บทที่6 ทำไมคุณไม่ขึ้นไปบนสวรรค์
บทที่6 ทำไมคุณไม่ขึ้นไปบนสวรรค์
เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินมา ลู่เฉินก็ฝืนยิ้มอย่างหนีไม่ได้ เขา แกล้งไม่ได้เห็นพวกเขาก็ไม่ได้
เขายังไม่ทันได้กล่าวทักทาย ก็ได้ยินน้องสาวภรรยาถามขึ้นว่า “ลู่เฉิน คุณบอกมาตรงๆ เลยนะว่าคุณรู้จักผู้บริหารชั้นสูงของกลุ่ม แกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยใช่ไหม ?
เมื่อวานพวกเธอสองแม่ลูกกลับไปคิดตั้งนาน และก็สงสัยว่าลู่เฉิ นที่ถูกพวกเขาดูถูกมาตลอด อาจจะรู้จักผู้บริหารชั้นสูงของกลุ่ม แกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยจริงๆ ไม่อย่างงั้นเลขาฯ ของคุณลู่จะมี ท่าทีอย่างนั้นต่อลู่เฉินได้ยังไง ?
ถ้าลู่เฉินรู้จักผู้บริหารชั้นสูงของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย จริงๆ ถ้าเขายอมช่วย เขาอาจจะสามารถช่วยให้หวังเสวี่ยเจรจา ธุรกิจนั้นสําเร็จได้
“ใช่ครับ” ลู่เฉินพยักหน้า
หวังเสวี่ยหลินอี้เจียยิ้มแย้มแจ่มใสทันที
“แหมๆ แม่นึกไม่ถึงเลยว่าลูกเขยของแม่จะมีความสามารถขนาดนี้ ไหนตอบแม่ว่ารู้จักผู้บริหารท่านไหน ? ” หวังเสงี่ยมอง หน้าสู่เฉินด้วยความตื่นเต้นดีใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมองหน้าลู่เฉินแล้วรู้สึกถูกชะตาอย่างมาก
หลินอี้เจียเองก็มองหน้าสู่เฉินด้วยความตื่นเต้นดีใจเช่นกัน หลายปีที่ผ่านมานี้เธอเพิ่งรู้สึกว่าลู่เฉินเป็นพี่เขยของเขาอย่าง
แท้จริง
“ผมรู้จักแค่ลู่จง” ลู่เฉินบอกไปตามตรง
เขารู้จักแค่ลู่จงเท่านั้นในทั้งกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย ส่วนผู้ บริหารชั้นสูงคนอื่นๆ เขาไม่รู้จักใครสักคนจริงๆ
“นี่เด็กน้อย เธอต้องเรียกเขาว่ามหาเศรษฐีนะรู้ไหม” ถึงแม้ว่า หวังเสวี่ยกำลังสั่งสอนลู่เฉินอยู่แต่ในใจเธอก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
เธอนึกไม่ถึงเลยว่าลูกเขยของเธอจะรู้จักมหาเศรษฐี ดังนั้น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจขนาดใหญ่ของเธอจึงมี มากกว่าครึ่งแล้ว
ลู่เฉินฟังแล้วได้แต่ยักไหล่ เขาไม่อยากจะพูดอะไรอีก
“ว่าแต่พี่คะ ความสัมพันธ์ของพี่กับเศรษฐี คืออะไรกันคะ ? ” หลินอี้เจียถามด้วยความสงสัย
“ล่จงเป็นผู้ดูแลตระกูลของผม เอ่อ แม่ครับเมื่อวานคุณสองคน ไปเจรจาธุรกิจที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอท วินเยวี่ยหรือครับ ? ราบรื่น ไหม ? ให้ผมช่วยไหม ? ” เมื่อเห็นว่าทัศนคติของแม่ยายที่มีต่อ ตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดี ลู่เฉินก็รู้สึกดีใจมาก
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเธอมักจะนําหนิติเตียนเขาอยู่เสมอๆ แต่ถึง ยังไงก็เป็นแม่ยายของเขา และเขาก็ไม่อยากสนใจอะไรมากมาย
แต่เมื่อหวังเสวี่ยได้ยินสิ่งที่เขาพูด ใบหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยน ไปในทันที
“มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองยวี่โจวเป็นผู้ดูแลของแก ? ทำไมแกไม่ขึ้นไปบนสวรรค์ล่ะ ?! ”
สองแม่ลูกต่างก็คิดว่าลู่เฉินตั้งใจจะหยอกพวกเธอเล่น
“เศรษฐี เป็นผู้ดูแลของตระกูลคุณ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงเป็นคน ที่รวยที่สุดในอันดับมหาเศรษฐีโลกแล้ว! “หลินอี้เจียตอบกลับ และเยาะเย้ยถากถาง
“โอเคล่เฉิน แกกล้ามากที่มาล้อฉันเล่นแบบนี้” หวังเสวี่ยโกรธ มาก อาจเป็นเพราะความหวังของเธอแตกดับอย่างกะทันหัน ทำให้ความเกลียดแค้นลู่เฉินมีมากขึ้นกว่าเดิม
ลู่เฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำไมพูดความจริงก็ไม่มีใคร เชื่อกันนะ ?
“ทำไมแกไม่ไปดูแลฉีฉีให้ดี ออกมาทำอะไร ? ” หวังเสวี่ยถา มด้วยน้ำเสียงเคร่งครัด
“ฉีฉีนอนหลับไปแล้ว ผมจะออกไปกินข้าวสักหน่อย” ลู่เฉินพูด
“กินกินกิน วันๆ ก็สักแต่กิน ทำอย่างอื่นไม่เป็นหรือไง! ” หวังเส
วียตะโกนใส่อย่างเย็นชาและพาหลินอี้เจียเดินเข้าโรงพยาบาล
ที่พวกเธอมาในวันนี้ นอกจากข้อสงสัยแคลงใจในตัวลู่เฉินแล้ว ก็ตั้งใจมาเยี่ยมหลานสาวเช่นกัน
เมื่อมองตามหลังสองแม่ลูกนั่นไป ลู่เฉินก็ได้แต่ส่ายหัวและถอน หายใจ
แต่เขาก็ไม่วายหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาลู่จง
ลงจงครับ บริษัทเดชกรรมเซียดังเพิ่มความก ใช่หรือเปล่าครับ? คนที่รับผิดชอบเป็นของผู้รับการผ่านการ ชื่อว่าหวังเลย” เฉินตาม
ช่วงนี้อุณหภูมิค่อนข้างสูง บริษัทเรากำลังจะเป้องกัน โรคลมแดดโครกชุดหนึ่งมาแจกจ่ายให้พนักงานคนละ 2 ขวด ส่วนจะจัดซื้อจากบริษัทยาไหม ผมก็ไม่ทราบ กล่าว
“ครับ ถ้าอย่างนั้นรบกวนชื่อจากบริษัทเทกรรมเสี่ยงแล้วกัน นะครับ” เฉินตอบไป
“ได้ครับ ว่าแต่คุณชายนายท่านอยากจะลอคุณ คุณเอ ไหร่ท่านจะนั่งเครื่องบินมาหาคุณทันที” ลู่จงบอก
เฉินตกใจนิดหน่อย หลังจากเงียบไปสักพักเขาก็บอกว่า “ผม ยังไม่อยากเจอหน้าเขาตอนนี้…….
ลู่จงถอนใจและพูดว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้น ก็ไม่ควรโทษแต่คุณ พ่อของคุณคนเดียว คุณพ่อของคุณรู้สึกผิดมาโดยตลอดหลายปี ที่ผ่านมา คุณชายรู้ไหมว่าทำไมคุณพ่อของคุณถึงไม่ได้แต่งงาน ใหม่ ก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดต่อคุณและคุณหญิงท่านมาก
และเมื่อนายท่านทราบเรื่องที่คุณมาเมืองยวโจว คุณพ่อของคุณก็รีบให้ผมมาตั้งหลักปักฐานที่ยวโจวเพื่อที่จะสร้างกลุ่ม แกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยขึ้นมา เหตุที่ผมไม่ได้เข้าหาคุณก่อนหน้า นี้ เพราะว่านายท่านรู้จักนิสัยใจคอของคุณชายดี เขาบอกกับผม ว่าอย่ารบกวนชีวิตของคุณ นอกจากเวลาที่คุณตกที่นั่งลำบากถึง จะให้ผมช่วย
ลู่เฉินรู้สึกใจสั่น เพราะหลังที่เขาออกจากบ้านมาสิบปี เขาก็ไม่ เคยพูดถึงเรื่องพ่ออีก และไม่ได้รับสายที่โทรมาจากพ่อสักสาย เดียว
แน่นอนว่าหากเขาบังเอิญรับสายจากพ่อของเขา สุดท้ายพอรู้ เขาก็วางสายอยู่ดี
สิ่งที่ทำให้เขาช็อคมากก็คือ เมื่อสิบปีก่อนที่แม่เสียชีวิตไป ตอน นั้นพ่อเขาอายุ36ปีเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ แต่งงานใหม่
เขารู้สึกผิดมาตลอดในสิบปีที่ผ่านมาเชียวหรือ ?
ลู่เฉินเงียบไปสักพักแล้วตอบว่า “รอให้ลูกสาวผมหายดีก่อนแล้ว ค่อยว่ากันครับ”
ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อ และตอนนี้เขาก็ค่อยๆ คิดได้แล้วว่าเหตุที่ ทำให้แม่ต้องตายไปเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นต่างหาก !
“ครับ ครับ ! เดี๋ยวผมรีบไปบอกกับนายท่านเดี๋ยวนี้ นายท่านฟัง แล้วต้องดีใจมากแน่ๆ” จงตอบด้วยความตื่นเต้น
เขามาเมืองยวโจวได้สิบปีแล้ว และกลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวย ที่สุดในเมืองยวี่โจว นอกจากจะคอยช่วยคุณชายแล้ว หน้าที่ สำคัญก็คือจะต้องทำให้คุณชายเปลี่ยนใจให้ได้
หลังจากลู่เฉินวางสายไป เขาก็เดินมาร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ที่อยู่ ใกล้กับโรงพยาบาลและสั่งก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งมา พอเขากำลังจะ ลงมือกินก๋วยเตี๋ยว หลินอี้เจียก็โทรมา
“ลู่เฉิน ! ฉีฉีหายไปแล้ว ! คุณรีบกลับมาช่วยกันหาก่อน ! หลินอี้เงียบอกด้วยความร้อนใจ
ลู่เฉินยิ้มและบอกว่า “ผมย้ายห้องฉีฉีไปที่ห้องวีไอพีชั้น ที่19ห้อง2แล้ว”
“อะไรนะ คุณย้ายห้องฉีฉีไปที่ห้องวีไอพีแล้ว ? คุณมีเงินที่ไหน กัน ! ” หลินอี้เจียถามด้วยความสงสัย
“ผมยืมมา” ลู่เฉินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ไม่ว่าเขาพูดอะไรไปยังไงก็คงไม่มีใครเชื่อ ฉะนั้นเขาไม่จำเป็น ต้องอธิบายอะไรมากมาย
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อเมื่อได้ไขกระดูกที่ตรงกับฉีฉี ? ”
วางใจเถอะ ผมจะไม่ยืมเงินจากพวกคุณแน่นอน ผมมีวิธีของ ผม” เมื่อนึกถึงภาพที่เขาล้มเหลวจากการยืมเงินหวังเสวี่ยเมื่อปีที่ แล้ว และถูกหวังเสวี่ยขับไล่ออกมา ลู่เฉินก็สาบานว่าชาตินี้เขาจะ ไม่มีวันอ้าปากพูดถึงเรื่องยืมเงินจากครอบครัวแม่ยายอีก
“แหมๆๆ คนที่ไม่มีประโยชน์อย่างแก ฉันก็ไม่อยากยืมเงินให้ หรอก” คำพูดและที่น้ำเสียงเย็นชาของหวังเสวี่ยถ่ายทอดจาก ทางโทรศัพท์ ลู่เฉินตัดสายเธอทิ้งทันที
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ กล้าดียังไงที่วางสายฉัน มันผิดสังเกตจริงๆ หวังเสวียส่งมือถือคืนลูกสาวด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจอย่างมาก แล้วพาลูกสาวขึ้นไปที่ชั้น19
หลังจากหาห้องวีไอพีเจอ ก็เห็นว่าลู่เฉินจ้างพยาบาลส่วนตัวมา ดูแลฉีฉี หวังเสวี่ยก็โกรธมากและค่าเฉินว่าเป็นคนล้างผลาญ ครอบครัว เสียเงินเปล่าจริงๆ
ทั้งสองคนนั่งอยู่สักพัก ฉีฉีก็ตื่นขึ้นมา ถึงแม้ว่าหวังเสวี่ยและ หลินอี้เจียไม่ชอบ เฉินอย่างมาก แต่ก็รู้สึกสงสารฉีฉีจากใจจริงๆ
เพราะตอนบ่ายไม่มีธุระอะไรต้องทำ ทั้งสองเลยอยากจะอยู่กับฉีฉีให้มากๆ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาโทรศัพท์ของหวังเสวี่ยก็ดังขึ้น
เมื่อเธอวางสายลงก็จูบหน้าอย่างตื่นเต้นมากมาย ! “แม่คะ ใครโทรมาคะ ? ” หลินอี้เจียถามด้วยความสงสัย
“ผู้จัดการของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย เขาบอกให้เราไปคุย เรื่องความร่วมมือ” หวังเสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“หะ ! จริงเหรอคะแม่ ยินดีด้วยนะคะ ในที่สุดก็ได้ร่วมมือกับกลุ่ม แกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยสักที” หลินอี้เจียก็พูดด้วยความตื่นเต้น เหมือนกัน
“ผู้จัดการหวังบอกว่า อันที่จริงแล้วทางเขาไม่อยากซื้อยาจาก เรา แต่มีคนแอบช่วยเรา ดังนั้นเศรษฐีลู่ถึงตอบตกลงไป แต่ก็ไม่รู้ ว่าใครเป็นคนที่ช่วยเรา ต้องขอบคุณเขามากจริงๆ” หวังเสวี่ยกล่า
ว
“จะเป็นไปได้ไหมคะว่าเป็น……..” หลินเจียกำลังเดาว่าคนคนนั้น เป็นใคร แต่เธอก็ยังสงสัยอยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ