อืม เขาไปหาฉันที่บริษัท อยากให้ฉันกลับไป” โล่เฟยเอ๋อ ตอบเสียงต่ำ

หวหรูเฉียวถาม “งั้นเธอจะกลับไปไหม

“ไม่กลับ…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ