ตอนที่ 8 เจอกันอีกครั้งอย่างไม่คาดคิด
เสี่ยวหนานเลิกงานก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง นั่งรถไฟใต้ดินไปที่ร้าน อาหารเซี่ยงซุ่ย
แต่ไม่คาดคิดว่า พอเดินเข้าไปในร้าน ก็เจอเข้ากับผู้ชายที่ไม่
ได้เห็นมาหลายวันแล้ว คือจิ้งอี้เซวียน
เขาในวันนี้ ดูแตกต่างจากปกติเล็กน้อย
พอถอดเสื้อกาวน์สีขาวที่เป็นสัญลักษณ์อาชีพของตัวเองออก แล้วถูกแทนที่ด้วยเสื้อสูทสีเข้มที่บ่งบอกถึงบุคลิกตัวเอง
การตัดชุดสูทมองดูก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือการออกแบบจากนัก ออกแบบชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียง รูปทรงของเนื้อผ้าคลุมร่างกาย ที่แข็งแกร่งของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูสง่างาม และยิ่ง สะท้อนให้เห็นความสง่างามและหล่อเหลาของเขาอย่างชัดเจน มากขึ้น
เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ สายตามองไป ที่ทิวทัศน์ของเมืองที่อยู่นอกหน้าต่างไกลๆ ดวงตายิ่งเข้มขึ้นเล็ก น้อย
เขาเหมือนกับกำลังรอใครสักคน
นิ้วมือที่เรียวยาว เคาะลงไปบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ แสดงให้ เห็นชัดว่าความอดทนในการรอของเขากำลังจะค่อยๆหมดไป
เสี่ยวหนานกำลังจะละสายตาออกไป ไม่คาดคิดว่าจู่ๆเขาหัน หน้ามามองทางเธอ
สายตาสองคู่ประสานกัน เสี่ยวหนานรู้สึกร้อนรนจนทำอะไรไม่
ถูกไปชั่วขณะที่ถูกเขามองมา จะหลบก็ไม่ทันแล้ว
เสี่ยวหนานรีบหาที่นั่งที่อยู่หลังเขานั่งอย่างรวดเร็ว สูดหายใจ เข้าลึกๆ พยายามจะทำให้หัวใจที่ประหม่าของตัวเองสงบลงเล็ก น้อย
หยิบข้อมูลออกมาจากกระเป๋า กำลังจะโทรหาลูกค้า แต่ยัง ไม่ทันเปิดข้อมูลของลูกค้าออก ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือที่ อยู่ในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา
เสี่ยวหนานคิดว่าลูกค้าโทรเข้ามา จึงรีบหยิบโทรศัพท์มาเปิด
เมื่อเห็นสายที่โทรเข้ามาอย่างชัดเจนบนหน้าจอ ก็ตกใจจน
ชะงัก
สายที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลกเบอร์หนึ่ง ไม่มีบันทึกไว้ใน สมุดรายชื่อในโทรศัพท์ของเธอ แต่เบอร์นี้กลายเป็นเบอร์นั้น เหมือนเอามีดมาแทงหัวใจของเธออย่างลึก ถึงจะผ่านมาสี่ปี แต่ เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับยังคงอยู่ ตรงกันข้ามมันยิ่งเด่นชัดใน ความทรงจํามากขึ้น
นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือของจิ้งอี้เซวียน สี่ปีก่อนจนถึงตอนนี้ ไม่เปลี่ยนเบอร์เลย
แต่ว่า ทำไมเขาถึงมีเบอร์ติดต่อของตัวเองได้ล่ะ ตั้งแต่เธอ ออกมาจากเมือง S เธอก็เปลี่ยนเบอร์ไปตั้งนานแล้ว
เสียวหนานหันหน้ามองไปทางเขา และเขาก็กำลังมองเธอ อย่างนิ่งๆเช่นกัน โทรศัพท์มือถือยังคงแนบหูของเขาไว้
เสี่ยวหนานลังเลสักพัก สุดท้ายก็กดรับสาย “คิดจะนั่งคนละโต๊ะคุยเรื่องงานกับฉันเหรอ”
เสียงเข้มของจิ้งอี้เซวียน ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือด้วย เสียงเรียบนิ่ง
“ต๊ะ” เสี่ยวหนานตะลึงงัน
“หรือจะคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ
ขณะนั้นเสี่ยวหนานก็มีสติกลับมา รีบเปิดข้อมูลของลูกค้าดู ชะงักไป
เหมือนมีไม้มาทุบหัวของตัวเองจนทำให้งงงวย เวลานี้รู้สึก เสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้เปิดดูข้อมูลของลูกค้าให้ดีเสียก่อน
“คุณหยี แม้แต่ข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าคุณก็ยังไม่เปิดดูให้ดี ก่อนงั้นเหรอ” เห็นได้ชัดว่าเขามีท่าทางไม่พอใจการทำงานของ เธอมาก
“ขอโทษค่ะ” เสี่ยวหนานรีบพูดขอโทษทันที
เพราะต้องเลิกงานก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง เลยตอกบัตรพนักงาน จนรีบร้อนมาก ตอนบ่ายหลังจากที่รับข้อมูลมาจากผู้อำนวยการก็ยังไม่ทันได้เปิดดู ก็ยังตลอดก่อนที่จะออกมา
“คุณหมอจิ่ง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้
เสี่ยวหนานพูดจบวางสายไป รีบหยิบเอกสารขึ้นมาอย่าง รวดเร็ว แล้วรวบรวมความกล้าไปที่โต๊ะนั้นของจิ้งอี้เซวียน
เธอยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าโต๊ะของจิ้งอี้เซวียน
“สวัสดีค่ะคุณหมอจึง
เธอทักทายจิ้งอี้เซวียน อย่างไม่แข็งกร้าวแต่ก็ไม่ได้ดูนอบน้อม ท่าทางที่ดูห่างเห็นและเป็นทางการ “ขอโทษค่ะ ฉันคิดไม่ถึงว่าจะ เป็นคุณ”
จิ้งอี้เซวียน นั่งไขว่ห้าง นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเฉย สายตามอง ไปที่ใบหน้ารูปไข่ที่สงบนิ่งของเสี่ยวหนานอย่างลึกซึ้ง พูดอธิบาย เบาๆว่า “ฉันก็เพิ่งรู้ก่อนหน้านี้แค่ครึ่งชั่วโมงเอง
เสี่ยวหนานยิ้มเล็กน้อย นำเอกสารที่อยู่ในมือไปวางไว้ข้าง หน้าของจิ้งอี้เซวียน แล้วพูดเข้าประเด็นทันที ถามเขา “คุณหมอ จิ่ง อยากจะได้ห้องของตัวเองออกแบบเป็นแบบไหนคะ คุณ สามารถดูก่อนได้ค่ะ นี่คือรูปแบบการออกแบบและตกแต่ง ทั้งหมด คุณชอบแบบไหนเป็นพิเศษบอกฉันได้เลยนะคะ”
จึงอี้เซวียน เงยหน้าขึ้นมา ไม่ได้มองเอกสารที่เธอส่งมา “ฉัน หิวแล้ว กินข้าวก่อน
เสี่ยวหนานตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ยิ้มออกมา เก็บเอกสารมาไว้ใน มือ “ขอโทษค่ะ ที่ฉันเสียมารยาท”
จริงๆแล้ว ปกติเธอไม่เป็นแบบนี้ ปกติตอนที่เธอคุยงานกับ ลูกค้า จำได้ว่ามักจะพูดน้อยคำเสมอ และต้องพูดในสิ่งที่ลูกค้า อยากฟังด้วย หลังจากนั้นถึงจะค่อยๆเข้าประเด็น แต่ว่ากับจึง เซวียน มันไม่เป็นอย่างนั้น เธอเพียงแค่อยากจะรีบเข้าประเด็น หลังจากนั้นก็อยากจะจบการคุยงานในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด
“Waiter”
จิ้งอี้เซวียน โบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ “สั่งอาหาร”
ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็หยิบเมนูอาหารมาวางไว้ตรงหน้าของ ทั้งสองคน เสี่ยวหนานรับเมนูมาแต่ไม่ได้สั่ง จึงอี้เซวียน ก็ไม่ เกรงใจ เอ่ยปากสั่งก่อน “ซุปเนื้อไวน์แดง บาร์บีคิวไก่ มันฝรั่ง ทอด เต้าเจี้ยวหลน และเพิ่มของหวานเป็นแอปเปิ้ลอบเชยจีน เท่านี้แหละ”
เขาสั่งอาหารเสร็จสรรพเรียบร้อยและครบถ้วน หยิบเมนูขึ้นมา แล้วส่งให้พนักงานเสิร์ฟ ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้ถาม ความคิดเห็นใดๆของเสี่ยวหนานที่อยู่ตรงข้ามเลย
“คุณจิ่ง สั่งเยอะขนาดนี้ พวกเราสองคนจะกินหมดเหรอคะ” ในที่สุด เสี่ยวหนานก็แสดงความคิดเห็นขึ้นมา เธอเป็นคนนิสัย กระเหม็ดกระแหม่
จิ่งอี้เซวียน เพียงแค่เงยหน้ามอง ไม่ได้สนใจความคิดเห็นของ
เธอ
ไม่นาน อาหารก็มาเสิร์ฟ กลิ่นหอมที่อบอวลทำให้เสี่ยวหนาน รู้สึกขึ้นมาเล็กน้อย เธอหยิบตะเกียบจะไปคืบ แต่กลับเห็นจิ้งอี้เซวียน ที่นั่งตรงข้ามไม่ได้จับตะเกียบเลย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถาม ว่า “คุณหิวไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่กินล่ะ
“จู่ๆก็ไม่อยากกิน คุณกันเถอะ”
เขาตอบกลับมาเบาๆ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่พูด อะไรอีก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ