ตอนที่ 16 ฉันต้องการเอาของของฉันคืน
“อืม คุณไปเถอะ วางใจได้ หยังหยังเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาก มีอะไร จะเรียกพี่พยาบาลเป็นคนแรกเลย” เซี่ยงหยังแสดงความเป็น เด็กดีเชื่อฟัง เพราะเขารู้ว่าต่างหูนั่นมันสำคัญกับแม่มาก
“ดีมาก……..” เสี่ยวหนานจูบไปที่หัวของหยังหลัง”ขอโทษนะ แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”
“ไปเถอะ” เสี่ยวเซี่ยงหยังขโมยจูบที่ริมฝีปากของแม่
เสี่ยวหนานพอออกมาจากโรงพยาบาล ก็ตรงไปที่ร้านอาหาร เมื่อตอนเย็นนั่นทันที
ยังดีตอนที่รีบไปถึงร้านยังไม่ได้ปิด
“ขอโทษนะคะ เห็นต่างหูเพชรตกอยู่ที่ร้านอาหารของพวกคุณ บ้างไหมคะ” เสี่ยวหนานยืนถามพนักงานเสิร์ฟอยู่ตรงเคาน์เตอร์
ด้านหน้า “คุณ ใช่อันที่ใหญ่เท่านี้ไหม สีน้ำเงิน เหมือนสีของน้ำทะเล ใช่
ไหม” พนักงานเสิร์ฟทำท่าเปรียบเทียบให้เสี่ยวหนาน
“ใช่ๆๆๆ” เสี่ยวหนานยังมีความหวัง “อันนั้นแหละค่ะ อันนั้น แหละ เอามาคืนฉันหน่อยได้ไหมคะ มันสำคัญสำหรับฉันมาก
“แต่ว่า…… พนักงานเสิร์ฟรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ฉันเอา ต่างหูนั่นของคุณไปให้คุณผู้ชายที่มาพร้อมกันกับคุณวันนี้ตอนบ่ายแล้ว เขาไม่ได้ติดต่อคุณเหรอ”
เสี่ยวหนานตะลึงงัน รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย “แบบนี้…..
“งั้น…….นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
เสี่ยวหนานออกมาจากร้านอาหาร สติยังคงอยู่ในภวังค์เล็ก น้อย ลังเลอยู่นานว่าจะโทรหาจิ้งอี้เซวียน ดีไหม
ทำไมต่างหูต้องถูกเขาเก็บไปด้วย แบบนี้เหมือนจะดีนะเสี่ยว หนานเกาหัวจนยุ่งไปหมด
เธอเดินไปด้วย และก็ยังคงคิดว่าจะติดต่อเขาดีไหมไปด้วย พอเงยหน้ากลับพบว่าตัวเองนั้นไม่รู้ตัวเลย เดินมาถึงข้างล่าง คอนโดของเขาแล้วเรียบร้อย
เสี่ยวหนานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดปุ่มหมายเลขทีละ ตัว จนถึงหลักสิบเอ็ด ตอนที่จะกดโทรออก ก็ถูกเธอลบไปหมด แล้วก็กดหมายเลขใหม่ แล้วก็ลบอีก
“ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
เสี่ยวหนานเท้าอย่างเศร้าใจ
เธอกำลังคิดว่าตัวเองควรจะเลิกรู้สึกยึดติดดีไหม ตอนที่กำลัง จะยอมแพ้ให้กับต่างหู จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นมา
เป็นสายของจิ้งอี้เซวียน ที่โทรเข้ามา
เสี่ยวหนานตกใจ รีบหายใจให้สบายๆ แล้วถึงรับสาย
“คุณมาทำอะไรอยู่ข้างล่างคอนโดของฉัน”
จิ้งอี้เซวียน กดหน้าลงมองแล้วถามเธอ
เสี่ยวหนานตะลึงงัน เงยหน้าขึ้นไปมอง ตามที่คิดไว้ ก็เห็นเงา ของคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ริมหน้าต่างอยู่บนชั้นสอง
ถึงแม้เธอจะเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจน แต่กลับรู้สึกถึง สายตากำลังจ้องมองเธออยู่ตลอด
“ฉัน…..ฉันมาหาคุณเพื่อจะเอาของของฉันคืน
ตอนที่เสี่ยวหนานพูดอยู่นั้น ก็ยังคงมีความรู้สึกเกรงใจเล็ก
น้อย
“อะไร” จิ่งอี้เซวียน ถามอย่างเฉยเมย และเสียงก็เรียบนิ่ง
เสี่ยวหนานสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “ต่างหูของฉัน” “อันไหน”
ในสาย น้ำเสียงของเขาเหมือนจะนิ่งขึ้นกว่าเดิม
เสี่ยวหนานรู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นโ
“ก็อันที่พนักงานร้านอาหารยื่นให้คุณ
“สิ่งที่คุณพูดคืออันที่ฉันเคยให้คุณไว้ใช่ไหม” เสียงน่า หลงใหลของจิ้งอี้เซวียน ก็เข้มขึ้นมา แต่กลับยังคงทำให้เสียว หนานฟังไม่ออกว่าอารมณ์ไหน
เสี่ยวหนานเงียบ
มันคือความจริง ต่างหูนั่นเขาให้มา และก็เป็นของขวัญชิ้นแรก ที่เขาให้
เสี่ยวหนานไม่รู้ว่าตัวเองทำไมยังมองของขวัญชิ้นนั้นสำคัญอยู่ เธอคิดว่าบางที่เป็นเพราะแค่มันติดตัวมาหลายปี ประมาณเพียง แต่น่าเสียดาย ทิ้งมันไม่ลง
“ถูกเมิ่งหยิบไปแล้ว” ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมา
เสี่ยวหนานตะลึงงัน เพียงครู่เดียวก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ของชิ้นนั้นมันเป็นของฉัน
เขามีสิทธิ์อะไรถึงเอาไปให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายแบบนี้ เขา เคยถามความคิดเห็นของหยีเสี่ยวหนานบ้างไหม ตั้งแต่ครั้งแรก ที่จิ้งอี้เซวียนเอาต่างหูชิ้นนั้นให้เธอ เธอก็เป็นเจ้าของของต่างหู นั้นแล้ว
จึงอี้เซวียนไม่มีสิทธิ์ที่จะสิ่งของของเธอไปให้คนโน่นที คนนี้ที
“เป็นฉันที่ให้คุณ” จิ้งอี้เซวียนพูดแก้ไขให้เธอ
เสี่ยวหนานขมวดคิ้ว พยายามพูดให้เหตุผลกับเขา “คุณจึงใน เมื่อคุณก็ให้ฉันแล้ว มันก็น่าจะชัดเจนมากอยู่แล้ว ว่าฉันเป็น เจ้าของต่างหูนั้น ดังนั้น คุณมีสิทธิ์อะไรถึงเอาสิ่งของของฉันไป ให้คนอื่น คุณไม่คิดว่าที่คุณทำแบบนี้มันไม่ดูใจร้ายไปหน่อยเห รอ”
“หยีเสี่ยวหนาน ในฐานะผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว คุณคิดว่าการ แสดงออกที่ยึดติดกับต่างหูของคุณในตอนนี้มันดีแล้วเหรอ” จิ่งอี้เซวียน เหน็บแนม โดยที่ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา
การเผชิญหน้ากับคำถามที่เหน็บแหนมของเขา เสี่ยวหนานก็ ไม่รู้ว่าควรตอบว่าอะไร
“ของชิ้นนั้นมันมีมูลค่าสินะ คุณถึงได้ยังสนใจมันอยู่” จึงเซ วียน ถามขึ้นมาอีก น้ำเสียงดูเฉยเมยอยู่ไม่น้อย
เพียงครู่เดียว อากาศก็เหมือนกับเต็มไปด้วยความรู้สึก อ้างว้างที่พูดไม่ออก กลืนกินหัวใจของเสี่ยวหนานเข้าไปทีละนิด ทีละนิด
เธอเงียบอยู่นานมาก สุดท้ายจึงพูดขึ้นมาว่า “มันไม่ใช่เรื่อง เงิน”
ใช่ ต่างหูชิ้นนี้ บางทีอาจจะไม่มีค่าสำหรับเขาก็ได้
ตอนที่เขาให้เธอ เขาเคยบอกเธอว่า นี่คืออัญมณีที่เลือกมา จากเคาน์เตอร์แบรนด์ของ Swarovski มันเล็กมาก ดังนั้นจริงๆ แล้วก็ไม่มีค่าอะไรมาก สองร้อยหยวนเท่านั้น
“เพราะมันติดกับหูของฉันมาตลอด หกปี จนถึงตอนนี้เหมือน เป็นส่วนหนึ่งที่งอกออกมาจากร่างกายของฉัน ถ้ามันหล่นหายไป ฉันก็จะรู้สึกไม่สบายใจ อีกอย่าง คงจะรู้สึกยากที่จะปรับตัว และ รู้สึกเสียใจมาก….….……
เสี่ยวหนานก้มหน้า ถือโทรศัพท์มือถืออยู่ พูดจบก็ผ่านไป อย่างเงียบๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ